พปชร.ก็ด้วย ลั่นตีตกรธน.ประชาชน

เพื่อไทยติงสว.
อย่าตั้งธงคว่ำ
ฝ่ายค้านนัดเคาะ
‘ตู่’สัญจรกระบี่
สั่งจับตา11กลุ่ม

พลังประชารัฐก็ด้วย จ่อตีตกร่างรธน.ฉบับประชาชน ‘ไพบูลย์’ เชื่อพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตในทิศทางเดียวกัน อ้างเป็นแค่ข้อเสนอของคนกลุ่มเดียว ด้านปชป.นัดส.ส.หารือ วอนสมาชิกรัฐสภายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ขณะที่แกนนำฝ่ายค้านหารือวันนี้ ทั้งร่างรธน.-ยื่นซักฟอกแบบไม่ลงมติ เพื่อไทยติงส.ว. อย่ามีธงคว่ำ แนะรอฟังเหตุผลก่อน ‘บิ๊กตู่’ ประชุมครม.สัญจรกระบี่ 16 พ.ย.นี้ ห่วงมวลชนไม่ต่ำกว่า 11 กลุ่มเคลื่อนไหว สั่งตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ ย้ำฝ่ายความมั่นคงดูแลเข้ม จุรินทร์สบช่อง ชงครม. 16 โครงการ งบ 2.1 พันล้านให้ 6 จังหวัดอันดามัน แกนนำ พธม. ‘สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์’ เสียชีวิตแล้ว

พบชาวบ้าน – พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พบปะชาวบ้าน พร้อมผลักดันโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแดนไทย-มาเลเซียที่ชะงักไป ที่ตลาดชายแดนตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 14 พ.ย.

‘บิ๊กตู่’ถกครม.สัญจรกระบี่

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15-16 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดเดินทางไปตรวจราชการ ที่จ.กระบี่ และตรัง และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2564 ที่จ.กระบี่ โดยวันที่ 15 พ.ย. นายกฯ จะไปตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัย ทางการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และเปิดศูนย์จําหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าโอท็อปอันดามัน 6 จังหวัด ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ที่ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน เทศบาลเมืองกระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ นอกจากนี้ยังพบผู้ประกอบการธุรกิจการ ท่องเที่ยวและผู้นําท้องถิ่น ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่

ส่วนวันที่ 16 พ.ย. นายกฯ ประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ที่ห้องประชุมโภคีธรา โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท ก่อนเป็นประธานประชุมครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และในช่วงบ่ายจะเป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือปากเมง เปิดประตูสู่อันดามัน ที่ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

ตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์

ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 จังหวัดทะเลอันดามัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมครม.สัญจรว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งกลุ่มเกษตรกรและประชาชน จากที่ดินทำกิน กลุ่มชาติพันธุ์ ประมง สวนปาล์ม และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จะยื่นหนังสือถึงนายกฯ ใน จ.กระบี่ คาดว่าจะมี 11 กลุ่ม จ.ตรัง 2-3 กลุ่ม โดยจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ที่จ.กระบี่และตรัง

สั่งฝ่ายมั่นคงเบรกม็อบป่วน

“ยอมรับว่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและสันติบาล กอ.รมน.ได้เตรียมความพร้อมแล้ว ขอวิงวอนขอร้องอย่าได้ทำลายบรรยากาศการประชุมในครั้งนี้ โดยฝ่ายความมั่นคง สันติบาลตามประกบว่าจะมีกลุ่มการเมืองใดจะเข้ามาสร้างความปั่นป่วนหรือไม่ เพราะไม่อยากให้คนกลุ่มน้อยมาทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว หรือทำลายความเชื่อมั่น ไม่อยากให้เอาการเมืองมาเล่นช่วงนี้ ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง เห็นแก่ประชาชน” นายเสกสกลกล่าว

นายเสกสกลกล่าวว่า หากมีมวลชนเคลื่อนไหวทางการเมือง ถือเป็นภารกิจของหน่วยงานด้านความมั่นคงจะดำเนินการตามกฎหมาย แต่ได้ย้ำให้ทำความเข้าใจกับมวลชนกลุ่มต่างๆ ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวหรือต่อต้านนายกฯ และครม. ในระหว่างการลงพื้นที่ ซึ่งการที่นายกฯ ลงพื้นที่และประชุมครม.ในภาคใต้ ถือว่ามาพัฒนากลุ่มจังหวัดและสร้างความเจริญ จึงไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้น

อู๊ดด้าชง 16 โครงการ 2.1 พันล้าน

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.สัญจร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานเขตตรวจราชการ 6 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต กระบี่ ระนอง พังงา ตรัง และสตูล จะเสนอครม.พิจารณาอนุมัติโครงการทั้งหมด 16 โครงการที่คัดแล้วว่ามีความสำคัญสูงสุดตามที่ 6 จังหวัดคัดเลือกมา รวมงบประมาณ 2,128 ล้านบาท ซึ่งรมว.มหาดไทยและนายจุรินทร์ จะเสนอต่อนายกฯ และสภาพัฒน์ทราบเพื่อรับไปดำเนินการ ต่อไป

ชทพ.หนุนมีตติ้งพรรคร่วม

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการนัดกินเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 26 พ.ย.ว่า เป็นสิ่งที่ดีและควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ในภาวะที่ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนร่วมกัน ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อความสามัคคีไปในทางเดียวกัน ครม.ต้องเปิดทางให้สมาชิกได้พบปะกันทุกเดือน เมื่อก่อนกินข้าวพรรคร่วมกันทุกวันพุธเพื่อความปรองดอง และปฏิบัติเรื่อยมา ไม่ใช่เพิ่งมาทำ การพบปะพูดคุยเพื่อช่วยกันบริหารงาน จะได้ไม่มีช่องโหว่ระหว่างผู้บริหารกับสมาชิก

ชี้ร่างรธน.ฉบับปชช.ถูกตีตก

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 16 พ.ย. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนว่า ส่วนตัวเห็นว่าร่างแก้ไขฉบับนี้เป็นของประชาชนจำนวนหนึ่งเท่านั้น ประมาณ 1.35 แสนคน หากเทียบกับประชาชนในเขตเลือกตั้งส.ส. ยังน้อยกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งผู้เสนอพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นร่างฉบับประชาชน ทั้งที่เป็นแค่ร่างของคนกลุ่มหนึ่ง และยกร่างตามความพอใจของตัวเองที่ไม่มีหลักการ ไม่คำนึงถึงหลักการประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยว่ามีพื้นฐานมาอย่างไร ดังนั้น ตนจะอภิปรายคัดค้านร่างแก้ไขฉบับนี้ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ไม่เหมาะสม และจะลงมติไม่เห็นด้วย เชื่อว่าร่างแก้ไขฉบับนี้ จะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนผ่านวาระแรกไปได้

“ประชาชนทุกคนมีสิทธิ มีเสียงเท่ากันหมด และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประเด็นที่จะอภิปรายจะเน้นตั้งแต่ที่มาของร่าง ประเด็นที่เสนอ ผมมองว่าเขาเสนอมาแบบไม่หวังว่าจะผ่านอยู่แล้ว แต่ต้องการเอาไปอ้างเพื่อจะได้หาเสียงลงเลือกตั้งในอนาคต ซึ่งคนเสนอก็เป็นนักการเมือง เป็นผู้สมัคร ส.ส.ที่สอบไม่ผ่าน ไม่ได้รับเลือกตั้ง คงเสนอเรื่องนี้เข้ามาเพื่อหามวลชนเอาไว้ช่วงเลือกตั้ง” นายไพบูลย์กล่าว

มั่นใจพปชร.-พรรคร่วมไม่รับ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรค เชื่อว่าพปชร.จะมีมติไม่รับหลักการร่างดังกล่าว และส่วนตัวเห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะมีมติไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งตาม ขั้นตอนคงต้องรอการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล)ในวันที่ 15 พ.ย. ที่ประธานวิปรัฐบาลคงหารือสอบถามความคิดเห็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค และประธานวิปรัฐบาล คงนำมติของ วิปรัฐบาล มาแจ้งต่อที่ประชุมส.ส.พปชร. ในเช้าวันที่ 16 พ.ย.อีกครั้ง

ปชป.นัดถกส.ส.ก่อนโหวต

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ตนได้นัดประชุมส.ส.ปชป. วันที่ 15 พ.ย. เวลา 16.30 น. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งมีการแก้ไขหลายมาตราและยกเลิกบางมาตราด้วย โดยจะเปิดให้ ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ส่วนจะลงมติอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในที่ประชุมจะมีความเห็นอย่างไร เพราะการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องใหญ่ที่ ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประชาชนกว่าแสนคน ได้แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองด้วยการลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับสมาชิกรัฐสภาจะลงมติ ขณะเดียวกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ก็ขึ้นอยู่ กับปัจจัยหลายส่วน ขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของ ภาคประชาชนบนพื้นฐานของการ เคารพสิทธิ เสรีภาพและความคิดเห็นที่ แตกต่างโดยปราศจากอคติ คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าจะทำให้ บ้านเมือง เดินหน้าไปได้ ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแน่นอน” นายองอาจกล่าว

พท.ยันร่างปชช.เสนอถูกต้อง

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนในวันที่ 16 พ.ย.นี้ว่า ร่างดังกล่าวได้ดำเนินการอย่างถูกต้องครบถ้วนกระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ได้รวบรวมรายชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยเสนอให้ยกเลิก ส.ว.ตามหมวด 7 เพราะ ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลมีปัญหา จึงให้เหลือสภาเดียว โครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้มาจากส.ส. ฝ่ายค้าน ส.ส.รัฐบาลและที่ประชุมศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุด รวมถึงปรับโครงสร้างองค์กรอิสระ และร่างที่เสนอไม่ได้ล้มล้างหรือลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 ซึ่งประธานรัฐสภาวินิจฉัยแล้ว

จี้ส.ว.อย่ามีธงโหวตคว่ำ

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า จึงอยากเรียกร้อง ส.ว.ที่ประกาศคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขอให้ฟังเหตุผลการอภิปราย จากผู้เสนอ และสมาชิกก่อน อย่าเพิ่งมีธง เพราะการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องอาศัยเสียงจาก ส.ว. 1 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภา หรือไม่น้อยกว่า 84 เสียง อย่างไรก็ตาม พท.จะมีการประชุมส.ส.ในวันที่ 15 พ.ย.ก่อนจะสรุปว่ามีมติอย่างไร

“ผมในฐานะสมาชิกรัฐสภา อยากขอร้อง ส.ว.ที่มีธงว่าจะคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ฟังการอภิปรายก่อนว่ามีเหตุผลอย่างไร ขออย่าเพิ่งมีธงล่วงหน้า และเป็นร่างที่เสนอโดยประชาชนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญถึง 135,000 คน” นายยุทธพงศ์กล่าว

แกนนำฝ่ายค้านนัดเคาะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 พ.ย. เวลา 10.30 น. มีการประชุมหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงท่าทีพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152

ซัดส.ว.กลัวสูญเสียประโยชน์

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมือง พท. ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ต้นสัปดาห์นี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะถูกพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา สาระสำคัญของร่างฉบับนี้ต้องการรื้อถอนอำนาจที่สืบทอดกันมากว่า 7 ปีของคณะรัฐประหาร ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการฉบับนี้ของภาคประชาชน คือการแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่า ประชาชนอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับคืนมา สะท้อนว่าประเทศที่บริหารภายใต้รัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหาร ไม่ได้ตอบโจทย์แก้ปัญหาให้ประชาชน เพียงแต่เอื้อประโยชน์ให้แก่เฉพาะพวกพ้องของผู้มีอำนาจที่ยึดอำนาจไป

นายภูมิธรรม ระบุว่า เสียงคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญของ ส.ว.บางส่วนบางคน สะท้อนถึงความรู้สึกสูญเสียสถานะและประโยชน์ของพวกตน ขอให้เลิกทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน ที่เข้าสู่อำนาจด้วยวิธีทางลัดได้แล้ว อายเขา การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แม้จะไม่สามารถผ่านได้โดยง่าย แต่ผู้แทนปวงชนทั้งหลายต้องพร้อมใจกันแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า คณะรัฐประหารและพรรคพวกที่ร่วมการสืบทอดอำนาจ ได้ขัดขวางการกลับคืนสู่ประชาธิปไตยประเทศเกิดความเสียหายจากความไม่เป็นประชาธิปไตย และจากการสืบทอดอำนาจของพวกพ้องมามากเพียงพอแล้ว คืนอำนาจอธิปไตยและความเป็นประชาธิปไตยกลับไปให้ประชาชน โดยเร็ว

สิ้น‘สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์’

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสียชีวิตแล้ว จากโรคเส้นเลือดในสมองตีบและแตก ด้านขวา ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ซึ่งนายสมเกียรติมีอาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา จนล่าสุดนายสมเกียรติได้เสียชีวิตด้วยอาการสงบ หลังเข้ารักษาตัวมานานกว่า 1 เดือน

ประวัตินายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เกิดเมื่อ 12 ม.ค. 2493 สิริอายุ 71 ปี เป็นชาวอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) สาขาภาษาไทย-ประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระดับปริญญาโทศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.) สาขาหลักสูตรและการสอนมหาวิทยาลัยขอนแก่น อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อดีตแกนนำพธม. อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ปี 2550 และแกนนำกปปส.ปี 2556-2557 ถูกดำเนินคดีจากการเป็นแกนนำพธม.และกปปส. จนถูกพิพากษาจำคุกและยังมีคดีความในชั้นศาลอีกหลายคดี