กก.ชี้ปมทางด่วน
ตร.จู่โจมช่วงค่ำ
สลายม็อบจะนะ

ตร.จู่โจมช่วงค่ำ บุกสลายม็อบจะนะ จับกุมชาวบ้านกว่า 30 คนชุมนุมหน้าทำเนียบ ต้านโครงการนิคมฯ จะนะ ‘ก้าวไกล’ขย่ม ‘บิ๊กตู่’ พูดเรื่องคนรวยขึ้นทางด่วน สะท้อนไม่เข้าใจความเสมอภาค-เหลื่อมล้ำ เคยชินแต่กับระบบทหาร ‘นิพิฏฐ์’ กราบลา ‘ชวน’ ออกจากประชาธิปัตย์ ยันไปแล้ว ไม่กลับมาอีกถึงจะเปลี่ยนหัวหน้าพรรคก็ตาม รับปมส่งผู้สมัครส.ส.พัทลุง จุดแตกหัก ‘หมอชลน่าน’ นำเพื่อไทยเดินสายอยุธยา คุยข่มรัฐบาล จำนำข้าวยุค ‘ยิ่งลักษณ์’ ราคาพุ่ง ลั่นจะกลับมาฟื้นศักดิ์ศรีชาวนา ‘นิกร’ แจงสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคร่วมรัฐบาล ยึดตามกฎหมายเลือกตั้งปี 54 พรรคเล็กฮึดสู้ อ้างมีเสียงส.ว.หนุน ขอชี้ขาดในสภา

ก้าวไกลซัดปมคนรวยใช้ทางด่วน

วันที่ 6 ธ.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ระบุว่าให้คนรวยขึ้นทางด่วน คนรายได้น้อยให้ใช้ทางธรรมดา ว่า คำว่าความเท่าเทียมกันคือโอกาสที่ประชาชน ทุกคนต้องเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐาน หรือบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ เท่าเทียมและเสมอภาคกัน ความเท่าเทียมกันไม่ได้หมายความว่าคนยากจนต้องยอมจำนน ทนรับกับบริการสาธารณะที่ไม่ดี ต้องยอมใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่อาจไม่ได้มาตรฐาน หรือจำใจใช้บริการขนส่งต่างๆ เท่าที่รัฐจะทำแบบตามมีตามเกิดนั้นไม่ใช่ แต่รัฐต้องจัดให้มีคุณภาพที่ทำให้ทั้งคนยากจน คนรวย เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ มีโอกาสใช้อย่างเท่า เทียมกัน

เป้าหมายทางด่วนไม่ใช่การแยกชนชั้นวรรณะ แต่เพื่อกระจายการจราจรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คนที่อยากประหยัดเวลาเดินทางสามารถจ่ายเงินเพื่อใช้ทางด่วนได้ ฉะนั้น ทางด่วนไม่ใช่ของคนรวย อ้างไม่ได้ว่าหากอยากได้ถนนที่มีคุณภาพก็เสียเงินขึ้นทางด่วน ไม่มีเงินจ่ายก็ต้องเจอกับถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ มันไม่ใช่ ทางด่วนไม่ใช่เรื่องการแบ่งชนชั้นวรรณะ

เย้ยระบบทหารแฝงชนชั้น

โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังคิดว่าถ้าคุณเป็นคนจนไม่มีเงินจ่ายก็ต้องทน ถ้าคุณเป็นคนรวยจ่ายเงินก็จะได้ของที่ดี รัฐคิดแบบนี้ไม่ได้ การจ่ายเงินเป็นการได้บริการบางอย่างที่ตอบโจทย์ ตัวเองมากกว่าแต่ไม่ใช่เรื่องคุณภาพ ซึ่งคุณภาพต้องเท่าเทียมกัน อีกทั้งราคาก็ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมด้วย ไม่ใช่จะทำให้คนรวยอย่างเดียว คนทั่วไป ชนชั้นกลางที่อยากประหยัดเวลาเดินทางเรื่องราคาก็ต้อง จับต้องได้เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแบ่งแยกคนรวยคนจน

“เราก็จะเห็นมุมมองที่ตลกและไม่เข้าใจเรื่องความเสมอภาค เพราะนายกฯ อาจเคยชินกับระบบทหาร เนื่องจากระบบทหารไม่เคยมีความเท่าเทียมกัน ทหารชั้นสัญญาบัตรกับทหารชั้นประทวนยังแยกห้องน้ำกันเลย การปฏิบัติก็ต่างกัน มีระบบคล้ายวรรณะแฝงที่เกิดขึ้นในกองทัพ นายกฯ อาจเคยชินกับระบบนี้ และคนรายล้อมตัวก็เป็นทหารทั้งหมด ส.ว. 250 คนมากกว่าครึ่งก็เป็นทหารตำรวจ” นายวิโรจน์กล่าว

ไม่หวั่นถูกร้อง-งานเลี้ยงฝ่ายค้าน

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เตรียมร้องป.ป.ช. ตรวจสอบพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียม จัดงานกระชับมิตร 7 ธ.ค. เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ว่า การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมือง ไม่ว่าจะพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือพรรคร่วมรัฐบาลก็ทำมาตลอด ปกติสลับหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่กิจกรรมประเภทงานสานสัมพันธ์อย่างเดียว เช่น การจัดเวทีสาธารณะร่วมกัน การจัดงานแถลงข่าวร่วมกัน ดังนั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไร และไม่น่าจะเกี่ยวกับการรับผลประโยชน์

โดยกิจกรรม 7 ธ.ค. จะมี 3 ส่วน คือ 1.ประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งทำ ทุกสัปดาห์เป็นปกติอยู่แล้ว 2.แถลงสรุปความเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้านในรอบปีที่ผ่านมา และ 3.รับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกสัปดาห์มีอยู่แล้ว

พท.แนะเรืองไกตรวจสอบรบ.

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า การให้สัมภาษณ์ของนายเรืองไกรคลาดเคลื่อนข้อเท็จจริง เพราะการจัดงาน 7 ธ.ค. มีเพียงแต่หัวหน้าและเลขาธิการพรรคที่มาร่วมกันเท่านั้น ไม่ได้เอา ส.ส.ของพรรคร่วมฝ่ายค้านมาเลี้ยงสังสรรค์กัน ที่กล่าวหาจะมีเรื่องของการจัดเลี้ยงหรือเรื่องอะไรต่างๆ จึงยังไม่มีข้อเท็จจริง และการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเราทำกันเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เราเพียงเปลี่ยนสถานที่ และได้รวบรวมการทำงานในรอบปีที่ผ่านมา จากนั้นก็กินข้าวร่วมกันเพราะเป็นช่วงเย็นพอดี ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

“จริงๆ นายเรืองไกรน่าจะเอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นมากกว่า อย่างเช่นช่วยกันตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล อะไรที่เป็นเรื่องทุจริต อะไรที่เป็นเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน มาช่วยกันทำงานตรงนี้คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า” นายประเสริฐ กล่าว

รัฐบาลเตรียมยื่นร่างแก้กม.ลูก

นายนิกร จำนง ส.ส.และฝ่ายกฎหมายพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า วันที่ 9 ธ.ค.นี้ สํานักกฎหมายสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะมาดูร่างของพรรคร่วม หากโอเคหรือมีการปรับปรุงแก้ไขเล็กน้อย สัปดาห์ถัดไปลงนามยื่นได้เลย แต่ตามกำหนดจะยื่นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค. พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.คงไม่มีประเด็นมากนัก เพราะถูกกำหนดด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ พ.ร.ป.พรรคการเมืองมีรายละเอียดเยอะ หากแต่ละพรรคเห็นต่างในเชิงโครงสร้างและมีประเด็นที่เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมก็ให้แต่ละพรรคเสนอแปรญัตติมา ในนามพรรค และว่ากันในวาระ 2 ชั้น กมธ. เพราะต้องดูของทุกฝ่ายด้วย

แจงสูตรปาร์ตี้ลิสต์ยึดปี 54

เมื่อถามกรณีนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส. พรรคพลังท้องถิ่นไท ระบุถึงข้อยุติร่วมพรรครัฐบาลเรื่องสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ นายนิกร กล่าวว่า เป็นไปตามนั้น ซึ่งไม่ได้คิดเองแต่เป็นกรอบกฎหมายเลือกตั้งปี 2554 และผลการใช้ของปี 2554 เป็นที่น่าพอใจ จึงเอามาใช้อีกซึ่งไม่มีปัญหาเพราะเคยใช้แล้ว ทั้งนี้ อย่าเรียกว่าพรรคปัดเศษ พรรคที่ได้ตรงนั้นไม่ใช่เศษแต่ต้องมีคะแนนเป็นเนื้อเป็นหนังพอสมควร เป็นการคำนวณ 2 รอบ รอบแรกเอาคะแนนบัตรดีของทั้งหมดมารวมกันหารด้วย 100 จะมีค่ากลางเป็นจำนวนเต็ม แล้วเอาพรรคที่ได้คะแนนเกินกว่าค่ากลางหรือประมาณ 380,000 คะแนนไปคิด ได้เท่าไรก็เป็นไปตามนั้น

รอบสองเอาคะแนนที่ต่ำกว่าค่าจำนวนเต็มกลางมาคิด โดยนำคะแนนทุกพรรคมาเรียงลำดับ พรรคที่ได้ไปแล้วรอบแรกก็มีสิทธิ์ นำมาเรียงตามลำดับคะแนนที่ได้ หรือคะแนนที่เหลือของพรรคที่ได้ในรอบแรก กระทั่งได้ที่นั่งครบในส่วนที่ขาดอยู่ ฉะนั้นพรรคที่ได้ในรอบ 2 ไม่ใช่พรรคปัดเศษ เป็นพรรคที่ได้จำนวนเสียงเลือกตั้งต่ำกว่าค่าจำนวนเต็มกลาง ดังนั้น จะพูดว่าคะแนนตกน้ำไปทั้งหมดก็ไม่ได้ หากคะแนนต่ำกว่าค่าจำนวนเต็มกลางและได้เท่ากันจะให้จับสลาก

นายนิกร กล่าวว่า ส่วนร่างพ.ร.ป. พรรค การเมือง ความเห็นส่วนใหญ่พรรคร่วมเห็นด้วยให้สรรหาเบื้องต้น คือ มีตัวแทนพรรคประจำจังหวัดอย่างเดียว

พรรคเล็กพึ่งเสียงส.ว.

เวลา 13.00 น. ที่วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมกก.บห.พรรคจัดการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 เลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ 15 คน โดย นพ.ระวียังได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป นพ.ระวี กล่าวว่า การเลือกตั้งไม่ว่าจะมาถึงวันไหน กติกาใด วันนี้เรามาเตรียมความพร้อมที่จะต่อสู้ทุกรูปแบบ และพร้อมส่งส.ส.ครบทั้ง 400 เขต

ภายประชุม นพ.ระวี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อยุติร่วมประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ป. พรรคการเมือง และพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ว่า ตนไม่พอใจ แต่ยังขอไม่แสดงความคิดเห็น พรรคเล็กจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องไปชี้ขาดกันในสภา และ ส.ว.หลายคนก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของเรา

สภาชาวนา – นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยกคณะเดินทางไปเปิดสภาชาวนาที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยชาวนาโอดครวญราคาปุ๋ยแพง ทำให้ต้นทุน การผลิตสูง แต่ราคาข้าวตกต่ำ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.

เพื่อไทยพบชาวนาอยุธยา

วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค รวมทั้ง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรค น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด รวมทั้ง ส.ส.อยุธยา คือนายนพ ชีวานันท์ และ นายจิรทัศ ไกรเดชา ลงพื้นที่ ต.ชายนา อ.เสนา จ.อยุธยา เพื่อรับฟังปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องชาวนาในพื้นที่

ด้านนางบุญสม งามประดับ หรือ ผู้ใหญ่จิ๋ม นายวีระ ธนสุทธิ์ นายสายันต์ สุภาเพียร และตัวแทนชาวนาอำเภอเสนา สะท้อนปัญหาผ่านพรรคเพื่อไทยไปบอกพล.อ. ประยุทธ์ ว่าขณะนี้ทุกหย่อมหญ้าได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารงานของรัฐบาล ตลอด 7 ปี ไม่เคยมีใครจากรัฐบาลลงพื้นที่เข้ามาดูแลชาวบ้านเลย ทั้งที่เป็นจุดที่ได้รับผล กระทบจากการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจาก อ.เสนา เป็นแก้มลิงชะลอรับน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ เมื่อมีน้ำเข้านาปริมาณมากเกิน แต่เมื่อต้องการน้ำทำนากลับแล้ง ส่วนราคาปุ๋ย-ยาแพงขึ้นกว่าเท่าตัว ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง แต่ขายข้าวได้ราคาต่ำ ขายได้เพียงตันละ 2,300 บาท จากราคา 5,000-6,000 บาท

ชูจำนำข้าวทำราคาพุ่ง

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อรับทราบปัญหาจากปากพี่น้องประชาชน พรรคจะใช้กลไกสภาสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลชดเชยเยียวยา ส.ส.พื้นที่ได้ประสานงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหลายเรื่องแต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจ จะนำสิ่งที่ได้รับฟังไปพัฒนาเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวนาไทยอยู่ดีกินดี มีชีวิตที่ดีกว่าวันนี้ พรรคเพื่อไทยจะฟื้นศักดิ์ศรีให้ชาวนาไทยกลับมายืนตรงมองฟ้าอย่างองอาจอีกครั้ง ปัญหาเชิงโครงสร้างต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบครบวงจร เมื่อมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยต้องดีขึ้น แม้พื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่จะหาวิธีทำให้การเป็นพื้นที่รับน้ำอยู่กับวิถีชีวิตประชาชนได้ พรรคพท.มีนโยบายใช้เทคโนโลยีที่ไม่ใช่แค่เรื่องมือ แต่เป็นองค์ความรู้ เปลี่ยนสิ่งที่ใช้ไม่ได้ให้เป็นสิ่งที่ใช้ได้

“โครงการประกันรายได้ ไม่ส่งเสริมการลดต้นทุน การผลิตและการตลาด เป็นเพียงการชดเชยส่วนต่าง แตกต่างกับโครงการรับจำนำข้าวที่เป็นการเข้าจัดการกลไกราคาตลาดทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ชาวนาขายข้าวได้มากขึ้น” นพ.ชลน่าน กล่าว

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า น่าเสียดายแผนการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ 2 ล้านล้านบาทสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เริ่มไว้ถูกทำลายลงด้วยการเข้ามาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 7-8 ปีที่ผ่านไปรัฐบาลใช้งบหลายแสนล้านบาทแต่ยังแก้ปัญหาไม่ได้

กราบลา – นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง นำพวงมาลัยเข้ากราบลานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา หลังยื่นลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปสังกัดพรรคใหม่ ที่ห้องทำงานนายชวน ภายในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.

นิพิฏฐ์กราบ‘ชวน’ลาปชป.

เวลา 15.45 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรค เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค โดยนำพวงมาลัยมาไหว้กราบ แสดงความเคารพและอำลาเป็นการส่วนตัว ที่ห้องทำงานนายชวน อาคารควง อภัยวงศ์ ใช้เวลาพูดคุยกว่า 45 นาที

จากนั้น นายนิพิฏฐ์ลงมาสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์พรรค และวาง พวงมาลัยสักการะรูปภาพของม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ที่อาคาร ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ก่อนยื่นเอกสารลาออกจากสมาชิกพรรค จากนั้นเดินดูพิพิธภัณฑ์ความเป็นมาของพรรค ก่อนมายืนนิ่งอยู่หน้าอาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ฯ โดยบอกว่าต้องการซึมซับบรรยากาศเป็นครั้งสุดท้าย

น้ำตารื้น-ไปแล้วไม่กลับมา

นายนิพิฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ด้วยดวงตาแดง น้ำตารื้นว่า นายชวนอวยพรขอให้สำเร็จและโชคดี พร้อมฝากให้รักษาอุดมการณ์ความซื่อสัตย์สุจริตที่มีตลอด 30 ปี ยืนยันออกจากพรรคไปแล้วจะไม่กลับมา น้อยใจตัวเอง ท่านชวนบอกให้อดทนแต่สุดท้ายผมอดทนน้อยไป และขอฝากให้สมาชิกพรรครักษาพรรคประชาธิปัตย์ไว้

“การเลือกตั้งครั้งหน้าเหมือนเป็นการทำสงครามครั้งสุดท้าย อาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้เพราะไม่มีอะไรแน่นอน นับแต่วันนี้เป็นต้นไปผมก็ต้องจงรักภักดีกับพรรคที่ไปสังกัดใหม่ ผมสู้ให้พรรคประชาธิปัตย์ยังไง ผมจะทำให้พรรคใหม่เป็นสองเท่า เพราะถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะทำให้พรรค การเมือง ใครที่เชื่อใจผมก็ให้ตามผมไป หากใครที่คิดว่าผมเป็นนักการเมืองที่ใช้ไม่ได้ก็ ไม่ต้องตามไป” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

เป็นแม่ทัพพรรคใหม่สู้ปชป.

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ตนไปสังกัดพรรคใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้รับหน้าที่ให้ดูแลพื้นที่ภาคใต้ด้วย จะเปิดตัวช่วงปลาย ม.ค.ปี 65 ตั้งแต่วันนี้ถือว่าได้เปลี่ยนค่าย เหมือนนักกีฬา เมื่อมีเลือกตั้งใหม่ก็จะสู้กับประชาธิปัตย์ตามกติกาและกฎหมาย

วันนี้ได้โทรศัพท์ไปลานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้โทรศัพท์กราบลานายมารุต บุนนาค กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค อดีตเลขาฯพรรคและนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรค เนื่องจากทั้งสองท่านอาวุโสมากแล้วจึงไม่อยากรบกวน ขอใช้ช่องทางนี้กราบลาท่านทั้งสองด้วย

รับจุดแตกหักปมสส.พัทลุง

นายนิพิฏฐ์กล่าวถึงจุดแตกหักที่ตัดสินใจลาออก คือครั้งที่พรรคตัดสินใจส่งผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง โดยไม่ได้บอกหรือสอบถาม ทั้งที่ตนมีผู้สมัครในใจและผ่านการพูดคุยในพรรคแล้ว ทำให้คิดว่าอยู่พรรคนี้ต่อไปคงไม่มีประโยชน์กับพรรคแล้ว จึงขอออกดีกว่า และเชื่อว่าวันที่ไม่มีตนพรรคก็คงเดินหน้าต่อไปได้เพราะเป็นสถาบันการเมืองอยู่แล้ว และคงไม่ตัดสินใจกลับมาอยู่พรรคนี้อีกแล้วแม้อนาคตจะเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ขอไปสู้ศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายกับพรรคใหม่ ถ้าไม่ได้ก็จะไปธุดงค์

นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผู้สมัคร ส.ส.ในพัทลุง ตนไม่ได้พูดคุยกับ ส.ส.พัทลุงทั้งสองคน รวมทั้งไม่ได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่ผ่านมา 2 ปีกว่าตนพูดคุยกับนายจุรินทร์ 2 ครั้งเท่านั้น

‘ชวน’สุดยื้อ-รับเสียดาย

ด้านนายชวน กล่าวว่า ได้บอกนายนิพิฏฐ์ว่าพรรคพวกฝากให้ช่วยขอร้องให้อยู่ต่อ แต่ก็เข้าใจว่าที่ผ่านมานายนิพิฏฐ์ แถลงไปหลายครั้งแล้ว ก็ขออวยพรว่าไปอยู่ที่ไหนก็ขอให้ไปดี และให้ยึดแนวทางที่เราปฎิบัติด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ซื้อเสียง ยอมรับว่าเสียดาย เพราะนายนิพิฏฐ์เป็นคนตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมและเป็นคนตรง ยึดมั่นเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต และถือเป็นบุคคลสำคัญของพรรคคนหนึ่ง เราก็ต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องความคิดทางการเมืองและการตัดสินใจ ก็ให้กำลังใจ

ภท.อ้ารับ‘นัจมุดดีน’

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส หลายสมัย ระบุว่ามีแนวโน้มจะย้ายเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ภายหลังได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคประชาชาติ ว่า หลักการของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปิดโอกาสใคร ถ้าหากเห็นว่ามีแนวทางการทำงานที่ตรงกัน สามารถเข้ามาพูดคุยกับพรรคได้ ทางพรรคเรายินดีรับเข้าร่วมเป็นสมาชิก และทำงานร่วมกัน

เมื่อถามว่าหากได้นายนัจมุดดีน เข้ามาร่วมทำงานจะช่วยเสริมทัพให้พื้นที่ภาคใต้หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่เฉพาะแค่ทางภาคใต้ แต่ทุกภาคเราพยายามมองหาคนที่มีแนวทางทางการเมืองเหมือนกัน เรา ไม่ได้ปิดกั้นพร้อมแลกเปลี่ยนพูดคุยกันหากแนวทางไปด้วยกันได้

ปชป.ถก 13 ธค.วางตัวผู้สมัคร

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า กก.บห.พรรคได้นัดประชุม 13 ธ.ค. เวลา 09.30 น. วาระที่สำคัญ คือ การอนุมัติสมาชิกพรรค รับทราบการดำเนินการในส่วนของสาขาพรรค และคณะกรรมการ 15 คณะ ทั้ง 5 ภาครายงานความคืบหน้าการปฏิบัติงาน และมีวาระการพิจารณาการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ด้วย

ก้าวไกลเปิดตัวหลังปีใหม่

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนิด้าโพลสำรวจ“อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม.” ความนิยมพรรคก้าวไกลอยู่ที่ 4 ว่า พรรคไม่ได้กังวล หลังปีใหม่คงจะเริ่มต้นคิกออฟแคมเปญกทม. เป็นเรื่องธรรมดาเพราะที่ผ่านมาเรายังไม่ได้เปิดตัว ผู้สมัคร คิดว่าเมื่อทุกพรรค ทุกกลุ่มเปิดตัวทีมอย่างชัดเจนแล้วถึงจะเห็นคะแนนความนิยมที่แท้จริง

การเปิดตัวผู้สมัครหลังปีใหม่คงต้องพยายามทำงานอย่างเต็มที่ คิดว่าเวลา 3 เดือน น่าจะพอสำหรับการทำงานแคมเปญผู้ว่าฯ กทม. และที่ผ่านมาการทำพื้นที่ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครส.ส. ก็ทำงานมาหลายเดือนแล้ว ดังนั้น เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์

สลายม็อบจะนะหน้าทำเนียบ

เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นาย อุปกรณ์ปราบม็อบครบมือ พร้อมรถผู้ต้องขัง 2 คัน เตรียมเข้าสลายการชุมนุมของชาวบ้านจะนะ 50 กว่าชีวิต ที่ชุมนุมคัดค้านสร้างนิคมอุตสาหกรรมฯ หลังมาทวงคำสัญญาที่รัฐบาลสัญญาเมื่อปีที่แล้ว โดยตำรวจกันผู้สื่อข่าวออกไปอีกฝั่ง ก่อนเข้าสลายการชุมนุมและนำตัวผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ไปควบคุมที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้าน‘เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น’ ได้เดินทางมาปักหลักที่หน้าทำเนียบในช่วงเย็น เพื่อทวงสัญญาที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา โดยมีการชุมนุมเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เป็นผล

‘ปั๊ด’ยันไม่เลื่อนตั้งสว.-รองผกก.

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร .เปิดเผยถึงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้กำกับการ (รองผกก.) ว่าเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว ไม่มีเลื่อนออกไปแต่อย่างใด ตามที่มีการแชร์ข้อมูลในโซเชี่ยลมีเดีย โดยคำสั่งมีผลพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 7 ธ.ค.2564 ขอยืนยันและไม่ได้ล่าช้า

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจมีหลักเกณฑ์กรอบระเบียบข้อบังคับไว้ชัดเจน ต้องทำตามกฎระเบียบที่วางไว้อย่างเคร่งครัดเท่านั้น การแต่งตั้งระดับสว.ถึงรองผกก.เป็นอำนาจของผู้บัญชาการเป็นคนลงนามในคำสั่งการแต่งตั้ง มีคณะกรรมการช่วยกลั่นกรอง ก่อนเสนอ ผบช.ลงนามคำสั่งแต่งตั้งมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน