เล็งล็อกดาวน์4จังหวัด
นร.กรุงฉีดแล้ว3หมื่น

ศบค.ใต้วุ่น ส.ส.ภูมิใจไทยค้าน ‘บิ๊กตู่’ ใช้ทหารนำหมอ แก้โควิด ระบุไม่เหมาะสม แนะต้องให้คนที่เชี่ยวชาญมาแก้ ‘อนุทิน’ อ้างไม่รู้ลูกพรรคโพสต์อัดนายกฯ ระบุทุกฝ่ายต้องร่วมแก้ปัญหา 4 จว.ใต้ ไทยติดเชื้อรายวัน 10,111 เสียชีวิตลดเหลือ 63 กรมอนามัยเผยสาวท้องติดเชื้อ 4,778 เสียชีวิต 95 ลูกตาย 46 ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีน สธ.แนะฉีดวัคซีนเข็ม 3 ที่รัฐจัดให้ ไม่ต้องเสียเงิน สะดวกใช้ทำข้อมูลวัคซีนพาสปอร์ต พร้อมฉีดให้คนได้ซิโนฟาร์ม 2 เข็มหากคณะกรรมการวิชาการแนะนำ น.ร.กรุงฉีดไฟเซอร์แล้วเกิน 3 หมื่น อภ.เปิดขายชุดตรวจเอทีเควันแรก ชาวบ้านแห่ซื้อคึกคัก

ติดเชื้ออีก 10,111-ดับ 63

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,111 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,046 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,718 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 328 ราย มาจากเรือนจำ 41 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 24 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,793,812 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 10,612 ราย ยอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,668,250 ราย อยู่ระหว่างรักษา 107,226 ราย อาการหนัก 2,831 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 644 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 63 ราย เป็นชาย 39 ราย หญิง 24 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 44 ราย มีโรคเรื้อรัง 15 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ในกทม. 9 ราย ขณะที่พื้นที่ภาคใต้มีผู้เสียชีวิตรวมกันสูงถึง 21 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 18,336 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 475,053 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 65,677,794 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 241,471,559 ราย เสียชีวิตสะสม 4,914,092 ราย

พญ.สุมนีกล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 18 ต.ค. ได้แก่ กทม. 1,046 ราย ยะลา 756 ราย นครศรีธรรมราช 615 ราย สงขลา 579 ราย ปัตตานี 502 ราย นราธิวาส 466 ราย ระยอง 402 ราย ชลบุรี 354 ราย เชียงใหม่ 314 ราย สมุทรปราการ 247 ราย ทั้งนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค.หารือกันว่า การติดเชื้อในพื้นที่ภาคใต้น่าเป็นห่วง ตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นมาถึงกลางเดือน ต.ค. นอกจากการติดเชื้อจากสถานบันเทิงแล้วยังมีผู้ติดเชื้อในเรือนจำ และผู้ติดเชื้อมาจากพื้นที่อื่น รวมถึงมีผู้ติดเชื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านคือมาเลเซีย ทำให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่นราธิวาส ยะลา ปัตตานี โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.ได้จัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครอบคลุมพื้นที่นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา โดยให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปเป็นผอ.ศูนย์ อีกทั้งยังจะส่งผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมควบคุมโรคเข้าไปในพื้นที ่เพื่อช่วยเรื่องการสอบสวนโรคเพิ่มเติมด้วย

“ขณะที่คลัสเตอร์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ที่ จ.ระยอง พบคลัสเตอร์แคมป์คนงาน ส่วนจันทบุรีพบคลัสเตอร์แคมป์คนงานและล้ง ผลไม้ ที่ จ.ชลบุรีพบคลัสเตอร์สหกรณ์กองทุนสวนยาง ส่วนคลัสเตอร์งานศพพบในหลายจังหวัด อาทิ ลำพูน ขอนแก่น เลย สระแก้ว กาญจนบุรี”

ศบค.เล็งถกแผนรับเปิดปท.

พญ.สุมนีกล่าวด้วยว่า เราวางแผนการเปิดประเทศเป็นระยะๆ โดยต้องเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ 3 ด้านคือ 1.สถานการณ์การแพร่ระบาดต้องทรงตัว 2.ต้องพิจารณาถึงขีดความสามารถของสาธารณสุขว่ามีความพร้อมทั้งในเรื่องการป้องกัน การควบคุม และการรักษา 3.พื้นที่นำร่องสีฟ้า 17 จังหวัด จะต้องครอบคลุมการฉีดวัคซีนได้ไม่น้อยกว่า 70% ดังนั้นการเปิดประเทศจะต้องค่อยเป็นค่อยไปและต้องทยอยเปิด พร้อมก่อนเปิดก่อน โดยมาตรการหลักต้องอยู่ภายใต้มาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง ซึ่งขณะนี้เราอยู่ในระยะนำร่องของการเปิดประเทศ โดยมีการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาแล้ว ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะดำเนินการเปิดประเทศในแต่ละจังหวัดที่เป็นพื้นที่นำร่องสีฟ้าอื่นๆ ในระยะถัดไป

“หลักการของการเปิดประเทศระยะที่หนึ่งในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะต้องมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำโดยเดินทางมาทางอากาศหรือเครื่องบินเท่านั้น, ผู้ที่มาจากต่างประเทศจะต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็มตามกำหนด และมีการตรวจ RT-PCR จากต้นทางเป็นลบ พร้อมทั้งต้องทำประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 เหรียญสหรัฐ และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้วจะต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง ในสถานที่กักตัวที่กำหนด คือ ASQ, OQ, โรงแรม SHA+ และเมื่อผลเป็นลบแล้วจึงสามารถเข้าสู่ระบบในพื้นที่สีฟ้าหรือพื้นที่นำร่องที่มีการทำโควิดฟรีเซ็ตติ้งไว้อย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย ต้องจัดสถานที่ให้มีการไหลเวียนอากาศที่ดี ให้บริการในสถานที่ไม่แออัด สำหรับผู้ให้บริการจะต้องได้วัคซีนครบสองเข็ม ได้รับการตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ สำหรับผู้รับบริการไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ จะต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็ม มีการสุ่มตรวจ ATK 1 สัปดาห์ ก่อนไปใช้บริการ”

ชุดตรวจ – องค์การเภสัชกรรม เริ่มจำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 ภายใต้ “โครงการ ATK คุณภาพเพื่อสังคมไทย” โดยจำหน่ายผ่านร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 สาขาทั่วกรุง ชุดละ 40 บาท เมื่อ 18 ต.ค.

หญิงท้องติดเชื้อ4,778ดับ 95

ด้าน นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผอ.สำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 4,778 ราย จำนวนนี้แม่เสียชีวิต 95 ราย และลูกเสียชีวิต 46 ราย ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่สีแดงเข้ม กทม. ปริมณฑล โดยช่วงนี้มีการติดเชื้อมากใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ผ่านมามีการรณรงค์การฉีดวัคซีนหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป คาดว่าใน ธ.ค.นี้จะมีหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป 3 แสนคน ขณะนี้ฉีดวัคซีนได้ 7.5 หมื่นคน หรือ 25%

“ขอรณรงค์หญิงตั้งครรภ์มารับวัคซีน โควิด-19 เนื่องจากมีความเสี่ยงติดเชื้ออันตรายได้ทั้งแม่และลูก อาการจะรุนแรงกว่ากลุ่มทั่วไป ขอให้มาฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือคลินิกฝากครรภ์ในร.พ.รัฐ ส่วนหญิงให้นมบุตรก็รับวัคซีนได้เช่นกัน ยังให้นมลูกได้ ย้ำว่าวัคซีนช่วยลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตเกือบทั้งหมดไม่ได้รับวัคซีน” นพ.เอกชัยกล่าว

จ่อล็อกดาวน์จว.ชายแดนใต้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ติดตามสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น และย้ำประชาชนทุกคน รวมถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ให้ยึดหลักปฏิบัติตนตามการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ส่วนบุคคล แบบครอบจักรวาล อย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือกิจการร้านค้า ตลาด ชุมชน ยกระดับความปลอดภัยกิจการกิจกรรม ตามมาตรการ “โควิดฟรีเซ็ตติ้ง”

“นายกฯ สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ คุมเข้มสถานบริการ ผับ คาราโอเกะที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หากพบแอบเปิดให้บริการหรือจำหน่ายสุราจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้น นายกฯ ยังเร่งให้กระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 และชุดตรวจเร็ว ATK เวชภัณฑ์และยา และแต่งตั้งพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผอ.ศบค.ส่วนหน้า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะบูรณาการทำงานกับคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการควบคุมให้เข้มข้นยิ่งขึ้น รวมทั้งการล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วน เพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดโดยเร็ว”

สธ.ยันฉีดฟรีกระตุ้นเข็ม 3

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีการเสียเงินจองวัคซีนทางเลือกเพื่อใช้เป็นเข็ม 3 สธ.จะแนะนำอย่างไรนั้นว่า ดีที่สุด คือตามที่สธ.แนะนำ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเอง เพราะวัคซีนทุกตัวที่สธ.จัดให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นบริการจากภาครัฐไปยังประชาชนทุกคนอย่างเพียงพอ มีคุณภาพ และการออกใบรับรองวัคซีน หรือวัคซีนพาสปอร์ต มีการรองรับจากการฉีดที่รัฐเป็นผู้รับผิดชอบ น่าจะเป็นสิ่งที่สะดวกกว่า

เมื่อถามถึงการฉีดเข็ม 3 ฟรีให้คนได้รับ ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการวิชาการมีมติให้สธ.ดำเนินการได้ ก็จะยินดี ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของคณะกรรมการวิชาการว่าวัคซีนที่ไม่ได้ถูกดำเนินการจัดหาโดยภาครัฐ เมื่อศึกษาแล้วว่าจะฉีดกระตุ้นอย่างไรได้ สธ.ก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่จะดำเนินการโดยพลการไม่ได้ ดังนั้นผู้ที่ดำเนินการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน ในวันแรกๆ อาจจะยังไม่นึกถึงเข็ม 3 แต่เมื่อเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ผู้ที่ได้จัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนก็ควรจะต้องศึกษาถึงระดับภูมิคุ้มกันแล้ว ควรจัดเข็ม 3 ให้ประชาชนเมื่อไร ก็ควรดำเนินการได้เลย เพราะมีวิธีการช่องทางต่างๆ รองรับอยู่แล้ว

ชงปรับมาตรการเดินทางคนไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการเตรียมความพร้อมด้านคมนาคมเพื่อรองรับการเปิดประเทศว่า รัฐบาลมีแผนเปิดประเทศโดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ ช่วงวันที่ 1 พ.ย. 1 ธ.ค.64 และ 1 ม.ค.65 โดยระยะแรกวันที่ 1 พ.ย.64 จะเปิดรับนักนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำเข้ามายังประเทศไทย 10 ประเทศ อาทิ จีน เยอรมนี สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย เป็นต้น

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินเข้ามาท่องเที่ยวในไทยช่วงเปิดประเทศสัปดาห์นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอขอให้ศบค.ปรับมาตรการสาธารณสุขเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระบบการเดินทางของคนไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคนไทยจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส และต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยทุกครั้ง เบื้องต้นอาจจะบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเฉพาะการเดินทางในรูปแบบทางไกลก่อน ได้แก่การเดินทางโดยเครื่องบิน เดินทางโดยรถไฟ และการเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางข้ามจังหวัด เช่นรถของบริษัทขนส่งจำกัด หรือ บขส. ยกเว้นการเดินทางผ่านระบบขนส่งมวลชนในระยะทางใกล้ อย่างรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก. )

คุมโควิด – เจ้าหน้าที่ตั้งด่าน คัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดยะลา โดยตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีน โควิด-19 หลังบัตรประชาชน พร้อมทั้งสแกนคิวอาร์โค้ดก่อนเข้ามายังตัวเมือง ตามประกาศยกระดับของจังหวัด เมื่อ 18 ต.ค.

ปัตตานีปิด 22 หมู่บ้านสายบุรี

ด้านจ.ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 621 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 30,550 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 343 ราย

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่ม 22 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ในพื้นที่ 9 ตำบล ประกอบด้วย ต.กะดุนง ต.บือเระ ต.เตราะบอล ต.ละหาร ต.ตะบิ้ง ต.ปะเสยาวอ ต.บางเก่า ต.มะนังดาลำ และต.ตะลุบัน หลังพบประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมาก และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกหลายราย

ร.พ.มหาราชนครศรีฯปิด 5 ตึก

ส่วนที่จ.นครศรีธรรมราชพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 602 ราย ผู้ป่วยสะสม 24,204 ราย รักษาหาย 16,724 ราย ยังรักษาตัว 7,480 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 155 ราย

ด้านนพ.ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผอ.ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราชสั่งปิดหอ ผู้ป่วย 5 ตึกแล้ว ประกอบด้วยหอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย 1 อายุรกรรม 2 อายุรกรรม 3 หอผู้ป่วยหูคอจมูก และหอผู้ป่วยเด็กอ่อน ส่วนงานผู้ป่วยนอกและงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินยังคงเปิดรับผู้ป่วยตามปกติ แต่เพิ่มมาตรการป้องกันระวังโรคขั้นสูงสุด ทั้งนี้เนื่องจากพบบุคลากรทางการแพทย์มีผลยืนยันการติดเชื้อแล้วกว่า 50 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมกักตัวผู้ป่วยและญาติที่เฝ้าไข้ในตึกทั้ง5 ตึกกว่า 200 รายเพื่อตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดตามวงรอบ ส่วนต้นตอการแพร่เชื้อในโรงพยาบาลเกิดจากผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวแล้วปกปิดข้อมูล

ขณะเดียวกันผู้บริหารร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราชแจ้งไปยังโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่งในจ.นครศรีธรรมราช งดส่งต่อผู้ป่วยมายังร.พ.มหาราช เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เว้นกรณีจำเป็นเร่งด่วนหรือกรณีผู้ป่วยวิกฤตต้องใช้วิธีการผ่าตัดขั้นสูง

‘ศุภชัย’อัด‘บิ๊กตู่’ตั้งศบค.โควิดใต้

วันเดียวกัน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “เรื่องโควิดต้องให้หมอนำ” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสร่วมคณะไป 4 จังหวัดภาคใต้คือ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงร่วมด้วย เนื่องจากสถานการณ์โควิดค่อนข้างตึงเครียด รอบนี้สาธารณสุขได้นำวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1 ล้านโดส เพื่อฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุม

จากการติดตามการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ พบว่าเป็นไปอย่างดี พูดได้ว่าเอาอยู่อย่างแน่นอน แต่พอกลับมาแค่ 2 วัน ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกลับมีคำสั่งจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกฯ เป็นผอ.ศูนย์ เพื่อแก้ไขการระบาดของโรคในพื้นที่ปลายด้ามขวาน แล้วให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงปลัดกระทรวงอื่นๆ ไปจนถึงผู้ว่าฯ ในจังหวัดที่เกี่ยวข้องไปเป็นลูกมือของท่าน แต่หัวโต๊ะผู้มีอำนาจสูงสุด คือนายทหารยศ พล.อ. ต้องขอบคุณเจตนาดีในการกระชับอำนาจ เพื่อให้ท่านมีความคล่องตัวในการบริหารงาน ประเด็นคือท่านกำลังเอาโมเดลความมั่นคงต้องมาก่อน มาใช้กับเรื่องสาธารณสุข ซึ่งไม่เหมาะสม เพราะเป็นการนำเอาการทหาร มานำการสาธารณสุข สอดรับกับแนวทางการทหารนำการเมือง ที่ท่านนำมาใช้ในการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ค้านใช้ทหารนำการแพทย์

“ผมไม่ได้มีปัญหากับตัวบุคคล แต่ผมมีปัญหากับหลักคิดที่ใช้ทหารมานำในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีรายละเอียดมาก เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพของประชาชน ก็สมควรจะให้หน่วยงานที่มีความถนัดเฉพาะทางขึ้นมานำการทำงาน หรือถ้าท่านไม่เชื่อมือใครแล้ว ท่านก็ไม่ต้องตั้งหน่วยงานอื่นๆ มานั่งกับท่าน ท่านใส่ชื่อแพทย์ทหารไปได้เลย ท่านจะได้คุมแบบเบ็ดเสร็จ ตอนนี้สังคมกำลังมองว่านี่คือการขยายอำนาจให้ตัวเองของท่าน อย่าลืมว่าประเทศไทยมีกฎหมายสำหรับการควบคุมโรค หลายต่อหลายตัว สามารถปรับใช้ได้เลย โดยไม่ต้องตั้งใหม่ แล้วเอาทหารมาคุมเหมือนที่กำลังทำอยู่ ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด คือเรื่องของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ท่านยังตั้งหน้าตั้งตาใช้อยู่ เอาเข้าจริงสามารถแทนที่ได้ด้วยพ.ร.ก.โรคติดต่อ ซึ่งล่าสุด มีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์โรคระบาด แต่ท่านก็ไม่ใช้ ยังจะดึงดันรวบอำนาจไว้ที่ตัวเอง แล้วที่ผ่านมาการเอาทหารไปนำหมอ เราเคยเรียนรู้มีประสบการณ์มาแล้ว ช่วงเดือน พ.ค.64 เรามีศูนย์อำนวยการแก้ไขโควิด-19 พื้นที่กทม. และปริมณฑล พล.อ.ประยุทธ์นั่งเป็นผอ.ศูนย์ แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร” นายศุภชัยระบุ

นายศุภชัยระบุด้วยว่า “จากเรื่องการตั้งศบค.กรุงเทพฯ เท่ากับว่าท่านพร้อมจะให้ทหารนำหมอในทุกพื้นที่ ดังนั้น อย่ามาอ้างว่า ที่ต้องตั้งศบค.ชายแดนใต้เพราะท่านกังวลเรื่องความมั่นคง ผมไม่อยากฟื้นฝอยไปจนถึงหาเรื่อง แต่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ควรกระจายอำนาจให้แต่ละคน แต่ละฝ่าย แต่ละหน่วย ได้ทำงานที่ถนัดมิใช่หรือเพราะจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดผมเคยแสดงความเห็นมาหลายครั้ง และบางครั้งก็อาจไม่สบอารมณ์นายกฯ ที่ไปติติงการทำงานของรัฐบาล แต่ในฐานะส.ส.เป็นนักการเมือง ผมต้องยืนหยัดบนจุดยืนของผม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ผมจึงไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้ #คืนอำนาจให้หมอ”

‘อนุทิน’อ้างไม่รู้เรื่อง

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวถึงกรณีการตั้งศบค.ส่วนหน้าดูแลการระบาดใน 4 จังหวัดภาคใต้ ว่า เป็นการบูรณาการความร่วมมือด้านต่างๆ ซึ่งในส่วนของสาธารณสุขมีความพร้อม แต่ที่อยากขอความร่วมมือในคณะกรรมการชุดนี้ คือการป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย นำเชื้อเข้าประเทศ ส่วนในประเทศ พื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ จากการลงพื้นที่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นความพร้อม และความสามารถในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มีประสิทธิภาพ มีความสามารถเพียงพอ ไม่ต้องกังวล รวมถึงเวชภัณฑ์ ยา ส่วนกลางมีความพร้อมสนับสนุน โดยภายในสิ้นต.ค.จะฉีดวัคซีนจนครบกลุ่มเป้าหมาย ตอนนี้จัดสรรวัคซีนแล้ว 5.8 แสนโดส เหลือ 4.2 แสนโดสที่จะส่งลงไปครบตามเป้าหมายล้านโดส เพิ่มสร้างภูมิคุ้มกันที่ครอบคลุม รวมถึงกระจายวัคซีนทั่วประเทศด้วย

เมื่อถามถึงกรณีนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าการตั้งศบค.ส่วนหน้าเป็นการเอาทหารมานำการแพทย์ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ทราบกรณีนี้ ส่วนตัวมองว่าการช่วยกันทำงานเป็นสิ่งที่ดี ทุกคนหวังดี ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง การมีมาตรการ ประกาศใดๆ ล้วนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน บ้านเมือง ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบภารกิจตัวเอง ใครดูแลประชาชนด้านไหน กฎหมายแต่ละฉบับอยู่ที่ใคร ในประกาศศบค.ส่วนหน้า 4 จังหวัดชายแดนใต้มีความชัดเจนว่า ขอให้มีความร่วมมือ บูรณาการเป็นหลัก องค์ประกอบก็ดูดี มีท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เลขาธิการ 3 จังหวัดชายแดน ก็ค่อนข้างบูรณาการกัน สิ่งที่สธ.จะต้องดูก็ชัดเจน เรื่องสุขภาพก็ขอให้เป็นหน้าที่ของสธ. แต่เรื่องการควบคุมไม่ให้ลักลอบเข้าเมือง ควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัยสูงสุด เรามีความจำเป็นต้องพึ่งพาฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง

ศบค.ใต้ตั้งเป้าสกัดให้ได้ 2 เดือน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงการตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือศบค.ส่วนหน้าว่า ศบค.ส่วนหน้าจะทำหน้าที่ดูแล และป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ใน 4 จังหวัดคือนราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสงขลา ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดสูง โดยจะไม่ซ้ำซ้อนกับศบค.ส่วนกลาง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความมั่นใจว่าจะดูแลสถานการณ์ให้ได้อย่างทั่วถึง เป็นการทำงานบูรณาการจากกระทรวงสาธารณสุข การดูแลการเข้าออกด่านทางบก และการประสานงานทางศาสนา ตั้งเป้าว่าจะควบคุมและลดการระบาดภายใน 1-2 เดือน หรือลดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้ร้อยละ 10 ต่อสัปดาห์

“ในแต่ละจังหวัดจะมีมาตรการที่สอดคล้องกับพื้นที่ เช่น จ.ยะลา จะตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ 70% ภายในเดือนต.ค. ล่าสุดการฉีดวัคซีนจนถึงวันที่ 18 ตุลาคมนี้ได้ฉีดไปแล้ว 62% ของจำนวนประชากรในจังหวัด นอกจากนี้ในจ.ยะลายังมีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาโดยผู้ว่าฯ ยะลา ออกประกาศ 2 ฉบับ คือผู้ที่อยู่ในด่านรอยต่อขาเข้า ทั้ง 12 ด่านต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ถึงจะสามารถเข้ามาในจ.ยะลาได้ และวันที่ 20 ต.ค.ประกาศให้ประชาชนที่จะเข้ามาติดต่อหน่วยงานราชการ ธนาคาร หรือการละหมาดต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มเพื่อลดการแพร่เชื้อ ส่วนจ.นราธิวาสก็ออกมาตรการตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ 70% พร้อมการออกมาตรการด้านสาธารณสุข เช่นการป้องกันการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ใหญ่ การใส่ใจกลุ่มผู้ป่วยหนัก โดยการกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ให้รวดเร็ว การพิทักษ์ป่วยตาย คือการดูแลผู้ป่วยหนักไม่ให้เสียชีวิต โดยการเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง สุดท้ายคือการคลายล็อกดาวน์ ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันตัวเอง”

ฉีดนักเรียน – จังหวัดจันทบุรีจัดฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 ให้แก่นักเรียนนักศึกษา จำนวนกว่า 2 พันคน หลังต้องเลื่อนมาจากกำหนดเดิม เนื่องจากน้ำท่วมเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับ จ.จันทบุรี

ย้ำเปิดมหาลัย-โรงเรียน 1 พ.ย.

น.ส.รัชดากล่าวถึงการเปิดเรียนในที่ตั้งและการฉีดวัคซีนให้นักเรียนนักศึกษาว่า ในระดับอุดมศึกษา ทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เห็นว่ามหาวิทยาลัยจะมีความพร้อมให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละสถานที่ ส่วนการฉีดวัคซีนให้นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย ได้ฉีดแล้วกว่า 1 ล้านคน

สำหรับนักเรียนตั้งเป้าเปิดเรียนในที่ตั้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละโรงเรียนในแต่ละพื้นที่อาจมีความพร้อมไม่เท่ากัน โรงเรียนบ้านแห่งที่อยู่นอกพื้นที่เสี่ยงพิจารณาเปิดเรียนได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ส่วนการฉีดวัคซีนมีผู้ปกครองแสดงความประสงค์ให้ลูกหลานฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดยฉีดให้เด็กนักเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปถึงวันที่ 18 ต.ค.จำนวน 1,130,000 คน ส่วนที่ยังไม่ได้ฉีดในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาฯ จะสำรวจอีกครั้งเพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน ส่วนคำถามว่าในเด็กผู้ชายช่วงอายุ 12 – 16 ปี จะต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มสองหรือไม่นั้น ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ คณะกรรมการวิชาการจะตัดสินใจอีกครั้ง ขณะที่เด็กนักเรียนหญิงและที่อยู่ในกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มสองในวันที่ 25 ต.ค.นี้

กทม.ฉีดนักเรียนม.ต้นกว่า3หมื่น

ที่โรงเรียนบางเขนไว้สาลีอนุสรณ์ เขตหลักสี่ กทม. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนสังกัดกทม.ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่ และผู้เกี่ยวข้องร่วมคณะ

นายสกลธี กล่าวว่า กทม.กำหนดฉีดวัคซีนไฟเซอร์สร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกทม. ระดับชั้นม.1-3 ที่สมัครใจฉีดวัคซีนทั้งหมด 31,004 คน ระหว่างวันที่ 18-20 ต.ค.64 โดยวางแผนให้จุดฉีดวัคซีนส่วนใหญ่เป็นแบบ School-based ในโรงเรียนขนาดใหญ่หรือสถานที่ที่มีความพร้อม กระจายตามพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ วันนี้ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนจาก 37 โรงเรียน รวมนักเรียน 11,528 คน

อภ.เปิดขายชุด ATK วันแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เริ่มจำหน่ายชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิต (ATK) เพื่อตรวจเชื้อโควิด-19 คุณภาพ ราคาชุดละ 40 บาท เป็นวันแรก ภายใต้ “โครงการ ATK คุณภาพเพื่อสังคมไทย” เพื่อจัดหาและจำหน่าย ATK คุณภาพได้มาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในราคาเหมาะสม ให้แก่ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ โดยเปิดจำหน่ายผ่านร้านขายยาของอภ.ทั้ง 8 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ปรากฏว่ามีประชาชนเข้าไปซื้อหากันอย่างคึกคักทุกสาขา ในระยะแรกดำเนินการจัดหามาแล้วจำนวน 2 ล้านชุด เป็น ATK ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากอย. และผ่านการทดสอบคุณภาพที่ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานของคณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี

ล่าสุด อภ.ระบุว่า หลังจากอภ.เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดจำหน่ายดังกล่าว มีผลการตอบรับของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนสนใจจะซื้อผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมาก อภ.จึงเร่งจัดหาชุดตรวจ ATK เฟส 2 เพิ่มอีกอีกกว่า 2 ล้านชุด

ตั้งเป้าสิ้นปีฉีดเข็มหนึ่ง 85%

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เป้าหมายที่วางไว้ของวัคซีนโควิด 19 คือ เมื่อสิ้นธ.ค.นี้ ประชาชนในแผ่นดินไทยทั้งไทยและต่างด้าว 72 ล้านคนจะฉีดเข็ม 1 ครอบคลุม 85% เข็ม 2 อีก 70% ส่วน ต.ค.นี้เข็มหนึ่ง 58% เข็มสอง 40% ตามด้วย พ.ย. เข็มหนึ่ง 74% เข็มสอง 65% ส่วนการกระจายวัคซีนให้แต่ละจังหวัดเอาเป้าหมายตัวเองเป็นตัวตั้ง เช่นเป้าหมาย 50% ตอนนี้ฉีดได้ 40% ก็เอามาลบกันว่าต้องการอีกเท่าไร เป็นสูตรในการส่งวัคซีนให้ และให้นพ.สสจ.ประสานผู้ว่าฯ จะฉีดวัคซีนที่ส่งไปในกลุ่มเป้าหมายไหน ถ้าส่งไปไม่พอให้แจ้งกรมควบคุมโรคเพื่อส่งเพิ่มเติม การจัดกลุ่มฉีด 1.ยังเน้นกลุ่ม 608 แม้ภาพรวมพื้นที่สีแดงเข้มฉีดได้ 70% ภาพรวมประเทศ 60% ยังเน้นเพราะช่วยลดอัตราตาย 2.สนับสนุนการเปิดประเทศพื้นที่สีฟ้า ซึ่งขาดวัคซีน 7 แสนโดส จัดส่งแล้ววันนี้จะถึงพื้นที่ และ 3.เปิดประเทศ สำคัญคือเปิดโรงเรียน พย.ขอให้ฉีดในนักเรียน แรงงานต่างด้าว ส่วนพ.ย.คาดว่าอาจจะให้คนที่ต้องการฉีดไปลงทะเบียนฉีดในจังหวัดตนเอง และให้นัดหมายที่จังหวัดได้

นพ.โอภาสกล่าวว่า เรื่องสูตรฉีดไขว้ในเชิงวิทยาศาสตร์ได้รับการยอมรับสูตรที่ดี เราปูพื้นวัคซีนและกระตุ้นเสริมขึ้นไป เราใช้ซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ คาดว่าสัปดาห์นี้จะส่งซิโนแวคหมดแล้ว น่าจะฉีดได้จบในเดือนนี้เป็นอย่างช้า ส่วนสูตรต่อไปจะเปลี่ยนเป็นแอสตร้าฯ-ไฟเซอร์ แต่จะประกาศอีกครั้ง ส่วนเข็ม 3 เราพร้อมแล้ว สามารถฉีดไปได้เลยไม่ต้องรอ เป็นอีกหมุดหมายสำคัญ เราเป็นประเทศต้นๆ ที่ให้บูสเตอร์โดส สหรัฐอเมริกายังประกาศหลังเรา ส่วนผลข้างเคียงวัคซีนเราฉีด 65 ล้านโดส พบเสียชีวิตจากวัคซีนจริงๆ ไม่ถึง 5 ราย ถือว่าต่ำมาก อยู่ในระดับปกติไม่ผิดมาตรฐาน ดีกว่ามาตรฐานด้วยซ้ำ ข่าวลือส่วนใหญ่ไม่ได้เสียชีวิตจากวัคซีน เรายังติดตามไฟเซอร์อยู่ จากการติดตามกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบพบน้อยกว่าที่คาดคิด ไม่ได้อันตรายอะไร จะรวบรวมเพื่อออกนโยบายการฉีดในเด็กผู้ชายต่อไป ส่วนคนฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม ในระยะ 6 เดือนภูมิคุ้มกันยังเพียงพอ ซึ่งจะเริ่มครบ 6 เดือนในพ.ย.นี้ จะรวบรวมข้อมูลสุดท้ายก่อนประกาศต่อไปเรื่องการฉีดเข็ม 3

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน