ตกข้ามคืนยิ่งเพิ่มปริมาณน้ำ
เขื่อนป่าสักฯสั่งระบายเต็มที่
บางบัวทองผวา-ย้ายข้าวของ
น้ำท่าจีนทะลักเข้าสุพรรณฯ

อีสาน-ภาคกลางยังเจอฤทธิ์พายุ ‘คมปาซุ’ ฟาดหางทิ้งทวนทำฝนตกหนักต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืน ส่งผลแม่น้ำมูนน้ำชีต้องรับน้ำจากหลายพื้นที่เอ่อท่วมล้นตลิ่งหลายจังหวัดตั้งแต่ขอนแก่น ยันอุบลราชธานี โคราชจมทั้งเมือง เจอฝนกระหน่ำต่อเนื่อง ถ.มิตรภาพ โดนท่วมอีก ถ.สายตาก-แม่สอดกลายเป็นน้ำตกหลังน้ำป่าไหลท่วมเส้นทาง ชุมชนตลาดเก่าปราจีนบุรีอ่วมซ้ำ น้ำเขาใหญ่ทะลักท่วมหนที่ 4 เขื่อนป่าสักฯเร่งระบายน้ำที่ไหลมาจากหลายจังหวัด ส่วนชาวบางบัวทอง ผวาฝนถล่มทั้งคืนต้องยกข้าวของไว้ที่สูง ขณะที่แม่น้ำท่าจีนเอ่อเข้าท่วมกว่า 10 อำเภอ จ.สุพรรณบุรี

องค์พระ – สภาพน้ำท่วมขังรอระบาย บนถนนราชวิถี และประตูเข้าฝั่งทิศใต้องค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม ภายหลังเกิดฝนตกหนัก ตลอดทั้งคืน ประชาชนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก เมื่อวันที่ 17 ต.ค.

ปภ.รายงานพายุ‘คมปาซุ’

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุ ‘คมปาซุ’ ซึ่งได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ต.ค. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 7 อำเภอ 22 ตำบล 59 หมู่บ้าน

ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,698 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด 5 อำเภอ 14 ตำบล 38 หมู่บ้าน 1,848 ครัวเรือน ดังนี้ ลพบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สระโบสถ์ และอ.โคกสำโรง ระดับน้ำลดลง ปราจีนบุรี น้ำป่าไหลหลากและน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปราจีนบุรี และอ.ประจันตคาม ระดับน้ำลดลง นครนายก น้ำจากคลองสันทรีย์เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมอ.ปากพลี ระดับน้ำลดลง

ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม

ขณะที่อิทธิพลพายุ ‘ไลอ้อนร็อก’ ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ต.ค.ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เลย เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ชุมพร และระนอง รวม 20 อำเภอ 90 ตำบล 416 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,931 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 7 อำเภอ 23 ตำบล 109 หมู่บ้าน 3,317 ครัวเรือน ดังนี้ จันทบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เขาคิชฌกูฏ อ.มะขาม อ.ขลุง อ.เมืองจันทบุรี และอ.แหลมสิงห์ ระดับน้ำ ลดลง ตราด น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองตราด และอ.เขาสมิง ระดับน้ำลดลง

ส่วนของผลกระทบจากพายุ ‘เตี้ยนหมู่’ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 33 จังหวัด รวม 225 อำเภอ 1,201 ตำบล 8,218 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 333,367 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 24 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด รวม 40 อำเภอ 285 ตำบล 1,570 หมู่บ้าน 83,047 ครัวเรือน

น้ำมูน-ชียังเอ่อล้นต่อเนื่อง

นายวัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศว กรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) กรมชล ประทาน ประธานศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูน (ส่วนหน้า) กล่าวว่าคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักมาก 90 มิลลิเมตร (ม.ม.) บริเวณพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและในลำน้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้น

ลุ่มน้ำชี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำชีเอ่อล้นตลิ่ง ดังนี้ จ.ขอนแก่น 11 อำเภอ ได้แก่ อ.ชุมแพ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.มัญจาคีรี อ.โคกโพธิ์ชัย อ.เมือง ขอนแก่น อ.ชนบท อ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด อ.พระยืน และ อ.หนองเรือ จ.มหาสารคาม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.โกสุมพิสัย และอ.กันทรวิชัย จ.กาฬสินธุ์ 1 อำเภอ ได้แก่ อ.ร่องคำ จ.ร้อยเอ็ด 8 อำเภอ ได้แก่ อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ อ.ทุ่งเขาหลวง อ.ธวัชบุรี อ.พนมไพร อ.โพธิ์ชัย อ.อาจสามารถ และ อ.เมืองร้อยเอ็ด

ส่วนลุ่มน้ำมูน มีพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบจากน้ำมูนเอ่อล้นตลิ่ง ดังนี้ จ.อุบลราชธานี 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วารินชำราบ และอ.เมืองอุบล ราชธานี จ.ร้อยเอ็ด 4 อำเภอ ได้แก่ อ.โพนทราย อ.เกษตรวิสัย อ.สุวรรณภูมิ และอ.หนองฮี

‘ประภัตร’จับตาน้ำท่าจีน

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำกระเสียวมีปริมาณ 100% และยังจะมีปริมาณน้ำจาก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่จะเข้ามาอีกจำนวนมาก ทำให้น้ำล้นสปิลเวย์ในรอบ 10 ปี น้ำที่ไหลออกจากอ่างเก็บน้ำกระเสียว ส่งผลกระทบกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีระดับน้ำที่สูงอยู่แล้ว จังหวัดสุพรรณบุรีได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน เฝ้าระวังน้ำท่วมสูงอย่างใกล้ชิดโดยพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรี ประจันต์ อ.เมือง อ.บางปลาม้า อ.อู่ทอง และ อ.สองพี่น้อง

นายประภัตรกล่าวว่า แม่น้ำท่าจีนต้องรับน้ำจากหลายพื้นที่อยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องลดการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำกระเสียวลงจากที่เคยปล่อยน้ำออก 17 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปรับลดลงให้เหลือ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และเกษตรกรที่กำลังจะเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่ใต้เขื่อนกระเสียว หลายอำเภอ ขณะเดียวกันได้รับรายงานจาก อ.บางปลาม้า อ.สอง พี่น้อง ว่ามีน้ำจาก จ.กาญจนบุรี ก็ยังมีมาอีกและน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เอ่อล้นเข้ามาในเขตทุ่ง ซึ่งก็เห็นใจว่าน้ำในปีนี้มาประดังพร้อมกันไปหมด อย่างไรก็ตามหากไม่มีพายุฝนมาเพิ่มอีก สถานการณ์ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะทรงอยู่อย่างนี้อย่างน้อย 3 วัน

โคราชพายุฝนกระหน่ำ

จ.นครราชสีมา อิทธิพลพายุโซนร้อนคมปาซุ ส่งผลให้ฝนตกหนักลักษณะกระจายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำฝนดังนี้ อ.สีคิ้ว 118 มิลลิเมตร อ.สูงเนิน 88.7 มิลลิเมตร อ.ขามทะเลสอ 161 มิลลิเมตร และ อ.เมือง 50 มิลลิเมตร มวลน้ำฝนไหลลงลำตะคองตอนล่าง

ซึ่งก่อนหน้านี้มีปริมาณน้ำเต็มคลองธรรมชาติช่วงเส้นทางไหลผ่านเขตเศรษฐกิจ พื้นที่เทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา มวลน้ำเอ่อล้นไหลทะลักท่วมบนถนนทางเข้าชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 และไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน ซึ่งมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ที่ชุมชน 30 กันยา และชุมชนปลายนาสามัคคี น้ำในคลองน้ำธรรมชาติสาขาลุ่มลำตะคอง เอ่อล้นทะลักท่วมบนถนนและไหลเข้าบ้านเรือนจำนวน 60 หลัง

กังวลน้ำทะลักลำเชียงไกร

ร.ต.ฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง เพิ่มระดับการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมากบริเวณตอนบนของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนบน) อ.ด่านขุนทด ทำให้มีปริมาณไหลล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน ลงท้ายอ่างลงสู่ลำเชียงไกร (ตอนบน) ในอัตราการไหล 72 ลบ.ม. ต่อวินาที หรือกว่า 6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และมีแนวโน้มมากขึ้น ซึ่งเกินความสามารถลำน้ำที่จะระบายในลำน้ำได้

อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง มีปริมาณน้ำ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 27 ล้านลูกบาศก์เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดประตูระบายน้ำขึ้นทั้ง 2 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากอ่างประมาณ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือเฉลี่ย 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งชาวบ้านหลายคนกังวลว่าจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จะส่งกระทบกับคันดินที่เพิ่งมีการก่อสร้างใหม่ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ต้องเปิดคันดินเพื่อระบายน้ำจนส่งผลกระทบกับพื้นที่ท้ายอ่าง หลังจากมวลน้ำจากการท่วมขังเมื่อเดือนที่ผ่านมายังคงไม่แห้งสนิทดี

น้ำขังท่วมทั่วทั้งเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณถนนมิตรภาพ ช่วงหลัก ก.ม.ที่ 63 บริเวณใต้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เกิดน้ำป่าไหลหลากลงจากเขาข้างทาง เข้าท่วมพื้นผิวจราจรช่องทางขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา กระแสน้ำไหลเชี่ยวระดับน้ำสูงกว่า 40 ซ.ม. รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และปิดเส้นทางรถฝั่งใต้ตอม่อถนนมอเตอร์เวย์ ให้รถวิ่งเลนในได้เพียงเลนเดียว เนื่องจากมีระดับน้ำลึกและกระแสน้ำไหลเชี่ยว

ขณะเดียวกันฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืน ทำให้ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ถนนทุกสายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีน้ำท่วมขังรอระบายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พบว่ามีน้ำท่วมขังถนนรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี รถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องวิ่งฝ่ากระแสน้ำตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บริเวณ ต.สำนักตะคร้อ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา ถูกน้ำที่ล้นมาจากอ่างห้วยตะคร้อไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การ เกษตรได้รับความเสียหายบริเวณกว้าง

บุรีรัมย์เอ่อท่วมนางรอง

จ.บุรีรัมย์ จากกรณีฝนตกหนักสะสมตลอดสัปดาห์ และมวลน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงไหลมาสมทบ ส่งผลให้เกิดกระแสน้ำหลากเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งวัดใหม่เรไรทอง วัดถนนหัก โรงเรียนบ้านถนนหัก (เพียรประจงวิทยา) และบ้านเรือนราษฎรใน 3 ชุมชน คือชุมชนถนนหัก ชุมชนหนองโพรง และชมชนทุ่งแหลม มากกว่า 30 หลังคาเรือน ไม่สามารถขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ และทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ขึ้นที่สูงได้ทัน เพราะน้ำหลากเข้าท่วมอย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึก ทำให้ข้าวของหลายอย่างเสียหาย

นายสนอง น้อยพาลี อายุ 47 ปี ชาวบ้านถนนหัก กล่าวน้ำเริ่มท่วมเมื่อช่วงตี 2 ทำให้หลายคนไม่สามารถขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงได้ทัน ซึ่งปีนี้ถือว่าน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี

ถนนน้ำตก – ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายตาก-แม่สอด ช่วงก.ม.62-63 อ.แม่สอด จ.ตาก ถูกน้ำป่าหลากทะลักจากภูเขาถล่มท่วมพื้นผิวจราจรระดับน้ำสูง เจ้าหน้าที่แขวงการทางต้องเร่งระบายน้ำลงเหว เมื่อวันที่ 17 ต.ค.

ตากน้ำป่าไหลท่วมถนน

จ.ตาก สถานการณ์ฝนตกหนักพื้นที่ 9 อำเภอส่งผลให้มีน้ำป่าไหลหลาก มีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านได้รับผลกระทบ จำนวนมาก ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 เส้นทาง สาย ตาก-แม่สอด ซึ่งเป็นถนนสายหลักสู่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด ดินภูเขาได้อุ้มน้ำและทำให้เกิดดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางหลายจุด นอกจากนี้ยังเกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากภูเขา บริเวณ ก.ม.ที่ 62-63 ช่วงอุทยานตากสินมหาราช มีน้ำป่าไหลหลากท่วมผิวทางระดับความสูงประมาณ 80 เซนติเมตร ท่วมทางฝั่งขาล่องจากแม่สอดมาตัวเมืองตากแล้วข้ามแบริเออร์ทะลักข้ามมาฝั่งขาขึ้นแม่สอด

นายทศพร เหลืองกัลยาณคุณ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงตาก ที่ 1 แจ้งว่าระงับการใช้เส้นทางถนนสายหลักตาก-แม่สอด หมายเลข A 12 (105 เดิม) บริเวณดอยรวก ระหว่าง ก.ม.ที่ 64 ถึง ก.ม.66 ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก เพราะ ภูเขาข้างทางเกิดดินหินสไลด์ถล่มพังทลาย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หมวดการทางแม่ท้อและขอความร่วมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ท้อ และเจ้าหน้าที่ทหาร นพค.33 สนภ.3 นทพ. ลงพื้นที่อำนวยความสะดวก เส้นทางจราจร และช่วยเหลือประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสาย ดังกล่าว จนกว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นปกติ

นาทีพัง – ภาพเหตุการณ์น้ำป่าจากป่าสงวนแห่งชาติสานสาง หลากลงมาในลำห้วย แม่ท้อ ซัดใส่สะพานข้ามห้วยแม่ท้อ เชื่อมต่อต.แม่ท้อและต.ป่ามะม่วง อ.เมือง จ.ตาก จนพังเสียหาย เนื่องจากมีน้ำกัดเซาะบริเวณตอม่อสะพาน เมื่อวันที่ 17 ต.ค.

ปราจีนบุรีท่วมตลาดเก่าหน 4

จ.ปราจีนบุรี จากกรณีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ท่วมใน 3 อำเภอ พื้นที่ติดตีนเขา ได้แก่ อ.เมืองปราจีนบุรี, อ.ประจันตคาม และอ.กบินทร์บุรี ที่ชุมชนตลาดเก่า 100 ปี เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่ได้เกิดน้ำท่วมเป็นรอบที่ 4 ระดับได้สูงขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ท่วมอยู่ระดับ 50 ซ.ม. พบว่าระดับน้ำท่วมสูงเพิ่มจากเดิม ระหว่าง 50 ซ.ม.-1 เมตร โดยพบน้ำท่วมทั้งชุมชนแล้ว ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 100 ครอบครัว

นางจินตนา หงษ์ทอง ชาวชุมชนตลาดเก่ากล่าวว่า น้ำท่วมชุมชนตลาดเก่าครั้งนี้เป็นรอบที่ 4 หนักกว่า 3 รอบที่ผ่านมา คาดว่าอาจจะนานกว่าครั้งที่ 3 เนื่องน้ำที่ปล่อยมาจากเหนือเขื่อนนฤบดินทรจินดา ปล่อยน้ำออกจากอ่างเนื่องจากมีฝนตกเหนือเขื่อนทุกวัน นอกจากน้ำท่วมชุมชนตลาดเก่าแล้ว มวลน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรียังเอ่อเข้า ท่วมบ้านริมน้ำ ม.12 ต.กบินทร์ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี ที่ลดระดับต่ำต่อลงไปอีกด้วย

ด้านนายวิเชียร เหลืองอ่อน ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานฤบดินทรจินดา กล่าวว่าอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา หรือห้วยสโมง จำเป็นต้องระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำในอ่างมีปริมาณเกินความจุ โดยระบายน้ำวันละ 7.5 ล้านลูกบาศก์เมตร

พิจิตรจมน้ำกว่า 700 หลัง

จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำยม ที่ไหลผ่านพื้นที่อ.สามง่าม ยังไม่พ้นจุดวิกฤต หลังจากเกิดฝนตกหนักในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมวลน้ำเหนือจากทางอำเภอบางระกำ จ.พิษณุโลก ไหลหลากลงมาอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำยม ยังมีมวลน้ำป่าจากจ.กำแพงเพชร ไหลหลากตามลำคลองสาขา แต่ไม่สามารถไหลระบายลงสู่แม่น้ำยม ที่มีระดับน้ำสูงกว่าได้ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำยมหนุนเอ่อ สมทบกับน้ำป่าและหลากเข้าท่วมพื้นที่ตำบลรังนก แผ่ขยายวงกว้างออกไปใน 10 หมู่บ้านจากทั้งหมด 12 หมู่บ้าน โดยมีบ้านเรือนประชาชนจำนวนกว่า 700 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วม 1-2 เมตร

นางรฬิรส พ่วงพร้อม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร รายงานว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 4 ตำบล คือ ตำบลสามง่าม ตำบลรังนก ตำบลเนินปอ และตำบลหนองโสน รวม 64 หมู่บ้าน และมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมจำนวน 993 หลังคาเรือน และมีพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งนาข้าว พืชสวน พืชไร่ถูกน้ำท่วมและเกิดความเสียหายกว่า 1.1 หมื่นไร่ โดยประกาศเขตให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว

เขื่อนป่าสักระบายน้ำเพิ่ม

นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รักษาการ ผอ. โครงการส่งน้ำและบำรุงรักาป่าสักใต้ กล่าวว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ฝนตกลงมาจำนวนมากในพื้นที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนบนเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และอ.สระโบสถ์, อ.โคกเจริญ อ.เมืองลพบุรี อ.มวกเหล็ก, อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ไหลลงคลองชัยนาท-ป่าสัก มาสมทบรวมกันจากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนมากถึง 101% ต้องระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ไหลมารวมกันที่เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยเขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 340.79 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์น้ำอยู่ในการควบคุมไม่เกิดผลกระทบแต่อย่างใด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ จะจัดเจ้าหน้าที่วิศวกรชลประทานเฝ้าติดตามสถานการณ์ น้ำฝน และระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการระบายมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้จะพิจารณาใช้คลองระพีพัฒน์รับน้ำบางส่วนจากแม่น้ำป่าสักเพื่อลดปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสัก ที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา

บางบัวทองท่วมหลายจุด

จ.นนทบุรี นายกิจก้อง นาคทั่ง นายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมด้วย นายเสริม บุญรอด นายธนัยนันท์ พลภาสวัฒน์ รองนายก น.ส.ปีย์วรา จริยเมโธ ส.จ.นนทบุรี บางบัวทอง เขต3 นายพิทักษ์ อยู่สุข กำนันตำบลบางรักพัฒนา นำเครื่องสูบน้ำติดตั้งที่บริเวณสะพานเลียบคลองบางไผ่ หมู่ 5 ระบายน้ำจากคลองถนนสู่คลองบางไผ่ จากคลองบางไผ่ผลักดันลงสู่คลองอ้อม ขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านรัตนาวดี หมู่บ้านสินเพชร และหมู่บ้านจัดสรร กว่า 1,000 หลังคาเรือน ขนของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดไว้ภายในซอยจันทร์ทองเอี่ยม เพื่อหนีน้ำและหลีกเลี่ยงความเสียหาย

นายกิจก้องกล่าวว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่อำเภอบางบัวทอง ต่อเนื่องตลอดทั้งคืน เนื่องจากอิทธิพลของพายุคมปาซุทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น 30 ซ.ม. เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายในหลายหมู่บ้านของตำบลบางรักพัฒนา จึงให้งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา เร่งระบายน้ำในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ทางเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา จะเร่งดำเนินการผลักดันน้ำให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

สุพรรณบุรีโดน 10 อำเภอ

จ.สุพรรณบุรี สถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีน ยังมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝนยังตกหนักในหลายพื้นที่ เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 อำเภอ ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง ระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเส้นทางสัญจรพื้นที่ติดต่อระหว่าง ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เส้นทางตลาดม่วงเฒ่า อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี มีน้ำป่าไหลหลาก อย่างรวดเร็ว ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว

นายมาโนช ตุ้มทอง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว กล่าวว่าน้ำในเขื่อนกระเสียวปัจจุบันมีปริมาณคิดเป็นร้อยละ 99.58% และมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำวันละ 12-16 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ต้องระบายน้ำออกเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่ไหลเพิ่มเข้ามา โดยปัจจุบันเขื่อนกระเสียวระบายน้ำวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำ แต่ถ้าหากไม่มีฝนตกลงมาในช่วงนี้คาดว่าประมาณ 3 วัน ปริมาณน้ำน่าจะลดลงตามลำดับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน