ป้อมลุยหลักสี่ตีปี๊บช่วยเจ๊หลี พท.จับตาโกง

‘ดร.เอ้’ เป็นกำลังใจให้ ‘วิโรจน์’ หลังพรรคก้าวไกลเปิดตัวส่งชิงผู้ว่าฯ กทม. เชื่อไม่ตัดคะแนนตัวเอง เพื่อไทยยื่นมหาดไทยสอบผู้ว่าฯ อัศวิน ตั้งกรรมการติดตามนโยบาย เอื้อตัวเองชิงเก้าอี้ จี้มท.กำหนดวันเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ เมืองหลวง จับตากลโกงเลือกซ่อมหลักสี่ ไม่ให้ซ้ำรอยปี 62 ‘ป้อม’ ลุยปราศรัยช่วย ‘เจ๊หลี’ ยัน พปชร.ไร้ปัญหา ‘นิโรธ’ รับเสียงรัฐบาลวิกฤตหลังมติขับ 21 ส.ส. ดักคอ ‘ธรรมนัส’ แถลงเองยังหนุนรัฐบาล ‘บิ๊กน้อย’ ยังกั๊กร่วมตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย ส.ส.เอกราชโต้ย้ายซบภูมิใจไทย เรืองไกร ลาออกอีกราย ตู่สั่งรมต.รับมืออภิปรายแบบไม่ลงมติ สภาไม่หวั่นโควิด หลัง ‘ชัยวุฒิ’ ติดเชื้อ เดินหน้าประชุมต่อ

ตู่บินเยือนซาอุฯ
เวลา 09.00 น. วันที่ 24 ม.ค. ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยขยับมาประชุมวันนี้แทนวันอังคารที่ 25 ม.ค. เนื่องจากนายกฯ ต้องไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 25- 26 ม.ค. ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีช อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ซาอุฯ โดยนายกฯ ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 4 เมื่อ 21 ม.ค.ที่ผ่านมาจากบริษัทไฟเซอร์ เรียบร้อยแล้ว และจะขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองกองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 07.00 น. กลับถึงไทยในเวลา 08.45 น. วันที่ 26 ม.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอีเอส) ติดโควิด-19 จากการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ระหว่าง 20-22 ม.ค.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีภารกิจหรือประชุมร่วมกับนายชัยวุฒิ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งประชุมครม.แบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จึงไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิด และพล.อ.ประยุทธ์ตรวจหาเชื้อเป็นประจำ ทุกสัปดาห์ ล่าสุดนายกฯ ยังตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ก่อนเดินทางด้วย

เชื่อมสัมพันธ์ในรอบ 30 ปี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังครม.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดเยือนซาอุฯ ระหว่าง 25-26 ม.ค.โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ร่วมคณะ โดยการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้เป็นไปตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซาอุดีอาระเบีย เป็นการเยือนระดับผู้นำรัฐบาลระหว่าง 2 ประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และนายกฯ มีกำหนดเข้าเฝ้าและพบปะหารือกับเจ้าชายมุฮัมมัดฯ เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ปี 2532 ที่เกิดปัญหา การเยือนครั้งนี้ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นและเพิ่มสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่แล้ว

วอนสภาผ่านร่างกฎหมายลูก
นายธนกรแถลงด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบรายงานรัฐสภาที่คาดว่าจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ก.พ.นี้ โดยนายกฯ ขอให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนร่วมกันผลักดันกฎหมายที่มีความสำคัญ ส่วนรัฐบาลตั้งใจให้กฎหมายของไทยเป็นไปตามหลักสากล

ขณะที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น นายกฯ ขอให้ทุกกระทรวงเตรียมความพร้อมชี้แจง โดยรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต้องช่วยชี้แจง นายกฯ ย้ำว่าการทำงานของรัฐบาลไม่มีคำว่าพรรคร่วม มีแต่พรรคร่วมรัฐบาลเพียงอย่างเดียวและเพียงหนึ่งเดียว

นายธนกรยังตอบแทนนายกฯ ถึงความสบายใจหลังร่วมรับประทานอาหารและพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปแล้ว รวมทั้งอยากให้ยืนยันอีกครั้งว่า พี่น้อง 3 ป. ไม่แตก และไม่ขัดแย้งกันว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่าไม่ได้มีปัญหาใดๆ กัน ขออย่ายุยงแตกแยก บิดเบือนในสื่อหลาย ช่องทาง ซึ่งต้องช่วยกันทำงานให้ได้ต่อไป

รบ.พร้อมเปิดวิสามัญกันครหายื้อ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่มีการนำ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเข้าครม. และไม่จำเป็นต้องให้ ครม.พิจารณาแล้ว เนื่องจากสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ความว่าตรวจสอบเสร็จทั้ง 2 ฉบับ ซึ่ง กกต.ต้องนำไปรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน โดยครบกำหนด 2 ก.พ. จากนั้นไม่ต้องนำเข้าครม. โดยคาดจะเข้าสภาได้ก.พ. พร้อมฉบับของ ส.ส.ที่นายกฯ จะเซ็นรับรองและส่งไป จะทำให้การพิจารณากฎหมายลูกล่าช้าไปเพียงไม่กี่วัน เพราะปิดสมัยประชุม 28 ก.พ. ช้าหรือเร็วก็ยังไม่เสร็จอยู่ดี ซึ่งรัฐบาลพร้อมเปิดสมัยวิสามัญให้ 2-3 วันเท่าที่ต้องการ เพื่อพิจารณากฎหมาย ดังกล่าวในวาระ 2, 3 ซึ่งสภาจะพิจารณาเมื่อใดก็แล้วแต่สภา อาจเปิดประมาณเดือนเม.ย. โดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้ดำเนินการกฎหมาย ดังกล่าวภายใน 180 วัน หรือ 6 เดือน

เมื่อถามย้ำว่าไม่ใช่จะยื้อเพื่อยืดอายุรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิษณุ “ไม่ใช่ ที่อุตส่าห์เปิดให้เพื่อจะไม่ยื้อไง แต่ถ้าขอมาแล้วไม่เปิดนี่แหละยื้อ แต่ต้องให้เขาขอมาว่าเสร็จแล้วขอเปิด เพราะอยู่ดีๆ ไปเปิดแล้วไม่มีร่างเข้ามาหรือ ไม่เสร็จ ก็ไม่รู้จะเปิดทำไม เดี๋ยวไม่มีใครมาประชุมสภาล้มอีก”

ชี้พปชร.กลับมติขับ 21 ส.ส.ได้
นายวิษณุกล่าวกรณีพรรค พปชร.มีมติ ขับ 21 ส.ส.พ้นพรรค แต่ 1 ใน 21 ขอให้พรรคทบทวนมติ ในแง่กฎหมายทำได้หรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบเรื่อง ไม่รู้ว่ามีเงื่อน หรือแง่มุมอะไร อาจพูดไม่ครบ หรือผู้สื่อข่าวอาจได้ข่าวมาไม่ครบ หรือเขาไปพูดกันไม่ครบหรือไม่ ตนไม่ทราบเรื่อง
เมื่อถามว่า หากยังไม่ยื่นเรื่องไปที่กกต. กก.บห.พรรคสามารถประชุมใหม่เพื่อกลับ มติได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ จนกว่าจะยื่นเรื่องไปที่กกต.

สภาไม่หวั่น-ลุยประชุมต่อ
ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีนาย ชัยวุฒิ ติดโควิด-19 อาจทำให้ส.ส.พรรค พปชร.ต้องกักตัวและส่งผลต่อการประชุมสภา 26 ม.ค.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งงดประชุมจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และตนได้คุยกับนายชัยวุฒิแล้ว ซึ่งมาประชุมสภาครั้งล่าสุดที่ได้ใกล้ชิดกับ ส.ส.คือ 19 ม.ค. และ 20 ม.ค.ก็ได้ไปลงพื้นที่ที่ จ.เชียงใหม่ ดังนั้น โอกาสการแพร่เชื้อให้ ส.ส.จึงน้อยมาก อย่างไรก็ตาม อยากให้ ส.ส.ที่ได้ใกล้ชิดนายชัยวุฒิ มาตรวจเอทีเคก่อนเข้าประชุมสภา หากตรวจแล้วไม่พบเชื้อสามารถเข้าร่วมประชุมได้ปกติ ส่วน ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่กักตัวก่อนหน้านี้ หากตรวจเอทีเคแล้วไม่พบเชื้อสามารถมาประชุมในวันที่ 26 ม.ค.ได้ ส่วนการประชุมสภาจะล่มหรือไม่ล่มนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้อยู่ที่โควิดเพียงอย่างเดียว

นางกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม.พรรคพปชร. โพสต์เฟซบุ๊กหลังนายชัยวุฒิ สามี ติดโควิด ว่า ทีมแพทย์คาดว่าอาจเกิดจากช่วงเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งกานต์และลูกๆ ไม่ได้ร่วมเดินทางด้วย และไม่ได้เจอสามีตั้งแต่เดินทางจนวันนี้ แต่กังวลใจจึงรีบไปตรวจ RT-PCR มีผลตรวจออกมาเป็นลบ

วิปรัฐห่วงสภาวุ่น-ชัยวุฒิติดโควิด
นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.พปชร. เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า กรณีนายชัยวุฒิ เชื่อว่าจะเป็นปัญหา เพราะส.ส.พปชร.ที่ประชุมพรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจต้องกักตัว และร่างกฎหมายที่เข้าสภาอาจไม่ผ่านสักฉบับ

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.พรรค พปชร. ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีนายชัยวุฒิติดโควิด-19 ว่า อาจมีปัญหาได้เพราะในการประชุม ส.ส.พปชร.สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนอยู่ใกล้ชิดกับนายชัยวุฒิ และแจ้ง ส.ส.พรรคให้เข้ารับการตรวจ RT-PCR อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมพรรคแล้ววันที่ 20- 21 ม.ค.มีการประชุมสภาและส.ส.พรรคได้ร่วมประชุมสภาทั้ง 2 วัน ดังนั้น ส.ส.ในสภาอาจมีความเสี่ยง ได้แจ้งไปยังนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.ปชป. ที่ทำงานใกล้ชิดนายชวน ถึงไทม์ไลน์การติดเชื้อเพื่อเรียนให้นายชวนทราบ เบื้องต้นก่อน

นายนิโรธให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่ทำเนียบว่า กรณีรัฐมนตรีติดโควิดและใกล้ชิด ส.ส. บางส่วน ยอมรับเป็นส่วนหนึ่งที่อาจต้องกักตัวกัน ซึ่งตนแจ้งให้ไปตรวจ ATK ให้เรียบร้อย ตนเองก็ตรวจแล้วปลอดภัย และได้รายงานให้นายชวน รับทราบแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าชงให้เลื่อนประชุม แต่คือความรับผิดชอบที่ต้องแจ้งให้ประธานสภารับทราบ

รับองค์ประชุมรบ.วิกฤต
นายนิโรธยังกล่าวถึงปัญหาภายในพรรค พปชร.ที่อาจกระทบเสียงรัฐบาลในสภา โดยยอมรับว่า วิกฤต เพราะปกติเสียงรัฐบาลเกินกึ่งประมาณ 20 กว่าเสียง เมื่อมีสมาชิกแยกไป 21 เสียงจะทำให้มีปัญหา แต่คิดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาฯ พปชร.แม้ออกไปอยู่พรรคใหม่ก็ยังคงสนับสนุนรัฐบาลต่อ เพราะเห็นจากการแถลงข่าว และ ร.อ.ธรรมนัสได้พูดคุยกับตนยืนยันว่ายังเป็นพี่น้องร่วมทำงานกันเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม เสียงที่รวมทั้งหมดก็ยังเกินอยู่ไม่เท่าไร และธรรมชาติเวลาการประชุม ส.ส.บางครั้งลาป่วยบ้าง ติดภารกิจบ้าง “ยอมรับผมกังวลและคิดว่าเสียงรัฐบาลในสภาตอนนี้วิกฤต แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็เตรียมความพร้อมคิดว่าน่าจะผ่านอุปสรรคปัญหาไปได้”

ส่วนกฎหมายลูกที่จะเข้าสภา คิดว่าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจะร่วมมือกัน เพราะถือเป็นกฎหมายสำคัญ เป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญในการเลือกตั้ง เชื่อว่าผู้แทนราษฎรจะช่วยกันให้ผ่านไปด้วยดี ประเด็นนี้คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เมื่อถามว่าโดยสรุปวันนี้เสียงในสภาที่น่าห่วงคือ สัดส่วนพรรคพปชร. นายนิโรธกล่าวว่า คงไม่น่ากังวล อย่างที่ร.อ.ธรรมนัส แถลงไว้ และได้ย้ำว่ายังทำงานสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิม ลุงตู่เหมือนเดิม

แย้มทบทวนมติขับเฉพาะคนร้อง
เมื่อถามว่าต้องตั้ง กก.บห.แทนคนที่ถูกขับหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ต้องตั้งในที่ประชุมใหญ่ นายทะเบียนและเลขาฯ พรรค หัวหน้าพรรคสามารถมอบหมายให้กก.บห.พรรครักษาการหรือปฏิบัติหน้าที่แทนได้ โดยไม่ต้องเรียกประชุม ส่วนการขับส.ส. พรรคต้องนำเสนอรายละเอียดต่อกกต.ภายใน15 วัน ซึ่งหลังเกิดเหตุวิกฤตภายใน หัวหน้าพรรคบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ขอให้ช่วยกันทำงานให้กับพรรคและรัฐบาล

เมื่อถามว่าคิดว่าสึนามิในพรรคจะเกิดอีกหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า สึนามิไม่ได้มาบ่อยๆ นานๆ มาที ส่วนจะมีอาฟเตอร์ช็อกหรือไม่นั้น คิดว่าไม่น่ามี เพราะยังมีกฎหมายสำคัญเข้าสภา โดยเฉพาะกฎหมายลูกเชื่อว่าน่าจะเสร็จเรียบร้อย เมื่อถามว่ามีกลิ่นยุบสภาหลังกฎหมายลูกเสร็จหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น คิดว่ายังไม่มี

เมื่อถามว่ากรณีนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ขอให้พรรคทบทวนมติ ขับออก ได้คุยกันหรือยัง นายนิโรธกล่าวว่า เท่าที่ทราบนายสมศักดิ์ ยื่นคำร้องเข้ามาปกติแล้ว ถ้าอุทธรณ์พรรคก็ต้องรับพิจารณา ผลเป็นประการใดเป็นอีกเรื่อง การขับ ส.ส.ยังไม่ได้แจ้งต่อ กกต.ซึ่งการทบทวนมติคงทบทวนเฉพาะบุคคลที่อุทธรณ์ ซึ่งยังมีเวลาอีกกว่าสัปดาห์ ที่จะแจ้งต่อ กกต.

‘เอกราช’ยันไม่ทิ้ง‘ธรรมนัส’
นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ใน 21 ส.ส.ที่พปชร.มีมติขับออกจากสมาชิก กล่าวถึงกระแสข่าวจะไม่ไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แต่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า ข่าวที่ออกมานั้นมา จากฝ่ายตรงข้ามปล่อยข่าวเพื่อดิสเครดิต ร.อ.ธรรมนัส ขณะนี้รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ส่วนสาเหตุที่พุ่งเป้ามายังตนเพราะเป็น 2 ใน 21 คน ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย เนื่องจากรอดูความชัดเจนการรับรองมติขับพ้นสมาชิกพรรคของกกต. รวมถึงความชัดเจนกรณีนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส. นครราชสีมา ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อให้ทบทวนมติดังกล่าว จึงเห็นว่ายังมีเวลา เพราะจะครบกำหนด 30 วันในวันที่ 18 หรือ 19 ก.พ.นี้

“ยืนยันว่าส.ส.ทั้ง 21 คนจะยังอยู่กับร.อ. ธรรมนัส และผมไม่มีทางไปไหน เพราะเป็นเพื่อนกันกับ ร.อ.ธรรมนัส แต่เวลานี้ที่ยังไม่เคลื่อนไหว เพราะต้องรอดูความชัดเจนในส่วนของพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ต้องเตรียมตัว ทั้งการกำหนดนโยบายและบุคลากรที่จะบริหารพรรค และเรื่องนี้ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไร” นายเอกราชกล่าว

บิ๊กน้อยกั๊กร่วมก๊วนพรรคใหม่
พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พปชร. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงความคืบหน้าการตั้งพรรคใหม่ ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง เมื่อถามว่าจะตั้งพรรคใหม่ตามกระแสข่าวจริงหรือไม่ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ตนไม่แสดงความเห็น ขอย้ำว่าขณะนี้ตนยังสังกัดพปชร. ก่อนวางสายทันที
ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่ากลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ถูกขับออกจาก พปชร. จะไปเข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย โดยมี พล.อ.วิชญ์ เป็นหัวหน้าพรรค

เรืองไกรลาพปชร.
ที่ทำการ พปชร. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เข้ายื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค โดยนายเรืองไกรระบุว่า เป็นสมาชิกพรรคมา 8 เดือน ทำเฉพาะงานตรวจสอบ ไม่ได้ทำงานอื่น จึงต้องการอิสระในการทำงาน นอกจากนั้นสถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรค ทั้งเรื่องขับ 21 ส.ส. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาการแบ่งพรรคพวก และส่งผลต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจลาออกเร็วขึ้น และที่รับไม่ได้กับการทำงานของพรรค คือตนตั้งใจจะยื่นหนังสือตรวจสอบ พล.อ. ประยุทธ์ โดยทำหนังสือตั้งแต่ 10 ม.ค. แต่มีสมาชิกพรรคห้ามไว้

ทั้งนี้ตนแจ้งให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่พาเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียด และยอมรับว่าคุยกับหลายพรรค รวมถึงพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ ร.อ.ธรรมนัสจะไปสังกัดพรรค “ผมมองว่าทุกพรรคประสบปัญหาแบบนี้ ไม่เว้นแม้พรรคเพื่อไทย แต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สามารถควบคุมได้ และตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะไปอยู่กับพรรคใด เพราะยังไม่เห็นนโยบายที่ออกมา และส่วนตัวผมมองว่าการยุบสภา คาดว่าน่าจะ ไม่เกินกลางปีนี้”

ดร.เอ้ให้กำลังใจวิโรจน์ลงแข่ง
ที่สำนักงาน น.ส.พ.ข่าวสด นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคปชป. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค ก.ก.ประกาศส่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่า เป็นกำลังใจให้วิโรจน์ ซึ่งตอนนี้มีผู้สมัครหลายคน เป็นเรื่องที่ดีทำให้บรรยากาศคึกคัก เพราะทำให้ประชาชนมีตัวเลือก ปัจจุบันมีหลายคน เริ่มเปิดตัว ทั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นางรสนา โตตระกูล และนายวิโรจน์ ถือเป็นโชคดีที่คนกทม.มีตัวเลือก ส่วนตนเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 64 ไม่รู้ว่าทีมงานหรือทางพรรคได้ทำโพลหรือเปล่า แต่เชื่อว่าทำ การลงพื้นที่เป็นการลงไปรับฟังปัญหา ดังนั้นการลงในนามอิสระจะทำให้หมดสิทธิ์ทันที แต่การมีทีมงานลงไปช่วยได้มาก สามารถรู้ถึงปัญหา ทำให้รู้ว่าเวลาลงพื้นที่ต้องไปไหว้ใคร โดยวันที่ 25 ม.ค. จะลงพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ ลาดกระบังและประเวศ

เชื่อไม่มาตัดคะแนนตัวเอง
ตนไม่ได้ติดตามการปราศรัยของพรรค ก.ก.วานนี้ และยากจะบอกได้ว่าการส่งนายวิโรจน์ ลงมาตัดคะแนน แต่เชื่อว่าแต่ละพรรคก็มีแฟนคลับ พรรค ก.ก.ก็มีคะแนนเป็นของตัวเอง และการทำโพลก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะบอก เพราะคนกรุงเทพฯ มีความหลากหลาย

ส่วนการเมืองสนามใหญ่ เชื่อว่าจะมีผล กระทบต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่มากก็น้อย ไม่รู้ว่าคนกรุงเทพฯ จะเลือกด้วยความรู้สึก หรืออุดมการณ์ หรือพรรค แต่ในความเป็นจริงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นนักบริหารมากกว่า เพราะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการแก้ปัญหา ซึ่งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นปัญหาทางเทคนิค ไม่เหมือนการเลือกตั้งส.ส. ส่วนกระแส ปชป. ภายหลังการเลือกตั้งซ่อมที่ภาคใต้ 2 เขต เชื่อว่ามีพัฒนาการไปในทางที่ดี และจะเป็นปัจจัยหนุนเสริมกับสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้า ปชป. ดูแลกทม. กล่าวว่า น่ายินดีด้วย และแสดงให้เห็นว่าพรรคก.ก.ให้ความสำคัญต่อการเมืองระดับท้องถิ่น และทำให้ประชาชนมีทางเลือกพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. มากขึ้น

วิโรจน์หาเสียงผู้ว่าฯกทม.ทันที
เวลา 08.30 น. ที่หน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เขตพญาไท นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ครั้งแรกหลังเปิดตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. พร้อม นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรค เพื่อตรวจสอบทางม้าลายที่เกิดเหตุตำรวจควบคุมฝูงชนขี่บิ๊กไบก์ชนแพทย์หญิงจนเสียชีวิต

นายวิโรจน์กล่าวว่า ลงมาดูโครงสร้างปัญหาเพื่อดูว่าทางวิศวกรรมจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ต้องมีกลไกหรือระบบเตือนใจ กทม.ต้องมีเส้นชะลอความเร็ว มีไฟส่องสว่าง มีไฟสัญญาณ กล้องวงจรปิด กล้องตรวจจับความเร็ว คนข้ามต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะมีอาชีพใด เพศไหน แค่ไม่กี่ตารางเมตรตรงนี้ต้องปลอดภัยได้ เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น กทม.ต้องเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีให้ทันที โดยไม่ต้องรอเจ้าทุกข์ ถ้าจับและตัดแต้มเรื่อยๆ เราจะสร้างค่านิยมใหม่ในการใช้รถใช้ถนนได้ ตนไม่เห็นด้วยกับการสร้างสะพานลอยเพื่อแก้ปัญหา กทม.ไม่ควรสร้างภาระให้ประชาชน

พท.ร้องมท.สอบ‘อัศวิน’
เวลา 14.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ยื่นหนังสือถึง รมว.มหาดไทย ตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งกรรมการติดตามการปฏิบัติตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม.ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อาจเป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อทุจริตต่อหน้าที่ตามมาตรา 52 (8) พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และอาจเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หากพบเข้าข่ายความผิดขอให้สั่งการให้ยุติการกระทำ เสนอให้พ้นจากตำแหน่ง และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไต่สวน

ทั้งนี้ ปรากฏข้อเท็จจริง ผู้ว่าฯ กทม.แต่งตั้งหรือยินยอมแต่งตั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.บางคน ซึ่งไม่ทราบชัดเจนว่าอยู่ในทีมผู้ว่าฯ กทม.หรือทีมผู้สมัครคนอื่น เป็นกรรมการติดตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม. อาจมีการอาศัยตำแหน่งหน้าที่สั่งการผู้บริหารเขต หรือเจ้าหน้าที่เขตต่างๆ ร่วมกับตนเองลงพื้นที่หาเสียง โดยอ้างการติดตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.บังหน้า ใช้ทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินของราชการหาเสียง

ร้อง มท. – นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมว่าที่ผู้สมัครส.ก.พรรค ยื่นหนังสือรมว.มหาดไทยให้ตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งกก.ติดตามการปฏิบัติตามนโยบาย ผู้ว่าฯ กทม.ของพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่กระทรวงมหาดไทย

จี้มท.กำหนดวันเลือกตั้ง
นายจิรายุ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการร้องเรียนจากคณะทำงานของพรรคมีการตั้ง “กลุ่มรักษ์กรุงเทพ” ใช้ทรัพย์สินราชการเอื้อประโยชน์ต่อการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพล.ต.อ.อัศวิน หรือไม่ โดย ‘กลุ่มรักษ์กรุงเทพ’ ลงพื้นที่ กทม.ทุกเขตในรูปแบบต่างๆ เช่น ฉีดวัคซีนโดยใช้โควตาของ กทม. การขุดลอกคูคลอง เป็นต้น หากพล.ต.อ.อัศวินลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในนามกลุ่มนี้ หมายความว่ามีการวางแผนอย่างเป็นระบบ

จึงอยากเรียกร้องให้ลาออกมาลงแข่งอย่างยุติธรรม และขอเรียกร้องไปยังทุกสำนักงานเขตให้แต่งตั้งตัวแทนจากทุกพรรคเข้าไปทำงานในคณะกรรมการประสานงานและติดตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม.ด้วย หากพล.ต.อ.อัศวินไม่ได้ลงสมัครในนามทีมดังกล่าว ต้องเข้าไปดูว่ากลุ่มนั้นเข้าไปอยู่ในทีมของพล.ต.อ.อัศวินหรือไม่ และขอให้มหาดไทยประกาศวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เสียที

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า จะได้สั่งให้ พล.ต.อ.อัศวิน ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งจะได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายกระทรวงไปพิจารณา ส่วนเรื่องวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า มหาดไทยเพิ่งประกาศจำนวนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค.64 เราเร่งประกาศเพื่อให้ กกต.ไปแบ่งเขต แต่เนื่องจาก กกต.อยู่ระหว่างจัดเลือกตั้งซ่อมในส่วนของ อบต. หลังจากนี้เมื่อ กกต.มีความพร้อม ตนจะได้หารือกับ กกต.อีกครั้งว่าเป็นช่วงเวลาใด ก่อนเสนอครม.พิจารณา

พท.ลั่นเอาจริง-จับโกงหลักสี่
ที่ทำการ พท. นายสรวงศ์ เทียนทอง ผอ.เลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) กล่าวว่า เขตนี้มี 280 หน่วยเลือกตั้ง พรรคพท.ยืนยันส่งผู้สังเกตการณ์ครบ ทุกหน่วย เพราะเลือกตั้งปี 2562 เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย พรรคจะรวบรวมหลักฐานและติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ด้วย ขอฝากถึง กกต. 2 ประเด็น 1.อยากให้กกต.ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งด้วยว่าพรรคการเมืองมีสิทธิ์ส่ง ผู้สังเกตการณ์เข้าไปทำงานภายในหน่วยเลือกตั้งได้ 2.ขอให้กกต.จัดที่นั่งให้ผู้สังเกตการณ์ ทราบว่ากกต.มีรางวัลนำจับหากมีการแจ้งเบาะแส แต่ถ้าประชาชนไม่กล้าแจ้งกกต.ด้วยตัวเอง สามารถมาแจ้งกับผู้สังเกตการณ์ ของพรรคพท.ได้

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า พรรคจัดการอบรม ผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งเมื่อ 22 ม.ค.กว่า 100 คน โดยมีบทบาทในการป้องปราม เฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส เป็นพยาน และเป็นผู้ร้องกรณีพบเห็นความผิดปกติ ผู้สังเกตการณ์จะทำหน้าที่ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบลงคะแนน ระหว่างการลงคะแนน ปิดหีบลงคะแนน นับคะแนน ไปจนถึงประกาศผลการนับคะแนนเสร็จสิ้น ตรวจสอบการทำหน้าที่ของกกต.ประจำหน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มาแสดงตนใช้สิทธิ์ต่อบัตรเลือกตั้ง หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือควบคุมไม่ได้ อย่างน้ำไม่ไหล ไฟดับอีก

ดีเบต – ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 9 (จากซ้าย) นายกรุณพล เทียนสุวรรณ, นายสุรชาติ เทียนทอง, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ร่วมดีเบตในรายการอยากมีเรื่อง (คุย) ใน ‘ข่าวสดออนไลน์’ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.

ก้าวไกลใช้อส.ตาสับปะรด
เวลา 07.30 น. ที่ตลาดเมืองทองนิเวศน์ (ตลาดริมบึง) ถ.แจ้งวัฒนะ 14 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินรณรงค์หาเสียงให้นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร เบอร์ 6 มีการปราศรัยย่อยด้านหน้าตลาด และเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน

นายพิธากล่าวว่า พรรคไม่กังวลเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เพราะก้าวไกลมีทีมอาสาสมัครตาสับปะรดเข้าไปทำงาน ช่วยกันรับ-ส่งข้อมูลทุจริต ไม่ง่ายที่จะเกิดการทุจริตในการเลือกตั้งได้ และหากพบหลักฐานเราจะฟ้องร้องอย่างแน่นอน หากนายกรุณพลได้รับชัยชนะจะผลักดันเรื่องงบประมาณ ปรับปรุงนโยบายด้านสวัสดิการ เดินหน้าเปลี่ยนงบกองทัพให้เป็นงบประชาชน นำมาทำเป็นสวัสดิการให้ประชาชน เอามาดูแลผู้สูงอายุในเขตจตุจักร-หลักสี่ ซึ่งเป็นเขตที่ผู้สูงอายุมีสัดส่วนสูงกว่าเขตอื่น

ช่วยหาเสียง – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 9 ของพรรค ที่ชุมชนสะพานไม้ 2 เขตหลักสี่ เมื่อค่ำวันที่ 24 ม.ค.

ป้อมปราศรัยช่วยซ่อมหลักสี่
แหล่งข่าวคนสนิทพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณีนายชัยวุฒิติดเชื้อ โควิด-19 ว่า หลังจากพล.อ.ประวิตรทราบเรื่องได้ตรวจ ATK ทันที ผลออกมาไม่พบติดเชื้อโควิด-19 และที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตรตรวจหาเชื้ออยู่เป็นประจำจึงไม่กังวล ขณะที่นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขต 9 พรรคพปชร. ตรวจเอทีเคผลเป็นลบ ไม่ติดโควิด-19 เช่นกัน ดังนั้น เย็นวันนี้พล.อ.ประวิตรจะลงพื้นที่ช่วยนางสรัลรัศมิ์หาเสียงที่สะพานไม้ 2 ตามกำหนดการที่ วางไว้

เวลา 17.21 น. ที่ชุมชนสะพานไม้ 2 ย่านบางบัว กทม. พล.อ.ประวิตรช่วยนางสรัลรัศมิ์หาเสียง โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และส.ส.กทม. รวมทั้งน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. เป็นต้น

พล.อ.ประวิตรขึ้นเวทีปราศรัยว่า การก่อสร้างโครงการพัฒนาบ้านมั่นคงริมคลองเพราะต้องการให้ประชาชนมีบ้าน เดินทางไปมาหาสู่กันได้ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ต้องการพัฒนา ไม่ใช่แค่ริมคลอง แต่จะทำให้ทั้งประเทศมีความเป็นอยู่ดีขึ้นภายใต้การนำของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำงานมา 7 ปี สร้างสรรค์ความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ขอฝากทุกคนช่วยเลือกมาดามหลี เบอร์ 7 จากนั้นพล.อ.ประวิตรเดินพบปะทักทายประชาชนที่มาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง และถ่ายรูปเซลฟี่ ชาวบ้านเอ่ยชมว่าตัวจริงหล่อกว่าในทีวี ทำให้พล.อ.ประวิตรยิ้มอย่างอารมณ์ดี

ยันพปชร.ไร้ปัญหา
พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ถึงการพูดคุยกับนายกฯ หลังจากเกิดปัญหาในพรรคว่า คุยกันตลอด คุยทุกวัน เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นความสัมพันธ์ยังแน่นปึ้กใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า จะเป็นอะไร เมื่อถามย้ำยังรับมือได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่เห็นจะต้องรับมือเลย ก็พรรคผมทั้งนั้น” เมื่อถามว่าต้องทบทวนมติพรรคที่ขับ 21 ส.ส.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทันที

สิระฟ้อง‘พิธา-เพชร’ 50 ล้าน
นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. พรรคพปชร. มอบหมายให้นายทิวา การกระสัง ทนายความส่วนตัว ฟ้องศาลอาญาดำเนินคดีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. และนายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 9 พรรค ก.ก. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านบาท จากกรณีนำรูปตนเองไปตัดต่อลักษณะล้อเลียนคู่กับภาพของนายกรุณพล
นายสิระกล่าวว่า จะให้ทีมกฎหมายไปฟ้องร้องต่อกกต.ต่อไป และถือว่าเป็นการกระทำของกก.บห.พรรค ไม่ใช่เฉพาะตัว ผู้สมัครเท่านั้น ดังนั้น อาจมีโทษถึงขั้น ยุบพรรค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน