ซิ่งหนี-ชนรถตร.
ซุก14คนไปมาเลย์
ไล่ล่าจับระทึกขบวนการขนแรงงานเถื่อน ตร.ต้องยิงล้อ ให้สิ้นฤทธิ์หลังขับหนีการตรวจ หน้า สภ.สะเดา จ.สงขลา แต่ยังพยายามขับถอยชนรถตำรวจจนพังเสียหาย พบแรงงานเมียนมาและผู้นำพาซุกเต็มคันรถ 14 คน สอบสวนสารภาพต้องจ้างค่านายหน้าคนละ 25,000 บาท นำพาข้ามแดนไปมาเลเซีย ขณะที่คนขับรถชาวไทยได้ค่าจ้างเหมาจ่าย 5,000 บาท ถูกแจ้ง 2 ข้อหา
วันที่ 19 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมทหาร ฉก.ร.5 ร้อย ร.5021 ตชด.437 ตม.สะเดา และฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา นำโดย พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สะเดา และ พ.อ.ธนิตพนธ์ หงส์วิไล ผบ.ฉก.ร.5 ร่วมกันจับกุมผู้นำพาและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมารวม 15 คน พร้อมรถยนต์กระบะ 1 คัน
หลังจากช่วงดึกคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้า สภ.สะเดา เขตเทศบาลเมืองสะเดา สังเกตเห็นรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ แค็บ สีดำ ทะเบียน ผท-1795 สงขลา ขับผ่านมาท่าทางมีพิรุธและมีผ้าใบปิดอยู่ที่ท้ายกระบะ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปทาง ต.สำนักขาม อ.สะเดา เจ้าหน้าที่ประสานกำลังขับรถติดตามไล่ล่ากันกว่า 10 กิโลเมตร พร้อมเปิดไซเรนและบอกให้หยุดรถมากกว่า 10 ครั้ง
สุดท้ายจึงจำเป็นต้องยิงสกัดเข้าที่ล้อหน้าขวาและล้อหลังขวาจนรถต้องสงสัยความเร็วลดลง และรถยนต์กระบะของตำรวจขับแล่นไปดักหน้าในระยะที่ปลอดภัยเพื่อสกัดรถไม่ให้หลบหนี แต่คนขับยังพยายามถอยหลังและขับชนรถของตำรวจจนพังเสียหายทั้งคู่ ก่อนจนมุมในที่สุดที่บริเวณถนนสายสะเดา-บ้านม่วง ม.3 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา
จากการตรวจสอบพบว่าคนขับเป็นคนไทยคือนายเอกรัตน์ ไกรแก้ว อายุ 42 ปี ชาว ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 14 คน เป็นชาย 11 คน และหญิง 3 คน จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.สะเดา พบว่าแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมากลุ่มนี้ลักลอบเข้าเมืองมาจากทางฝั่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านช่องทางธรรมชาติ และมีคนนำพา กระทั่งมาถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อจะข้ามชายแดนไปยังประเทศมาเลเซียโดยต้องจ่ายค่านายหน้าราวคนละ 25,000 บาท
นายเอกรัตน์ ไกรแก้ว ผู้นำพาชาวไทย ให้การเบื้องต้นว่าได้รับการติดต่อจากชายไม่ทราบชื่อสกุลจริงให้เดินทางไปรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 2 จุด บริเวณป่าละเมาะในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จุดแรกรับมา 1 คน เป็นผู้นำพาชาวเมียนมา และอีกจุดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอีก 13 คน ก่อนพาขึ้นรถเพื่อไปส่งยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ใน อ.สะเดา แต่ถูกจับกุมเสียก่อน หากทำสำเร็จจะได้รับค่าจ้างจำนวน 5,000 บาท
ทั้งนี้หลังจับกุมเจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผลและตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมรวมทั้งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกคน เพื่อความปลอดภัยทั้งกลุ่มผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่ ในส่วนผู้นำพาชาวไทยถูกแจ้ง 2 ข้อหาคือให้การช่วยเหลือ ให้ที่พักพิง ให้ที่พักอาศัยคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามา โดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุมจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหายฯ
ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาและผู้นำพาชาวเมียนมาถูกแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป