เร่งกันปราสาทหิน-รร.เลื่อนเปิด
สุพรรณจมนับเดือน-ไร้ห้องสุขา
ผู้ว่ากรุงเก่ารับ-ผันน้ำทุ่งไม่ออก
โคราชวุ่น พิมายจมหนัก หลัง 2 อ่างเก็บน้ำ ทั้งอ่างเก็บน้ำลำฉมวก และเขื่อนพิมายล้นต้องเร่งระบาย เพิ่ม จนท.เร่งกั้นปราสาทหินพิมาย และพิพิธภัณฑ์ หวั่นเสียหาย ด้านโรงเรียนประกาศเลื่อนเปิดไปอีก 1 สัปดาห์ ส่วนที่ลำปางวุ่น ฝนตกจมเมือง น้ำไม่ระบาย เผยเหตุขยะอุดตันท่อระบายน้ำ จนท.ต้องเร่งแก้ไข ส่วนที่สุพรรณฯ 3 อำเภอทุ่งเก็บน้ำวุ่น ทั้งอ.เมือง บางปลาม้า และสองพี่น้อง น้ำไม่ลดลง ขณะที่ถุงยังชีพก็ไม่เพียงพอ โวยใช้ชีวิตตามมีตามเกิด ไร้ห้องสุขา หลังท่วมนานนับเดือน
ยังจม – ภาพมุมสูงสภาพน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 4 ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดเร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน เมื่อวันที่ 31 ต.ค.
วันที่ 31 ต.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวม 17 จังหวัด โดยมีรายละเอียดดังนี้ อิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 24-31 ต.ค. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก 8 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน เพชรบูรณ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา ยังคงมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน และสุราษฎร์ธานี รวม 3 อำเภอ 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน 5 ครัวเรือน
ขณะที่สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากการระบายน้ำจากอ่างเก็บขนาดใหญ่ลงสู่ลำน้ำสายหลัก ตั้งแต่วันที่ 20-29 ต.ค. ยังคงมีน้ำท่วมทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี และลพบุรี รวม 13 อำเภอ 44 ตำบล 193 หมู่บ้าน 5,881 ครัวเรือน
ผลกระทบจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17-19 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ และนครปฐม รวม 22 อำเภอ 108 ตำบล 704 หมู่บ้าน 11,903 ครัวเรือน
ผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 6 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวม 25 อำเภอ 234 ตำบล 1,177 หมู่บ้าน 75,749 ครัวเรือน ในภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ
ที่จ.นครราชสีมา โครงการชลประทานนครราชสีมา รายงานว่า มีร่องมรสุมพาดผ่านจังหวัดนครราชสีมา ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณจ.นครราชสีมา รวมทั้งพื้นที่รับน้ำเหนืออ่างเก็บน้ำลำฉมวก ต.นิคม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลง อ่างเก็บน้ำจำนวนมาก ซึ่งอ่างเก็บน้ำลำฉมวกสามารถเก็บกักน้ำได้เพียง 23.45 ล้านลบ.ม.
แต่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่าง 26.24 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 111.93 เปอร์เซ็นต์ เกินความจุเก็บกัก มวลน้ำจึงล้นสปิลเวย์ จึงประกาศ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ริมคลองธรรมชาติ บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำลำฉมวก อ.พิมาย ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตอ.พิมาย ยังไม่คลี่คลาย ลำน้ำธรรมชาติ อย่างเช่น ลำน้ำมูน และลำสะแทด ระดับน้ำยังสูง หลายจุดยังล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร เสียหายเป็นบริเวณกว้าง และจากภาพมุมสูงในจุดอ่างเก็บน้ำลำฉมวก จะเห็นว่า ปริมาณน้ำภายในอ่าง เกินความจุจนล้นสปิลเวย์ ไหลลงมาตามคลองท้ายอ่างเก็บน้ำ อาจส่งผลทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอพิมายวิกฤตมากขึ้น ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย
ขณะที่น้ำภายในเขื่อนพิมาย มีความจุอยู่ที่ 4,989,000 ลบ.ม. คิดเป็น 138.60 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ทางโครงการศูนย์ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนพิมาย) เสริมเครื่องผลักดันน้ำแรงดันสูงจากเดิม 12 เครื่อง เป็นทั้งหมด 19 เครื่อง ติดตั้งบริเวณประตูระบายน้ำปากคลองสายใหญ่เขื่อนพิมาย เพื่อเร่งผลักดันน้ำที่ไหลเข้ามาสะสมอยู่ภายในเขื่อนพิมายออกลงสู่ลำน้ำมูน วันละ 17.14 ล้านลบ.ม.
นอกจากนี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณคลองน้ำด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพิมาย เพื่อสูบน้ำที่เอ่อล้นเข้าไปในเขตเทศบาลตำบลพิมาย ออกลงสู่ลำน้ำมูน เป็นการป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมแหล่งเศรษฐกิจในพื้นที่อ.พิมาย รวมทั้งโบราณสถานอุทยานปราสาทหินพิมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ภาพจากมุมสูงจะเห็นว่าปริมาณน้ำมูล โอบล้อมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ทางเจ้าหน้าที่ยังเสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
นายชูชีพ แรงใหม่ ผอ.โรงเรียนพิมาย ได้ออกหนังสือประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนในช่วงวันที่ 1 พ.ย.นี้ ออกไปก่อน 1 สัปดาห์ หลังทางโรงเรียนยังคงเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังบริเวณด้านหลังของโรงเรียนออก คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าหากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่อีกปริมาณน้ำท่วมน่าจะเริ่มลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติ
ที่จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำมูนเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ หลังมวลน้ำมูนจาก จ.นครราชสีมา และน้ำชีจากจ.ชัยภูมิ เดินทางมาถึงจ.อุบลราชธานี คาดจะทรงตัว 1-2 วันก่อนปรับตัวลดลง ขณะชาวชุมชนลุ่มต่ำยังต้องใช้ชีวิตในศูนย์อพยพกว่า 1 เดือน
เจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว และ 12 นิ้ว จำนวน 7 เครื่อง ดึงน้ำแม่น้ำมูนที่ล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนลุ่มต่ำในพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ เพื่อไม่ให้มีระดับน้ำท่วมสูงจนส่งผลกระทบกับชุมชนริมแม่น้ำมากเกินไป
ส่วนมีชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำมูนทั้งในอำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ ถูกน้ำท่วมรวม 25 ชุมชน ต้องอพยพหนีน้ำไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงที่ทางการจัดให้จำนวนกว่า 340 ครอบครัวกว่า 1,300 คน เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน
สำหรับระดับแม่น้ำมูนที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี วันนี้ มีแนวโน้มทรงตัวปรับขึ้น 2 ซ.ม. ทำให้มีน้ำสูง 7.44 ม. และมีน้ำล้นตลิ่ง 44 ซ.ม. โดยมีอิทธิพลจากน้ำเหนือของแม่น้ำมูนที่ไหลมาจากจ.นครราชสีมา และแม่น้ำชี จากจ.ชัยภูมิ ที่ไหลมาบรรจบกันที่จังหวัดก่อนไหลไปลงแม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม
ที่จ.ลำปาง เกิดฝนตกหนัก หลายแห่งมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลนครลำปาง ถนนเส้นทางสัญจรสายหลักหลายแห่งเช่น ถนนพหลโยธิน บริเวณสี่แยกประตูชัย ทางรอดถนนข้างห้างบิ๊กซี สาขาลำปาง ถนนฉัตร ถนนเลียบแม่น้ำวัง ต.บ้านดง และ บ้านนาก่วม ถนนภายหมู่บ้านสุขสวัสดิ์ ต.พระบาท
สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากการระบายน้ำไม่ทัน และมีการสร้างถนนขวางทางน้ำเดิมที่เป็น คูคลองโดยการทำท่อระบายน้ำแทนและมีขนาดเล็กทำให้น้ำระบายลงสู่แม่น้ำวังไม่ทัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครลำปาง ได้รับผลกระทบ เดินทางไปมาลำบากระดับน้ำสูงกว่า 30-50 ซ.ม.
นอกจากนั้นบริเวณถนนเลียบแม่น้ำวัง ชุมชนศรีปงชัย น้ำท่วมขังระยะทางประมาณ 100 ม. ต้นไม้ล้มขวางถนนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครลำปาง นำเลื่อยยนต์มาตัดต้นไม้เคลียร์พื้นที่ และน้ำจากฝนตกหนักไหลเอ่อล้นคลองชลประทาน ท่วมพื้นที่นาข้าวชาวบ้านร้อง ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง ที่รอการเก็บเกี่ยว เสียหายบางส่วนอยู่ระหว่างการสำรวจ
ทั้งนี้พื้นที่น้ำท่วมขังพบว่าท่อระบายน้ำหลายแห่งอุดตันด้วยเศษสวะและเศษขยะจำนวนมากเช่น ที่หลัง ร.พ.ลำปาง สี่แยกประตูชัย หน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษา ชุมชนสุขสวัสดิ์ และแยก ม.สวนดุสิต สี่แยกดอนปาน และบริเวณหน้า ธ.กรุงเทพ สาขาสบตุ๋ย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครลำปางต้องเร่งเก็บขยะอุดตันท่อระบายน้ำออก และตั้งเครื่องสูบน้ำลงท่อระบายกว่า 3 ชั่วโมง ล่าสุดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ที่จ.สุพรรณบุรี ปริมาณน้ำเริ่มลดลง แต่หลายอำเภอยังได้รับผลกระทบ โดยระบายน้ำไปยังพื้นที่แก้มลิง รองรับน้ำ 3 อำเภอท้ายน้ำ อย่าง อ.เมือง อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง ซึ่งระดับน้ำในทุ่งรองรับน้ำ ยังไม่ลดลง ชาวบ้านหลายตำบล หลายหมู่บ้านยังได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ทุ่งฝั่งตะวันออก อำเภอบางปลาม้า
นายชาติชาย เจริญผล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ ในพื้นที่ ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำลงทุ่ง ทำให้บ้านเรือนประชาชนร่วม 300 หลังคาเรือน ยังได้รับผลกระทบ ท่วมมา 1 เดือนเศษ ถุงยังชีพก็ได้มาไม่เพียงพอ ครั้งแรกได้ 120 ถุง ครั้งที่ 2 ได้ 80 ถุง แต่มีประชากร 298 ครัวเรือน ตอนนี้ปัญหาหลักที่พบ คือ เรื่องปัญหาการขับถ่าย ห้องน้ำไม่มีเข้า น้ำท่วมหมด ต้องลุยน้ำกันระดับอก น้ำท่วมถึงพื้นกระดาน เดินไปไหนก็ไม่ได้ รถยนต์ก็เอาจอดกันบนถนน สุขาก็ไม่มี เรือก็ยังไม่ได้ ตอนนี้ เรื่องขับถ่ายก็ทำกันไปตามมีตามเกิด ตอนนี้ก็ยังเดือดร้อนกันอยู่ เพราะไม่รู้เมื่อไรน้ำจะลด
ที่จ.พระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลสะพานไทย อ.บางบาล ระดับน้ำยังคงท่วมสูง เทศบาลมหาพราหมณ์ได้จัดตั้งเต็นท์บนถนนให้พักอาศัยชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ในส่วนการเยียวยาจะต้องรอหลังจากน้ำลดลงแล้ว เพื่อให้ได้รับการชดเชยค่าความเสียหายครอบคลุมภาพรวม
ขณะที่ทุ่งรับน้ำ ต้องรอให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงแล้ว น้ำในทุ่งจึงจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น น้ำในทุ่งรับน้ำนี้จะอยู่นานกว่าจังหวัดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ได้เข้ามาดูแลในพื้นที่และช่วยเหลือราษฎรอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
