‘ตู่’เซ็นปลดล็อก‘ตีไก่-ชนวัว-แข่งม้า’
สธ.ห่วงกลุ่ม‘ฮาร์ดคอร์’เมินวัคซีน
‘สาวท้อง’ฉีดน้อย-กลัวกระทบลูก
เด็กนร.ติดเชื้อ-ปิดโรงเรียนอีกอือ

‘ผับ-บาร์-คาราโอเกะ’ ลุ้นได้เปิดก่อนปีใหม่ หลังผู้ประกอบการเตรียมพร้อมเรื่องมาตรการป้องกันโควิด ระบบบริการความปลอดภัยพนักงานและลูกค้า จ่อ เสนอศบค.ใหญ่เคาะก่อน 1 ธ.ค.นี้ ‘บิ๊กตู่’ เซ็นแล้วปลดล็อก‘ตีไก่-แข่งม้า-ชนวัว-แข่งนก-ชกมวย’ มท.สั่งผู้ว่าฯ ทั่วปท.ประเมินก่อนเปิด ย้ำต้องทำตามกติกาควบคุมโรค ไทยติดเชื้อเพิ่ม 6,855 ตายอีก 51 พบเชียงรายผลตรวจเอทีเคพุ่ง 20% ส่วนอีก 7 จว.ผลบวกเกิน 10% ห่วงคนท้องฉีดวัคซีนน้อย เหตุกลัวกระทบลูกในท้อง โฆษกรบ.ยันฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสภายในพ.ย.นี้

ติดเชื้ออีก 6,855-เสียชีวิต 51

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยติดเชื้อเพิ่ม 6,855 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,655 ราย เสียชีวิต อีก 51 ราย กำลังรักษา 89,821 ราย อาการหนัก 1,686 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 397 ราย มีการตรวจ ATK ที่ผลเป็นบวกสูง คือเชียงราย 20% พิษณุโลก สระบุรี กระบี่ สงขลา พัทลุง ยะลา สตูล ผลตรวจเกิน 10% ปัตตานี นราธิวาส มีทิศทางลดลง รายงานยอดติดเชื้อลดลงเช่นกัน

ผู้เสียชีวิตกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรังยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด มีผู้ติดเตียงเสียชีวิต 2 ราย วันพุธที่ผ่านมาเสียชีวิต 3 ราย มีปัจจัยเสี่ยงเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสคนรู้จัก คนในครอบครัว อาศัยอยู่ร่วมกันใกล้ชิด เช่น หอพักนักเรียน/คนงานแคมป์ก่อสร้าง ตอนนี้มีการเดินทางท่องเที่ยวข้ามพื้นที่ไปสัมผัสอากาศหนาว เน้นย้ำว่าครอบครัวมีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ต้องระมัดระวังสูงสุด ยิ่งตอนนี้มีการเปิดเทอม ขอให้ภายในครอบครัวแยกพื้นที่ส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน เพื่อลดการติดเชื้อในครอบครัว เมื่อมีบุคคลเสี่ยง สูงอายุ ติดป่วยเตียง อาจมีอาการหนักอาจถึงขั้นเสียชีวิต

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า การรายงานเดินทางเข้าพื้นที่ผิดกฎหมายวันนี้ พบข้ามช่องทางธรรมชาติเป็นชาวไทยและกัมพูชา 2 ราย จ.จันทบุรี ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กรายงาน ต่อเนื่อง จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเปิดกิจการกิจกรรม จำเป็นรับแรงงานเพื่อนบ้านมามากขึ้น ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้ทำถูกกฎหมาย ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว จะได้ดูแลตรวจหาโรค ตรวจเชื้อโควิด ถ้ายังไม่ได้รับวัคซีนก็ได้รับวัคซีนด้วย ถ้าลักลอบก็ต้องถูกดำเนินคดี

คุมเข้มคลัสเตอร์เรือนจำ

ส่วน 10 จังหวัดรายงานติดเชื้อสูงสุด กทม. สงขลา นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ปัตตานี ยะลา และราชบุรี ส่วนของคลัสเตอร์ที่เน้นย้ำ 1.เรือนจำมีรายงาน ทั้งนครราชสีมา นคร ศรีธรรมราช ราชบุรี ศรีสะเกษ สงขลา กาญจนบุรี สมุทรปราการ กทม. 2.แคมป์คนงานรายงานลำปาง จันทบุรี กทม. (สร้างบ้านบางพลัด) 3.การจัดงานประเพณี งานศพ กฐิน เล่นวงพนันพบที่ภาคอีสาน

ส่วนการจัดงานประเพณีวิถีใหม่ที่น่าชื่นชม คืองานกฐินที่อุบลราชธานี ตั้งแต่สายการบินนกแอร์ กทม. อุบลราชธานี ตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีน ระหว่างไฟลต์ย้ำเตือนสวมหน้ากากตลอดเวลา ทำความสะอาดจุดสัมผัส ไม่มีรับประทานอาหารบนเครื่อง วัดกำหนดจุดที่นั่ง เว้นระยะห่างในศาลา นอกศาลาถ่ายทอดวิดีโอเพื่อไม่ให้หนาแน่น พระ ผู้ปฏิบัติงานในวัดฉีดวัคซีนครบ 100% คนไปร่วมงานตรวจสอบหลักฐานการรับวัคซีน ตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วม ระหว่างประกอบพิธีมีการคัดกรองอุณหภูมิ วางเจลแอลกอฮอล์ งดรับประทานอาหารร่วมกัน จัดเตรียมอาหารเป็นชุดกลับไปบ้านตนเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ร.พ.วารินชำราบ ร.พ.พระศรีมหาโพธิ์ ที่ตั้งจุดตรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ซึ่งการดำเนินวิถีชีวิตทำได้ แต่ต้องคำนึงการแพร่ระบาดด้วย

“งานพิธีกรรมประเพณียังมีต่อเนื่อง หลายพื้นที่เดินทางท่องเที่ยวจากอากาศหนาว เห็นภาพเล่นน้ำ รับประทานอาหารร่วมกัน แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังเป็นผู้แพร่เชื้อหรือติดเชื้อได้ ต้องเน้นวิถีชีวิตใหม่ที่ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน” พญ.อภิสมัยกล่าว

ผู้ช่วยโฆษกศบค.กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญที่หารือวันนี้ คือการเปิดกิจการสถานบันเทิงหรือกิจการที่มีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกัน ที่ประชุมศบค.ย้ำว่าให้ความสำคัญทุกกิจการกิจกรรม ไม่ได้เลือกปฏิบัติ จากกรณีมีมาตรการชะลอการเปิดกิจการกลุ่มนี้ คร่าวๆ คาดว่าจะเป็น 16 ม.ค.2565 ที่จะน่าเปิดได้เหมาะสมกับสถานการณ์ เมื่อชะลอมาตรการนี้ ผู้ประกอบการอาจได้รับผลกระทบและผิดหวัง ขอชี้แจงว่าจำเป็นต้องเลื่อนจากการพิจารณาหารือหลายฝ่าย ต้องมองรอบด้านรอบคอบ และข้อสรุปการประชุมที่ผ่านมาเห็นสมควรให้เปิดเมื่อพร้อม และตัวแทนผู้ประกอบการเองก็เข้าใจ ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทั้งภาครัฐและ ผู้ประกอบการเหล่านี้

“นอกจากเหตุผลสถานการณ์แพร่ระบาดที่กระทรวงสาธารณสุขประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานในศบค. เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดตอนนี้ประชาชนยังเห็นทรงๆ แม้จะเป็นไปในทิศทางดีขึ้น แต่ยังกดตัวเลขลงต่ำกว่า 5 พันรายต่อวันไม่ได้ และผู้เสียชีวิตยังอยู่ประมาณ 50 รายทุกวัน และอีกเหตุผลสำคัญ จากการสำรวจของสธ.และหน่วยงานในพื้นที่ สถานบริการประเภทนี้ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนขอรับการพิจารณายกระดับเป็นกิจการมาตรฐาน SHA Plus ที่ควบคุมโรค โควิด-19 รองรับการเปิดกิจการกิจกรรมตามหลักวิถีใหม่ เป็นสถานบริการปลอดโควิด” พญ.อภิสมัยกล่าว

ผู้ประกอบการลุ้นเปิดก่อนปีใหม่

พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า ข้อมูล 18 พ.ย.2564 ของกทม.มีสถานประกอบการรับมาตรฐาน SHA Plus วันเดียว 1,216 แห่ง สะสมแล้ว 7,994 แห่ง ได้แก่ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมความงาม บริษัทนำเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ส่วนเชียงใหม่รายงาน SHA Plus 1,515 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร 512 แห่ง โรงแรม 486 แห่ง รวมโฮมสเตย์ ข้อมูลกรมอนามัยประเมินมาตรฐาน COVID Free Setting มีตลาดนัดผ่านเกณฑ์ 1 แห่ง ตลาดสด 14 แห่ง โรงภาพยนตร์ 2 แห่ง ขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน มีร้านอาหารริมบาทวิถีผ่านประเมิน 1 แห่ง ต้องติดตามไปและให้กำลังใจผู้ลงทะเบียนเข้ามาและผ่านประเมิน ข้อมูลสำคัญที่ศบค.ประชุมและขอความร่วมมือสถานประกอบการที่ให้บริการลูกค้ารับนักท่องเที่ยว ถือเป็นสถานบริการเสี่ยง มีการรวมกลุ่มประชาชน ขอให้เข้าไปดูรายละเอียดเว็บไซต์กรมอนามัย ศึกษาข้อปฏิบัติ เริ่มเตรียมพร้อมในวันนี้

“การประเมิน COVID Free Setting เป็นการประเมินเอง ถ้าไม่แน่ใจ ติดต่อหน่วยงานในพื้นที่ช่วยตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วจะมีมาตรการบางอย่างที่ทำไม่ครบ ไม่ได้มาตรฐานก็ปรับแก้ ถือว่ามีเวลาอีก 1 เดือน ถ้าทำได้ครบถ้วน มั่นใจแล้ว ติดต่อขึ้นทะเบียน รับการประเมินยกระดับเป็นกิจการมาตรฐาน SHA Plus เมื่อผ่านเรียบร้อยแล้ว ททท.จะขึ้นป้ายว่าผ่านมาตรฐาน การเปิดบ้านเปิดเมืองก็จะดูจากมาตรฐาน SHA Plus ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก การเปิดไม่เปิดกิจการไม่ได้อยู่ที่การตัดสินใจของศบค. แต่อยู่ที่ความพร้อมของสถานประกอบการของท่าน เป็นการจัดการทั้งของเจ้าของ พนักงาน จัดการสถานที่ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามประกาศ สธ. ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ กทม. มหาดไทย ฝ่ายปกครอง ช่วยประชาสัมพันธ์เชิงรุก ชักชวน ผู้ประกอบการที่ไม่เข้าใจ SHA และ COVID Free Setting อาจทำได้บ้างหรือไม่ครบ ช่วยกันค้นหาสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตามแผน” พญ.อภิสมัยกล่าว

หญิงท้องฉีดน้อย-กลัวกระทบลูก

พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า วันนี้ประเทศไทยรายงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้น 764,448 โดส สะสม 87,655,274 โดส เข็มแรก 46,248,787 ราย สะสม 64.2% เข็มสอง 38,421,936 ราย คิดเป็น 53.3% และเข็มสามได้เยอะขึ้น 2,984,551 ราย คิดเป็น 4.1% ส่วนแยกตามกลุ่มประชากรเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์เห็นชัดว่าตัวเลขน้อย เป้าหมาย 5 แสนคนฉีดได้ 14% แยกตามเขตสุขภาพ จะเห็นว่าหญิงตั้งครรภ์รับวัคซีนสูง คือกลุ่มจังหวัดภาคใต้ เขตสุขภาพที่ 12 รับวัคซีนสูงสุด อาจเป็นการรณรงค์ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากผู้นำศาสนาและชุมชน รวมถึงกทม. ที่ฉีดได้สูง หลายเขตยังฉีดได้น้อย ให้เพิ่ม เป้าหมายในกลุ่มนี้

“เหตุผลที่คุณแม่ไม่ยอมไปฉีดวัคซีน สูงสุดคือมารดาตั้งครรภ์กังวลผลข้างเคียงเป็นอันตรายลูกในครรภ์ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ ระบุว่าหากตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปจำเป็นต้องรับวัคซีน เพราะจะปลอดภัยทั้งแม่และลูกด้วย ที่ประชุมเน้นย้ำทุกพื้นที่เร่งระดมฉีดวัคซีน อธิบดีกรมควบคุมโรคเน้นย้ำว่ากระจายวัคซีนไปอยู่ในพื้นที่ต่างๆ กว่า 10 ล้านโดส ถือว่าเพียงพอ ขอให้ผู้ว่าฯ เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครบ ลงข้อมูลให้ครบด้วย หากเป็นพื้นที่มีการกระจายวัคซีนห่างไกล ประชาชนไม่สะดวกมารับวัคซีนในพื้นที่จัดให้ ขอให้มีกลยุทธ์ชักชวนเชิญชวนมารับวัคซีนเพิ่มขึ้น อย่างจ.เชียงใหม่ รองผู้ว่าฯ รายงานว่าประชาชนที่อยู่ห่างไกล จังหวัดปรับกลยุทธ์ให้ผู้นำชุมชน นายอำเภอ จัดทีมเดินเท้าให้บริการฉีดวีคซีน ตั้งจุดฉีดใกล้บ้าน ประชาชนเข้าถึงง่าย และเน้นย้ำทำความเข้าใจประชาชนด้วย” พญ.อภิสมัยกล่าว

น.ร.ติดเชื้อ-พะเยาปิดโรงเรียนดัง

วันเดียวกัน โรงเรียนพะเยาพิทยาคม อ.เมือง จ.พะเยา ประกาศปิดเรียน 14 วัน เป็นรอบที่ 2 ของเทอมการศึกษานี้ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด 7 รายในรอบ 2 วันที่ผ่านมา โดยวันนี้จ.พะเยาพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 13 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดทั้งหมด กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์เดิม คลัสเตอร์ร่วมงานศพ บ้านสันติสุข ต.ขุนควร อ.ปง 5 ราย คลัสเตอร์นักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม 3 ราย คลัสเตอร์โรงน้ำแข็ง ต.ลอ อ.จุน 3 ราย รับประทานอาหารกับผู้ป่วยโควิด 1 รายและอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 1 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสมระลอกใหม่เดือนเม.ย. 2,356 ราย มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 14 ราย รวมกลับบ้านสะสม 2,129 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 219 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 8 ราย

ยอดการวัคซีนสะสม 269,795 ราย หรือร้อยละ 57.61

4 น.ร.อุตรดิตถ์ติดเชื้อ-ปิด 7 วัน

นายศุภมิตร ปาณธูป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จ.อุตรดิตถ์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัด จำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียนประถมศึกษาโรงเรียนแห่งหนึ่งในต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล กลายเป็นคลัสเตอร์โรงเรียนตำบลไผ่ล้อม หลังพบนักเรียนติดเชื้อในห้องเรียนเดียวกันรวม 4 ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอลับแลลงพื้นที่คัดกรองสอบสวนโรค แยกกลุ่มเสี่ยงสูง ตรวจหาเชื้อ และกักตัว 14 วัน ส่วนโรงเรียนเบื้องต้นปิดเรียนกรณีพิเศษ 7 วัน พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับคลัสเตอร์โรงเรียนตำบลไผ่ล้อม เป็นคลัสเตอร์แรกของจ.อุตรดิตถ์ หลังโรงเรียนเปิดเรียนมาได้กว่า 2 สัปดาห์

“วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา พบเด็กนักเรียน ชั้น ป.5 รายแรกติดเชื้อ เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่สอบสวนโรคทันที ได้คัดกรอง ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งในโรงเรียนและครอบครัว กระทั่งพบเพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกันติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย และพบผู้ปกครองติดเชื้อด้วย 1 ราย เมื่อตรวจสอบทราบว่า เด็กน่าจะรับเชื้อมาจากผู้ปกครอง ซึ่งตรวจพบเชื้อภายหลัง ด้วยภูมิต้านทานที่มีมากกว่าเด็ก เมื่อมาเรียนจึงแพร่เชื้อมายังเพื่อนๆ หลังทีมสอบสวนโรคอำเภอลับแลลงพื้นที่สอบสวนโรคในโรงเรียน พบว่าด้านการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน การสวมหน้ากากอนามัย การใช้ชีวิตในโรงเรียนส่วนใหญ่แล้วเด็กมีการป้องกันสูง เด็กที่พบติดเชื้อ 4 ราย โอกาสการติดเชื้อค่อนข้างน้อยเนื่องจากไม่ได้ใกล้ชิดกัน ไม่ได้รับประทานอาหารด้วยกัน แต่เจ้าหน้าที่สงสัยเรื่องของการดื่มน้ำที่ใช้แก้วของโรงเรียน กดน้ำจากตู้กดน้ำดื่ม ซึ่งแก้วจะใช้ส่วนตัว แต่ถึงตอนเย็นล้างทำความสะอาดเก็บรวมไว้ เมื่อนำมาใช้อีกครั้งไม่รู้เป็นของใคร จึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อจากการดื่มน้ำ” นายศุภมิตรกล่าว

นายศุภมิตรกล่าวว่า หลังพบนักเรียนติดเชื้อให้ปิดเรียนกรณีพิเศษทั้งโรงเรียน เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนกว่า 60 คน ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงใกล้ชิดสัมผัสผู้ติดเชื้อและเพื่อนๆ ป.5 อีก 10 คนให้กักตัว 14 วัน ทั้งนี้ทุกโรงเรียนทุกสถาบันการศึกษาคงต้องเข้มงวดมาตรการป้องกัน

มท.แจ้งผู้ว่าฯทั่วปท.คุมเข้มโควิด

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ลงนามหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าฯ กทม.และผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เรื่องแนวทางปฏิบัติของสถานที่และกิจกรรมตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับกิจกรรมการเล่นหรือแข่งขันชนไก่ กัดปลา แข่งม้า ชนโค ชกมวย และแข่งนก โดยให้ยึดความที่ประชุมศบค. ครั้งที่ 18/2564 ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาผ่อนคลาย หรืออนุญาตการจัดกิจกรรมพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้านของชุมชน หรือจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมกลุ่มกันของชุมชน ตามมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแนวทางปฏิบัติของสถานที่และกิจกรรมตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

สำหรับกิจกรรมการเล่นหรือแข่งขันชนไก่ กัดปลา แข่งม้า ชนโค ชกมวย และแข่งนก ภายใต้มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) และแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีการประเมินผล 3 ระยะ ประกอบด้วย การประเมินก่อน ขณะ และหลังการอนุญาตให้จัดกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว

‘สมช.’แย้มเปิดผับบาร์ก่อนปีใหม่

เมื่อเวลา 11.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม เพิ่มเติมในช่วงเดือนธ.ค.จะมีการผ่อนคลายผับ บาร์ คาราโอเกะหรือไม่นั้นว่า วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ตัวแทนผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงศิลปินนักร้องได้ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยหารือกับตน มีข้อมูลตรงกับที่รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่ เขาขอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการเปิดกิจการ กิจกรรมให้เร็วขึ้น พร้อมทั้งเสนอมาตรการที่เราต้องการ ตนจะนำข้อมูลเหล่านี้เข้าที่ประชุม (ศปก.ศบค.) ต่อไป

พล.อ.สุพจน์กล่าวต่อว่า ระหว่างการพูดคุยตนชี้แจงว่าพล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นห่วง เกี่ยวกับห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะ ผู้ประกอบการ นักดนตรี ผู้ขายวัตถุดิบ ทุกอย่างเป็นห่วงโซ่ นายกฯ เคยมีบัญชาซึ่งเราคิดกันมาหลายรอบแล้ว เพียงแต่สถานการณ์ที่ผ่านมาไม่อำนวยให้อนุญาตเปิดกิจการได้ภายในวันที่ 1 ธ.ค.ตามที่นายกฯ ตั้งใจ แต่กรณีที่ผู้ประกอบการแสดงความจำนงจะให้ความร่วมมือและจะไปเตรียมการ จะนำเรื่องนี้กราบเรียนนายกฯ และนำเข้าสู่ที่ประชุมต่อไป โดยแนวโน้มน่าจะเป็นในทิศทางที่ดี เพราะเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการเสนอมา ทั้งการเตรียมความปลอดภัยสถานที่ ความปลอดภัยบุคลากร เตรียมระบบบริการ และเงื่อนไขสำหรับผู้เข้าบริการเป็นสิ่งที่ดีมาก

ลุ้นศบค.ใหญ่เคาะอีกที

เมื่อถามว่าจะเลื่อนการเปิดสถานประกอบการผับ บาร์ เร็วกว่าวันที่ 16 ม.ค.65 หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า หากที่ใดมีความพร้อมถือว่ามีโอกาส ขึ้นอยู่กับที่ประชุมศปก.ศบค.ที่จะรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น และการพิจารณาของศบค.ชุดใหญ่ เมื่อถามย้ำว่าจะทันวันที่ 1 ธ.ค.หรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ยัง วันที่ 1 ธ.ค.น่าจะยังไม่ทัน แต่ขอดูข้อมูลก่อน เพราะถ้าหากติดตามจะเห็นว่ามีการกำหนดหลักเกณฑ์ไว้เรียบร้อยว่าสถานประกอบการประเภทนี้ถ้าจะเปิดจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และได้แจ้งให้กทม.รวมถึงทุกจังหวัดไปตรวจประเมินให้ผู้ประกอบการมาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์และจัดทีมไปตรวจ ถ้ามีความพร้อมก็ให้ขึ้นบัญชีไว้ โดยการประชุมศปก.ศบค.สัปดาห์หน้าจะได้เห็นตัวเลขว่าแต่ละจังหวัดมีความประสงค์ มีความพร้อมอย่างไร และจะเสนอให้ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาก่อนวันที่ 1 ธ.ค.

“การดำเนินการต่างๆ จะสอดคล้องกับการเปิดประเทศ เนื่องจากแผนการเปิดประเทศมีแผนผ่อนคลายกิจการต่างๆ นายกฯ ชื่นชมความร่วมมือภาคประชาชนที่สะท้อนผ่านตัวเลขผู้ติดเชื้อ แต่ตนดูแล้วทิศทางน่าจะเป็นทิศทางที่ดี เมื่อถามย้ำว่ามีโอกาสจะเปิดได้ก่อนปีใหม่หรือไม่ เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ขอดูตัวเลขและข้อมูลสถานการณ์ในภาพรวมทั้งหมดก่อน แต่เราทราบถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยนายกฯ พูดบ่อยมากให้ช่วยกันเร่งรัดแก้ปัญหาความเดือดร้อนของทุกภาคส่วน”

เมื่อถามว่าจะเพิ่มรายชื่อประเทศต้นทางที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัวอีกหรือไม่ เลขาธิการ สมช.กล่าวยอมรับว่า มี โดยจะพิจารณากันต่อไป เมื่อถามย้ำว่าจะมีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบในทุกจังหวัดเมื่อใด เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า คงยัง โดยขอให้ประชาชนยึดมาตรการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล ส่วนสถานบันเทิงที่ลักลอบเปิด ตนสั่งไปว่าหากพบการฝ่าฝืนให้ปิดเพื่อไม่ให้กระทบภาพรวม แต่ถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่ตักเตือนให้ปรับปรุงได้ก็จะดำเนินการ

เร่งเคลียร์กลุ่มฮาร์ดคอร์มาฉีด

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีคนไทยอีก 11 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 และมีข้อสั่งการให้กรมควบคุมโรคดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อเป้าหมายการฉีดวัคซีนครบ 100% นั้นว่า ขณะนี้เราทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปจำนวนมาก ที่ยังตกค้างยังไม่ได้รับวัคซีนจริงจึงไม่ถึง 11 ล้านคน แต่อยู่ประมาณ 7-8 ล้านคน โดยเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ทางการแพทย์ หรือกลุ่มที่ปฏิเสธวัคซีนด้วยสาเหตุต่างๆ กันไป เช่นกลุ่มที่ไม่อยู่พื้นที่ระบาด กลุ่มอยู่พื้นที่ห่างไกล โดยคิดว่าไม่ได้มีความเสี่ยงที่ไหน จึงไม่ไปฉีดวัคซีน หรือกลุ่มอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่เป็นหน้าที่ของเรา ในการระดมบุคลากรในภาคส่วนต่างๆ ไปชี้แนะข้อเท็จจริง ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ

“ย้ำว่าการฉีดวัคซีนมีประโยชน์ ช่วยป้องกันป่วยหนักและการสูญเสียได้จริง ส่วนที่บอกว่า มียอดตกหล่นไม่ได้รับวัคซีน 11 ล้านคน สธ.รับทราบตัวเลขมาตลอด และพยายามเร่งฉีดให้ครอบคลุม ปัจจุบันอาจเหลือ 7-8 ล้านคน และจะน้อยลง เพราะมีการรุกฉีดถึงพื้นที่”

โคราชวุ่นคลัสเตอร์หมอลำ

ด้านพญ.อารีย์ เชื้อเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 82 ราย ผู้ป่วยสะสม 31,819 ราย รักษาหาย 29,873 ราย ยังรักษา 1,700 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 246 ราย ส่วนเรือนจำกลางนครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย รักษาหาย 537 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,934 ราย และทัณฑสถานหญิง อ.สีคิ้ว ป่วยเพิ่ม 506 ราย รวมป่วยสะสม 2,440 ราย

สำหรับการแพร่ระบาดของ 4 คลัสเตอร์เดิม แม้สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด โดยพบ ผู้ป่วยรายใหม่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและอยู่ในสถานที่กักตัวแต่ต้องเฝ้าระวังและดำเนินมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดดังนี้ 1.คลัสเตอร์โรงงานศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เขตอุตสาหกรรมสุรนารี อ.เมือง 2.คลัสเตอร์โรงงานสีมาเฟอร์นิช จำกัด ต.หัวทะเล อ.เมือง 3.คลัสเตอร์บริษัทฟอร์เวิร์ด ฟรีแลนด์ จำกัด อ.เมือง ผู้ป่วยสะสม 33 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง และอ.เฉลิมพระเกียรติ และ 4.คลัสเตอร์บ้านตาฮิงหมู่ 8 ต.ห้วยแคน อ.ห้วยแถลง เป็นกลุ่มอาชีพหมอลำ หมอแคนตระเวนจัดการแสดงในงานวันคล้ายวันเกิดและงานบุญกฐิน มีผู้ติดเชื้อ 19 ราย สาเหตุเกิดจากรับประทานอาหารร่วม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกักตัว

ส่วนนางปัญญา ศรีหมื่นไวย ผู้อำนวยการ กลุ่มพัฒนาการศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาเผยว่า สถานศึกษาทั้งในและนอกระบบของรัฐและเอกชนของจ.นครราชสีมา 1,713 แห่ง ทยอยเปิดสอนออนไซต์และออนไลน์มาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 1,227 แห่ง ล่าสุดรับรายงานมีนักเรียนติดเชื้อ 66 ราย และครูสอน 2 ราย จึงกำชับให้ประเมินความเสี่ยงและเตรียมแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันเชื้อลุกลามขยายวงกว้าง

สงขลาติดเชื้อพุ่ง 642

ส่วนจ.สงขลา พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 642 ราย มากกว่าเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่มี 592 ราย ทำให้จ.สงขลาครองอันดับ 1 ของภาคใต้และที่ 2 ของประเทศ พบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั้ง 16 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ อ.เมือง อ.จะนะ อ.รัตภูมิ อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่กระจายอยู่ในชุมชนและครอบครัว

ปลดล็อก‘ตีไก่-แข่งม้า-ชนวัว’

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนเห็นหนังสือคำสั่งเรื่องการผ่อนคลายการแข่งขันชนไก่ ปลากัด แข่งม้า ชนโค ชกมวยและแข่งนก ถึงผู้ว่าฯ ต้องขอขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขที่ให้ของขวัญคนไทยในวันลอยกระทง ซึ่งกิจกรรมการแข่งขันและประกวดสัตว์ถือเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของประเทศไทย แต่การปลดล็อกครั้งนี้ยังมีเงื่อนไขตามที่ศบค.กำหนด เกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องตรงนี้ต้องดำเนินตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะหากเกิดการแพร่ระบาด รัฐบาลก็ต้องปิดล็อกอีก ก่อนหน้านี้กลุ่มเกษตรกรออกมาเรียกร้องค่าชดเชย ค่าใช้จ่าย ตนขอให้กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวหยุดเคลื่อนไหวเพราะรัฐบาลได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเข้าใจเกษตรกรและผ่อนปรนให้ในระดับหนึ่ง จากนี้ไปขอให้ฟังมาตรการของจังหวัด เดินตามกติกาที่กำหนด อย่าให้เกิดปัญหาตามมาตรการต่างๆ

“ผมมั่นใจว่ารัฐบาลเข้าใจเกษตรกรและมีความเป็นห่วงมาตลอด พยายามผ่อนปรนให้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.อนุพงษ์เป็นห่วงมาตลอด จากนี้ไปภาพรวมต่างๆ ของประเทศจะดีขึ้น การปลดล็อกตรงนี้มีประโยชน์อย่างมาก ประเทศไทยมี 80,000 หมู่บ้าน มีผู้รับจ้างเลี้ยงสัตว์ประมาณหมู่บ้านละ 15 คน รวมๆ แล้วมีประมาณ 1.2 ล้านคน รายได้คนละประมาณเดือนละ 10,000 บาท รวมแล้วจะมีเงินตรงส่วนนี้ถึง 12,000 ล้านบาทต่อเดือน ถ้า 1 ปีจะเป็นเงินมากถึง 144,000 ล้านบาท ที่สามารถหมุนเวียนเข้าสู่ระบบธุรกิจ เมื่อเราปลดล็อกให้คนในส่วนนี้ได้มีงานทำ นอกจากนี้ยังมีส่วนของผู้ค้าขายสัตว์ ขายอุปกรณ์ อาหารและยารักษาโรคที่เกี่ยวเนื่องกันอีกเป็นล้านคนด้วย” นายสมศักดิ์กล่าว

ลุยฉีดครบ 100 ล้านโดสในพ.ย.

ด้านนพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า ขณะนี้ฉีดสะสมแล้ว 87.6 ล้านโดส เข็มแรก 46.2 ล้านโดส คิดเป็น 64.2% เข็มสอง 38 ล้านโดส 53.3% และเข็มสาม 2.9 ล้านโดส คิดเป็น 4.1% ยังต้องไปต่ออีก 12.4 ล้านโดส ถึงจะได้ 100 ล้านโดส เป็นความท้าทายให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในสิ้นพ.ย.นี้ จะเป็นพื้นฐานให้ประเทศกลับสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประชาชนใช้ชีวิตทำมาหากินราบรื่น จึงมอบนโยบายสื่อสารสั่งการออกไปทั่วทุกพื้นที่ถึงคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัด/กทม.รับทราบแนวทาง ซึ่งมีผู้ว่าฯ เป็นประธาน ทำให้ 1.ระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ออกสำรวจตรวจสอบจุดใดบ้างยังไม่ได้ฉีดวัคซีน อำนวยความสะดวกให้ฉีดทั่วถึง หน่วยงานฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เคาะประตูบ้านให้แน่ใจ บางคนอาจเคยลงทะเบียนแล้วมีการเลื่อน หรือไม่สะดวก และไม่ได้ไปติดต่อเพิ่มเติม

2.คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดดูความพร้อม ให้หน่วยบริการ ร.พ.ต่างๆ จัดฉีดวัคซีน วอล์กอิน อำนวยความสะดวกเปิดรับนัดหมายฉีดวัคซีน เพื่อจัดสรรเตรียมพร้อมวัคซีนรองรับก็จะแม่นยำ ลดแออัด และเน้นความสะดวกปลอดภัยของประชาชน และ 3.ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ให้มั่นใจ เพราะข้อมูลข่าวสารมีมากใน โซเชี่ยลมีเดีย มีทั้งที่ขาดความครบถ้วน สร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่กล้าตัดสินใจรับวัคซีน ซึ่งข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า คนเสียชีวิต คือคนยังไม่ได้รับวัคซีน คนรับได้รับผลการป้องกันอย่างเต็มที่

พบ 4 รายเสียชีวิตจากวัคซีน

“ย้ำว่าวัคซีนปลอดภัยสูง การเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์นั้น จากการรวบรวมมีข้อมูลเสียชีวิตทุกสาเหตุและตรวจสอบว่าเกิดจากอะไร เกือบทั้งหมดไม่ได้เกิดจากวัคซีน มีเพียง 4 รายที่เกี่ยวข้องวัคซีน โดย 2 รายที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ ภาวะแพ้รุนแรงร่วมภาวะช็อก 1 ราย และภาวะแพ้ที่ทำให้เกิดความผิดปกติทางผิวหนัง 1 ราย นอกนั้นไม่เกี่ยวข้องและยังรอข้อมูลติดตามเพิ่ม รัฐบาลมีระบบดูแลรักษาเมื่อมีอาการผิดปกติ สามารถกลับไปร.พ.แจ้งว่าฉีดวัคซีนเมื่อไรมีอาการอย่างไร เรื่องการเยียวยาไม่รอพิสูจน์ หากเสียชีวิตรับการเยียวยาก่อนผลการสอบสวนโรคหาสาเหตุ” นพ.เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า ทั้งนี้ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวที่ต้องได้รับวัคซีนสูง จุดสำคัญคือกลุ่มเสี่ยงสูง 608 โดยกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปเข็มแรกภาพรวม 79.5% ภาพรวมทุกประชากรเข็มแรก 85.1% เข็มสอง 72.2% อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดท่องเที่ยวเข้ามาอาจมีคนไทยจากพื้นที่อื่นหรือแรงงานเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ ฝากให้ ผู้ดูแลกิจการต่างๆ คนเกี่ยวข้องในชุมชน ดูว่ามีแรงงานต่างด้าวมาใหม่ยังไม่ฉีดหรือไม่ ขอให้ฉีดเพิ่มเติม ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.ให้ความสำคัญจัดสรรวัคซีนเพิ่มความสะดวกในการเข้าไปฉีด

ส่วน 10 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนได้ต่ำสุด คือ นครพนม หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ ยโสธร แม่ฮ่องสอน สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และชัยภูมิ มีปัจจัยหลายอย่าง ขอให้จังหวัดต่างๆ เหล่านี้ช่วยกันสื่อสารอธิบาย ท่านใดที่ลังเลไม่แน่ใจเรื่องใดก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยอธิบายให้เข้าใจได้

11 จว.ฉีดเข็มแรกเกิน 70%

ส่วนจังหวัดที่ฉีดครอบคลุมเข็มแรกเกิน 70% มี 11 จังหวัด ฉีดได้ 50-69% มี 43 จังหวัด หวังว่าจะขยับขึ้นไปเป็น 70% และเพิ่มสูงเรื่อยๆ ท่านใดยังไม่ฉีดไม่ว่าจังหวัดไหน แม้จังหวัดนั้นจะฉีดเยอะแล้ว แต่รับฟังข้อมูลแล้วเห็นประโยชน์ของวัคซีนแล้วก็สามารถไปติดต่อขอฉีด สอบถาม อสม. รพ.สต.หรือ ร.พ.รัฐใกล้บ้าน สำหรับความครอบคลุมกลุ่มสูงอายุและโรคเรื้อรังเกิน 80% มี 6 จังหวัด คือปทุมธานี นครพนม สกลนคร กทม. เชียงใหม่ สมุทรปราการ จะเห็นว่านครพนม สกลนคร แม้ภาพรวมจะฉีดได้ต่ำ แต่กลุ่ม 607 ทำได้สูงมาก ขอให้ประชากรกลุ่มอื่นๆ มาฉีดเพิ่มเติมให้ได้เปอร์เซ็นต์สูงขึ้นเช่นกัน

นักท่องเที่ยวมาแล้ว 6.8 หมื่น

สำหรับการรับคนเดินทางเข้าประเทศวันที่ 12-18 พ.ย. เข้าระบบ Test&Go 5.1 หมื่นกว่าราย ระบบแซนด์บ็อกซ์ 1.4 หมื่นราย และเข้าระบบกักตัว 7 วัน 1.2 พันราย และ10 วัน 1.9 พันราย อัตราการเจอติดเชื้อนั้น ภาพรวมกลุ่มมาจาก 63 ประเทศ/พื้นที่ในระบบ Test&Go ตั้งแต่วันที่ 1-18 พ.ย. รวม 51,558 ราย พบติดเชื้อ 41 ราย คิดเป็น 0.08% รวมทุกประเภทเข้ามา 68,852 ราย พบ 89 ราย คิดเป็น 0.13% ถือว่าต่ำมากเช่นกัน

“หากเจอการติดเชื้อเข้าสู่การดูแลรักษา ซึ่งมีระบบประกันสุขภาพของผู้เดินทาง ขอให้มั่นใจเปิดประเทศยังดำเนินได้อย่างราบรื่น ส่วนผู้เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกามากสุด 9,461 ราย เยอรมนี 7,400 ราย ตามด้วยอังกฤษ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ตามลำดับ”

ทะลักไม่หยุด – ทหารฉก.ม.4 กองกำลังผาเมือง สกัดจับแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวม 20 คน พร้อมผู้นำพาอีก 4 ราย ขณะเดินลัดเลาะตามเส้นทางธรรมชาติ ในต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน