พิธีวันนี้-วางศิลาฤกษ์แท่นฐาน
พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่9

รัฐบาลเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 9 และกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม และวันชาติ แบบวิถีใหม่ ภาครัฐส่วนกลางจัดที่ท้องสนามหลวง นายกฯ นำตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัด สถานกงสุล สถานทูตไทยทั่วโลก

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2564 เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

ในการนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ในเวลา 16.00 น. ณ อุทยานเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกิจกรรมที่รัฐบาลได้จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ แบบชีวิตวิถีใหม่ โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานได้ เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ และต้องดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย 1.การจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ใน วันที่ 5 ธันวาคม 2564 สำหรับภาครัฐ ส่วนกลาง จัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง เวลา 07.30 น. โดยนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมภริยา ส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดพิจารณาจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลพิจารณาจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม สำหรับภาคเอกชนและภาคประชาชน สามารถพิจารณาทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลที่วัดใกล้สถานที่ทำงานหรือบ้านพัก

2.การจัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้และพิธีถวายบังคม ในวันที่ 5 ธ.ค. 2564 เฉพาะภาครัฐ ส่วนกลาง จัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง เวลา 08.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตร โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มในนามนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี และภริยานายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มในนามคู่สมรส คณะรัฐมนตรี ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดพิจารณาจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาจัดพิธี ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

3.การจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราช สักการะ ทุกภาคส่วนสามารถพิจารณาจัดตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน หรือสถานที่ที่เห็นสมควร ระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค.2564 และ4.จัดกิจกรรมจิตอาสา “รู้รักสามัคคี รักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิต” เพื่อถวายพระราชกุศลใน วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 และเนื่องในวันรู้รักสามัคคี 4 ธันวาคม 2564 ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

“รัฐบาลขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในพิธีวางแท่นศิลาฤกษ์ ในวันที่ 5 ธ.ค.และกิจกรรมอื่นๆ ที่ภาครัฐจัดขึ้น โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคม ด้านความปลอดภัย และมาตรการทางด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรองรับประชาชนที่จะมาเข้าร่วมพิธี และดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในต่างจังหวัดทั่วประเทศจัดกิจกรรมร่วมรำลึกกันอย่างพร้อมเพรียง โดยที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ริมฝั่งหนองหาร จ.สกลนคร นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าฯ สกลนคร พร้อมด้วย นายชูพงศ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรทางน้ำ ริมหนองหาร และปล่อยปลากินพืช ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม 2564 อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองธรรมะ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่บริเวณพุทธมณฑลจังหวัดกาฬสินธุ์ (แก่งดอนกลาง) อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการและพุทธศาสนิกชนผู้ร่วมปฏิบัติธรรม ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ร่วมกันทอดผ้าบังสุกุล ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

และเพื่ออุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ผู้ล่วงลับไปแล้ว ที่สร้างบ้านสร้างเมืองกาฬสินธุ์ ให้มีความร่มเย็นเป็นสุขมาจนถึงทุกวันนี้ และเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อครอบครัวชาวกาฬสินธุ์ทุกคน

ทั้งนี้พระครูสิริพัฒนนิเทศ เจ้าอาวาส วัดไตรภูมิ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ มอบปฏิทินปีใหม่ 2565 ให้กับผู้มาร่วมทำบุญด้วย

เมื่อเวลา 09.00 น. ณ อุทยานการเรียนรู้ โคก หนอง นา “บ้านลูกพ่อ ร.9” ม.5 ต.มหาดไทย อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ อ่างทอง เป็นประธานพิธีเปิดอุทยานการเรียนรู้ โคก หนอง นา “บ้านลูกพ่อ ร.9” เพื่อจัดเป็นแหล่งเรียนรู้แก่นักเรียนและประชาชนทั่วไป ด้านกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อปลูกพืชผักและผลไม้ปลอดสารเคมีสำหรับโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน วัดลิ้นทอง และเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ของจ.อ่างทอง โดยมีส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

นายสกล แก้วปวงคำ นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวว่า อุทยานการเรียนรู้ โคกหนองนา “บ้านลูกพ่อ ร.9” ตั้งอยู่บนที่นาขนาด 7 ไร่ 2 งาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ต.มหาดไทย อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยนายจรัส แตงน้อย เป็นผู้บริจาคที่นาให้กับโรงเรียนวัดลิ้นทอง (จอมวิสิษฐ์ราษฎร์บำรุง) เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2525 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทางโรงเรียนทำกิจกรรมการเกษตร แต่ประสบปัญหาด้านอุทกภัยเสียหาย

ต่อมานางวีดารัตน์ พานทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลิ้นทอง และนายสมทรง พันธ์ไม้ ประธานและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความประสงค์ที่จะทำให้ที่นาผืนนี้เกิดคุณประโยชน์ต่อชุมชนตำบลมหาดไทยและจ.อ่างทอง จึงได้ขุดโคกหนองนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี กล่าวว่า ประเทศไทยโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยมายาวนาน มีชาติ และศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยให้มีความรัก ความสามัคคีปรองดองกัน

พวกเราในที่นี้ล้วนเกิดในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงขึ้นครองราชสมบัติ และมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงขึ้นครองราชสมบัติ มีพระปฐมบรมราชโองการ ว่า “เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาประชาราษฎร์ตลอดไป”

ทั้งนี้ “โคก หนองนา โมเดล” เป็นแนวคิดที่มาจากพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงงานในด้านการจัดการน้ำและป่า เพื่อประโยชน์ของพสกนิกรชาวไทย ด้วยการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่การเกษตร โดยอาศัยแหล่งน้ำเป็นสำคัญซึ่งเป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ สร้างความอยู่ดี กินดี สู่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน