เผยแผนชีวิตฆราวาส
ทำธุรกิจหลากหลาย
ลาสมณเพศ มหาสมปองพระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง สึกแล้ว ถอดจีวรที่วัดบางโพโอมาวาสเป็นนายสมปอง นครไธสง นุ่งชุดขาว ก่อนเก็บตัวเงียบ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ยืนยันสึกจริง ส่วนรายละเอียดรอให้มหาสมปองแถลง การสึกของ 2 พส. สมปอง-ไพรวัลย์ ถือเป็นการสูญเสียพระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ก็ได้คนดีเพิ่มขึ้นอีกสองคน ด้านทิดไพรวัลย์โพสต์ภาพคู่หลังร่วมเวทีบรรยายธรรมเป็นครั้งสุดท้ายที่เชียงใหม่ ย้ำไม่ว่าภูษาอาภรณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร จะถือครองเพศแบบไหน ยังคงเคารพและนับถือดั่งเคยเป็นมา ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งผู้ครองเรือน
ทิดสมปอง – พระมหาสมปอง ตาลปุตโต พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง ลาสิกขาแล้วกับเจ้าคณะเขตบางซื่อ ที่วัดบางโพโอมาวาส กทม. เมื่อเวลา 13.09 น. วันที่ 29 ธ.ค. โดยประกาศใช้ชื่อนายสมปอง นครไธสง มุ่งเป็นนักธุรกิจ
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่คณะ 6 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ว่ามีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าวการลาสิกขาของพระมหาสมปอง ตาลปุตโต พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง หลังจากที่พระมหาสมปองแจ้งว่าจะสึกในวันที่ 29 ธ.ค. เวลา 13.09 น. ที่วัดสระเกศฯ จึงคาดหมายว่าพระมหาสมปองจะสึกที่คณะ 6 วัดสระเกศฯ ซึ่งเป็นกุฏิของพระมหานภันต์ สันติภัทโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ที่ทั้งพระมหาสมปองและอดีตพระมหาไพรวัลย์นับถือ โดยอดีตพระมหาไพรวัลย์ ทำพิธีสึกที่กุฏิพระมหานภันต์เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา 13.09 น. กลับไม่พบว่าพระมหาสมปองเดินทางมาสึกที่วัดสระเกศฯ แต่อย่างใด กระทั่งเวลา 14.28 น. มีการเผยแพร่ภาพพระมหาสมปองสวมชุดขาวนั่งพนมมืออยู่หน้าพระสงฆ์ 2 รูป ภายในโบสถ์ของวัดแห่งหนึ่ง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ ทั้งมีการระบุข้อความว่า “พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ได้ลาสิกขา เป็นนายสมปอง นครไธสง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากประกาศฤกษ์สึกในวันที่ 29 ธ.ค. เวลา 13.09 น.” โดยไม่มีการระบุรายละเอียดการสึก สถานที่ วัด แต่อย่างใด
จากนั้นเวลา 15.00 น. พระมหานภันต์ สันติภัทโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ประธานกรรมการมูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (สกพ.) หรือ IBHAP Foundation ซึ่งร่วมงานกับพระมหาสมปอง ตาลปุตโต ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า พระมหาสมปอง พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทองสึกแล้วจริง แต่ในเรื่องรายละเอียดการสึกนั้นท่านมหาสมปองขอเปิดเผยในรายการโหนกระแสวันที่ 30 ธ.ค. และการแถลงข่าวช่วงเวลา 15.00 น. เท่านั้น
การที่ท่านมหาสมปองสึกไปนั้นถือว่าน่าเสียดายที่ต้องสูญเสียพระสงฆ์ที่มีความสามารถ และอยากให้คณะสงฆ์หาแนวทางสร้างพระสงฆ์แบบท่านมหาสมปองและท่านมหาไพรวัลย์ขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตามแม้เราจะสูญเสีย 2 พระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถไปคือท่านมหาสมปองและท่านมหาไพรวัลย์ แต่เราก็ได้คนดีๆ เพิ่มขึ้นมาอีก 2 คน
รายงานข่าวแจ้งว่าพระมหาสมปองลาสิกขากับเจ้าคณะเขตบางซื่อ ที่วัดบางโพ โอมาวาส เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ภายหลังลาสิกขานายสมปองเก็บตัวเงียบ ไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบ และแจ้งว่าจะพบผู้สื่อข่าวอีกครั้งในวันที่ 30 ธ.ค. หลังจากเดินทางไปออกรายการโหนกระแสแล้ว โดยวางแผนชีวิตทำธุรกิจหลายอย่าง
วันเดียวกัน ก่อนลาสิกขา พระมหาสมปอง และทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร ขึ้นเวทีบรรยายธรรมเป็นครั้งสุดท้ายร่วมกันที่ห้าง พรอมพาราดา อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีการจัดงานฤดูหนาวของเชียงใหม่ ก่อนเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ เพื่อลาสิกขา
ก่อนลาสิกขา พระมหาสมปองโพสต์ เฟซบุ๊ก “แม่ปอง” ซึ่งเปลี่ยนชื่อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ระบุว่า “ไม่กี่ชั่วโมงจะมีคนใส่เสื้อ ‘แม่ปอง’ และเสื้อท้องถิ่น ‘ไทยคอนสาร’ ชัยภูมิ ออกมาจากเงานี้” และยังโพสต์คลิปที่ถ่ายจากเครื่องบินบนท้องฟ้าแสดงให้เห็นเมฆที่ลอยอยู่พร้อมข้อความว่า “เมฆสวย ฟ้าใส ในวันลาสิกขา อีกมุมหนึ่งก็ใจหายเนาะ”
ด้านทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ภาพคู่ที่ถ่ายร่วมกันและข้อความ ภายหลังเข้าร่วมเวทีบรรยายธรรมร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายว่า “กราบนมัสการลาพระอาจารย์เป็นครั้งสุดท้ายนะครับ เราจะเจอกันใหม่อีกครั้งในอีกสถานะและบทบาทหนึ่ง แต่ไม่ว่าเครื่องภูษาอาภรณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร พระอาจารย์จะถือครองเพศแบบไหน ผมขอยืนยันจากหัวใจว่า ผมจะยังคงเคารพและนับถือพระอาจารย์ดั่งเคยเป็นมาเช่นนี้ตลอดไป ป.ล. สิ่งที่พระอาจารย์ตริตรองและตัดสินใจดีแล้วด้วยตัวของพระอาจารย์เองจะทำให้พระอาจารย์พบกับสิ่งที่เรียกว่าความสุขอย่างแท้จริงครับ ผมมั่นใจอย่างนั้น”
ภายหลังการลาสิกขาของพระมหาสมปอง ทิดไพรวัลย์โพสต์ว่า “สึกก่อนเป็นรุ่นพี่ สึกทีหลังเป็นรุ่นน้อง” และ “ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งผู้ครองเรือนครับผม”
