6คันซ้อน-ตาย 1 เจ็บ7
เปิดกิจกรรมของขวัญ
6ความสุขจากตำรวจ

สังเวยศพแรก 7 วันอันตรายปีใหม่ ชน 6 คันสนั่นถนนมิตรภาพ เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 7 ตร.มอบ 6 โครงการของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ใช้ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ สร้างสุภาพบุรุษจราจร เปิดช่องทางตรวจสอบประวัติอาชญากรรมออนไลน์ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในกทม.เพิ่ม 8,500 ตัว ‘บิ๊กตู่’ ประชุมก.ตร.ชมเปาะตำรวจเยี่ยมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ย้ำต้องเป็น ‘สมาร์ตโปลิศ’ คนแห่กลับบ้าน-ท่องเที่ยวทำถนนมิตรภาพสู่อีสานติดหนึบยาวหลาย สิบก.ม.

นายกฯ‘ชื่นชม-ภูมิใจ’ตร.ไทย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ครั้งที่ 13/2564 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนายกฯ เดินทางถึงเวลา 09.00 น. เข้าถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ที่ห้องโถง ชั้น 1 และเยี่ยมชมนิทรรศการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2565 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตร. ร่วมเปิดกิจกรรมพร้อมรับชมนิทรรศการของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน “มอบความสุขปลอดภัย ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2565” จากใจรัฐบาลและตร. ซึ่งในปีนี้ตร.มอบของขวัญปีใหม่ ทั้งการป้องกันอาชญากรรม Smart safety zone 4.0 ฝากบ้าน 4.0 CCTV ระวังภัยเฟส 2 การอำนวยความยุติธรรมคดีออนไลน์แจ้งความได้ทุกท้องที่ ส่วนการสืบสวน เน้นชุมชนยั่งยืนตรวจสอบประวัติออนไลน์ ใช้ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเปิดบ้านตำรวจ ให้ส่วนลดโรงแรมที่พักฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อโควิดฟรี ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยวปลอดภัย จัดสุภาพบุรุษจราจร แอพพลิเคชั่น ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว Tourist Police

นายกฯ กล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ใช้แอพพลิเคชั่นนี้ทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ก่อนแสดงความภาคภูมิใจ และพอใจในสิ่งที่ตร.สามารถดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลมาตลอด โดยการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจใช้เทคโนโลยี เข้ามาประกอบปฏิบัติ เพื่อให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก วันนี้อาชญากรรมมีหลายประเภทหลายวิธีการ แต่ได้เห็นความพร้อมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินการงาน จึงทำให้เกิดความภาคภูมิใจในฐานะที่กำกับดูแล พร้อมขอบคุณที่นำแนวนโยบายไปปฏิบัติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกกิจกรรมที่ทำนั้น ขอให้ทำเพื่อประชาชนให้มีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน คืองานที่จะต้องทำและปฏิบัติ เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ดังนั้นสิ่งที่ทำไว้วันนี้ทุกคนจะต้องทำงานด้วยความอดทน อดกลั้น เสียสละ และระมัดระวังตัวอย่างเข้มแข็ง ให้ตัวเองปลอดภัยไปด้วย สิ่งสำคัญวันนี้ มีแต่เพียงความภาคภูมิใจ มีแต่เกียรติยศที่จะให้กลับมา

ดังนั้นต้องรักษาเกียรติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเกียรติตำรวจในยุคใหม่ หรือสมาร์ตโปลิศ พร้อมกล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจไม่ได้มองเรื่องการบริการอย่างเดียว แต่มองถึงการปฏิบัติใช้เทคโนโลยีมาดำเนินการกับเหตุการณ์ปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวก เกิดความรวดเร็ว จับกุมดำเนินคดีได้รวดเร็ว พร้อมหลักฐานที่ดีปรากฏอยู่

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ทำงานให้สำเร็จอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตำรวจใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และเผชิญหน้ากับคนร้ายโดยตรง จึงต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก และขอให้ทุกคนปลอดภัย ขอบคุณการทำงานในช่วงที่ผ่านมาและตลอดช่วงปีใหม่ที่ทุกคนจะเหน็ดเหนื่อย

ส่วนตนเองจะขอความร่วมมือประชาชน ให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกเรื่อง ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ร่วมแก้ปัญหาทั้งอาชญากรรม ทั้งทางเทคโนโลยี ปัญหาจราจร และปัญหาอีกมากมายด้วยการเป็นหูเป็นตา ช่วยให้งานสำเร็จ ประเทศปลอดภัย เป็นที่เชื่อมั่นของชาวต่างประเทศที่กำลังเดินทางมาเยือนประเทศไทย

“ขอบคุณในการทำงาน เป็นของขวัญให้กับนายกฯ และนายกฯ ขอมอบให้กับประชาชนเพื่อให้ทุกคนภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของตร. และตร.ทุกคนที่จะต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกเรื่อง ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและตรวจสอบได้” นายกฯ กล่าว

ของขวัญ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เปิดกิจกรรมของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนของตำรวจ โดยมีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ท่องเที่ยว อธิบายรายละเอียด เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.

ตร.มอบของขวัญ 6 โครงการ

ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมของขวัญปีใหม่ สำหรับประชาชน มอบความสุขปลอดภัย ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2565” ประกอบด้วย 6 โครงการที่จะมอบเป็นของขวัญแก่พี่น้องประชาชน และข้าราชการตำรวจ ประกอบด้วย(1) ด้านป้องกันอาชญากรรม ได้แก่ 1.โครงการ Smart Safety Zone 4.0 เป็นโครงการยกระดับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ โดยผสมผสานทฤษฎีและแนวคิดในเรื่องการป้องกันอาชญากรรม และอาชญาวิทยา มีการนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. 2564) มีสถานีตำรวจในเขตพื้นที่กรุงเทพ มหานคร และจังหวัดนำร่องในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1-9 รวม 15 สถานีทั่วประเทศ สำหรับในปี 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะขยายการดำเนินโครงการไปยังทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ

(2)โครงการฝากบ้าน 4.0 เป็นโครงการที่พัฒนามาจากโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่เป็นที่ยอมรับจากประชาชน โดยนำเทคโนโลยีระบบ คลาวด์กลางของภาครัฐ ในการเก็บข้อมูล ประมวลผล และนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน ผ่านทางแอพพลิเคชั่น OBS ที่มีการใช้ระบบ QR Code ในระบบการตรวจสอบ การควบคุมการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชา และส่งผลให้ประชาชนเจ้าของบ้านโดยทันที

(3) โครงการ CCTV ระวังภัย ระยะที่ 2 เป็นโครงการที่สืบเนื่องจากความสําเร็จในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในระยะที่ 1 ในเขตกทม. ซึ่งประสบความสำเร็จ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ในปี 2565 มีการขยายเขตพื้นที่ในการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่กทม.อีก 8,500 ตัว และในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 อีก 5,000 ตัว

2. ด้านการสืบสวน ได้แก่ (1) โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร โดยเฉพาะเรื่องการบำบัดรักษา ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งให้ถือว่า ผู้เสพ คือ “ผู้ป่วย”

ทั้งนี้ในปี 2564 มีการดำเนินงานในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 รวมทั้งสิ้น 1,483 หมู่บ้าน/ชุมชน ในห้วงระยะเวลา 3 เดือน

(2)โครงการตรวจสอบประวัติอาชญา กรรมออนไลน์ จัดทำขึ้นโดยกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ทว.) ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ ทั้งนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผ่านระบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.crd-check.com พร้อมระบุสถานที่ติดต่อขอรับผลการตรวจสอบ ได้ที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร ศูนย์พิสูจน์หลักฐานจังหวัดทั่วประเทศ

3. ด้านการท่องเที่ยวปลอดภัย ได้แก่ (1) โครงการสุภาพบุรุษจราจร เพื่อสร้างตำรวจจราจรต้นแบบ ที่มีความเป็นสุภาพบุรุษจราจร เป็นที่รักของประชาชน สร้างความเชื่อมั่นศรัทธา ตามหลัก 5 s คือ smile smart salute service mind standard

ศพแรก – ปิกอัพอีซูซุเสียหลักปีนข้ามเกาะกลางถนนมิตรภาพ ก.ม.114-115 อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พุ่งชนรถเก๋งฮอนด้ากระเด็นไปชนรถเก๋งและรถปิกอัพอีกรวม 6 คัน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย นับเป็นศพแรก 7 วันอันตรายปีใหม่ และบาดเจ็บ 7 ราย เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.

โคราชสังเวยศพแรก

เวลา 07.40 น. ร้อยเวรสอบสวน สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันที่บริเวณถนนมิตรภาพ ไร่โคกสูง-โคกกรวด ช่วงก.ม.114-115 ม.8 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน ฝั่งมุ่งหน้าจ.สระบุรี จึงประสานกู้ ชีพร.พ.สูงเนิน และกู้ภัยมูลนิธิสว่างแสงธรรม ร่วมตรวจสอบ

ในจุดเกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน 2032 ระยอง ซึ่งจะขับมุ่งหน้าเข้า จ.นครราชสีมา ปีนข้ามเกาะกลางถนน มาชนเข้ากับด้านหน้ารถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน กร 9249 นครราชสีมา จนกระเด็นไปตกอยู่ร่องกลางถนน ภายในรถมี ผู้เสียชีวิต 1 ราย

นอกจากนี้ยังพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน ผว 7434 นครราชสีมา ถูกชนท้ายอย่างแรง จนรถพลิกคว่ำหงายท้องอยู่กลางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และยังมีรถยนต์ที่ถูกเฉี่ยวชนอีก 3 คันได้แก่ รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน ผฉ 3988 นครปฐม, รถยนต์กระบะฟอร์ด สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก-2369 และรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน 2 ขณ 4705 กรุงเทพมหานคร มีทรัพย์สินข้าวของภายในรถแต่ละคันกระจายเกลื่อนเต็มถนน และมีทรัพย์สินของกรมทางหลวงที่ได้รับความเสียหาย เป็นป้ายบอกจุดกลับรถ 1 ต้น และต้นลีลาวดี 1 ต้น

จากตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นทางตรง 8 ช่องจราจร รถที่ประสบเหตุกีดขวางการจราจร 2 ช่องจราจรในช่องทางหลัก และ 1 ช่องจราจรในช่องทางคู่ขนาน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนางตรีชฎา เร่งพัฒนพิบูล อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 663/71 ม.1 ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคนขับรถยนต์เก๋งคันที่ถูกกระบะเสียหลักปีนข้ามเกาะกลางถนนมาเฉี่ยวชนคันแรก และผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 4 ราย แยกเป็นผู้ป่วยสีเหลืองอาการค่อนข้างรุนแรง 4 ราย และสีเขียวบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย

ทางมูลนิธิสว่างแสงธรรมนำผู้บาดเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตส่งร.พ.สูงเนินแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ตรวจสอบร่องรอยในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมตรวจกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง และเรียกสอบปากคำคนขับ ผู้บาดเจ็บ และพยานที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ส่งท้ายปี

กวดขัน – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมการรักษา ความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.

มอเตอร์เวย์ปากช่องขึ้นฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถ.มิตรภาพขาขึ้นภาคอีสาน ประชาชนที่เดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ ต่างพากันกลัวรถจะมาก แห่กลับก่อนจนทำให้ปริมาณรถเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรติดยาวตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ช่วงตลาดกลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก.ม.37 ขึ้นมอกลางดงมาแล้ว ถึงก.ม. 52 หน้าฟาร์มโชคชัย ต.กลางดง อ.ปากช่อง ปริมาณรถมาก วิ่งเต็ม 4 ช่องทาง รวมทั้งฟุตปาธ รถวิ่งไปได้เรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง เพราะช่วงนี้มีปั๊มน้ำมันหรือสถานบริการหลายปั๊ม

ทำให้ประชาชนที่เดินทางกลับต้องการเข้าห้องน้ำ รับประทานอาหาร เมื่อยล้าต้องการพักผ่อน ทำให้รถชะลอตัว ซึ่งก็มีตำรวจภูธรกลางดง และตำรวจทางหลวงนครราชสีมา คอยดูแลอำนวยความสะดวก คาดว่าวันนี้ทั้งวันจะมีประชาชนเดินทางกลับกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตำรวจทางหลวงเตรียมพร้อมเปิดช่องทางพิเศษ วิ่งย้อนศรเพิ่มขึ้นอีก 1 ช่องทาง หากมีรถมากและติดขัด ขณะที่ปริมาณรถขาล่องที่วิ่งเข้ากรุงเทพฯ รถน้อย

พ.ต.ท.จิรพันธ์ มณีรัตน์ สว.ส.ทล.1 กก.6 (นครราชสีมา) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง นำรถวิทยุตรวจการออกอำนวยความสะดวก และบริการประชาชน ร่วมกับอาสาจราจรทางหลวง จัดการจราจรจุดก่อสร้างสะพานกลับรถ ทล.2 มิตรภาพ ก.ม.37 ช่วงกลางดงโดย โดยปฏิบัติตามนโยบาย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มลังกาศ ผบก.ทล.ส่วนรถบรรทุกขนาดใหญ่ให้หยุดวิ่งตั้งแต่วันนี้จนกว่าหลังวันที่ 4 ม.ค. 2565 ยกเว้นรถที่ขนส่งสินค้าที่จำเป็น เช่นพืชผักผลไม้ อาหารทะเล และน้ำมันเชื้อเพลิง นับจากวันนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. ปริมาณรถบนถนนมิตรภาพน่าจะเพิ่มจำนวนมากต้องดูในช่วงเย็นวันนี้

ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ตำรวจทางหลวงเปิดช่องการจราจรพิเศษ ตั้งแต่ก.ม.36 มาออก ก.ม.43 และเปิดช่วงก.ม.47 มาออกที่ก.ม.51 เพื่อระบายรถ ซึ่งถ.มอเตอร์เวย์ ปากช่อง-สีคิ้ว ช่วงก.ม.56 เปิดให้ใช้ฟรีตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันเดียวกันนี้ ส่วนการจราจรช่วงเย็นน่าจะเพิ่มปริมาณมากกว่านี้

ขอนแก่นเข้มผู้โดยสาร

วันที่ 29 ธ.ค. สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ตั้งแต่อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา ต่อเข้าสู่ อ.พล จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องไปยัง จ.อุดรธานี ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณรถมาก หลังจากที่ประชาชนเริ่มเดินทางกลับมาฉลองปีใหม่กับครอบครัว โดยกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เตรียมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกกับประชาชน ที่เดินทางตลอดทั้งวัน

ส่วนที่ท่ากาศยานนานาชาติขอนแก่น มีผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกจำนวนมาก มีการตรวจเข้มมาตรการกับผู้โดยสารขาเข้าและขาออก โดยต้องผ่านเครื่องสแกนอุณหภูมิ พร้อมกับการสแกน QR CODE ทุกคน ซึ่งท่าอากาศยานนานานชาติขอนแก่น เปิดใช้อาคารใหม่อย่างเต็มรูปแบบเพื่อรองรับผู้โดยสาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน