ชั้นต้น-อุทธรณ์คุกไม่รออาญา
ถ้าไม่มาฟังโดนออกหมายจับ
นักอนุรักษ์จี้-สัตว์ป่าไม่ตายฟรี

ศาลฎีกาตัดสินวันนี้ คดีเจ้าสัวเปรมชัยฆ่าเสือดำ ศาลทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาอดีตประธานอิตาเลียนไทย กับพวกรวม 4 คน ตกเป็นจำเลย คดีเข้าล่าเสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เมื่อก.พ.61 ซึ่งศาลชั้นต้น จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ศาลอุทธรณ์ เพิ่มโทษจำคุก 2 ปี 14 เดือน

จากกรณี วันที่ 8 ธ.ค. เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา “คดีเสือดำ” ที่นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก เข้าล่าเสือดำและสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2561

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นคดีอุทาหรณ์ก็อย่าไปทำ ศาลเรียกไปก็ไป จะมาบอกว่าไม่ไปแล้ว นายกฯ จะอย่างไร และตนก็ไม่ใช่เสือดำ แต่คนที่ศาลเรียกแล้วไม่ไปก็ต้องถูกออกหมายจับก็แค่นั้น อีกทั้งรายชื่อต่างๆ ก็ถูกส่งไปชายแดน ทุกด่านตรวจก็ไปจับเอา เหมือนกับในทุกคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการต่อสู้คดีนานกว่า 3 ปี ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีล่าเสือดำ หมายเลขดำอ.219/2561 โดยคดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ฟ้องนายเปรมชัย อดีตประธานกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นางนที เรียมแสน แม่ครัว และนายธานี ทุมมาศ พรานป่า เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดย ไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต, ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย

และฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกจำเลยร่วมกันเข้าไปในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตตะวันตก จ.กาญจนบุรี แล้วร่วมกันฆ่าเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเป็นอาหาร

จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมา ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพวกจำเลยกระทำผิดพิพากษา จำคุกนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 รวม 16 เดือน ไม่รอลงอาญา จำคุก นายยงค์ จำเลยที่ 2 รวม 13 เดือน ไม่รอลงอาญา จำคุก นางนที จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี และจำคุกนายธานี จำเลยที่ 4 รวม 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา และให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและ พันธุ์พืชผู้เสียหายด้วย ขณะที่อัยการโจทก์และจำเลยทั้งสี่ต่างยื่นอุทธรณ์

ต่อมาศาลจังหวัดกาญจนบุรี อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยพิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษจำคุกนายเปรมชัย รวม 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน ส่วนนางนที จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนนายธานี จำคุกรวม 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ให้จำเลยทั้งสี่ ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แก่ผู้เสียหายรวม 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีด้วย

จากนั้น ศาลอนุญาตให้ประกันตัว นายเปรมชัย จำเลยที่ 1, นายยงค์ จำเลยที่ 2 และนายธานี จำเลยที่ 4 โดยเพิ่มหลักทรัพย์อีกคนละ 2 แสนบาท ระหว่างฎีกา โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเปรมชัยยังถูกศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิพากษายืนจำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา กรณีเสนอสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีล่าสัตว์ป่า ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 ในคดีร่วมกันล่าสัตว์ป่า และอื่นๆ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา และยังมีคดีที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุกนายเปรมชัย 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา กรณีมีอาวุธปืนยาวไรเฟิลไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุน พ.ศ.2490 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเช่นกัน

เสือดำ – องค์กรสิทธิสัตว์และภาคี จัดกิจกรรม ‘คืนยุติธรรม วันพิพากษาคดีเสือดำ #เสือดำต้องไม่ตายฟรี’ ที่ลานหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ ปทุมวัน ทั้งนี้ศาลฎีกานัดตัดสินความผิดเจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต วันที่ 8 ธ.ค.นี้

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนจากภาคประชาชนร่วมจัดกิจกรรมนับถอยหลัง ก่อนวันตัดสินคำพิพากษาในคดีเสือดำ ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน โดยใช้ชื่อ “คืนยุติธรรม วันพิพากษาคดีเสือดำ #เสือดำต้องไม่ตายฟรี”

ภายในงาน มีตัวแทนจากองค์กรสิทธิสัตว์แห่งประเทศไทย เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนร่วมจัดเวทีอภิปรายหัวข้อ “คืนความยุติธรรมที่หายไป”

นายทศพร กลั่นแก้ว ตัวแทนจากองค์กรสิทธิสัตว์ฯ เปิดเผยว่า พอใจในผลคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ หวังว่าวันที่ 8 ธ.ค. กระบวนการยุติธรรมยังคงปรากฏให้เห็น ซึ่งหลังจากนี้องค์กรจะเดินหน้าผลักดันให้สัตว์ป่าคุ้มครอง จัดอยู่ในข้อกฎหมายห้ามทารุณกรรมสัตว์ต่อไป และสุดท้ายหวังว่ากฎหมายจะถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียม จะไม่มีการยกเว้นไม่ว่าจะกรณีใดๆ

ต่อมาเวลา 16.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน อ่านประกาศเตือน เรื่องการห้ามรวมตัวชุมนุมกัน เพราะเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน