ทบ.จ่อสรุปสัปดาห์นี้
กกต.เคาะ-เขตหลักสี่
เข้าคูหากาสส.30มค.
วันชัยชี้กลางปีเดือด

กองทัพบกเตรียมสรุปผลสอบสัปดาห์นี้ ปมทหารกดดันเลือกตั้งซ่อมชุมพร เผย ‘เสธ.ต’ เป็นผู้บังคับหน่วยทหารม้าภาคอีสาน ลูกน้องเก่าอดีตแม่ทัพภาค 2 ประชาธิปัตย์ยันมีหลักฐานชัดทหารเข้าไปแทรกแซง ขู่เปิดโปงซ้ำ หลังแถลงข่าวแล้วมีใครโทร.หาใคร เปิดแผนตีปี๊บเลือกซ่อมเขต 1 ชุมพร มั่นใจชนะพลังประชารัฐได้ ส.ว.วันชัยสวมบทโหร ทำนายดวงการเมืองปี’65 กลางปีแรงหนัก แย้มมีโอกาสเกิดปฏิวัติ เพื่อไทยฟันธงเศรษฐกิจ ‘ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น’ แนะ ‘ตู่’ เตรียมรับมือ 8 ปัญหาหลัก กกต.เคาะเลือกซ่อมกทม. เขตหลักสี่-จตุจักร 30 ม.ค.

ปชป.เน้น 2 แผนตีปี๊บซ่อมชุมพร

วันที่ 3 ม.ค. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผอ.การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการรณรงค์หาเสียงว่า การหาเสียงมีระยะเวลาค่อนข้างสั้น แต่นายชุมพล จุลใส อดีตส.ส.ชุมพร ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเตรียมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว จึงมีการเตรียมการไว้ดีพอสมควร โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชนว่านายชุมพลต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.จากการออกไปช่วยชาติบ้านเมือง หลังชี้แจงมาได้ระยะหนึ่งประชาชนในพื้นที่เข้าใจ และพร้อมสนับสนุนนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครปชป. เพื่อคืนความเป็นธรรมให้นายชุมพลด้วย

การหาเสียงในพื้นที่นี้จะเน้น 2 แผน 1.การลงพื้นที่พบประชาชนทุกบ้านเป็นหลัก เพื่อขอความเป็นธรรมให้นายชุมพล พร้อมขอโอกาสให้ผู้สมัครที่เป็นตัวแทนนายชุมพล โดยจัดคณะ ส.ส.ที่มาช่วยหาเสียงเป็นกลุ่มในการไปพบปะประชาชนถึงทุกบ้าน 2.จัดเวทีปราศรัย เน้นการปราศรัยเป็นรายตำบลรวมกัน 2-3 ตำบล ประชาชนยุคนี้มีเวลาน้อยและต้องการฟังปราศรัยใกล้บ้าน แต่ละเวทีย่อยจะใช้ ผู้ปราศรัยไม่มากและใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง สำหรับการจัดปราศรัยใหญ่ที่หัวหน้าพรรคจะมาร่วมเวที น่าจะอยู่ในช่วง 2-3 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง กำลังพิจารณาวันที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน นายอิสรพงษ์ที่ถือเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรค มีเครือข่ายคนรุ่นใหม่มาร่วมทำสื่อโซเชี่ยลช่วยหาเสียงด้วย

มั่นใจชนะพปชร.ได้

“ดังนั้น การเลือกตั้งที่ชุมพรเรามั่นใจมาก ครั้งนี้ไม่ได้เลือกเพื่อไปตั้งรัฐบาล ไม่มีปัจจัยตัวนายกฯ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นการเลือกตั้งซ่อมที่มีความพิเศษ เนื่องจากนายชุมพลไม่ได้พ้นจากความเป็นส.ส.เพราะโกง หรือทำร้ายใครมา จึงเชื่อว่าคนชุมพรจะคืนความเป็นธรรมให้นายชุมพล ถ้าไม่มีการสกัดจากอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ก็มั่นใจว่าจะคืนความเป็นธรรมได้” นายสาทิตย์กล่าว

เมื่อถามว่ากังวลคู่แข่งของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ผู้สมัครของพปชร. เราเห็นถึงความผิดปกติ มีการกลับมติจากเดิมที่ไม่ส่งมาส่ง โดยมีอดีตสมาชิก ปชป.ที่เราทราบกันดีว่าคือใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งในส่วนนี้คนชุมพร เห็นว่าพปชร. ไม่จริงใจที่จะส่งผู้สมัครตั้งแต่ต้น

มีหลักฐานทหารลงพื้นที่กดดัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกปชป. ผอ.การเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดในการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา ว่า ในส่วนเขต 1 ชุมพรนั้น ขณะนี้นอกจากพยานหลักฐานของคณะทำงานในพื้นที่มีอยู่แล้ว ประกอบกับมีประชาชนในพื้นที่ที่พร้อมส่งข้อมูลให้ตลอดเวลา ประชาชนที่อยากเห็นการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมก็จะร่วมด้วยช่วยกัน วันหนึ่งคาดว่าน่าจะได้ใช้ประโยชน์ แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย ตอนนี้เพราะ กกต.จะเป็นผู้พิจารณา

นายราเมศกล่าวว่า ตนไม่ขอตอบโต้นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีตส.ส.ปชป. ที่ลาออกจากพรรคแล้วไปสนับสนุนผู้สมัครชุมพรพปชร. ที่บอกว่าตนคิดไปเองแล้วให้สัมภาษณ์ ไม่จริง เพราะในพื้นที่มีการดำเนินการดังกล่าวจริง ตนเห็นด้วยกับนายสาทิตย์ ให้ ผบ.ทบ.ตรวจสอบย้อนไปก่อนที่ตนแถลงข่าว หลังแถลงข่าวก็เหมือนผึ้งแตกรังแยกย้ายกันไป “ความจริงน่าจะรู้ว่าคืนหลังผมแถลงข่าวมีใครโทรศัพท์หาใคร พูดจาเรื่องอะไรบ้าง วันหนึ่งถ้ายังไม่จบอาจจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้น”

นายราเมศกล่าวว่า เราลุยหาเสียง ดี กว่าเสียเวลามาโต้เถียงกันไปมาไม่มีประโยชน์ ส่วนที่นายศิริศักดิ์เรียกร้องให้ ผบ.ทบ.ส่งทหารมาเฝ้าเขตเลือกตั้ง หน้าที่ดังกล่าวเป็นของกกต. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การเลือกตั้งไม่เกี่ยวกับทหาร ถ้าจะส่งมาก็ให้ออกเป็นคำสั่งว่ามาดูแลเรื่องเลือกตั้ง ก็แปลกพิลึกดี แต่เชื่อว่า ผบ.ทบ.รู้หลักการนี้ดีไม่ใช่ใครจะร้องขออะไรแล้วทำตามหมด

ทบ.สรุปผลสอบสัปดาห์นี้

จากกรณี ปชป.ระบุว่ามี เสธ.ต พร้อมกำลังพลส่วนหนึ่งเข้าไปใน จ.ชุมพร กดดันการเลือกตั้งซ่อม โดย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) ยืนยันไม่มีทหารในกองทัพภาคที่ 4 เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการสอบสวนจะสรุปข้อเท็จจริงในสัปดาห์นี้ โดยพบข้อมูลว่านายทหารถูกพาดพิงคนดังกล่าวเป็นถึงระดับผู้บังคับหน่วยทหารม้า ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิด และได้รับความไว้วางใจจากอดีต มทภ.2 คนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันมาช่วยงานรัฐบาลและพรรค การเมือง โดยกองทัพบกกำลังให้ต้นสังกัดสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาพาดพิงหรือไม่

พรรคกล้าแฉซื้อเสียงอื้อ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมว่า พรรคกล้า ส่งผู้สมัครทั้ง 3 เขต คือ กทม. ชุมพร และสงขลา ยอมรับต่างจังหวัดมีอิทธิพลเรื่องเงินมหาศาล ฝากถึงผู้มีอำนาจให้ใส่ใจเรื่องนี้ จากการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านพบว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยก่อน 50-100 บาท เดี๋ยวนี้ 2,000-3,000 บาท ที่ผ่านมาพบเยอะมาก มีการใช้เงินมากขึ้นและโจ่งแจ้งมากขึ้นเรื่อยๆ เรากังวลเรื่องอำนาจเงินและการใช้อำนาจรัฐ รัฐควรออกมามีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงควรออกมาสื่อสารและมีมาตรการการควบคุม

ลุยหาเสียงซ่อมหลักสี่

วันเดียวกัน นายกรณ์ พร้อมนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 พร้อมทีมงานลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาที่ตลาดบางเขน ตลาดอมรพันธ์

นายอรรถวิชช์กล่าวถึงการลงสมัครครั้งนี้ว่า ตั้งใจกลับมาทำงานสานต่อพัฒนาสาธารณูปโภคย่อยๆ ในซอยทางลัด ระบบระบายน้ำสายย่อย ไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งทรุดโทรมไปมาก ก่อนถึงวันเลือกตั้งพยายามพบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ในบรรดาผู้สมัครทุกคนเชื่อว่าตนมีความผูกพันกับเขตนี้มากที่สุด ทั้งหลักสี่-จตุจักร เดินพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2548 ช่วงโควิดก็ตั้งศูนย์กล้าอาสาช่วยหาเตียง ตั้งศูนย์พักคอย “ผมทำงานทุกวัน เจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาก็ทักทาย มั่นใจว่าเราจะนำชัยชนะมาได้”

กกต.เคาะซ่อมหลักสี่ 30 ม.ค.

สำนักงาน กกต.เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่มีประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิก ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร แทนตำแหน่งที่ว่าง กกต.ได้ออกประกาศกำหนดให้วันที่ 30 ม.ค.65 เวลา 08.00-17.00 น. ออกเสียงและลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.เขตดังกล่าว ให้วันที่ 6-10 ม.ค. เป็นวันรับสมัครเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผอ.การเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งกำหนด

พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรคไทยภักดี ที่เพิ่งได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ 2 ม.ค.ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ไทยภักดีเป็นพรรคขนาดกลาง และจะลงสู้สนามเลือกตั้งใหญ่ แต่จะลองลงสนามเลือกตั้งซ่อมชิมลางที่เขตหลักสี่ก่อน จะเปิดตัวและลงพื้นที่เดินหาเสียงวันที่ 5 ม.ค.นี้ ตามไทม์ไลน์ที่วางไว้จะเปิดตัวคณะใหญ่จริงๆ อีกครั้งช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. จะมีผู้ใหญ่มาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

‘วันชัย’ชี้กลางปีการเมืองแรง

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ถามกันมามากว่าปีใหม่ 2565 จะเป็นอย่างไร ตามดวงดาวยังไม่มีอะไรชี้ชัดว่าจะดีขึ้น 100% และก็ยังไม่มีอะไร บ่งบอกว่าจะสงบเรียบร้อย จะดีกับร้ายสลับสับเปลี่ยนกันไปตลอดปี ทำท่าว่าจะดีร้ายเข้ามาอีกแล้ว ตามดวงดาวไม่สุด หมายความว่าทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองจะเป็นไปเช่นนี้ตลอดทั้งปี อยู่ในภาวะทรงตัวหรือประคองตัวให้รอดเท่านั้น จะก้าวทะยานรุ่งโรจน์แบบเก่า คงเป็นไปได้ยาก

สังคมยังแตกแยกแบ่งฝ่ายกันหนัก ยิ่งช่วงกลางปีและปลายปียิ่งรุนแรงขึ้น ไม่มีใครยอมใคร การเมืองช่วงนั้นเหมือนเสือออกจากถ้ำ ประเภทเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ออกมาตะลุมบอนกันหนัก ทั้งดาวราหูและมฤตยูผลัดกันทำงานชิงไหวชิงพริบ ทั้งหักทั้งโค่นกันเต็มที่ทั้งในสภาและนอกสภา ฉิ่งฉับกรับฆ้องกลองระฆังรัวกันสนั่นหวั่นไหว ทุกๆ ด้านถาโถมเข้ามาผสมปนเปไปหมด

ชี้โอกาสปฏิวัติ

“เคยมีคนถามผมว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่ ผมไม่กล้าตอบ แต่ดวงดาวช่วงนั้นดาวพฤหัสเป็นเจ้าพ่อคุมสถานการณ์อยู่ คุมได้ก็ไม่มีอะไร แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ดาวพฤหัสฯซึ่งเป็นรัฏฐาธิปัตย์ก็อาจทำหน้าที่ได้นะ ตามดวงดาวมันไม่แน่” นายวันชัยระบุและว่า ส่วนโรคภัยไข้เจ็บยังไม่สงบเหมือนปีที่ผ่านมา ผลุบๆ โผล่ๆ แล้วยังมีเรื่องฝนแล้ง น้ำท่วม เหตุบางอย่างที่คาดไม่ถึงเพราะดาวเกตุจรเข้ามาตั้งแต่ต้นปีเลยอีนุงตุงนัง

แล้วมีอะไรดีบ้าง ก็ดาวพฤหัสฯคุ้มกบาลไว้ ถึงร้ายก็ร้ายไม่สุด ประเภทฆ่าแกงกัน เผาบ้านเผาเมืองไม่มีแน่ ประเทศเราจะมีปาฏิหาริย์เสมอ ดาวเกตุเข้ามากับความลึกลับ บางเรื่องคาดไม่ถึงจริงๆ ประเทศเราแม้จะมีปัญหาสารพัดเข้ามารุมเร้าแต่สามารถประคองตัวไปได้ ไม่ถึงขั้นถล่มทลายเพียงแต่ไม่สุขสบายเหมือนเก่า

พท.ชี้ศก. 65 ‘ฟื้นไม่มีหนีไม่พ้น’

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 2565 จะหนักหนาสาหัสแบบสุดๆ ถึงขนาด “ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” งบประมาณมีปัญหา รายได้ลด หนี้มีแต่จะเพิ่ม ว่างงานพุ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะอยู่ยาก ที่บอกว่าฟื้นไม่มีเพราะปี 2565 เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะยังติดลบและหยุดนิ่งเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน รายได้โดยรวมของคนไทยยังลดลง ไม่ทราบว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกเมื่อไร ส่งผล กระทบต่อเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง หนี ไม่พ้น คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำและติดลบ จะทำให้หนี้พุ่งขึ้นไม่หยุด เพราะไม่มีรายได้เพียงพอที่จะใช้หนี้

ปัญหาเศรษฐกิจที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเตรียมรับมือ 8 ปัญหาหลัก 1.โอกาสที่จะเกิดสึนามิโควิดทั้งสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์เดลตาพร้อมกัน ตามคำเตือนขององค์กรอนามัยโลก 2.ปัญหาเงินเฟ้อของโลกซึ่งจะกระทบถึงไทย 3.อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4.ปัญหาการขาดดุลแฝด คือการขาดดุลงบประมาณและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เนื่องจากรายได้จากการท่องเที่ยวหายไปเกือบหมด 5.ต้องจัดทำงบลดลงในปี 2565 เนื่องจากเก็บรายได้ได้น้อยลง อีกทั้งรัฐบาลจะประสบปัญหาการกู้เงินนอกงบประมาณเพิ่ม 6.ปัญหาหนี้ที่เพิ่มสูง ทั้งหนี้ภาครัฐและหนี้ภาคเอกชน 7.ปัญหาการไร้ทิศทางเศรษฐกิจภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ นานไปจะถูกประเทศอื่นแซง 8.ปัญหาการว่างงานที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก

เย้ยรัฐบาลช่วงปลายวาระ

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พท. ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าสถาน การณ์การเมืองในปี 2565 เชื่อว่าคงร้อนแรงกว่าปี 2564 ปัจจัยหลักคือปัญหาของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพปชร.ที่ยังคงควบคุมเสียง ส.ส.ไม่ได้ ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านต้องบังคับทางอ้อมให้ฝ่ายรัฐบาลมาเป็นองค์ประชุม เพื่อให้สภาเดินหน้าได้ ฉะนั้นการเมืองในสภาปี 65 ต้องจับตาดูว่ามีกฎหมายไหนสำคัญเข้า โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการเงินต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

เป็นธรรมดาเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายของรัฐบาลความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมย่อมมีปัญหา พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มไม่เกรงใจกัน ต่างฝ่ายหาโอกาสฉกฉวยคะแนน หากไม่อยากให้เกิดปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลควรไปเคลียร์กันเอง จึงเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องรับทั้งศึกในและศึกนอกรัฐบาล ส่วนการนับอายุของพล.อ.ประยุทธ์ ทุกฝ่ายไม่ต้องมานั่งเถียงกัน พท.ยืนยันเตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด

ฮึ่มจัดเต็มซักฟอก 2 ช่วง

นายสมคิดกล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมเสนอต่อประธานรัฐสภาม.ค.นี้ และในสมัยประชุมหน้า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ การอภิปรายในสมัยประชุมนี้เตรียมจัดเต็มทั้งข้อมูล ข้อเท็จจริง หลักฐานการทุจริตของรัฐบาลมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งการอภิปรายที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยตอบคำถามของฝ่ายค้านได้ แม้รัฐบาลไม่สนใจแต่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะฟ้องประชาชน เพื่อให้รู้ถึงพฤติกรรมของรัฐบาลที่บอกว่าทำเพื่อประชาชนนั้นไม่มีจริง พรรคฝ่ายค้านต้องการเปิดเผยการทุจริตของรัฐบาลนี้ให้ประชาชนรับทราบทั้งหมด

รัฐบาลโต้ใช้งบมุ่งหาเสียง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุการเมืองปี 2565 ฝ่ายค้านจะทำงานในสภาเข้มข้นขึ้นว่า ยินดีที่ฝ่ายค้านจะกลับมาทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลในสภาให้มากขึ้น เพราะปีที่ผ่านมาฝ่ายค้านออกแนวผสมโรงกับม็อบบนท้องถนนเสียส่วนใหญ่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หรือแม้กระทั่ง การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติก็ตาม

นายธนกรกล่าวว่า ที่นายสุทินระบุ มีสัญญาณรัฐบาลกำลังบริหารจัดการงบเพื่อหาเสียงเลือกตั้งนั้น ยืนยันว่าการบริหารจัดการงบของรัฐบาลคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อกระตุ้นความนิยมเหมือนรัฐบาลในอดีต ไม่อยากให้ฝ่ายค้านรีบตีโพยตีพายเพียงเพราะเห็นนโยบายของรัฐบาลโดนใจประชาชน

‘ชวน’ถกกม.ด้านเลือกตั้งทันม.ค.

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรอบการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า สภาติดตามอย่างต่อเนื่อง ฉบับของพรรค พท.ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น ตามมาตรา 77 และเนื่องจากเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินจึงต้องส่งไปยังนายกฯ พิจารณาจะให้คำรับรองหรือไม่จึงจะบรรจุในระเบียบวาระได้ ขณะที่ร่างพ.ร.ป.อีก 3 ฉบับ ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล พรรคร่วมรัฐบาล และฉบับของพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ เสนอมาภายหลังก็จะดำเนินการเช่นเดียวกัน ส่วนร่างของ กกต.ทราบว่ายังอยู่ในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา

โดยหลักการหากกฎหมายลูกฉบับใดฉบับหนึ่งผ่านกระบวนการสอบถามความคิดเห็นแล้ว หากมีฉบับอื่นที่เป็นเรื่องเดียวกัน ประเด็นเดียวกัน ฉบับนั้นสามารถบรรจุเป็นวาระการพิจารณาได้โดยไม่ต้องทำกระบวนการซ้ำ ดังนั้น หากร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้งส.ส. ฉบับ พท.ผ่านการรับฟังความคิดเห็นเป็นที่เรียบร้อย เมื่อส่งนายกฯ ให้คำรับรองมาก็สามารถบรรจุเป็นวาระได้ทันที คาดจะพิจารณาได้ทันช่วงม.ค. ส่วนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเป็นกฎหมายไม่เกี่ยวด้วยการเงิน เมื่อผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแล้วสามารถบรรจุวาระได้เลย

พท.ชี้ไร้ปัญหา-เห็นต่างกฎหมายลูก

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า พท. กล่าวถึงร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับที่จะเข้าสภา โดยแต่ละร่างรัฐบาลและพรรคต่างๆ ยังเห็น ไม่ตรงกันว่า การพิจารณาในขั้นรับหลักการต้องดูว่าสมาชิกรัฐสภาจะรับ ทุกร่างหรือไม่ หรือจะแยกรับเป็นร่างๆ ไป แต่ส่วนใหญ่แล้วหากหลักการใกล้เคียงกัน หรือทำนองเดียวกัน ก็น่าจะรับไปทั้งหมด ยกเว้นว่าบางร่างมีหลักการที่ย้อนแย้ง หรือสุ่มเสี่ยงขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ รัฐสภาอาจไม่รับ

ส่วนเมื่อรับไปแล้วยังมีประเด็นที่แตกต่างกันเช่น แก้ไขเรื่องการทำไพรมารีโหวตจะแก้อย่างไร ซึ่งอาจแตกต่างจากร่างของรัฐบาลก็ต้องไปดูว่าจะรับกันอย่างไร แต่หลักการใหญ่คือต้องคงไพรมารีโหวต เพราะเป็นเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ จริงๆ จะไม่เรียกว่าไพรมารีก็ได้เพราะรัฐธรรมนูญเขียนว่าให้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางจากสมาชิกและตัวแทนของพรรค

สภาเลื่อนพิธีแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน

นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า หลังประธานสภามีคำสั่งงดการประชุมสภา สัปดาห์แรกเดือนม.ค. คือ 5-6 ม.ค.ออกไปก่อนนั้น สภาได้แจ้งไปยัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า พท. ถึงการขอเลื่อนพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ออกไปก่อน และคาดว่าจะจัดพิธีดังกล่าวได้ช่วงการประชุมสภากลับมาจัดการประชุมอีกครั้ง

การงดประชุมสภาสัปดาห์แรกเดือน ม.ค. สำนักงานเลขาธิการสภามีคำสั่งให้ข้าราชการทำงานที่บ้านแบบ 100% ตั้งแต่ 1-9 ม.ค. แต่ยังมีผู้ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่สำคัญ เช่น การดูแลรักษาความปลอดภัย และสำนักงานได้เตรียมมาตรการเพื่อเฝ้าระวังการะบาดของ โควิด-19 ในพื้นที่อย่างเข้มข้น

ร้องสอบทรัพย์สินปลัดพลังงาน

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพปชร. กล่าวว่า เห็นข่าว ป.ป.ช.ให้ข่าวเรื่องตรวจสอบนาฬิกาและกระเป๋าถือเลขาฯ กบข.นึกถึงรายการบัญชีทรัพย์สินของนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีดำรงตำแหน่งทุก 3 ปี เมื่อ 1 ต.ค.64 ระบุ เป็นปลัดกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการ บ.ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แจ้งข้อมูลรายได้ต่อปี 1.รายได้ประจำ (1) เงินเดือน 134,524.50 บาท เป็นตัวเลขที่ควรสงสัย อาจต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่น่าเชื่อปลัดพลังงานมีเงินเดือนต่อปีเพียง 134,524.50 บาท

ส่วนรายการทรัพย์สินอื่นแจ้งไม่มี แต่ข้อมูลในกูเกิ้ลพบภาพข่าวนายกุลิศ สวมนาฬิกาหลายเรือน แหวนทองที่นิ้ว กรณีนี้คล้ายกับเลขาฯ กบข. 4 ม.ค.จะส่งหนังสืออีเอ็มเอสขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนาย กุลิศ ว่าได้ยื่นรายการโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน