เล็งขยายม็อบ
จัดที่ตจว.ด้วย

คณะราษฎรนัดชุมนุมใหญ่อีกวันที่ 12 ธ.ค.นี้ที่ราชประสงค์ พร้อมเตรียมขยายม็อบลุยระดมจัดชุมนุมในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย เผยความคืบหน้าการรวบรวมรายชื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีผู้มาร่วมลงชื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์แล้วกว่า 2.3 แสนคน มั่นใจเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ ย้ำไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปมข้อเสนอปฏิรูปสถาบันเป็นการล้มล้างการปกครอง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. คณะราษฎรตั้งโต๊ะแถลงข่าวรณรงค์ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ แจ้งการเคลื่อนไหวการชุมนุมในกิจกรรม ดังกล่าว ที่บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ตัวแทนกลุ่มราษฎรยกเลิก 112 หรือครย.112 กล่าวว่า เป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว ตั้งแต่คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) เปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อในหลายช่องทาง เพื่อเสนอให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขณะนี้มีประชาชนร่วมกันลงชื่อ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์แล้วมากกว่า 237,000 คน ดังนั้น ครย.112 จึงขอแถลงถึงความคืบหน้า ต่อไปนี้

1.ตามกฎหมายปัจจุบัน การเสนอร่าง พระราชบัญญัติ ต้องใช้รายชื่อประชาชน ไม่น้อยกว่า 10,000 คน ซึ่งขณะนี้ได้จำนวนรายชื่อมากกว่าที่กฎหมายกำหนดมาหลายเท่าแล้ว ข้อเสนอให้ “ยกเลิก 112” จึงพร้อมที่จะนำเข้าสู่สภาได้ทันที

อย่างไรก็ดี มีการจับตาดูนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองอย่างใกล้ชิด และยังมีพรรคการเมืองที่ตอบรับข้อเสนอจากประชาชนไม่มาก อาจจะมี ส.ส.ที่พร้อมสนับสนุนไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบนำเสนอต่อสภาในทันที แต่มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานอื่นไปพร้อมๆ กันเพื่อเปลี่ยนจำนวนเสียงในสภา เปลี่ยนทั้ง ส.ส.ที่มีอยู่และที่จะเข้าสู่สภาต่อไปในอนาคตให้เห็นความสำคัญ และความจำเป็นเร่งด่วนของปัญหามาตรา 112 ให้ได้ก่อน โดยการ เรียกร้องให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับการ “ยกเลิก 112” ช่วยกันส่งเสียง และไม่เลือก ส.ส.ที่ไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ ไม่ให้มีโอกาสได้เข้าสู่สภา

2.กลุ่ม ครย.112 ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 19/2564 ที่กล่าวหาว่า ข้อเสนอ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” เป็นการ “ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” และยืนยันว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมทั้งกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน สามารถแก้ไขและยกเลิกได้โดยเป็นอำนาจของรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนมีสิทธิเข้าชื่อกันเสนอต่อที่มาจากการเลือกตั้งให้พิจารณา ไม่ใช่อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะบอกว่ากฎหมายใดแก้ไขหรือยกเลิกได้หรือไม่ได้ คำวินิจฉัยที่เลื่อนลอย ไม่มีที่มาของข้อเท็จจริง อ้างประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยน และขาดเหตุผลที่เข้าใจได้ ไม่มีผลต่อการ เดินหน้ารณรงค์ไปสู่การยกเลิกมาตรา 112

3.กลุ่มครย.112 พร้อมที่จะเดินหน้ารณรงค์สร้างความรู้ถึงปัญหาของมาตรา 112 และรวบรวมรายชื่อของประชาชนต่อไปให้ได้มากที่สุด ซึ่งกิจกรรมต่อไปจะจัดขึ้นใน วันที่ 12 ธ.ค.ที่สี่แยกราชประสงค์ เนื้อหาจะเป็นการอัพเดตสถานการณ์ปัญหาการใช้มาตรา 112 ที่รุนแรงมากขึ้นทุกวัน และให้แง่มุมความรู้ทางประวัติศาสตร์การเมืองจากนักวิชาการ

นายสมยศกล่าวต่อว่า จากนี้จะเป็นการเดินทางไปหาพี่น้องประชาชนในจังหวัดอื่นๆ ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับชาวบ้าน และ เครือข่ายองค์กรต่างๆ เพื่อสร้างแนวร่วมให้มากขึ้นและเก็บรวบรวมรายชื่อของผู้ที่เห็นด้วยกับการยกเลิกมาตรา 112 ต่อไป จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ และเข้าร่วมกิจกรรมที่จะจัดขึ้นทั่วประเทศ ช่วยกันลงชื่อและชักชวนคนอื่นๆ มาลงชื่อให้ได้มากที่สุด เพื่อแสดงพลังส่งข้อเรียกร้องครั้งประวัติศาสตร์นี้ให้เป็นจริง

สำหรับกิจกรรมการชุมนุมความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ของกลุ่ม ครย.112 จะเดินหน้าเชิงรุก ในการล่ารายชื่อโดยจะมีการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านและกลุ่มเครือข่าย และให้ความรู้ในเรื่องม.112 อย่าง ต่อเนื่อง

นายสมยศกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 8 ธ.ค. จะมีกิจกรรมม็อบทะลุฟ้าช่วงบ่าย ซึ่งจะแจ้งผ่านเพจของกลุ่มต่อไป, วันที่ 9 ธ.ค. ทางกลุ่ม ครย.112 จะไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ศาลอาญารัชดา ในเวลา 11.00 น. เพื่อคัดค้านคำวินิจฉัย ศาลของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” เป็นการ “ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งจะนำโดย ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ หนึ่งในแกนนำ ครย.112, วันที่ 10 ธ.ค. กลุ่ม ครย.112 จะไปยื่นหนังสือที่องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ที่เกี่ยวเนื่องกับ ม.112 และ วันที่ 12 ธ.ค. จะมีกิจกรรมชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่ 16.00-21.00 น.

วันเดียวกัน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลอาญานัดการไต่สวนขอประกัน 4 แกนนำ คือนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก ในคดีดังกล่าววันที่ 17 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าทางฝ่ายจำเลยมีความพร้อมในการนำเสนอข้อเท็จจริงข้อกฎหมายในชั้นไต่สวนแล้ว ควรจะไต่สวนก่อนวันที่ 17 ธ.ค.

โดยในวันนี้ได้ยื่นคำร้องขอร่นเวลาไต่สวนให้เร็วขึ้นก่อนวันนัด โดยมีเหตุผลสำคัญคือนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน มีนัดสอบภาคการศึกษาที่ 2 รวม 3 วันตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. เป็นต้นไป ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในส่วนโรคหอบหืดก็มีอาการดีขึ้นบ้าง

และนาย จตุภัทร มีนัดสอบใบอนุญาตทนายความที่ สํานักอบรมวิชาว่าความ สภาทนายความใน วันที่ 13 ธ.ค. ซึ่งด้วยเหตุผลจำเป็นดังกล่าวประกอบกับคดีนี้ศาลยังไม่มีคำพิพากษาและหากต่อมาพิพากษายกฟ้องพวกเขาก็จะเสียโอกาสเหล่านี้ไป ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงขอให้ศาลได้โปรดไต่สวนคดีนี้โดยเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน