สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
น้อมหัวใจถวายคารวาลัย
วงการสงฆ์และพุทธศาสนิกชนสูญเสียครั้งใหญ่
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช, อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ พระอารามหลวง และที่ปรึกษามหาเถรสมาคม มรณภาพด้วยอาการอย่างสงบ สิริอายุ 96 ปี พรรษา 76
หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 นับแต่นั้น ต้องเดินทางเข้า-ออก ที่โรงพยาบาลเป็นประจำ เพื่อให้คณะแพทย์ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ต้องเข้ารับการฟอกไต และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ เป็นเวลากว่า 1 ปี 8 เดือน
กระทั่ง ช่วงเช้ามืดวันที่ 9 ธ.ค. เวลา 05.48 น. ก็มรณภาพด้วยอาการสงบเหมือนนอนหลับไป ด้วยโรคไตวายเรื้อรัง ที่ตึก 84 ปี ชั้น 6 โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุ 96 ปี พรรษา 76
มีนามเดิมว่า ช่วง สุดประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2468 ที่บ้านเลขที่ 32 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน ของนายมิ่งและนางสำเภา สุดประเสริฐ
ขณะที่มีอายุ 7 ขวบ นายมิ่งผู้เป็นบิดาถึงแก่กรรม ญาติจึงให้บรรพชาหน้าไฟพร้อมกับพี่ชายตามประเพณี หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว พี่ชายได้ลาสิกขา แต่ท่านยังคงบรรพชาอยู่ระยะหนึ่งจึงได้สึก
หลังจากนั้น ชีวิตเริ่มผูกพันกับวัดในละแวกใกล้บ้าน คือ วัดสังฆราชาและวัดลาดกระบัง และสำเร็จการศึกษาชั้น ป.4 ของโรงเรียนประชาบาลวัดสังฆราชา
ครั้นอายุ 14 ปี จึงบรรพชาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2482 ที่วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ มีพระครูศีลาภิรัต วัดลาดกระบัง เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้น มุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมและสอบนักธรรมชั้นตรี-โท ได้ในสำนักศาสนศึกษาวัดสังฆราชา ในระหว่างนั้น ได้ทราบกิตติคุณของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เกิดความปรารถนาจะเข้ามาศึกษาต่อภายใต้ร่มบารมีธรรมของหลวงพ่อสด
พ.ศ.2484 ย้ายมาอยู่ที่วัดปากน้ำ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2488 ที่พัทธสีมาวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
มีพระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) วัดปากน้ำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ด้วยความขยันและตั้งใจศึกษาเล่าเรียน จึงสอบได้มาโดยลำดับ เมื่อถึงชั้นสูง หลวงพ่อสดจึงนำไปฝากกับสมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตติโสภโณ) เพื่อให้ศึกษาในสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พ.ศ.2497 หลังสำเร็จการศึกษาชั้นเปรียญธรรม 9 ประโยค หลวงพ่อสดจึงไปรับตัวท่านกลับมาช่วยงานที่วัดปากน้ำ เพื่อสานต่องานและโครงการที่ริเริ่มไว้
หลังพระมงคลเทพมุนีมรณภาพ ในเวลาต่อมา จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาจนถึงกาลปัจจุบัน
สร้างผลงานอันทรงคุณูปการในหลากหลายด้าน อาทิ งานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ งานด้านการศึกษา งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ เป็นต้น
ลำดับงานปกครองสงฆ์ พ.ศ.2500 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะภาค 3 พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะภาค 17 พ.ศ.2528 เป็นเจ้าคณะภาค 7 พ.ศ.2532 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
พ.ศ.2562 เป็นที่ปรึกษามหาเถรสมาคม
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2499 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระศรีวิสุทธิโมลี พ.ศ.2505 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชเวที พ.ศ.2510 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพวรเวที พ.ศ.2516 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพวรเวที พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่พระธรรมปัญญาบดี
พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สร้างผลงานอันทรงคุณูปการในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะงานด้านการสาธารณสงเคราะห์ เผยแผ่พระพุทธศาสนา และงานด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม ทั้งยังเป็น ผู้ริเริ่มโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยให้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 จนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
ทั้งนี้ คณะสงฆ์วัดปากน้ำ มีมติจะเคลื่อนสรีระสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จาก ร.พ.ศิริราช ในวันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค. เวลา 08.00 น. มาตั้งที่ชั้น 2 พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำภาษีเจริญ จากนั้นจะเปิดให้คณะสงฆ์ คณะศิษย์ พุทธศาสนิกชน เข้าสรงน้ำจนถึงเวลา 16.00 น.
เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และจะมีพิธีบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม เวลา 17.00 น. ทุกวัน
