100นายลงพื้นที่กดดัน
บิ๊กบี้สั่งมทภ.4สอบด่วน
พท.ฮึ่มตัดงบซื้อเอฟ35

ปชป.แฉทหารกว่า 100 นาย ลงพื้นที่เลือกตั้งซ่อมชุมพร กดดันพรรคหาเสียง ยันมีหลักฐาน โวยอย่าใช้อำนาจรัฐเอื้อพรรคใดพรรคหนึ่ง ‘บิ๊กบี้’ สั่งแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบด่วน ยันถ้าผิดต้องลงโทษ ทั้งทางวินัยและกฎหมาย สภาเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายลูก 5 ฉบับ ฝ่ายค้านขู่ตัดงบ ทอ.เตรียมซื้อบินรบเอฟ-35 เย้ย ‘ตู่-ป้อม’ แข่งกันตีปี๊บผลงาน สร้างดาวคนละดวง ชี้โอกาสสูงเลือกตั้งปีนี้ ชาติพัฒนารับองค์ประชุมกระทบเสถียรภาพรัฐบาล ‘เพชร กรุณพล’ ลุยหาเสียงซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 ‘สรัลรัศมิ์’อ้อน เลือกเมียได้ ‘สิระ’ คืน

ขอพร – ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนชาว จ.ตรัง เข้าขอพรปีใหม่จากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่บ้านพักถนนวิเศษกุล อ.เมือง จ.ตรัง โดยมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

ปชป.โวกระแสซ่อม 2 เขตใต้ดี

วันที่ 1 ม.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา ว่า สถานการณ์ขณะนี้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั้งสองเขตของพรรค ได้ลุยหาเสียงกันอย่างเต็มที่ ซึ่งกระแสตอบรับทั้งในเรื่องตัวบุคคล นายอิสระพงษ์ มากอำไพ ที่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมที่เขต 1 ชุมพร เป็นคนรุ่นใหม่ที่กระแสตอบรับดีมาก ที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในการเมือง ที่สำคัญได้ผ่านงานการเมืองที่ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด สามารถทำงานได้ทันที

ส่วนเขต 6 สงขลา น.ส.สุภาพร กำเนิดผล เป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่มีบทบาทด้านสตรีทำงานให้กับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดเช่นกัน ที่สำคัญนโยบายพรรคที่ประชาชนพึงพอใจและได้รับประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันรายได้ ยางพาราและสินค้าเกษตรอื่น รวมทั้งราคาปาล์มที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งประชาชนก็ตอบรับเป็นอย่างดี

โวยทหารนับ 100 เข้าพื้นที่ผิดปกติ

นายราเมศกล่าวว่า มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่ต้องเรียกร้องไปยัง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ให้ตรวจสอบกรณีชุดทหารกว่า 100 นาย นอกพื้นที่เข้าไปยังพื้นที่ เขต 1 ชุมพร ซึ่งมีความผิดปกติและมีลักษณะของการกดดันการรณรงค์หาเสียงของพรรค โดยเฉพาะ “เสธ. ต” ที่คนในพื้นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก จึงเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.เร่งตรวจสอบ หากมีการกระทำเช่นนั้นจริงต้องสั่งการให้ชุดทหารถอยออกไป เข้ากรม เข้ากอง อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม

“การวางตัวเป็นกลางถือว่าสำคัญที่สุด หากใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง แน่นอนไม่ใช่การเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผมไม่อยากให้มีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้พรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้เก็บหลักฐานไว้บางส่วนแล้ว วันหนึ่งคิดว่าหลักฐานต่างๆ เหล่านี้จะได้ใช้ประโยชน์เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และยุติธรรมต่อไป” นายราเมศกล่าว

ผบ.ทบ.สั่งสอบด่วน

ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกทบ. กล่าวว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์รับทราบแล้ว และได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลและรายงานให้ทบ.ทราบโดยด่วน อย่างไรก็ตาม หากมีส่วนใดที่ไม่ดำเนินตามนโยบาย ต้องได้รับการพิจารณาและรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำ ทั้งเรื่องวินัยทหารและกฎหมายบ้านเมือง

พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าวว่า ขอเรียนว่า ทบ.ในฐานะกลไกหนึ่งของรัฐ มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเมืองและดำเนินการตามเจตนารมณ์มาโดยตลอดคือ การวางตัวเป็น กลางทางการเมืองในทุกการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้กำลังพล ครอบครัวและประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยทุกการเลือกตั้งที่ทางภาครัฐกำหนด และสนับสนุน กกต.ทุกระดับเมื่อได้รับการร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติของทบ.ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง พ.ศ.2562 ที่กำหนดให้หน่วยทหาร กำลังพล ยึดถือปฏิบัติในทุกการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการวางตนเป็นกลางไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองใดๆ

หากมีข้อมูลว่ากำลังพลมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทางการเมือง สามารถแจ้ง ผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ทบ.ส่วนกลาง หรือใช้กลไกกฎหมายบ้านเมืองดำเนินการได้ โดยขอให้การแจ้งพฤติกรรมดังกล่าวบนข้อมูลพยานหลักฐาน มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ทัศนคติหรือความกังวลใจส่วนบุคคลส่งผลต่อภาพพจน์ขององค์กร

‘เพชร’หาเสียงต่อเนื่อง

วันเดียวกัน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร ยกเว้นเเขวงจตุจักรและแขวงจอมพล) พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พบประชาชนและร่วมไหว้พระขอพรในวันขึ้นปีใหม่ที่วัดเสมียนนารี ก่อนไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาว โดยมีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายวรวรรษ์ รักวงษ์ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 พรรคก้าวไกล ร่วมลงพื้นที่ด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ประชาชนที่ออกมาทำบุญในเช้าวันปีใหม่ตอบรับ ร่วม ถ่ายรูปล้นหลาม นายกรุณพลยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่า หากได้เข้าไปเป็นผู้แทนจะไม่มีทางทรยศประชาชนอย่างเด็ดขาด

“ผมพยายามลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ต้องการให้ประชาชนรู้จักและรับรู้ถึงนโยบายพรรค การแก้ป้ญหาของเรา ผมเริ่มเดินตั้งแต่ 7 โมง จนถึง 3 ทุ่ม ทุกวัน โดยใช้นโยบายพรรค ที่เราไม่ทิ้งพื้นที่และจะนำปัญหาพื้นที่ยกสู่ปัญหาระดับชาติ หรือปัญหาเชิงโครงสร้าง การแก้ปัญหาในพื้นที่ให้จบๆ ไปในแต่ละวัน สุดท้ายนานไปปัญหาก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเห็ดโดนน้ำ แต่ถ้าเราแก้ปัญหาในเชิงระบบได้ตั้งแต่ต้น ตั้งกฎกติกา หาผู้รับผิดชอบ ปัญหาจะถูกแก้อย่างยั่งยืน” นายกรุณพลกล่าว

เมียสิระมั่นใจได้นั่งสส.

นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่พบประชาชนและร่วมตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ที่ชุมชนประดิษฐ์โทรการ ซอยพหลโยธิน 47 พร้อมพูดคุยรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน

นางสรัลรัศมิ์กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี อยากให้เข้ามาสานงานต่อจากที่เคยดูแลพวกเขาไว้ ตนพูดคุยกับประชาชนมาตลอด 3 ปี ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ต่อเนื่อง วันนี้พี่น้องในพื้นที่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าคิดถึง ส.ส.สิระ อยากให้ทำหน้าที่ต่อไป เพราะอยู่ที่นี่มาเกือบ 20 ปี ไม่เคยมีใครจริงใจและช่วยเหลือดูแลชาวบ้านโดยไม่เคยปฏิเสธเหมือนส.ส.ที่ชื่อสิระ เพราะฉะนั้น มั่นใจว่าจะได้รับโอกาสจากพี่น้องเข้ามาทำงานต่อแน่นอน เพราะเลือกสรัลรัศมิ์ก็เหมือนได้สิระคืนมา

ชัชชาติวิ่งดูปัญหากทม.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทำกิจกรรมวิ่งไหว้พระ 9 วัดในกทม. เป็นระยะทาง 12.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ 2565 โดยถือโอกาสดูเมือง เส้นทางท่องเที่ยว ทางเดินเท้า ถนน บริเวณรอบเมืองชั้นใน โดยกล่าวว่า เข้ามาในกทม.ชั้นในได้เห็นปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องถนน ฟุตปาธ คนไร้บ้าน ซึ่งในเขตพระนครมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก และปีนี้เศรษฐกิจจะลำบากเพราะนักท่องเที่ยว ต่างชาติยังไม่กลับมา เรามีแหล่งวัฒนธรรมที่มีคุณค่าในกทม. จะทำอย่างไรให้คนในประเทศท่องเที่ยวกันมากขึ้น

การมาวิ่งได้พบปัญหาเรื่องฟุตปาธไม่เรียบ และมีกันสาดเกะกะ กับทางข้ามที่ยังไม่ชัดเจน ต้องวัดใจ และเรื่องสวนสาธารณะยังไม่มากพอ กทม.ขาดพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพ ซึ่งควรกระจายอยู่ทุกแขวงทุกเขต

พท.เล็งเปิดเขียงกุมภาฯ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ปี 65 จะเป็นปีแห่งวิบากกรรมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จากปัญหาที่สะสมมาตลอดระยะเวลาหลายปีตั้งแต่เป็นนายกฯ ทั้งเรื่อง โควิด-19 และเศรษฐกิจที่ยังแก้ไม่ได้ ส่วนงานในสภา เราได้ทำเต็มที่ในการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นภายใน ม.ค.นี้ เพื่อเริ่มอภิปราย ก.พ. ส่วนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 จะเตรียมความพร้อมไว้เมื่อเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง ก็สามารถยื่นได้ทันที พท.มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว

“เชื่อว่าเขาอยู่ไม่ครบ 4 ปี ทั้งรัฐบาลและสภา แต่เขาพยายามลากด้วยเหตุผลการแก้ปัญหาที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ องคาพยพอย่างพรรคหลักไม่มีความเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายสำคัญที่คอยอยู่ คือ พ.ร.บ.เงินกู้ และพ.ร.บ.งบประมาณ ที่ทำให้รัฐบาลต้องแจกกล้วยตลอดเพื่อเข็นแต่ละฉบับ จึงมองว่าเป็นวิบากกรรมอีกปีและจะเป็นปีสุดท้ายด้วย ซึ่งเราไม่ยอมเพราะไม่อยากให้รัฐบาลนี้เป็นต่อ

ฟันธงเลือกตั้งใหม่ปีนี้

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวกรณีรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่างตีปี๊บผลงานพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.พร้อมๆ กันในช่วงนี้ว่า หลังจากนี้ไปจะเข้าสู่โหมดครึ่งหลังอายุรัฐบาลและสภา มุ่งหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง

ดังนั้น ท่าทีที่ออกมาโอ้อวดผลงานของทั้งคู่ คงหวังสร้างคะแนนนิยมเพื่อมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง แต่แปลกที่ต่างฝ่ายต่างทำผลงานแข่งกันเอง ต่างพูดอวดอ้างผลงานของตัวเองพร้อมๆ กันแบบนี้ ตั้งข้อสังเกตได้ว่าการทำงานของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรไม่เหมือนในปีที่แล้ว กลายเป็นต่างฝ่ายต่างช่วงชิงผลงานกันเอง แบ่งแยกของใครของมัน น่าคิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังเป็นเอกภาพจริงหรือไม่ หรือกำลังสร้างดาวคนละดวง

สภาพที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกันเช่นนี้ เป็นไปได้สูงสุดที่การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้นในปี 65 โดยมีเงื่อนไขทั้งจากการอยู่มานานของรัฐบาล ผลงานไม่มี ขณะที่ความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องยังสาหัส โควิดยังแพร่ระบาด อายุบริหารราชการรวม 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ครบปีนี้ การจัดทำงบปี 66 รวมทั้งการกู้เงินซึ่งจะเกิดขึ้นในปีนี้ ปัญหาหลายอย่างประเดประดัง เชื่อว่าเมื่อการจัดทำกฎหมายเลือกตั้งซึ่งจะเสร็จปีนี้ กติกาเสร็จ ปี่กลองก็จะดังขึ้น ทุกพรรครวมทั้ง พท.พร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

ซัดทอ.ซื้อบินขับไล่

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พท. รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวกรณี ทอ.เตรียมพิจารณาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ 35 มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ในภาวะที่ประเทศประสบปัญหามากมาย มีค่าใช้จ่ายเยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหาโควิดที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ความจำเป็นในการใช้จ่ายในด้านอื่นๆ มีมากกว่าที่จะให้ ทอ.มาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบนี้ ผบ.ทอ.ต้องเข้าใจสถานการณ์ทางสังคมด้วย หากอยู่ในสภาวะปกติประชาชนคงติติงน้อยกว่านี้ หาก ทอ.เสนอโครงการจัดซื้อผ่านเข้ามาในปีงบประมาณ 2566 เมื่อเรื่องเข้าสู่สภา รับรองว่าโดนตัดออกแน่นอน

“ทอ.ต้องกลับไปสรุปตัวเองใหม่ก่อน ต้องรู้จักจัดลำดับความสำคัญด้วย คิดได้อย่างไรจะจัดซื้อเครื่องบินด้วยงบประมาณมหาศาลขนาดนี้ รับรองว่าทัวร์ลงแน่นอน ที่สำคัญเครื่องบินขับไล่ใช้แก้โควิด-19 ไม่ได้” นายสมคิดกล่าว

ชพน.รับเสถียรภาพรบ.มีปัญหา

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 65 ว่า เสถียรภาพของรัฐบาลเป็นส่วนสำคัญว่าจะแก้ไขปัญหาประเทศสำเร็จหรือไม่ ยกตัวอย่างกรณีองค์ประชุมไม่ครบทำให้ขาดเวทีระดมสมอง ประเทศประสบวิกฤตโควิดและวิกฤตเศรษฐกิจ ประชาชนคาดหวังเวทีสภาแต่ พอองค์ประชุมไม่ครบย่อมกระทบความเชื่อมั่นว่ากลไกสภาที่จะช่วยเหลือพวกเขาไม่เอื้อต่อการทำงาน เรื่ององค์ประชุมจึงเป็นส่วนที่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล

“เสถียรภาพรัฐบาลสำคัญมาก เราต้องการความเข้มแข็งและเสียงที่เพียงพอเพื่อต่อสู้กับปัญหาต่างๆ รัฐบาลที่มีเสถียรภาพควรมี ส.ส.300 คน หากเป็นเช่นนี้องค์ประชุมจะไม่เป็นปัญหา และจะนำพาไปสู่ความเชื่อมั่นของประชาชน แต่ขณะนี้รัฐบาลมี 200 กว่าเสียงจึงมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ทำให้กระทบการทำงาน เราต้องถอดบทเรียนนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าเราต้องมีตัวเลขที่เหมาะสม ให้เกิดเสถียรภาพที่เพียงพอ” นายสุวัจน์กล่าว

เลี่ยงตอบปมตู่นั่งนายกฯ 8 ปี

เมื่อถามถึงการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ยังไม่ทราบว่าการตีความเป็นอย่างไร แต่วันนี้ทุกคนเตรียมพร้อมเลือกตั้งอยู่แล้ว แม้ว่าไม่รู้ว่าเมื่อไรก็ตาม เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ เสี่ยงเกิดอุบัติทางการเมืองใ นายสุวัจน์กล่าวว่า การเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการตีความ

เมื่อถามว่า ถึงเวลาเปลี่ยนผู้นำประเทศแล้วหรือไม่ เพราะให้เวลาแก้ปัญหามานานแล้ว นายสุวัจน์กล่าวว่า ทุกประเทศทั่วโลกมีปัญหาเหมือนกันหมด ไม่ใช่โควิดเกิดที่ไทยที่เดียว แต่เกิดขึ้นทุกประเทศ ดังนั้น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย ให้ประชาชนตัดสินใจ เมื่อถามว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เองหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดอะไรเรื่องนี้ เพราะชพน.ให้ความสำคัญเรื่องการทำนโยบาย

สภารับฟังกม.ใช้เลือกตั้ง 5 ฉบับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่าง พ.ร.ป.ที่ใช้ในการเลือกตั้ง คือร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ… และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ… ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานฯ หลังจากมี ส.ส.จากพรรคต่างๆ เข้าชื่อเสนอ โดยเปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ 27 ธ.ค. 64 รวม 5 ฉบับ

สำหรับ ร่างพ.ร.ป.ทั้ง 5 ฉบับนั้น ประกอบด้วย 1.ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ… เสนอโดยนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และคณะ เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ 29 ธ.ค. 64, 2.ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… เสนอโดยนายวิเชียร และคณะ ตั้งแต่ 29 ธ.ค. 64, 3.ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เสนอโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า พท. พร้อมคณะ ตั้งแต่ 28 ธ.ค. 64, 4.ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เสนอโดยนพ.ชลน่านตั้งแต่ 28 ธ.ค. 64

ทั้ง 4 ฉบับดังกล่าวยังไม่มีผู้ใดเข้าไปแสดงความคิดเห็น และ 5.ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เสนอโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และคณะ ตั้งแต่ 27 ธ.ค. 64 มีผู้แสดงความเห็น 1 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบการรับฟังความเห็นในส่วนของพรรคก้าวไกล

ปช.เลิกยุบพรรคจากเหตุถูกครอบงำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพ.ร.ป. พรรคการเมือง ที่เสนอโดย พ.ต.อ.ทวี สาระที่เสนอแก้ไข อาทิ ตัดอำนาจสมาชิกพรรคมีส่วนร่วมต่อการพิจารณาข้อบังคับพรรคที่เกี่ยวกับรายได้ อัตราค่าธรรมเนียม และค่าบำรุงพรรค, แก้ไขการชำระค่าสมาชิกให้จ่ายแบบครั้งเดียว ขั้นต่ำ 50 บาท พร้อมยกเลิกการสิ้นสุดสมาชิกพรรค เมื่อไม่ชำระค่าบำรุงพรรคติดต่อกัน 2 ปี, ยกเลิกข้อกำหนดให้พรรคเขียนข้อบังคับห้ามบุคคลที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคมีบทบาทควบคุม ครอบงำ ชี้นำ พรรคการเมือง หรือทำให้พรรคขาดความเป็นอิสระไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

ขณะที่ประเด็นการส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้สิทธิ กก.บห.พรรค และคณะกรรมการ คัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดำเนินการผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่สาขาพรรค พร้อมตัดเงื่อนไขการส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ต้องคำนึงถึงความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง การมาจากภูมิภาคต่างๆ และยกเลิกระบบไพรมารี่โหวต ยกเลิกเหตุของการยุบพรรคที่ยินยอมหรือให้บุคคลอื่นไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้าควบคุม ครองงำ หรือชี้นำในกิจกรรมของพรรค

รัฐบาลยันปี 65 พลิกโฉมปท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ขอให้ชาวไทยเชื่อมั่นการบริหารราชการของ พล.อ. ประยุทธ์ รัฐบาลพร้อมทำงานอย่างหนัก ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ได้ดำเนินมาตลอดปี 2564 ควบคู่ไปกับมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ

“รัฐบาลตั้งใจพลิกโฉมประเทศไทย เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมสู่อนาคต มั่นใจว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจ และกำลังใจจากประชาชนทุกคน ประเทศไทยจะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ขอให้ประชาชนชาวไทยสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีความสุข และสร้างความสมดุลระหว่างการอยู่ร่วมกับโควิดและดูแลตัวอย่างเคร่งครัดแบบครอบจักรวาล และขอให้มีความสุขสมหวังทุกประการในปี 2565”

ธรรมนัสลั่นไม่ท้อการเมือง

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงที่ผ่านมาเจอปัญหาหลายอย่างทำให้ท้อแท้บ้างหรือไม่ว่า ชีวิตตนไม่เคยท้อ ปัญหาเจอมามากมายแต่ไม่ท้อ บางครั้งรู้สึกว่าอุตส่าห์ทำดีเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนแล้วทำไมเกิดปัญหาในแต่ละเรื่อง ไม่ได้ท้อแต่รู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่า ก็ต้องปรับปรุงตัวเอง การเป็นนักการเมืองบางครั้งตรงมากเกินไปก็เป็นภัยกับตัวเอง แต่เปลี่ยนคาแร็กเตอร์ไม่ได้เพราะเป็นคนแบบนี้ แต่จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับคนที่เห็นต่าง ตนเป็นรัฐมนตรีมา 3 ปี งบประมาณแผ่นดินแม้แต่สลึงเดียวไม่เคยแตะ ไม่เคยเอาเข้ากระเป๋า เอาลงสู่ประชาชนทั้งหมด

“ยอมรับว่าก่อนจะมาอยู่พรรคพลังประชารัฐเราคือเพื่อไทยและต้องมาอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ซึ่งพูดไม่ได้ เมื่อมาแล้วก็ไม่ได้ต้องการสมัคร ส.ส.แต่ต้องการอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนดูแล 17 จังหวัดภาคเหนือ เช่น เขต 1 พะเยา เดิมตั้งใจที่จะให้น้องชายที่เป็นนายกอบจ.ลงสมัคร แต่ไม่กี่วันก่อนจะถึงวันสมัครเขาเกิดไม่สบายหนัก ตนถึงต้องเป็นตัวจริงออกมาเล่นเอง ทั้งที่รู้อนาคตตัวเองดีว่าต้องเจออะไรบ้าง ตนไม่มีทางเลือก และเมื่อเลือกเดินทางนี้แล้วก็ต้องสู้ ต้องกล้าเผชิญหน้า” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ก้าวหน้าชู 3 ภารกิจปี 65

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงภารกิจคณะก้าวหน้าในปี 2565 ว่า มี 3 ภารกิจใหญ่ๆ คือ 1.เรื่องท้องถิ่น จะสนับสนุนผู้สมัครชิงนายกเมืองพัทยา ส่วนระดับเทศบาลและอบต.ที่มีผู้บริหารที่เราสนับสนุนก็จะเข้าไปช่วยให้คำปรึกษา แนวทางการทำนโยบายต่างๆ และจะจัดงานซิมโพเซียมโชว์ โดยนำนโยบายท้องถิ่นดีๆ ในหลากหลายที่มาโชว์ การรณรงค์เรื่องนี้เพื่อเปลี่ยนความคิดคนให้เห็นว่า เราสามารถมีความหวังกับการเมืองในระดับท้องถิ่นได้ และเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนได้

2.เรื่องการรณรงค์ทางความคิด จะเดินหน้าคอมมอน สคูล ซึ่งมีทั้งโครงการยืมหนังสือฟรี การทำค่ายเยาวชน Awaken Land การบรรยายในตลาดวิชาอนาคตใหม่ และจะทำ อคาเดมีสำหรับนักการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เพื่อคัดเลือกผู้สมัครและหลอมรวมคนที่คิดแบบเดียวกัน มีการฝึกอภิปรายในสภาและความรู้พื้นฐานในทางการเมือง หวังว่าอคาเดมีนี้จะคู่ขนานไปกับสารพัดหลักสูตรของภาครัฐ ที่สร้างขึ้นโดยใช้งบแผ่นดิน ฝันไกลที่สุดคือผมอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมืองเพิ่มมากขึ้น

3.เรื่องการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 คณะก้าวหน้าเข้าไปสนับสนุนคณะราษฎรยกเลิก 112 ด้วยการรับภารกิจเรื่องเว็บไซต์ การเข้าชื่อทางออนไลน์ เราจะช่วยเก็บชื่อออนไลน์ต่อ ส่วนการปฏิรูปสถาบันตนจะเข้าไปขับเคลื่อนความคิดมากยิ่งขึ้น โดยจะหาวิธีการสื่อสารแบบใหม่ เช่น เว็บไซต์ที่กำลังทำอยู่ ต่อไปมันจะเป็นคลังข้อมูลเรื่องการปฏิรูปสถาบันในประเทศไทย เราจะสื่อสารการปฏิรูปสถาบันในรูปแบบที่น่ารักสดใสมากยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน