ระบุผู้เสียหาย
ต้องอยู่เคสนี้
เหยื่อดูดเงินบัตรยังแห่ แจ้งความ ตำรวจเร่งกลั่นกรองเป็นผู้เสียหายจากแก๊งรูดบัตรเครดิตเดบิตที่กำลังเป็นคดีเวลานี้ ล่าสุดวันเดียวมี ผู้เสียหายเข้าแจ้งบช.สอท. 83 ราย ไปแจ้งความตำรวจหน่วยอื่นอีก รวมทั้งหมดกว่า 150 ราย ถือเป็นจำนวนที่น้อยลงหลังการประชุมหารือซึ่งธนาคารจะเป็นตัวแทนผู้เสียหายในการแจ้งความ เตือนประชาชนติดตามข่าวสารเพื่อรู้ทันกลโกงเหล่ามิจฉาชีพ หากพบเงินในบัญชี บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต มีเงินออกโดยไม่ทราบสาเหตุให้รีบแจ้งธนาคารทันที
วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการกรณีที่มีผู้เสียหายถูกหักเงินจากบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต และบัตรเครดิต โดยไม่ทราบสาเหตุ ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยจัดการประชุมหารือเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหา ได้ข้อสรุปว่าทางธนาคารต่างๆ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะรับเป็นตัวแทนผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และจะชดใช้เยียวยาเงินส่วนที่ได้รับความเสียหายให้ผู้เสียหายภายใน 5 วัน หลังจากพิสูจน์ทราบแล้วว่าบัญชีนั้นๆ ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวจริง
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวต่อว่า ในช่วงนี้ยังคงมีผู้เสียหายบางส่วนเดินทางไปแจ้งความกับ บช.สอท. ด้วยตัวเอง ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22 ต.ค.2564 จำนวน 83 ราย และบางส่วนที่เดินทางไปแจ้งความกับหน่วยงานตำรวจอื่นๆ อีกกว่า 70 ราย รวมทั้งหมดกว่า 150 ราย เป็นจำนวนที่น้อยลงหลังจากการประชุมหารือและประชาสัมพันธ์ออกไปถึงเรื่องที่ทางธนาคารจะเป็นตัวแทน ผู้เสียหายในการแจ้งความ จึงขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวติดต่อไปยังธนาคารเจ้าของบัญชี ทางธนาคารจะดำเนินการพิสูจน์ทราบว่าบัญชีนั้นๆ ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวหรือไม่ หากพบว่าได้รับความเสียหายจริงจะติดต่อกลับไปยังผู้เสียหายเพื่อชดใช้เยียวยาเงินในส่วนที่ได้รับความเสียหายต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า ส่วนผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ไปก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิสูจน์ทราบตามขั้นตอนและเยียวยาผู้เสียหายต่อไป โดยทางธนาคารและหน่วยงานต่างๆ ประชุมหารือกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 ได้รับรายงานว่าต้องรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลความเสียหายและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะเดินทางมาร้องทุกข์กับ บช.สอท. ในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนรวมถึงพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและการกระทำความผิดอย่างเต็มความสามารถ และจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อนำตัว ผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป
รองโฆษกตร.กล่าวด้วยว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลรายการเดินบัญชี รวมถึงยอดเงินในบัญชี บัตรเครดิต และบัตรเดบิตว่ามีการถอนหรือหักเงินออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่ หากพบว่ามีการถอนหรือหักเงินออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้ใช้จ่ายยอดดังกล่าว ให้รีบติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีหรือเจ้าของบัตรนั้นๆ และขอให้ติดตามข่าวสารอยู่เสมอเพื่อรู้ทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดโทร.แจ้ง 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
