พ่อเฒ่าชุมพรวัย 83 อ้างปืน .38 ลั่นใส่สาววัย 35 ดับคาบ้าน ให้การอ้างก่อนเกิดเหตุได้ว่ากล่าวที่ไม่ช่วยหาข้าวปลาให้กิน ทำให้มีปากเสียงกัน ผู้ตายคว้ามีดจะทำร้าย เข้าแย่งปืนที่เอว จนเกิดเหตุสลดเผยเพื่อนแนะนำให้รู้จัก สงสารเห็นเช่าบ้านอยู่ลำพัง จึงชวนมาอยู่ด้วยได้เดือนกว่า ไม่รู้จักชื่อจริงด้วยซ้ำ เรียกว่าน้อง ให้นอนอยู่ชั้นล่าง ส่วนตัวเองอยู่ชั้นบน แม้เป็นโสด เมียตาย แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ตำรวจ ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย ยังไม่ตัดประเด็น ทั้งปืนลั่น หรือชู้สาว หึงหวงกัน เพราะผู้ตายเป็นสาวหน้าตาดี เร่งตามหาญาติมาสอบประวัติว่าเป็นใครมาจากไหน ต่อไป

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 ต.ค. ร.ต.อ.(หญิง)วาสนา ใจห้าว รองสว. (สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 5 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง รอง ผกก.ป. แพทย์เวร ร.พ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ย่านชุมชนเขตเทศบาลเมืองชุมพร เป็นบ้านปูนสองชั้นติดกับถนนในซัง ใกล้กับแยกนิ้งหน่อง ถนนตัดข้ามทางรถไฟไปศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร ที่ชั้นล่างใกล้กับห้องนอน พบศพผู้หญิง อายุ 35-40 ปี นุ่งกระโปรงกระโจมอก นอนคะแคงอยู่บนกองเลือด เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้นอกจากแพทย์ เนื่องจากต้องนำผลจากเนื้อเยื่อในโพรงจมูกผู้ตายไปตรวจหาเชื้อโควิด-19

จากการชันสูตรพลิกศพ หญิงคนดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 เข้าที่ชายโครงขวาใต้รักแร้ 1 นัด กระสุนฝังใน ที่เกิดเหตุมีมีดทำครัวตกอยู่ 1 เล่ม ห่างออกไปราว 3 เมตร ใต้บันไดทางขึ้นชั้นสองของบ้าน พบอาวุธปืนขนาด.38 วางอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนมือปืนเป็นเจ้าของบ้านยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุทราบชื่อ นายบุญส่ง หรือตาส่ง พรรณเจริญ อายุ 83 ปี

สอบสวนนายบุญส่งให้การว่า มีอาชีพรับจ้างแห่รถโฆษณา อยู่เป็นโสด เพราะภรรยาเสียชีวิตนานแล้ว ส่วนลูกๆ ผู้หญิง 3 คน มีครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัดกันหมด สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้รู้จัก 2-3 เดือนแล้ว และเพิ่งพามาอยู่ที่บ้านด้วยกันกว่า 1 เดือน เนื่องจากสงสารเห็น เช่าบ้านอยู่คนเดียว โดยไม่ทราบชื่อจริง หรือเป็นใครอยู่ที่ไหน เรียกชื่อเพียงว่า “น้อง” เท่านั้น

นายบุญส่งให้การต่อว่า ขณะอยู่ที่บ้านเดียวกันได้ให้ผู้ตายนอนที่ห้องชั้นล่าง ส่วนตนนอนห้องชั้นบน โดยที่ไม่เคยมีอะไรกันแบบชู้สาว ซึ่งตนสาบานได้ เมื่อมาอยู่บ้านเดียวกันไม่นาน ผู้ตายเริ่มแสดงพฤติกรรม ไม่ดีหลายอย่าง จนตอนเกิดเหตุตนจะออกไปทำงาน เห็นอยู่ในห้อง จึงพูดไปว่า จะไม่ทำอะไรเลยหรือ ข้าวปลาก็ไม่จัดหามากิน จนเกิดโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ผู้ตายโมโหวิ่งไปหยิบมีดทำครัวออกมาจะทำร้าย ตนจึงเข้าไปแย่งชิงจนมีดหลุดมือ ผู้ตายซึ่งรู้ว่าตนชอบพกปืนไว้ที่เอวตลอดเวลาจึงเข้ามากอดรัด พยายามชักปืนออกจากเอวตน ทำให้เกิดการแย่งชิงกันขึ้น จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายก็ล้มลง ตนรีบโทรศัพท์แจ้งเหตุ ให้ 191 มาตรวจสอบ

ด้านตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายบุญส่งว่าเหตุเกิดจากแย่งปืนจนลั่น หรืออาจมีสาเหตุมาจากความหึงหวง เพราะผู้ตายเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ชอบแต่งตัว จึงเร่งติดตามหาญาติมาให้ข้อมูลว่า ผู้ตายมีชื่อจริงว่าอะไร และเป็นใครอยู่ที่ไหน เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายบุญส่งฆ่าผู้อื่นตายไว้ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน