อุบัติเหตุรถชน
บาดเจ็บ2,198
แห่กลับกรุงปิดฉากเทศกาล ปีใหม่ ถนนสายหลักทั้งมิตรภาพ เอเชีย ติดหนึบตั้งแต่เช้ายันมืด ศปถ.ตั้งด่านคุมเข้มป้องกันขับรถเร็ว-เมาขับ ยอดตาย 5 วัน 263 ศพ ขณะที่การขนส่งสาธารณะทั้งบขส. รถไฟ เครื่องบิน ต้องเพิ่มเที่ยวป้องกันผู้โดยสารตกค้าง หัวลำโพงก็คึกคัก ประชาชนที่เดินทางโดยรถไฟถึงกรุงแล้ว ตั้งจุดตรวจ เอทีเคฟรี รองผบ.ตร.บินสำรวจ คาดมีปริมาณรถกว่า 6 แสนคัน
ตกคลอง – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือรถเก๋งประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน ตกคลองบริเวณ คันคลองชลประทาน หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ดังกล่าว รวม 6 ราย เมื่อวันที่ 3 ม.ค.
ปีใหม่วันที่ห้าดับแล้ว 263
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ศปถ.) เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 ม.ค.ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 34 ราย ผู้บาดเจ็บ 311 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.85 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 29.32 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.02 รองลงมา คือรถปิกอัพ/กระบะ ร้อยละ 8.14
อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 83.40 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.69 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.57 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 21.82 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 15.97 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,903 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,014 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 436,162 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 91,720 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,860 ราย ไม่มีใบขับขี่ 23,639 ราย
ขณะที่จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตรัง 12 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่กรุงเทพมหานคร และอุดรธานี จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 15 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 53 จังหวัด ในส่วนของสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.64 – 2 ม.ค.65) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,221 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 263 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,198 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (82 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (17 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (78 คน)
เข้มขับรถเร็ว-เมาขับ
นายบุญธรรมกล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่างๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ ศปถ.ได้ประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการดูแลความปลอดภัยบนเส้นทางสายหลัก สายรองเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ/จังหวัด รวมถึงทางลัดทางเลี่ยง เพิ่มความถี่ในการการเรียกตรวจ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ เน้นการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนของผู้ขับขี่ ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ประสานการเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดประสานการปฏิบัติและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชน
“วันนี้คาดว่าเส้นทางหลักทุกสายจะมีปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัว และการจราจรติดขัดในบางช่วงตลอดทั้งวัน อาจทำให้ผู้ขับขี่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายและง่วงหลับใน จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว จอดพักรถเป็นระยะในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น จุดบริการต่างๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด “เร็ว เมา โทร ง่วง ไม่ขับ” เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป” นายบุญธรรมกล่าว
ตร.สั่งพร้อมอำนวยจราจร
ที่ศูนย์บริหารงานจราจร (ผอ.ศจร.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ผอ.ศจร.ตร.) สั่งกำชับให้ทุกหน่วยเน้นอำนวยการจราจร ให้ประชาชนเดินทางโดยสะดวกและปลอดภัย 1.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเน้นการยืนปรากฏกายบนถนนในจุดสำคัญ เช่น จุดตัดถนน ทางแยก ทางข้าม สถานีบริการน้ำมัน สถานที่สำคัญต่างๆ โดยการปฏิบัติให้มีการใช้นกหวีด และมีอุปกรณ์ประจำกายให้ครบถ้วน ในเวลากลางคืนให้ใส่เสื้อสะท้อนแสง ใช้กระบองไฟ เพื่อให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน การกดไฟสัญญาณในแยกต่างๆ ให้ควบคุมกดไฟสัญญาณด้วยมือ
2.เตรียมความพร้อมชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเข้าไปแก้ไขกรณีเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้สามารถแยกรถ เคลื่อนย้ายรถได้ทันที รวมถึงเข้าไปอำนวยการจราจรและแก้ไขปัญหาจุดที่รถติดสะสม หรือการจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะในเส้นทางที่มีปริมาณรถจำนวนมาก เช่น ถนนมิตรภาพ ถนนพหลโยธิน ถนน 304 (เขาหินซ้อน) ถนนสายเอเชีย รวมถึงเส้นทางพิเศษ ทั้งด่านบางปะอิน มอเตอร์เวย์ กาญจนาภิเษก 3.ให้ทุกหน่วยที่เป็นพื้นที่รอยต่อ
โดย เฉพาะบช.น. ภ.1 ,2 ,3 และ บก.ทล.บูรณาการและประสานการปฏิบัติในการอำนวยการจราจรเพื่อรับรถกลับเข้า กทม. อย่างต่อเนื่อง และ 4.ให้ รอง ผบช. /รอง ผบก. ทุกหน่วยและผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น กำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด
สำหรับสถิติอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ปีที่แล้ว พบว่าสถิติอุบัติเหตุลดลง โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุ ยอดสะสม 5 วันของเทศกาลปีใหม่ 65 อุบัติเหตุเกิดจำนวน 2,221 ครั้ง ลดลงจากยอดสะสม 5 วัน ของปีใหม่ปีที่แล้ว จำนวน 522 ครั้ง (ลดลง 19.03%) ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิต จำนวน 263 ราย ลดลงจำนวน 67 ราย (ลดลง 20.30%) ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 2,198 คน ลดลง 524 คน (ลดลง 19.25%)
รองผบ.ตร.บินตรวจสภาพจร.
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมคณะ ร่วมตรวจสภาพการจราจร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยนั่งเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ ไปยังสนามบินนครสวรรค์ กรมฝนหลวง และการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อ.เมืองนครสวรรค์ ตรวจสภาพการจราจรที่จะมาจากภาคเหนือ ทล.32 เชื่อม ทล.1 และถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ดูการเปิดจุดช่องทางพิเศษ ทล.1 ก.ม.329 พร้อมควบคุมและอํานวยการจราจร บริเวณจุดเปิดช่องทางพิเศษ พบว่า ประชาชนเลี่ยงการจราจรติดขัดไปใช้ถนนบายพาสเลี่ยงเมือง ส่งผลให้มีการจราจร หนาแน่น สั่งการให้ตำรวจทางหลวง เปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถขาเข้ากรุงเทพฯ
ต่อมา คณะของ รอง ผบ.ตร.ได้บินสำรวจเส้นทางการจราจรภาคอีสาน ทล.4 บริเวณเนินกลางดง จ.นครราชสีมา, เนินทับกวาง จ.สระบุรี จากนั้นเดินทางต่อไปยังสนามฮ.ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร อ.เมืองสระบุรี ตรวจการควบคุมจุดเปิดช่องทางพิเศษ ทล.1 ก.ม.99 เชื่อมต่อกับ ถ.บายพาสสระบุรี ก่อนจะบินตรวจสภาพการจราจร ทล.1, ก.ม.54 (ต่างระดับบางปะอิน) และถนนมอเตอร์เวย์ ทลพ.9 ก.ม.0 (ขึ้นวงแหวนตะวันออก)
โดยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจการจราจรวันนี้ พบว่าประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากฉลองปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา โดยมีสถิติรถเดินเข้ามากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. จำนวน 520,000 คัน และวันที่ 2 ม.ค. จำนวน 600,000 คัน คาดว่าวันนี้ (3 มกราคม) จะมีรถเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 600,000 คัน โดยภาพรวมมีความพอใจสถิติอุบัติเหตุลดลงกว่า 20%
บุรีรัมย์เร่งระบายรถ
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนทาง หลวงแผ่นดินหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ช่วงระหว่าง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งรองรับรถจากจังหวัดอีสานตอนล่าง ก่อนเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดทางภาคตะวันออก เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ก็มีทั้งรถโดยสารประจำทาง รถยนต์ส่วนตัวสัญจรเป็นจำนวนมาก บางช่วงเคลื่อนตัวได้ช้า ขณะที่บางช่วงจอดติดยาวเหยียดกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานอย่างหนัก เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งระบายรถไม่ให้จอดติดสะสมเป็นเวลานาน เพราะคาดว่าวันนี้จะมีรถสัญจรเดินทางกลับคับคั่งตลอดทั้งวันเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดท้าย
พ.ต.อ.เจษสฤษฎ์ แพ่งศรีสาร ผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย ได้ระบุขณะลงพื้นที่มาบัญชาการระบายรถด้วยตัวเองว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ประโคนชัย โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกประโคนชัย ซึ่งรองรับรถมาจากหลายจังหวัดอีสานตอนล่าง จะพบปัญหา ถนนมีขนาดช่องจราจรไม่เท่ากัน
ซึ่งถนนทางหลวงหมายเลข 24 ทั้งขาไปและขากลับจะมี 6 ช่องจราจร แต่ทางที่จะไป อ.บ้านกรวด ซึ่งประชาชนจะนิยมใช้เป็นทางลัดเพื่อมุ่งหน้าสู่ถนนภาคตะวันออก ถนนจะเป็น 2 เลนที่รถวิ่งสวนทางกัน จึงทำให้เกิดปัญหาเคลื่อนตัวได้ช้า ส่งผลให้การระบายรถที่จะมาจากทาง จ.บุรีรัมย์ ระบายได้ไม่เต็มที่
ดังนั้นก็เน้นไปเร่งระบายรถที่เดินทางมาจากทาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นหลัก เพื่อให้ประชาชนที่จะเดินทางได้คล่องตัวมากที่สุด อีกปัญหาที่พบคือประชาชนจะไม่นิยมใช้เส้นทางเบี่ยงที่ เจ้าหน้าที่แนะนำ ซึ่งอาจจะกลัวหลงทางเพราะไม่เคยไป จึงทำให้ปริมาณรถถนนสายหลักค่อนข้างมากส่งผลทำให้รถติด
ขอนแก่นจัดรถเสริมส่งคน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจสภาพการจราจร บน ถ.มิตรภาพ ทั้งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ถนนเลี่ยงตัดผ่านขอนแก่น-อุดรธานี, ขอนแก่น-กาฬสินธุ์ และขอนแก่น-มหาสารคาม รวมถึงช่วงสะพานต่างระดับ อ.พล จ.ขอนแก่น ยังคงมีปริมาณรถที่สะสมหนาแน่นมาตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดสัญญาณไฟจราจรในหลายจุด เพื่อเร่งระบายรถ รวมทั้งการปิดจุดกลับรถ และทางเบี่ยงบางจุดเพื่อให้การเดินรถเป็นไปอย่างคล่องตัว รวมไปถึงการเปิดช่องทางพิเศษขาล่อง อ.พล จ.ขอนแก่น รอยต่อกับอ.บัวลาย จ.นครราชสีมา เพื่อให้รถที่เดินทางมาจากกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบนและตอนกลางได้เข้าสู่พื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง จุดตัด จ.ขอนแก่นและ จ.นครราชสีมา ได้เดินทางอย่างคล่องตัวและสะดวกมากขึ้น
ขณะที่สถานีขนส่งขอนแก่นแห่งที่ 3 ยังคงมีผู้โดยสารที่มารอการโดยสารกันอย่างเนืองแน่นและต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ต้องการเดินทางกลับกรุงเทพฯ, เขตปริมณฑลและกลุ่มจังหวัดทางภาคตะวันออกในย่านนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ตั๋วโดยสารหมดอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องประกาศให้รอรถเที่ยวเสริมหรือเลื่อนวันเดินทางไปในวันถัดไป ผู้โดยสารบางส่วนต้องนั่งรถโดยสารระยะสั้นจากขอนแก่นไปที่ จ.นครราชสีมา เพื่อต่อรถโดยสารในจุดดังกล่าวแทน
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า คาดว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำภาพรวมการเดินทางผ่าน จ.ขอนแก่น จะมีปริมาณรถที่หนาแน่นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมไปถึงการควบคุมและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ต่างๆ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามได้มีการประสานงานร่วมกับผู้ประกอบการและบริษัทขนส่ง ในการเร่งจัดหารถเที่ยวเสริมมาให้บริการกับผู้โดยสารที่มารอการโดยสารไปในเส้นทางสายต่างๆ โดยยืนยันว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างย่างแน่นอน
มิตรภาพติดหนึบทั้งวัน
ด้านสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบว่ามีรถยนต์หนาแน่นมาก จนเกิดการจราจรติดขัดเป็นทางยาวกว่า 20 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณแยกบ้านวัด อ.คง ซึ่งมีรถสะสมหนาแน่น และเคลื่อนตัวได้ช้าเป็นทางยาวไปจนถึงเขต อ.โนนสูง จากภาพมุมสูง จะเห็นว่าปริมาณรถขาเข้าจ.นครราชสีมา ติดสะสมเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร โดยในช่วงเย็นเจ้าหน้าที่จะเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่แยกบ้านวัด ต.คง จนถึงแยกบ้านสัมฤทธิ์ อ.โนนสูง ระยะทางยาวกว่า 8 กิโลเมตร เพื่อเร่งระบายรถ
ขณะเดียวกันการจราจรบนถนนมิตรภาพ ในเขต อ.ปากช่อง ขณะนี้ได้มีรถวิ่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีรถที่วิ่งลงมาจากถนนมอเตอร์เวย์ บริเวณศูนย์ฝึกสุนัข ต.หนองสาหร่าย สมทบกับรถยนต์ที่วิ่งมาบนถนนมิตรภาพตามปกติ ทำให้เกิดรถสะสมเป็นจำนวนมาก เป็นระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร ตั้งแต่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปจนถึงพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดช่องทางพิเศษระยะทางยาวกว่า 16 ก.ม. ตั้งแต่หลัก ก.ม.ที่ 65 ไปจนถึงหลัก ก.ม.ที่ 49 หน้าฟาร์มโชคชัย และที่บริเวณเขต ต.กลางดง อีกแห่งเป็นระยะทางยาวกว่า 10 ก.ม. เพื่อเร่งระบายรถที่ติดสะสมเป็นจำนวนมาก ให้สามารถเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่องคาดรถแน่นตลอดทั้งวันไปจนถึงค่ำ
บขส.-รถไฟเพิ่มเที่ยวรองรับ
ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นครราชสีมา ประชาชนแห่มาเข้าคิวรอซื้อตั๋วรถโดยสารกันอย่างคึกคัก ทั้งประชาชนที่จะเดินทางเข้ากทม.และที่จะเดินทางไปยังภาคตะวันออก โดยเฉพาะจุดจำหน่ายตั๋วรถโดยสารสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ ที่มีประชาชนเดินทางมาซื้อตั๋วอย่างไม่ขาดสาย
นายปิยะ โยมา ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยว่า ได้มีการหารือไปยังผู้ประกอบการเดินรถเพื่อจัดเตรียมเพิ่มจำนวนรถรองรับการเดินทางกลับไปยังกทม.ของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ยังทยอยเดินทางกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มีจำนวนรถที่พาผู้โดยสารเดินทางกลับกทม.ไปแล้ว 67 เที่ยว และพร้อมที่จะเพิ่มจำนวนรถเข้าไปอีกหากดูแล้วยังไม่เพียงพอกับประชาชนที่จะเดินทาง อยากฝากไปยังประชาชนที่จะเดินทางว่าอยากให้มั่นใจและไม่ต้องห่วงไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน
ส่วนที่สถานีรถไฟนครราชสีมามีประชาชนทยอยเดินทางมาซื้อตั๋วสำหรับเดินทางกลับกทม.กันอย่างต่อเนื่อง นายอำพล รัตนิยะ นายสถานีฯ กล่าวว่า ได้วางแผนรองรับหากเกิดกรณีผู้โดยสารมีจำนวนเยอะด้วยการเพิ่มตู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มขบวนพิเศษที่ต้นทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อไม่ให้มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง พร้อมกับจะดูแล ผู้โดยสารทุกคนเป็นอย่างดี
เชียงรายตั้งจุดบริการประชาชน
นายอนุวัฒน์ วงศ์จำรัส ขนส่งจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงรายได้มีมาตรการของกรมการขนส่งทางบก มีการตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะที่จะเข้ามาให้บริการที่สถานีขนส่งทุกสถานี
โดยตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ ตรวจใบอนุญาตขับขี่ ตรวจสภาพความพร้อมของรถก่อนเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยคมนาคมที่แยกแม่กรณ์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.64 ถึงวันที่ 4 ม.ค.65 โดยร่วมกับทางอาชีวศึกษา
โดยนำนักศึกษามาคอยอำนวยความสะดวกดูแลรถของประชาชน พร้อมกันนี้ได้ฝากเตือนพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาล สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของความเร็ว ขอความกรุณาเมาอย่าขับ การออกจากทางร่วมทางแยกขอให้มีการระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ขณะที่จังหวัดเชียงรายได้ตั้งจุดบริการตามด่านตรวจต่างๆ เช่น ที่ด่านปูแกง อ.พาน จ.เชียงราย จุดบริการประชาชน แยกแม่กรณ์ ซึ่งประชาชนสามารถใช้บริการสอบถามเส้นทางหรือหยุดพักตามจุดบริการเหล่านี้ได้หากรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง หรือต้องการคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้
คัดกรอง – จนท.ตรวจคัดกรอง นักท่องเที่ยวและ ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทัวร์เดินทางกลับกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ เพื่อป้องกันเชื้อโควิดระบาด ที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อ 3 ม.ค.
เชียงใหม่ตรวจเอทีเคก่อนขึ้นรถ
บรรยากาศการเดินทางที่สถานีขนส่ง ผู้โดยสารเชียงใหม่แห่งที่ 3 หรืออาเขต จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทยอยใช้บริการเนืองแน่น โดยทางขนส่งจังหวัดเชียงใหม่และผู้ประกอบการเดินรถจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมคุมเข้มเรื่องการตรวจคัดกรองวัดไข้ ตรวจบัตรประชาชน รวมทั้งให้สแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะก่อนขึ้นรถโดยสาร ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งยังคงเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องปลอดแอลกอฮอล์และขับขี่อย่างปลอดภัย และมีการสำรองรถเตรียมพร้อมไว้อย่างเพียงพอรองรับทุกเส้นทาง
โดยเฉพาะเส้นทางสายเหนือที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ มีการเสริมรถไปแล้ว 65 เที่ยว เพิ่มจากปกติในเส้นทางเชียงราย พะเยา น่าน จากเที่ยวรถปกติที่มีอยู่รวม 33 เที่ยว เส้นทางที่เสริมรถมากที่สุดคือ จากจังหวัดเชียงราย จำนวน 38 เที่ยว ขณะที่รถโดยสารเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพ มหานคร ที่ออกจากสถานีขนส่งเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมามีการเสริมรถเพิ่มขึ้น 4 เที่ยว จากปกติที่มีวิ่งอยู่ 55 เที่ยว
นครสวรรค์ติดยาว 10 ก.ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรช่วงจ.นครสวรรค์ หลังจากที่ประชาชนต่างเดินทางกลับเข้ากรุงเพื่อทำงานตามปกติ ส่งผลให้สภาพการจราจรขาล่องรถแน่นทั้งสาย 112 ที่เดินทางมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ผ่านเส้นทางเลี่ยงเมืองไปร่วมถนนสายเอเชียในอำเภอพยุหะคีรี และถนนสาย 117 ที่เดินทางมาจากจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก ผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ ข้ามสะพานเดชาติวงศ์ไปร่วมกับเส้นทางสายหลักถนนสายเอเชียทำให้ติดยาวเคลื่อนตัวช้าๆ ระยะทางติดสะสมเกือบ 10 กิโลเมตร ปริมาณรถที่ข้ามสะพานเดชาติวงศ์ ติดสะสมยาว ตำรวจต้องเปิดใช้สะพานเดชาฯ เก่าเพื่อเพิ่มช่องทางจราจร คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งคืน
ขณะที่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. เดินทางมาตรวจจุดเปิดช่องทางพิเศษ ทางหลวง 1 ก.ม.329 บริเวณศูนย์ซูซูกิยาวไปถึงคลังสรรพาวุธ ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี ระยะทางยาวกว่า 10.7 ก.ม. เพื่อระบายรถที่คาดว่าจะมีมาสมทบต่อเนื่องเรื่อยๆ และ ยังตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนหน้า สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อแก้ปัญหาจราจรบนเส้นทางสายหลักที่คาดว่าจะมีรถเข้ากทม.จนถึงพรุ่งนี้เช้าอีกด้วย
ต่อมาช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงก็ได้เปิดช่องทางจราจรพิเศษเพิ่มอีก 1 ช่องจราจร บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 332 ตั้งแต่ ต.เขาทอง จนถึงสี่แยกอ.พยุหะคีรี ระยะทางยาวกว่า 11 ก.ม. ทำให้ขณะนี้ 4 ช่องจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานครจากตัวเมืองนครสวรรค์จนถึงพยุหะคีรีมีปริมาณรถเต็มทั้ง 4 ช่องจราจร และยังพบว่ามีปริมาณรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตรอีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ประชุมและคาดการณ์ว่าตลอดทั้งคืนของคืนนี้จนถึงเช้าจะยังมีปริมาณรถจากภาคเหนือผ่านตัวจังหวัดนครสวรรค์อย่างต่อเนื่อง
สายเอเชียหนึบถึงอยุธยา
ส่วนถนนสายเอเชีย ช่วง จ.อ่างทอง พบว่ารถเริ่มหนาแน่นอย่างมาก ใช้ความเร็วได้เพียง 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับการจราจรในช่วงนี้เป็นช้าสลับหยุดนิ่ง มีการชะลอตัวเป็นระยะตามทางแยก ทางโค้งและคอสะพาน โดยบริเวณ อ.ไชโย กับรอยต่อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ไปจนถึง อ.เมืองอ่างทอง ยาวไปจนถึง อ.มหาราช จ.พระนคร ศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่ายิ่งใกล้ช่วงค่ำปริมาณรถยนต์จะหนาแน่นมากขึ้นกว่านี้ เพราะประชาชนจะเดินทางกลับจากการ ท่องเที่ยวในภาคเหนือ จึงมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกของประชาชนและป้องกันอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องด้วย
ขณะที่ช่วงหลักก.ม.ที่ 26 สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ต.บ่อโพง อ.นครหลวง พบปริมาณรถหนาแน่น เต็มทุกช่องการจราจร ลงจากสะพานมีรถเลี้ยวซ้าย เข้าตัว อ.นครหลวง ทำให้รถชะลอตัว เคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่ง
นอกจากนี้ยังพบว่าช่วงหลักก.ม.ที่ 25 สะพานข้ามทางรถไฟ ลงจากสะพานเป็นทางเบี่ยงซ้ายเข้าตลาดกลางเพื่อการเกษตร แหล่งจำหน่ายกุ้ง และร้านอาหาร ของฝาก มีรถยนต์เบี่ยงซ้ายแวะพักรถ เพื่อซื้อสินค้าทำให้รถชะลอตัว
ส่วนในช่วงของต่างระดับอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา หลักก.ม.ที่ 18 มีรถยนต์เบี่ยงซ้ายไปถนนโรจนะ มุ่งหน้าสู่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตรถกระบะหลายคันบรรทุกสิ่งของ พืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวสารกลับมาจากภูมิลำเนา เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน คาดว่าในช่วงค่ำจนถึงดึกปริมาณจะหนาแน่นต่อเนื่อง
เที่ยวปีใหม่ – นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กลับกรุงเทพฯ หลังมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีมาตรการคัดกรองเข้มงวด เพื่อป้องกันโควิด พร้อมเพิ่มเที่ยวบินสำหรับขนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เมื่อ 3 ม.ค.
สมุยเพิ่มเที่ยวบินเป็น 32 เที่ยว
บรรยากาศภายในสนามบินสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เตรียมตัวเดินทางออกจากเกาะสมุยกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์สไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางภูมิลำเนาและประเทศของตัวเอง หลังจากที่เดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนในช่วงวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2022 ที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
ทางสนามบินสมุยแจ้งว่าวันนี้มีผู้โดยสารที่จะเดินทางออกจากเกาะสมุยจำนวนกว่า 3,000 คน ซึ่งทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้เพิ่มเที่ยวบินรองรับจำนวนผู้โดยสารขาออกเป็นจำนวน 32 เที่ยวบิน ขณะเดียวกันวันนี้ก็มีผู้โดยสารเดินทางเข้าทางสนามบินสมุยอีกกว่า 1,500 คน
กลับกรุง – ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับจากภูมิลำเนาเข้ากรุงเทพฯ หลังหมดวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้สถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีขนส่งต่างๆ เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เมื่อวันที่ 3 ม.ค.
กลับถึงกรุงแล้วเต็มหัวลำโพง
ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือหัวลำโพง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนาเข้าสู่กรุงเทพฯ แล้ว หลังจากหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ บางคนก็กลับบ้าน บางคนก็ไปเที่ยว โดยวันนี้ยังถือเป็นวันชดเชยอีก 1 วัน และพรุ่งนี้ก็จะเริ่มทำงานกันอย่างจริงจังแล้วในปี 2565 นี้ สำหรับบรรยากาศที่สถานีรถไฟก็ยังพบประชาชนแบกข้าวของกลับจากต่างจังหวัด บ้างเป็นของฝาก บ้างเป็นอาหารการกิน ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อจะได้ประหยัดเงินจากการซื้อหาอาหารและประทังชีวิตในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดบริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ฟรีที่สถานีรถไฟด้วย โดยเป็นความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีประชาชนสนใจมารับการตรวจ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
