ยก5ข้อทำรบ.ง่อนแง่น
ขอของขวัญ-ให้ลาออก
‘เพชร-กรุณพล’หาเสียง
ก้าวไกลโวลั่นกระแสดี
จุรินทร์นำทัพบุกสงขลา
‘หมอชลน่าน’ ชี้ 5 ปัจจัยปีหน้า ทำรัฐบาลง่อนแง่น เชื่อปมวาระนายกฯ 8 ปี ทำ ‘บิ๊กตู่’ หลุดเก้าอี้ แถลงการณ์เพื่อไทยซัดรัฐบาล ทำประชาชนตกอยู่ใต้ วิกฤตสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ เสียงสะอื้นระงมทั่วแผ่นดิน ทั้งแก้โควิดล้มเหลว ปัญหาเศรษฐกิจ คลั่งอำนาจ ลั่นขอเดินหน้าดับ ฝันร้าย คืนชีวิตใหม่ให้คนไทย สภาเปิดตัวเลข เช็กบิลย้อนหลัง ‘สิระ’ ต้องคืนเงินก้อนแรก 8.49 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าจัดสัมมนาในนามกรรมาธิการ ‘เพชร-กรุณพล’ ลุยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ครั้งแรก ก้าวไกลคุยกระแสตอบรับดี
พท.ซัดรัฐบาลทำปชช.สาหัส
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา เลขาธิการพรรค และน.ส. ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆกพรรค ร่วมแถลงข่าว
นพ.ชลน่านได้อ่านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย “ก้าวข้ามฝันร้ายและคราบน้ำตา 2564 สู่ความหวังและชีวิตใหม่ 2565” ว่า ความล้มเหลวผิดพลาดบกพร่องซ้ำซากของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตลอดปี 2564 ทำให้ชีวิตและลมหายใจของประชาชนตกอยู่ภายใต้วิกฤตที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ หยาดน้ำตาและเสียงสะอื้นของพี่น้องประชาชนดังระงมไปทั่วทั้งแผ่นดิน
เป็นรัฐบาลไร้ศักยภาพ ประมาท และหละหลวม ขาดความรู้ความเข้าใจและไม่รับฟังเสียงประชาชน ประเมินสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ผิดพลาด นำมาซึ่งการบริหารจัดการที่ล้มเหลวจนโรคแพร่ระบาดขยายวงกว้าง ระบบสาธารณสุขประเทศล่มสลาย ทำลายชีวิตผู้คน คนไทยต้องตายคาบ้าน ตายกลางถนน ตายข้างถนน ไม่มีแม้โอกาสได้เข้าสู่ระบบการรักษาตามสิทธิที่พึงมี
ประเทศฝันร้ายกลียุค
อีกทั้งยังยกระดับวิกฤตสุขภาพสู่วิกฤตเศรษฐกิจ มาตรการรุนแรงแบบหว่านแห สร้างภาระให้ประชาชน เศรษฐกิจหยุดชะงัก ประชาชนต้องตกงาน ขาดรายได้ สิ้นเนื้อประดาตัว อดอยาก จนประเทศต้องตกอยู่ในห้วงของฝันร้ายกลียุค
การระบาดใหม่ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ โอมิครอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ รัฐบาลยังคงมีวิธีคิดราว “ชีวิตและลมหายใจประชาชนเป็นของเล่น สบประมาท โควิดกระจอก” ย่ามใจไม่เตรียมพร้อม กำลังจะพาพี่น้องประชาชน ต้องไปเผชิญชะตากรรม และจมอยู่กับวิกฤตเศรษฐกิจไม่รู้จบ
ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ที่ผ่านมารัฐบาลผลาญงบประมาณแผ่นดินมหาศาลไปกับการเยียวยาฟื้นฟูที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ อีกทั้งยังนำเงินในอนาคตของประชาชนไปสร้างมหกรรม “แจกเทกระจาด แฝงการเอื้อประโยชน์พวกพ้องและส่อว่าอาจจะหาประโยชน์ทางการเมือง เงินกู้มหาศาลถูกใช้จ่ายไปอย่างไร้ค่า ทิ้งไว้เพียงภาระหนี้สินประเทศชาติและประชาชน ขโมยเงินอนาคตและโอกาสของประชาชนไปจนหมดสิ้น
พร้อมหน้า – เอม-พินทองทา โพสต์ไอจี ภาพหมู่นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมลูกชาย ลูกสาว ลูกเขย และหลานๆ โดยระบุว่ารวมตัวครอบครัวพร้อมหน้า ยกพลไปร่วมฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.
คลั่งอำนาจ-คุกคามประชาชน
ความรุนแรงจากวิกฤตโรคระบาดร้ายแรงไม่น้อยกว่าความรุนแรงจากรัฐคลั่งอำนาจ ตลอดปี 2564 มีการใช้อำนาจและกฎหมายที่บิดเบือน กลั่นแกล้ง คุกคามประชาชนอย่างรุนแรง ประชาชน นิสิต นักศึกษา ทั้งที่ออกมา เรียกร้องสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มุ่งหวังการคืนประชาธิปไตย หรือแม้แต่ประชาชนที่ออกมาสะท้อน ความเดือดร้อนจากนโยบายรัฐ เช่น พี่น้องจะนะรักษ์ถิ่น กลับถูกใช้กำลังความรุนแรงเข้ากดปราบและดำเนินคดี อย่างไม่เป็นธรรม มองประชาชนเป็นปฏิปักษ์และภัยต่อความมั่นคงที่รัฐจะต้องกำจัด
ความย่อยยับตลอดปี 2564 มีเหตุแห่งปัญหามาจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ดำเนินนโยบายและบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากของประชาชน ไม่รับฟังเสียงสะท้อนและผล กระทบ อันเป็นผลโดยตรงจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บิดเบือนกลไกประชาธิปไตย ช่วงชิงอำนาจรัฐบาลห่างไกลจากประชาชน นายกฯ ไม่ต้องได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แต่ ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยการสนับสนุนของ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ปัดเศษและงูเห่า ถูกจัดตั้งขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงประชาชน ว่าได้ลงมติไว้วางใจให้เข้ามาบริหารประเทศหรือไม่
เดินหน้าคืนความหวัง-ชีวิตใหม่
พรรคเพื่อไทยซึ่งมีตัวแทนอยู่ทั่วประเทศรับฟังเสียงสะท้อนและปัญหาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ สำนึกต่อความสำคัญของพี่น้องประชาชน “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคมและประชาชน” คืนเกียรติและศักดิ์ศรีให้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม รับฟังและดำเนินนโยบายโดยคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตโรคระบาดที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ ควรศึกษาบทเรียนความผิดพลาดที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงมาตรการ ระมัดระวัง ป้องกันและเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข เพื่อรองรับปัญหาบรรเทาสถาน การณ์ไม่ให้เกิดความสูญเสียและวิกฤตซ้ำรอยเดิมอีก
พรรคเพื่อไทย ตระหนักเสมอว่าเราและพี่น้องประชาชนคือสมาชิกครอบครัวเดียวกัน ในวิกฤตที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเรา เราจึงเข้าใจ เห็นใจและช่วยเหลือกันให้รอดพ้นจากวังวนของปัญหาไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้นได้ ดังนั้นในปี 2565 เราจะเดินหน้าคืนความหวังความฝันของคนทุกวัย ทุกฐานะ ทุกวิถีชีวิตที่ฝันถึง ความเป็นอยู่ที่ดีและสานฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง เราจะมุ่งไปสู่หนทางของเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู พี่น้องคนไทยจะกลับมามีความหวังถึงการทำงานที่ดีและการมีรายได้ที่ดี
“เราจะหลอมรวมผู้คนเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และมีอนาคตที่ดี เราจะทำทุกวิถีทางที่จะสนับสนุนผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง ทวงคืนอำนาจของประชาชน เพื่อเปลี่ยนอนาคตให้ประชาชน และจะรวมพลังประชาชนเพื่อมุ่งไปสู่ความหวังที่จะเปลี่ยนรัฐบาล คืนรัฐบาลที่เป็น ประชาธิปไตย เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยเพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อผ่านวันนี้ไป พรุ่งนี้จะมีความสุขความสำเร็จกลับมาอีกครั้ง พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน” แถลงการณ์ระบุ
อัดบิ๊กตู่ – นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ชำแหละ ความล้มเหลวซ้ำซากของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอดปี 2564 ทำให้ชีวิตประชาชนตกอยู่ภายใต้วิกฤตหนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.
ชี้ 5 ปัจจัยทำรัฐบาลง่อนแง่น
นพ.ชลน่านกล่าวถึงการเมืองปี 2565 ว่า สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นคือเสถียรภาพของรัฐบาลง่อนแง่นมาก เกิดจากปัจจัยที่ 1. รัฐบาลนี้ไม่ได้ใช้เสียงข้างมากในการปกครองหรือบริหารประเทศ ทุกครั้งที่มีการประชุมสภาจะเห็นว่าเสียงข้างมากไม่เคยทำหน้าที่เลย ตรงนี้เป็นประเด็นหนึ่งที่เราสามารถทำนายอนาคตได้ว่าเสถียรภาพรัฐบาลมีโอกาสที่จะแปรเปลี่ยน เพราะถ้ามีกฎหมายสำคัญเข้าสภาโดยที่ซีกรัฐบาลมีความขัดแย้งกันกัน โอกาสที่กฎหมายสำคัญจะไม่ผ่านสภา
ปัจจัยที่ 2.วิกฤตต่างๆ ที่ถาโถมมาขณะนี้รุนแรงมาก ไม่ว่าจะวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เกิดจากโควิด และวิกฤตโควิดที่ยังไม่หยุดนิ่ง ความลำบากของประชาชนจะเกิดกระแสเรียกร้องและต่อต้าน ความไม่สงบภายในประเทศก็จะเกิดขึ้น
ปัจจัยที่ 3.สิ่งที่เราเฝ้าดูขณะนี้ คือบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 185 และมาตรา 264 ว่าด้วยนายกฯ ไม่สามารถตำแหน่งเกิน 8 ปีได้ ถ้าตีตามตัวบทกฎหมายพล.อ.ประยุทธ์ ต้องหมดวาระลงในวันที่ 24 ส.ค.2565 นี่คือเงื่อนไขที่อาจต้องทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล
ปัจจัยที่ 4.วันที่ 31 ม.ค.2565 ศาลจะมีคำตัดสินชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ คดีเหมืองทองอัครา ฟ้องราชอาณาจักรไทย ที่พล.อ. ประยุทธ์ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปิดเหมือง หากมองในแง่ร้าย ถ้าประเทศต้องรับผิดชอบตามคำร้องคือวิกฤต และเรื่องธงชาติไทยถูกสั่งห้ามใช้ในการแข่งขันกีฬานานาชาติ จากองค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาดา) จะเป็นประเด็นที่สถานการณ์บ้านเมืองอาจถูกแรงกดดันมาจากภายนอกประเทศ ทำให้มีปัญหาได้
ปัจจัยที่ 5.เรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งรัฐบาลถูกมองว่าเป็นรัฐบาลละเมิดสิทธิเสรีภาพอย่างมาก จะเข้ามาบีบรัดทำให้สถานการณ์การเมืองในปี 2565 ไม่น่าจะเป็นผลดีกับประเทศ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงควรยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่เราไม่มุ่งหวังคือการเปลี่ยนแปลงนอกวิถีประชาธิปไตย นอกรัฐธรรมนูญ
เจอวิบากกรรมหนัก-จี้‘บิ๊กตู่’ลาออก
ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า ปี 2565 จะเป็นปีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประสบวิบากกรรมหลายอย่าง เนื่องจากระยะเวลาร่วม 8 ปีที่ เข้ามาบริหารประเทศสิ่งที่รับปากพี่น้องประชาชนยังไม่สามารถทำได้ และทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัย โดยเฉพาะความไม่เป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้การทำงานในสภา และรัฐสภามีอุปสรรคโดยตลอด
“พรรคฝ่ายค้านยังจะเสนอญัตติสำคัญช่วงหลังปีใหม่ คือ ญัตติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งเป็นการเปิดอภิปรายเพื่อแนะนำและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้รัฐบาล ฉะนั้น ปี 2565 จะถือเป็นปีที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเหนื่อย และได้รับผลกรรมที่เคยทำมา เรียกว่า จะมีวิบากกรรมตลอดปี 2565” นายประเสริฐกล่าว
ด้านน.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า แม้ความทุกข์ที่ผ่านมาตลอดทั้งปียังไม่จางหายไป เนื่องด้วยการบริหารงานที่ผิดของรัฐบาล และไม่สามารถที่จะสร้างความหวังให้กับพี่น้องคนไทยได้ พรรคเพื่อไทยจึงจะขอเป็นความหวังให้กับคนไทยทุกคน สำหรับตนขอของขวัญชิ้นเดียวจากรัฐบาล คือให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก และคืนความสุขที่แท้จริงให้กับประชาชน
จ่อเคาะ‘สุชาติ’ชิงเก้าอี้หลักสี่
นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงความชัดเจนการส่งเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่ จตุจักร (ยกเว้นแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล) แทน นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพ้นสมาชิกภาพ เหตุเคยต้องคำพิพากษาติดคุกคดีฉ้อโกง และจัดเลือกตั้งภายใน 45 วัน คือภายในวันที่ 4 ก.พ.2565 ว่า พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครแน่นอน ขณะนี้เรามีอดีตส.ส. คือ นายสุรชาติ เทียนทอง ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ตลอดทุกวัน จึงมั่นใจว่านายสุชาติน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรค
เมื่อดำเนินการตามกระบวนการของพรรคแล้ว หากคณะกรรมการสรรหามีมติว่าเลือกคนนี้ จะส่งไปให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รับรองและมีมติ คาดว่า กก.บห.จะประชุมหลังมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ที่คาดว่าพ.ร.ฎ.จะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลว่าจะตัดคะแนนกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราไม่กลัว เนื่องจากฐานของพรรคเพื่อไทย ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งเบบี้บูมเมอร์ เจนเอ็กซ์ เจนวาย และเจนซี การเลือกตั้งซ่อมเป็นการวัดอารมณ์ความรู้สึก ไม่สนใจว่านโยบายคืออะไร
“ความจริงฝ่ายค้านจะชนะในสนามการเลือกตั้งซ่อม แต่การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาในรัฐบาลชุดนี้ พรรคฝ่ายค้านไม่เคยชนะเลย เพราะพรรคฝ่ายรัฐบาลมีกลไกและอำนาจของรัฐบาล ทั้งอำนาจเงิน และอำนาจการจัดการ จึงห่วงเรื่องนี้มากกว่า พรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง” นพ.ชลน่านกล่าว
เดินตลาด – เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากผู้ค้าขายและพบปะประชาชนเป็นครั้งแรก ที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 กทม. เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.
‘เพชร’เดินตลาดหาเสียงครั้งแรก
ที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 กทม. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยเพชร-นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาการค้าขายด้านเศรษฐกิจและพบประชาชนเป็นครั้งเเรก
นายกรุณพลกล่าวว่า ตนมาแนะนำตัวกับประชาชน เพื่อให้ได้รู้จักและได้เข้าใจนโยบายของพรรคก้าวไกล ตนต้องการพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า จากการที่เป็นนักแสดงมา 20 กว่าปี เหตุใดจึงเลือกทิ้งงานแสดงเพื่อลงมาสู่สนามเลือกตั้ง เพราะคิดว่าการที่มีชีวิตที่ค่อนข้างสบาย แต่คนส่วนมากในประเทศกำลังลำบากอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะมองดูเฉยๆ ได้ การเป็นนักแสดงให้ความสุขในจอทีวีเท่านั้น แต่ความสุขที่แท้จริงที่สามารถจับต้องได้ คือ การทำให้พี่น้องประชาชนกินอิ่ม นอนหลับ มันยากเกินกว่าที่นักแสดงคนหนึ่งจะทำได้ เชื่อว่าพรรคก้าวไกลและตนจะสามารถเปลี่ยนประเทศให้ดีขึ้นได้
ด้านนายพิจารณ์กล่าวว่า จากการหาเสียงครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบนายกรุณพลในฐานะนักแสดงอยู่แล้ว ถือว่าได้รับกระแสตอบรับดีกว่าที่คาดไว้ ส่วนกระแสในโซเชี่ยลบางส่วนที่เห็นว่าจะส่งผู้สมัครมาแข่งทำไม เพราะจะตัดคะแนนกับพรรคเพื่อไทยนั้น คิดว่าสุดท้ายการมีผู้สมัครเพิ่มขึ้น ถือเป็นตัวเลือกและเป็นประโยชน์ให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า
‘โรม’บี้กกต.รับผิดชอบ
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ นายสิระ สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง ว่า เรื่องนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผิดแน่นอน ไม่ใช่แค่โทษนักการเมืองอย่างเดียว ต้องโทษคนที่มีอำนาจในการตรวจสอบด้วย กกต.จะทำตัวลอยหน้าลอยตาโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ตนคิดว่าไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีและถ้ากกต.ทำแบบนี้คือการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบแล้ว จึงควรมีความรับผิดชอบเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และกก.บห.ในตอนนั้น ควรมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่นั้น ต้องไปดูข้อกฎหมายว่าเป็นไปได้หรือไม่ แต่ตนเข้าใจว่าข้อจำกัดของพรรคการเมืองในการตรวจสอบ โดยเฉพาะคนที่เข้ามาสมัคร หากผู้สมัครซ่อนเอาไว้ก็คงมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน แต่ตนยังอยากให้น้ำหนักไปที่ กกต. มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้มีส่วนไหนเข้าข่ายยุบพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่แน่ใจ เรื่องการร้องเรียนคงเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่พรรคก้าวไกลไม่อยากเอาเรื่องยุบพรรคมาใช้ เพราะโดยหลักการประชาธิปไตย การยุบพรรคการเมืองโดยใช้กฎหมายหรืออะไรต่างๆ มันอันตรายและ เลวร้ายด้วยซ้ำ สิ่งที่ควรทำคือให้ประชาชนตัดสิน ถ้าพรรคการเมืองไม่ได้รับความนิยม ประชาชนก็เป็นคนชี้ขาดอยู่แล้ว ถ้าเขา ไม่เลือกพรรคการเมืองนั้นก็หายไป
สภาเช็กบิลก้อนแรก-‘สิระ’คืน8.49ล.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความคืบหน้าการทวงเงินเดือนส.ส.และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของนายสิระ ว่า ล่าสุดสำนักการคลัง สภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของนายสิระที่ต้องจ่ายคืนให้สภาผู้แทนราษฎรเสร็จเรียบร้อยในหลายรายการแล้ว ได้แก่ 1.เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่ม(เงินเดือน) 2.เงินเดือนค่าตอบแทนผู้ช่วยส.ส. ของนายสิระ 7 คน 3.ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ชุดต่างๆ 4.ค่ารักษาพยาบาล ตั้งแต่เดือนมี.ค.2562 ถึงวันที่ 22 ธ.ค.2564 รวมเกือบ 3 ปี
พบว่ามีเงินที่นายสิระต้องจ่าคืนแก่สภาเบื้องต้น 8,490,000 บาท แต่ยังเหลือการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าเดินทางและการจัดสัมมนานอกสถานที่ของกมธ.ชุดต่างๆ ของนายสิระที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จ คาดว่าจะตรวจสอบเสร็จภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นสภาจะทำหนังสือแจ้งนายสิระอย่างเป็นทางการว่า ต้องคืนเงินให้กับสภาเป็นจำนวนเท่าใด
ปชป.ประเดิมหาสียงสงขลา
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่จ.สงขลา หาเสียงช่วย น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา เบอร์ 1 โดยประเดิมเวทีปราศัยย่อยที่ตลาดสดเทศบาลปาดังเบซาร์ ต.ปาดังเบซาร์ และมีการปราศรัยในเวลา 19.00 น. ซึ่งบรรยากาศตลอดการปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก มี ส.ส. และ อดีต ส.ส. ภาคใต้มาช่วยปราศัย เช่น นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ ซึ่งเป็น ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม รวมถึง พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีตส.ส.พัทลุง นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีชาวสะเดาและชาวปาดังเบซาร์ร่วมฟังปราศรัยเต็มพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ซึ่งคนที่มาฟังปราศรัยส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผู้หญิง
ขณะเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกต ว่า นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา เจ้าของพื้นที่เดิมที่พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ไม่ได้มาช่วยหาเสียง เนื่องจากติดภารกิจงานเข้าร่วมให้กำลังใจ นักสู้ทางการเมืองที่สนามแข่งรถมอโตคอร์ส เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ที่จัดโดยพรรคไทยภักดี
‘จุรินทร์’ชูหญิงแกร่งนั่งส.ส.
ในการปราศรัย นายจุรินทร์ได้ชูนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นผลงานเด่นของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำได้ไว ทำได้จริง และเน้นการค้าชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสองประเทศ ตลอดจนยกระดับการสัญจร และขนส่งสินค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอำเภอสะเดา พร้อมขอโอกาสให้ผู้สมัครหญิง เป็นตัวแทนคนสงขลาของพรรค ซึ่งเป็นคนในพื้นที่เข้าไปทำหน้าที่ในสภา เพื่อเชื่อมโยงการทำงานจากส่วนกลางมายังพื้นที่
นายจุรินทร์กล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 16 ม.ค.2565 ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีเสียงพอแล้ว แต่ประเด็นสำคัญ คือเป็นที่นั่งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายถาวร ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว แต่ต้องประสบอุบัติเหตุทางการเมือง จึงขอโอกาสให้ น.ส.สุภาพร หรือ น้องน้ำหอม ซึ่งเป็นหญิงแกร่ง มีศักยภาพที่จะให้เข้ามาทำหน้าที่ ส.ส.ในช่วงเวลาที่เหลืออีกปีกว่าก่อนจะหมดวาระรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันที่ 26 ธ.ค. นายจุรินทร์ และคณะจะเดินหาเสียงแต่เช้า ที่ตลาดบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ และไปพบปะมวลชนที่ร.ร.พะตงวิทยามูลนิธิ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเดินทางกลับในช่วงบ่าย
ตั้ง‘สาทิตย์-เดชอิศม์’คุมทัพ
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส. ชุมพร เขต 1 และสงขลา เขต 6 ว่า นาย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เตรียมการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ และแต่งตั้งนาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร และแต่งตั้ง นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ เป็น ผู้อำนวยการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา เพื่อให้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ยึดหลักรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และให้มีการสื่อสารนโยบายต่างๆ ของพรรคแก่ประชาชนได้รับทราบ อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งนายสาทิตย์ และนายเดชอิศม์ จะเป็นหลักในการบัญชาการการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่
“นายเฉลิมชัยยังได้แต่งตั้งผม ให้เป็น ผู้อำนวยการประสานงานส่วนกลาง เพื่อประสานการทำงานในเขตพื้นที่กับส่วนกลางทั้งในเรื่องกฎหมาย และการจัดบุคลากรร่วมรณรงค์หาเสียง และอำนวยการต่างๆ ในทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งทั้ง 2 เขตอย่างแน่นอน” นายราเมศกล่าว
‘เจ๊หน่อย’นำคาราวานบุกสงขลา
วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นายโภคิน พลกุล นายวิจักร อากัปกริยา นายศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน นายกัณวีร์ สืบแสง และ พ.ต.อ.ดร.วิชัย วิชยานฤพล ทีมไทยสร้างไทยสงขลา นำคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด ทักทายชาวสงขลา ในพื้นที่เศรษฐกิจ ย่านตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมเปิดสำนักงานพรรคไทยสร้างไทยจังหวัดสงขลา
พบ‘จะนะ’ – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เดินทางไปพบปะเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จ.สงขลา รับฟังปัญหาและพูดคุยถึงการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติท้องถิ่น ระหว่างยกคณะไปหาเสียงจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยมีเป้าหมายหลัก ที่จะทำให้ หาดใหญ่ สงขลา กลับมาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอีกครั้ง ตลาดกิมหยงจะไม่ใช่ตลาดร้างอีกต่อไป แต่ต้องเป็นศูนย์กลางในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการกลับคืนมา เพื่อให้คนตัวเล็กมีที่ทำมาหากิน และที่สำคัญสงขลาต้องเป็นศูนย์กลาง ในการแปรรูปยางพาราอย่างครบวงจร รวมถึงเป็นศูนย์กลางแปรรูปสินค้าเกษตรให้เกิดขึ้นจริง โดยมีเป้าหมายให้ทุกคน ลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด เข้มแข็งที่สุด ต้องการสร้างให้ทุกคนรวย เพื่อประเทศจะสามารถเก็บเงินภาษีได้มากขึ้น
“แม้พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคใหม่ แต่ไม่ใช่พรรคแตกแบงก์พันของใคร แต่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนทุกคน เป็นเจ้าของ มีส่วนร่วมและยืนอยู่บนหลักการประชาธิป ไตย ไม่เป็นที่เหยียบยืนของเผด็จการ จะเป็นพรรคที่ยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
รัฐมอบประกันอุบัติเหตุปีใหม่
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จัดมอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุปีใหม่อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยกรมธรรม์ฯ ดังกล่าวมีเงื่อนไขการทำสัญญาประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.2564 ถึง 25 ก.พ.2565 ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน เบี้ยประกันภัย 10 บาท
โดยมีข้อตกลงคุ้มครอง ดังนี้ 1.ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และหรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท 2.ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และหรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท
3.ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสาธารณะ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท และ 4.ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สูงสุดไม่เกิน 30 วัน 200 บาทต่อวัน โดยช่องทางการรับสิทธิ์และช่องทางการจำหน่าย ประชาชนสามารถรับสิทธิ์ตามเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการกำหนดหรือสามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสเซเว่นอีเลฟเว่น หรือธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
น.ส.รัชดากล่าวว่า สำนักงาน คปภ.ยังมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำนวน 10,000 ฉบับ ให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยสามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ www.พ.ร.บ.รุกทั่วไทย.com ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 ก.พ.2565 ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สายด่วนคปภ.1186
