สร้างภาพคนดี‘เข้าวัด-ทำบุญ’จนมุมสระบุรี
บก.ป.ลุยจับลุงหื่น สร้างภาพนักบุญ ผู้ปฏิบัติธรรมชอบช่วยเหลือผู้อื่น จนชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ ก่อนออกลายลวงด.ญ.วัย 10 ขวบ ข่มขืนกระทำชำเรา คาบ้านพักที่จ.เพชรบูรณ์ แล้วข่มขู่ห้ามบอกใคร ไม่งั้นครอบครัวจะเดือดร้อน จนเหยื่อ สาวอดทนมานาน 3 ปี จนไม่ไหว แจ้งครอบครัวติดตามไล่ล่า ขณะที่ลุงหื่นหนีคดีมาจากเพชรบูรณ์ สุดท้ายไปจนมุมที่สระบุรี สอบสวนให้การรับสารภาพ
ขืนใจด.ญ. – กองปราบฯ จับกุมนายศิรสิทธิ์ ธัญโภคินเสถียร อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนเด็กหญิงวัย 10 ขวบ โดยก่อเหตุมานานกว่า 3 ปี ที่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนหลบหนีมา จนมุมที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี สอบสวนรับสารภาพ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.
วันที่ 22 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.ศรัณย์ ศรีพักตร์ สว.กก.4 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโคก จ.เพชรบูรณ์ และ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี เข้าจับกุมนายศิรสิทธิ์ ธัญโภคินเสถียร อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 2/2565 ลงวันที่ 21 ม.ค. 2565 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี และ พาบุคคลอายุยัง ไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร” โดยจับกุมตัวได้ที่ริมถนนสาธารณะ ม.6 บ้านเขาเกตุ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2561 นาย ศิรสิทธิ์ ผู้ต้องหา ยังพักอยู่ที่จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างนั้นก็ทำตัวเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ชอบช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จนชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ รวมทั้งด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ผู้เสียหาย ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กัน ผู้ต้องหาก็ทำทีเป็นรักเอ็นดูเหมือนลูกหลานของตัวเอง จนครอบครัวของ ด.ญ.เอ ก็ไว้วางใจให้ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ
ในวันเกิดเหตุด.ญ.เอเข้าไปเล่นที่บ้านของผู้ต้องหาตามปกติ แต่ครั้งนี้ผู้ต้องหาฉวยโอกาส ขณะที่ด.ญ.เอเข้าห้องน้ำ ก็เดินตามเข้าไปใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นก็ข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร เพราะจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนทำให้ครอบครัวของด.ญ.เอเดือดร้อนและได้รับความอับอาย หลังจากนี้ต่อไปหาก ด.ญ.เอ อยากจะได้อะไร ก็จะหาซื้อให้ด้วย
ภายหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวว่า ครอบครัวจะเดือดร้อน จึง ไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนในครอบครัวฟัง ทำให้หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผู้ต้องหาก็คอยหาโอกาสล่วงละเมิดและข่มขืน ผู้เสียหายเรื่อยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 3 ปี จนกระทั่งปลายเดือนธ.ค. 2564 ผู้เสียหายก็ไม่สามารถที่จะทนกับพฤติ กรรมของผู้ต้องหาได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจเล่าเรื่องให้กับคนในครอบครัวฟัง ผู้ปกครองของด.ญ.เอจึงรีบพาเข้าแจ้งความที่สภ. บ้านโคก ส่วนนายศิรสิทธิ์ เกิดไหวตัวทัน เมื่อทราบว่าถูกแจ้งความจับ จึงชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ก่อน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายศิรสิทธิ์ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว สอบสวนนายศิรสิทธิ์ ให้การรับสารภาพนำตัวส่ง สภ.บ้านโคก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
