ปชป.ยืนยันมีจริง
วิษณุ’ชี้การเมือง
ตื่นเต้นเดือนพค.
ฝ่ายค้านให้จับตา
รบ.ใช้งบหาเสียง
แม่ทัพภาค 4 อ้าง ตรวจสอบแล้ว ไม่มีทหารกดดันเลือกตั้งซ่อมชุมพรยันสั่งเด็ดขาดห้ามยุ่งการเมือง ปชป.ย้ำ เป็นกลุ่มนอกเครื่องแบบ เพิ่งย้ายออกจากพื้นที่หลังตกเป็นข่าว จี้ผบ.ทบ.สอบ ย้อนหลัง ลั่นเกาะติดความเคลื่อนไหว ทุกหมู่บ้าน ‘วิษณุ’ รับการเมืองปี 65 เริ่มตื่นเต้นตั้งแต่ พ.ค.หลังสภาเปิดสมัยประชุมหน้า ฝ่ายค้านฮึ่ม ไม่ปล่อยผ่านปัญหา องค์ประชุม จับตารัฐบาลใช้งบฯ หาเสียง เพื่อไทยเตรียมขนแกนนำให้กำลังใจ ‘สุรชาติ’ ลงสมัครเลือกซ่อมเขต 9 กทม. ทำเนียบขานรับมาตรการ เวิร์กฟรอมโฮมถึง 14 ม.ค.
ทำเนียบเวิร์กฟรอมโฮม
วันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจาก น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผอ.สำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ แจ้งสื่อมวลชนทำเนียบ เมื่อ 1 ม.ค. ถึงมาตรการ ศบค.ที่มีไปยังส่วนราชการและหน่วยงานในทำเนียบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะปฏิบัติตามมาตรการ โดยจะเป็นประธานการประชุม ครม.ออนไลน์จากที่พัก เลื่อนวาระงานพบปะนัดหมายต่างๆ และขอให้สื่อมวลชน งดรวมกลุ่มในทำเนียบ ให้เวิร์กฟรอมโฮมตามแนวปฏิบัติของ ศบค.และหน่วยงานราชการระหว่าง 4-14 ม.ค.นั้น
ล่าสุด สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งยกเลิกวาระ 4 ม.ค.ทั้งหมด ได้แก่ เวลา 08.15 น. นายกฯ และภริยาเป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่, เวลา 08.45 น. ก่อนประชุมครม. มูลนิธิครอบครัว พอเพียงและคณะนำเด็กโครงการ D-cell เยาวชนพันธุ์ดีต้านภัยยาเสพติด เข้าพบ นายกฯในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ, เวลา 14.00 น. คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงประชุมครม.
ขณะที่ สำนักเลขาธิการครม.ได้มีหนังสือ ด่วนแจ้งไปยัง ครม. ผู้ติดตามครม. ผู้เข้าร่วมประชุมครม.และผู้ประสานงานประจำกระทรวง ให้ทราบว่าการประชุมครม. 4 ม.ค. จะเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เต็มรูปแบบ
ปปช.ลดจำนวนคนเข้างาน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ลงนามในประกาศแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 หลังเทศกาล ปีใหม่ เพื่อให้สอดคล้องที่สำนักนายกฯ มีหนังสือแจ้งข้อสั่งการของนายกฯ ยกระดับ มาตรการป้องกันและควบคุมโรคในสถานที่ ราชการและหน่วยงานของรัฐ ให้ส่วนราชการในสังกัด พิจารณาให้เจ้าหน้าที่ ผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่โดยเฉพาะ จังหวัดที่ตรวจพบเชื้อโอมิครอนเวิร์กฟรอม โฮม 7 วัน โดยกำหนดสัดส่วนให้มีผู้มาปฏิบัติงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ยกเลิก เลื่อน การจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัว หากจำเป็นต้องจัดให้ขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป
มทภ.4 ยันไม่มีทหารจุ้นเลือกซ่อม
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) กล่าวกรณี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. สั่งตรวจสอบข้อร้องเรียน ของนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แฉมีทหารกว่า 100 นายนอกพื้นที่เข้าไปยังพื้นที่ เขต 1 ชุมพร ในลักษณะกดดันการรณรงค์หาเสียงของพรรค โดยเฉพาะ เสธ. ต. ว่า เรื่องดังกล่าวตนได้ตรวจสอบในพื้นที่แล้วไม่มีอะไร ซึ่งในส่วนของ ปชป.ทราบข่าวว่าจะลงมาในพื้นที่ชุมพรก็ยังไม่ได้ลงมา แต่อาจมีคน ในพื้นที่ไปพูดไปบอกอะไร อย่างไรทางพรรค เขาก็ต้องออกมาปรามก่อน
“ไม่มี ในทัพภาคที่ 4 ผมสั่งเด็ดขาด ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งจริงๆ แล้วก็พรรคพวกกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน เพราะฉะนั้นเราต้องยืนหยัดยืนยันในความเป็นกลางทางการเมือง โดยเรื่องนี้ได้รายงานไปทางกองทัพบกเรียบร้อยแล้ว” พล.ท.เกียงไกรกล่าว
ปชป.จับตาทุกหมู่บ้าน
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป. ในฐานะผอ.การเลือกตั้งประสานงาน ส่วนกลาง กล่าวกรณี ผบ.ทบ.สั่งให้ ตรวจสอบรายละเอียดตามที่ตนตั้งข้อสังเกต เรื่องทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร และสงขลาหรือไม่ว่า ต้องขอบคุณ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่รับฟังและสั่งการให้ มทภ.4 ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลและรายงานให้ทบ.ทราบโดยด่วน ตามที่ตนแถลงข้อเท็จจริงในพื้นที่ เพื่อสะท้อนข้อสงสัยข้อพิรุธ ให้ได้รับทราบ ข้อมูล เพื่อตรวจสอบว่าความจริงเป็นเช่นไร ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย “การแถลงข่าวของกองทัพบกต้องชื่นชม ผบ.ทบ. เพราะเห็นได้ว่าตั้งใจรับฟังจากกรณีการตั้งข้อสงสัย และให้มีการตรวจสอบทันที ต้องยอมรับหากมีการพูดคุยกันอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง ด้วยเจตนาให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมก็จะเป็นเรื่องที่ดี”
โฆษก ปชป.กล่าวว่า เมื่อตนได้แถลงข่าวและมีการสั่งการจาก ผบ.ทบ.ในพื้นที่ก็จะจับตามองต่อไปว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรหรือไม่ ในส่วนของพรรคจะให้ติดตามทุกหมู่บ้านเพื่อได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด พรรคไม่มีความหวั่นไหวใดๆ การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก็เป็นไปตามปกติ ช่วงหลังปีใหม่จะมีการรณรงค์หาเสียงหนักขึ้นกว่าเดิมเพราะมีแกนนำจาก ส่วนกลางลงไปช่วยกันอย่างเต็มที่
ชี้ทหารออกจากพื้นที่หลังเป็นข่าว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ปชป. ผอ.เลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.ชุมพร กล่าวว่า ที่นายราเมศออกมาพูด เพราะเราได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีทหารเข้าไปพักหลายแห่งใน จ.ชุมพร เมื่อดูลักษณะต่างๆ และสืบค้นข้อมูลแล้วก็มีลักษณะคล้ายทหาร อย่างที่นายราเมศพูด จึงต้องขอให้ ผบ.ทบ.ตรวจสอบ เพราะอาจไม่ใช่จากกองทัพ ภาค 4 แต่เป็นทหารนอกพื้นที่ เมื่อเป็นข่าวก็ทราบจากชาวบ้านอีกว่ามีการย้ายคนกลุ่มนี้ออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เรายังจับตามองต่อไป หากผบ.ทบ.ตรวจสอบ ก็จะทราบว่ามีกองทัพอื่นเข้ามาในภาคใต้ ในลักษณะเชิงลับหรือไม่เพราะมาแบบนอกเครื่องแบบ หากตรวจสอบย้อนหลัง ก็จะทราบได้ไม่ยาก
เรื่องนี้พูดมาหลายครั้งแล้วในการเลือกตั้ง ซ่อมว่ามีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ที่จ.นครศรีธรรมราช แทน นายเทพไท เสนพงศ์ หาก ผบ.ทบ.เอาจริงเอาจัง แม้กองทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบแล้วก็ขอให้ฝ่ายอำนาจรัฐมีความเป็นกลาาง และหวังว่า ผบ.ทบ.จะยืนหยัดในแนวทางนี้ตลอดจนถึงวันลงคะแนน ส่วนที่ มทภ.4 ระบุพวกเดียวกันทั้งนั้นอาจพูดให้เห็นว่ารู้จักทุกคน ก็หวังว่าการใช้อำนาจรัฐจะไม่ไปเอื้อ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และทหารก็ต้องทำหน้าที่ให้เข้มแข้ง ไม่ว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาล จะสั่งการอย่างไรก็ให้ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเป็นมิตร แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว
ฉะลูบหน้าปะจมูก
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส. นครศรีฯ ปชป. กล่าวว่า ที่นายราเมศระบุเชื่อว่าน่าจะมีมูลความจริง พฤติกรรมเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีฯ ตนมีประสบการณ์ตรง มีนายทหาร นอกแถวบางกลุ่มลงพื้นที่ เดินกำกับ ควบคุม การซื้อเสียง กดดันผู้นำท้องถิ่น และมีกลุ่มมือปืนนักเลงบางกลุ่มเข้ากดดันหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม มีการซื้อเสียงกันอย่างโจ่งแจ้งโดยใช้กลไกรัฐ มีทั้งทหารและตำรวจ คอยอำนวยความสะดวก ที่ผบ.ทบ.มีคำสั่งให้กองทัพภาค 4 เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องขอบคุณที่กระตือรือร้น
เมื่อถามว่ามทภ.4 ระบุสอบแล้วไม่มีอะไร นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าตรวจสอบเป็นการภายในก็เหมือนลูบหน้าปะจมูก ถ้าผบ.ทบ.อยากรู้ความจริงก็ส่งคนมาฟังกับชาวบ้าน โดยฝังตัวในพื้นที่ อย่าฟังความ ข้างเดียว ชาวบ้านจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ส่วนที่ มทภ.4 ระบุไม่ว่าพรรคไหนก็พวกเดียวกันนั้น เวลาแข่งขันไม่เกี่ยวว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ใครมีอำนาจให้คุณให้โทษได้ แทรกแซงได้ คนนั้นก็ได้ประโยชน์ ฝ่ายแกนนำมีอำนาจมากที่สุดสามารถสั่งการได้มากที่สุด
วิษณุชี้พ.ค.การเมืองน่าตื่นเต้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการทำงานระหว่างรัฐบาล และสภาผู้แทนฯ ในปี 2565 โดยเฉพาะการแก้กฎหมายต่างๆ ท่ามกลางปัญหาสภาล่มในปีที่ผ่านมา ว่า สภาสมัยประชุมนี้ จะจบ 28 ก.พ. กฎหมายที่ต้องเข้า พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ 2555 หรือวาดา กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. รวมทั้งกฎหมายอีกหลายฉบับที่เป็นกฎหมายปฏิรูป สมัยประชุมนี้จึงไม่มีอะไรตื่นเต้นโลดโผน แม้จะมีอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติก็ตาม
ส่วนสมัยประชุมหน้าที่เปิด พ.ค. มีกฎหมายงบประมาณปี 2566 และกฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายปฏิรูปที่เสนอเข้าสภาเดียว รวมทั้งมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติก็จะเข้าสมัยประชุมหน้า เมื่อถามว่าแสดงว่า พ.ค.เป็นต้นไป เป็นช่วงตื่นเต้นของรัฐบาล นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่า เดือนพ.ค. แต่หมายถึงตั้งแต่ พ.ค. จนถึง ก.ย. เป็นเวลา 120 วัน เป็นสมัยประชุมที่สามารถ มีกิจกรรมทางการเมืองหลายอย่างเกิดขึ้น
ยุบสภาก่อนกม.ลูกผ่านยุ่งแน่
เมื่อถามว่าหากกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งผ่านสภาสมัยหน้าจะเกิดกระแสเรียกร้องยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า กระแสเรียกร้องมีแน่และมีทุกวัน วันนี้ ก็มีอยู่ แต่จะตอบสนองได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง บางทีอยากสนองก็สนองไม่ได้ เพราะกฎหมายลูกแม้มีผลบังคับใช้แล้ว ยังมีรายละเอียดว่าต้องทำอะไรต่อภายในระยะเวลาที่กำหนด จำนวนวันที่ระบุไว้ทำให้เห็นว่าหากยุบสภาก่อนก็คงยากลำบาก เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ไม่แน่ใจ ต้องแบ่งภายใน 90 วันใช่หรือไม่ ดังนั้นจะเกิดอะไรก่อน 90 วันนั้นคงไม่ได้ ยังไม่พูด ถึงการประชุมเอเปกและจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นต้องรอผลของกฎหมายลูก
เมื่อถามย้ำว่าหากกฎหมายลูกยังไม่ผ่านรัฐสภา นายกฯ จะยุบสภาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยุบได้แต่ยุบแล้วเกิดปัญหา กติกาต่างๆ ยังไม่ชัดเจน รัฐธรรมนูญเป็นเพียงแม่บท ซึ่งเดิมกำหนดให้ กกต.เป็นคนวางรายละเอียดแต่มีการตัดออกไปก่อน จึงยังไม่มีใครกำหนดได้ ดังนั้นต้องรอกฎหมายลูกเท่านั้น
ชี้นายกฯควรนั่งยาวจนจบเอเปก
เมื่อถามว่าหากยุบสภารัฐบาลออกพ.ร.ก. มาแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นความเสี่ยงมาก เพราะการออกพ.ร.ก. รัฐบาลกำหนดฝ่ายเดียว สภาจะยอมหรือไม่ที่จะให้รัฐบาลวางกติกาเลือกตั้งฝ่ายเดียว หากไม่เห็นด้วยแต่เลือกตั้งผ่านไปแล้ว จะให้ทำอย่างไร หรือหากพ.ร.ก.ไม่ชอบรัฐธรรมนูญ แล้วเลือกตั้งที่ผ่านไปแล้ว และ กกต.แจ้งว่าใช้เงินประมาณ 5,600 ล้าน จากเดิม 3,000 ล้าน ก็จะเป็นปัญหา
เมื่อถามว่าที่ระบุถึงเรื่องเอเปก แปลว่ารัฐบาลต้องมีอำนาจเต็มเพื่ออยู่ทำหน้าที่ นายวิษณุกล่าวว่า โดยหลักความคาดหมายของนานาประเทศก็อยากประชุมและเจรจาตกลงกับรัฐบาลที่อำนาจเต็มในวันเจรจา แต่หลังเจรจาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯ ควรมีอำนาจเต็มอยู่ถึงการเป็นประธานเอเปก ภายในปลายปี 2565 นายวิษณุกล่าวว่า สื่อมวลชนพูดเองและใครๆ ก็รู้ว่าควรเป็นอย่างไร
ชวนเล็งสภาถกชดเชยวันหยุด
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ในปี65 ว่า ช่วงที่ผ่านมากฎหมายของฝ่ายบริหารทุกฉบับผ่านไปได้ด้วยดี ที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ส่วนใหญ่เป็นญัตติทั่วไปประมาณ 200 ญัตติ และคิดว่าปี 65 จะมีกฎหมายใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น เมื่อเริ่มการประชุมปี 65 จะนัดประชุมชดเชยวันหยุดช่วงปีใหม่ โดยนัดประชุมนัดพิเศษ 14 ม.ค. และ 28 ม.ค. และวันพุธ-พฤหัสบดีของการ ประชุมสภา จะเพิ่มเวลาการประชุมอีกประมาณ 2 ชั่วโมง คาดว่าปี 65 จะพิจารณา เรื่องที่ค้างอยู่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ ขณะที่ การประชุมรัฐสภามีเรื่องที่ค้างอยู่ 3 เรื่อง จะมีการหารือเพื่อกำหนดวันประชุมร่วมต่อไป
เมื่อถามว่าประเมินแล้วรัฐบาลจะอยู่จนครบวาระหรือไม่ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่สามารถประเมินฝ่ายบริหารได้ แต่ในส่วนของสภาคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของฝ่ายบริหารและฝ่ายอื่นๆ และเชื่อว่าในระบบนี้ สามารถ จะผ่านการปฏิบัติภารกิจของแต่ละฝ่าย ไปได้ด้วยดี เมื่อพบฝ่ายบริหารตนย้ำว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมาตอบกระทู้ และเมื่อมีการเสนอญัตติในสภาฝ่ายรัฐบาลต้องมาชี้แจง เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ และโอกาสที่จะได้ชี้แจง อย่างน้อยรัฐมนตรีควรเข้ามานั่งฟัง จะได้รู้ว่าเขากล่าวหาอย่างไรและใช้สิทธิ์ชี้แจงว่าจริงหรือไม่จริง
ฝ่ายค้านจับตารัฐบาลใช้งบหาเสียง
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในสภาหลังปีใหม่ว่า ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ก่อนปีใหม่แล้ว ดังนั้นหลังปีใหม่ก็จะตรวจสอบถ่วงดุล ใช้มาตรการตอบโต้รัฐบาลอย่างเข้มข้นขึ้นไปอีก สิ่งที่ฝ่ายค้านจะได้พูดคุยหารือกัน คือการอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติตาม ม.152 โดยจะติดตามการยกระดับการแก้โควิด-19 ของรัฐบาล ที่สำคัญขณะนี้มีสัญญาณบ่งบอกว่ารัฐบาลกำลังบริหารจัดการงบไปในทิศทางเพื่อการ หาเสียงเลือกตั้ง ดูได้จากการออกโปรโมชั่นเยอะมาก เราต้องตามติดอย่างใกล้ชิด ถ้ารัฐบาลใช้งบไปกับภารกิจกระตุ้นความนิยม เราไม่ยอมแน่นอน
ส่วนการประชุมสภาหลังปีใหม่ จะตรวจสอบรวมทั้งยกระดับ เพื่อให้ซีกรัฐบาลรับผิดชอบงานสภาให้มากขึ้น ที่ผ่านมาหากฝ่ายค้านไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจสภาก็ไม่มีสาระ ซีกรัฐบาลนอกจากไม่มีสาระแล้วจะลงคะแนนแต่ละครั้งก็มีปัญหา โดยเฉพาะการกดบัตรแทนกัน เรารู้เห็นตลอด จับได้ไม่ยาก หลังจากนี้ จะไม่ปล่อยอีกแล้ว
กรณีพรรคร่วมรัฐบาลระบุปี 65 จะเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลนั้น ฝ่ายค้านเห็นตรงกัน ไม่ต้องนั่งมโนไปเอง เชื่อว่าพรรคหลักของรัฐบาลจะพยายามลากยาวไปให้ถึงช่วงการประชุมเอเปก จะสมศักดิ์ศรีหรือเปล่า สมาชิกเอเปกอยากได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่สง่างามเข้าร่วมประชุมมากกว่าหรือไม่
สมศักดิ์ชี้การเมือง65 แข่งหาเสียง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเมืองในปี 2565 ว่า หลังผ่านพ้นมี.ค.2565 รัฐบาลจะเหลือวาระ 1 ปีพอดี แม้ว่ารัฐบาลจะทำดีแค่ไหนแต่ปีสุดท้ายทุกยุคทุกสมัยก็เป็นแบบนี้ พรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะเร่งรัดการหาเสียงเพื่อให้เป็นที่นิยม แต่ละพรรคมักจะพูดแต่เรื่องของตัวเอง ยกตนข่มท่าน เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ปีสุดท้าย
ในส่วนรัฐบาลแม้จะประสบกับวิกฤตโควิด-19 มีอุปสรรคในการทำงานหลายๆ อย่าง แต่รัฐบาลยังคงพยายามรับมือทั้งการสู้กับโควิด การพัฒนาระบบสาธารณสุข การเร่งช่วยเหลือเกษตกรและปัญหาเศรษฐกิจ เชื่อว่ารัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อไปได้
สุวัจน์ลั่นพาชพน.คัมแบ๊ก
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า พรรคเตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้แล้ว เพราะถือว่าเข้าสู่ปีที่ 4 ส่วนที่หลายพรรคพุ่งเป้ามาที่ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะพรรค ภูมิใจไทยนั้น สมัยหน้ามีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง เป็นไปได้ที่นครราชสีมาจะมี ส.ส. ส.ส.เพิ่มอีก จึงเป็นพื้นที่หมายปองของ ทุกพรรค ในส่วน ชพน.มีการเตรียมความพร้อม เพราะเราต้องการให้พรรคกลับมาจึงต้องรักษาฐานเสียงเอาไว้ นครราชสีมาถือเป็นบ้านเกิดของพรรค และเป็นพรรคที่มีผลงานในอดีต จึงคิดว่าต้องทำงานการเมืองให้มีฐานที่มั่นคงขึ้นจากการ เลือกตั้งครั้งที่แล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าใน จ.นครราชสีมา พรรคจะมีความพร้อมมากที่สุด
การเลือกตั้งบัตรสองใบเหมือนย้อนกลับ ไปในอดีต และประสบความสำเร็จได้ที่นั่งมากพอสมควร แต่บัตรสองใบยุทธศาสตร์จะต่างจากบัตรใบเดียว การคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ได้คำนวณจากความนิยมของ พรรคโดยตรง แต่มาจากคะแนนของผู้สมัคร รับเลือกตั้งทำให้คะแนนของพรรคเล็กบางพรรคหายไป แต่การแก้ไขเป็นบัตรสองใบทำให้เกิดความสำคัญกับตัว ส.ส.และพรรค ทำให้พรรคต้องตั้งใจส่งคน ที่ดีที่สุด
พท.ขนทัพให้กำลังใจสุรชาติ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการ พท. กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง ว่า ในวันที่ 6 ม.ค.ซึ่งเป็นวันเปิดรับสมัครวันแรกนั้น พท.จะขนแกนนำพรรค ทั้งหมดตั้งแต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ตนและผู้ใหญ่ในพรรค ไปให้กำลังใจ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครของพรรค เพราะการเลือกตั้งในเขต กทม.ถือเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ การเลือกตั้งในเขตนี้เมื่อปี 62 เรายังคงสงสัยและกังขาผลเลือกตั้งที่ออกมา เพราะคนของเราน่าจะชนะ
เราคาดหวังว่าเราจะต้องชนะในเขตเลือกตั้งนี้ เพราะผู้สมัครของพรรคแม้จะไม่ได้รับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว แต่ยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ก็ยังดีต่อเนื่อง ในส่วนที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ส่งผู้สมัครลงชิงด้วยนั้น ถือเป็นสิทธิ เหมือนเลือกตั้งใหญ่ที่ทุกพรรคต้องส่งผู้สมัครเข้าแข่งขัน คงไม่ตัดคะแนนกันเองมากจนเกินไป
