รับปรึกษา-ปัญหา24ชม.
ทั้งเรื่องหนี้-งาน-ส่วนตัว
สลด2วันก่อเหตุ2ราย
ตร.ฆ่าตัว 2 วัน 2 ราย เป็นนายสิบกองปราบฯ-สน.พญาไท โฆษกตร.เผย ผบ.ตร.กำชับผู้บังคับบัญชาดูแลกำลังพล เพื่อป้องกันสูญเสียให้ตรวจสุขภาพกาย-จิตทุกปี ขณะร.พ.ตำรวจตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาเฉพาะทาง มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เผยสถิติตั้งแต่ปี 51 ตร.ฆ่าตัวแล้ว 443 นาย เหตุจากสุขภาพกาย 129 ราย ส่วนเหตุจากงานมี 18 นาย
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ม.ค. สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต แฟลต 5 ซ.วิภาวดี 40/1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุพบศพ ส.ต.อ.อภิวัฒน์ ทองไท อายุ 28 ปี สังกัด ผบ.หมู่กก.1 บก.ป. เสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ดังกล่าว ข้างกายพบอาวุธปืนขนาด 9 .มม. รุ่นกล็อก 19 วางอยู่บริเวณข้างๆ ผู้เสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่นิติเวชและกองพิสูจน์ หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช วิทยา ร.พ.ตำรวจ ชันสูตรตามระเบียบต่อไป
สอบถาม ส.ต.อ.พัฒนพงษ์ ชูค้ำ ผบ.หมู่ร้อยปพ.2 กองกำกับการต่อต้านก่อการร้าย บก.สปพ. เพื่อนผู้เสียชีวิต ผู้แจ้งเหตุ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.10 น. กำลังจะไปทำงานจึงแวะเคาะประตูห้องดังกล่าวเพื่อจะปลุกเพื่อน เพราะผู้เสียชีวิตพักอยู่คนเดียว ยืนเคาะอยู่นานไม่มีการตอบรับ เลยงัดบานเกล็ด เปิดดู พบศพส.ต.อ.อภิวัฒน์ จึงแจ้งไป ที่ศูนย์วิทยุ 191 พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และแจ้งพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา สน.พญาไท รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บในบ้านพักข้าราชการตำรวจ อาคาร 2 (แฟลต สน.พญาไท) ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 3 ห้องเลขที่ 320/18 ภายในห้องนอนพบร่าง ส.ต.ท.ศิริศักดิ์ ญาติปราโมทย์ อายุ 29 ปี ผบ.หมู่ จร.สน.พญาไท ใช้อาวุธปืนประจำกายขนาด 9 ม.ม. รุ่นกล็อก 43 ยิงตัวเองเสียชีวิต
โดยพ.ต.อ.บวรภพ ผกก.สน.พญาไท กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้นยืนยันเป็นการฆ่าตัวตายจริง คาดว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัว ส่วนสาเหตุข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างสอบสวนปากคำพยานแวดล้อม โดยเฉพาะภรรยาที่เป็นผู้ใกล้ชิดยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน 2 นาย ทำอัตวินิบาตกรรมในพื้นที่ สน.พญาไท และสน.พหลโยธิน ในเวลาไล่เลี่ยกัน ว่า สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตทั้ง 2 พื้นที่ ทางผู้บังคับบัญชายังไม่สามารถสรุปสาเหตุการฆ่าตัวตายได้ เพราะเหตุเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน อย่างไรก็ตาม ปัญหาตำรวจฆ่าตัวตาย ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ และหัวหน้าสถานี เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลและตรวจสอบ ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดว่าใครมีปัญหาอะไร เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ในอนาคต
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวต่อว่า ตามสถิติสาเหตุการฆ่าตัวตายมาจากปัญหาสุขภาพเป็น อันดับแรก รองลงมาคือ ปัญหาหนี้สิน รวมถึง ปัญหาอื่นๆ เช่น เรื่องส่วนตัว ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตำรวจฆ่าตัวตาย ตั้งแต่ปี 2551-2564 มีตำรวจฆ่าตัวตาย 443 นาย เกิดจากปัญหาสุขภาพ 129 นาย ปัญหาอื่นๆ 121 นาย ปัญหาครอบครัว 98 นาย ปัญหาส่วนตัว 39 นาย ปัญหาหนี้สิน 38 นาย ปัญหาเรื่องงาน 18 นาย โดยในปี 2564 มีการสรุปสาเหตุการตาย 21 นาย เกิดจากปัญหาสุขภาพ 11 นาย ปัญหาหนี้สิน 5 นาย ปัญหาส่วนตัว 3 นาย ปัญหาเรื่องงาน 1 นาย ปัญหาอื่นๆ 1 นาย
ส่วนปัญหาสุขภาพ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากความเครียดทางจิตหรืออาการป่วยทางร่างกาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เน้นให้ตำรวจทุกนายตรวจสุขภาพประจำปี ทั้งร่างกายและสุขภาพจิต เนื่องจากตำรวจต้องทำงานภายใต้งานที่กดกัน และสุ่มเสี่ยง ซึ่งทาง ร.พ.ตำรวจ ได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาเฉพาะทาง เพื่อให้คำแนะนำกับข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ผ่านทางเพจ เฟซบุ๊ก ศูนย์สุขภาพจิต Depress We Care หรือโทร. 08-1932-0000 หากตำรวจรายใดต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อผ่านช่องทางดังกล่าว จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โฆษก ตร.ยังยอมรับอีกว่า ขณะนี้ รพ.ตร.อยู่ระหว่างเพิ่มศักยภาพ เกี่ยวกับการให้บริการด้านสุขภาพจิต โดยจะเน้นการเพิ่มบุคลากร เพื่อให้บริการตำรวจทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง โดยขณะนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความเครียดมากขึ้น จึงเตรียมให้ความสำคัญกับสุขภาพทางจิตเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตำรวจทุกนายก่อนจะเข้ารับราชการ จะต้องผ่านการตรวจสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตทุกนาย แต่ไม่ได้ยืนยันว่าการเข้ามารับราชการ จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ เกิดการป่วยเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าตำรวจมีภาวะเครียด หรืออาการทางจิตมากน้อยเพียงใด
