ควงคู่ขึ้นโรงพักแจ้งจับ
อ้างเป็นตร.ขู่เด็กพนง.
หลงเชื่อ-สูญเงินแสน

นักร้องดัง ฮั่น เดอะสตาร์ ควงแฟนสาว ‘จียอน’ นักแสดงชื่อดัง แจ้งความถูกมิจฉาชีพสวมรอยเป็นตำรวจ โรงพักเชียงใหม่ และจนท.บริษัทขนส่งหลอกลวงข่มขู่พนักงานบริษัทที่ไลฟ์ขายของมีเอี่ยวคดีฟอกเงิน อ้างต้องโอนเงินให้ตรวจสอบเหตุผู้ต้องหาที่ถูกจับซัดทอดว่าร่วมแก๊งด้วย เหยื่อผวาโอนให้กว่าแสนบาท รวม 5 บัญชี จึงขอให้อายัดบัญชีมิจฉาชีพทั้งหมด ตามจับตัวมาดำเนินคดี คาดมีไม่น้อยกว่า 3 ราย สงสัยลูกน้องเก่าอาจรู้เห็นเป็นใจด้วย ทั้งที่เคยเปลี่ยนพนักงานยกชุดมาแล้วหลังเงินบริษัทหายไปก่อนหน้า

แจ้งจับ – ‘ฮั่น เดอะสตาร์-จียอน’ คู่รักวงการบันเทิง เข้าแจ้งความดำเนินคดีมิจฉาชีพโทร.มาหลอกพนักงานของบริษัท อ้างว่ามีความผิดฟอกเงินต้องโอนเงินมาให้ตรวจสอบ สูญเงินไปนับแสนบาท ที่สน.หัวหมาก เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่สน.หัวหมาก นายอิสริยะ ภัทรมานพ หรือ ฮั่น เดอะสตาร์ นักร้องชื่อดัง พร้อมด้วยน.ส.ซอ จียอน นักแสดงชื่อดังแฟนสาว และพนักงานในบริษัท เข้าพบพ.ต.ท.ประยูร ทองนุ่น สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพที่โทรศัพท์มาหลอกลวงพนักงานในบริษัทให้โอนเงินกว่า 1 แสนบาท โดยอ้างตัวเป็น เจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งชื่อดังและตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากเงินที่โอนไปส่วนหนึ่งเป็นเงิน ของบริษัทของฮั่นที่ไลฟ์ขายของ 60,000-90,000 บาท

นายอิสริยะกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไลฟ์ขายของ ต่อมาวันที่ 14 ธ.ค.มีมิจฉาชีพโทร.เข้าเบอร์บริษัท เมื่อพนักงานรับสายมิจฉาชีพก็อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่ง หลอกว่าทางบริษัทได้ส่งพัสดุผิดกฎหมาย ก่อนจะโอนสายให้กับผู้ร่วมขบวนการซึ่งอ้างว่าเป็นตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่อีก 2 คน กล่าวหาว่าพนักงานคนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน เพราะมีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นพาสปอร์ตปลอมกว่า 10 เล่ม แล้วผู้ต้องหาซัดทอดว่าขายบัญชีให้กับผู้ต้องหา

จึงขอให้พนักงานคนดังกล่าวให้ความร่วมมือด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนดเพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ด้วยความตกใจกลัวทางพนักงานคนดังกล่าวจึงโอนเงินไปให้หลายครั้งเข้าบัญชีมิจฉาชีพประมาณ 5 บัญชี รวมเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท

ซึ่งแม้จะเป็นบัญชีส่วนตัวพนักงานที่โอนไปแต่ก็มีเงินของบริษัทรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะสำรองจ่าย เบื้องต้นจึงต้องการให้ตำรวจอายัดบัญชีของมิจฉาชีพและดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าว คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 3 คน

นายอิสริยะกล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องนำเงินของบริษัทเข้าบัญชีพนักงานในบริษัทตนถึง 3 บัญชี เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยให้พนักงานถือเงินสด แต่ต่อมาเงินหายและพนักงานไม่สามารถชี้แจงได้ว่าหายไปไหนจึงตัดสินใจใช้วิธีการเอาเงินเข้าบัญชีเพื่อให้ตรวจสอบรายการเดินบัญชีได้ โดยได้รับความยินยอมจากพนักงาน และมีการเปลี่ยนพนักงานยกชุด ซึ่งพนักงานที่ถูกหลอกเป็นชุดใหม่ที่มาทำงานได้เพียงปีเศษ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พนักงานชุดเก่าที่ออกไปอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมิจฉาชีพ ฮั่นตอบว่า ไม่ปักใจเชื่อ แต่มีความเป็นไปได้เพราะมิจฉาชีพทราบข้อมูลส่วนตัวของพนักงานรายใหม่นี้เป็นอย่างดี จึงขอฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่โทรศัพท์มาหลอกลวงลักษณะนี้ และควรตรวจสอบไปยังหน่วยงานหรือสถานีตำรวจที่มิจฉาชีพแอบอ้างก่อนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ขณะที่จียอนกล่าวว่า เชื่อว่าหน่วยงานรัฐจะไม่มีการโทรศัพท์หาก่อน จึงขออย่าหลงเชื่อและอย่าโอนเงินให้ไปโดยเด็ดขาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน