‘พีมูฟ’ลั่นปักหลักหน้าทำเนียบ จี้ป้อมลงมาแก้ปัญหา พร้อมยื่น 15 ข้อเรียกร้องถึงบิ๊กป้อม ด้านตร.ปิดถนนตรึงกำลังเข้มรอรับ ขณะสำนักนายกรัฐมนตรียัน พล.อ.ประวิตรจะประชุมแก้ปัญหาพีมูฟ ผ่านระบบซูมในวันที่ 31 ม.ค.นี้ เด็กป้อมยัน พล.อ.ประวิตรไม่ได้เพิกเฉยปัญหา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ร่วมกับเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้ระดมพลตั้งขบวนเพื่อเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เส้นทางถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวขวา ผ่านหน้าวัดโสมนัสราชวรวิหาร เลี้ยวซ้าย เทวกรรมรังรักษ์ มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง เลี้ยวซ้ายถนนพิษณุโลก แยกพาณิชย์
เมื่อถามถึงบริเวณตรงข้ามวัดโสมนัสฯ ตัวแทนพีมูฟได้อ่านแถลงการณ์ว่า นับเป็นวันที่ห้าแล้วที่พวกเราพีมูฟปักหลักชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพฯ ยืนยันว่าต้องได้พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ และยื่นข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้งสิ้น 15 ข้อ เข้าสู่การประชุมของครม. ให้ความเห็นชอบเท่านั้น
จนถึงวันนี้ เราได้พบเพียงผู้แทนที่อ้างตนว่าได้รับมอบหมายให้มาดูแลประเด็นปัญหาของพวกเราจากพลเอกประวิตร ที่ทำงาน ไม่ต่างจากบุรุษไปรษณีย์ ทำได้เพียงส่งสาร แต่ปรากฏชัดว่าไม่สามารถประสานงานไปยังพล.อ.ประวิตร ได้จริงและไม่มีอำนาจตัดสินใจ นำข้อเรียกร้องของเราเข้าสู่การประชุมครม. ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและข้อกฎหมายของทางราชการมากกว่าชีวิตและความเป็นความตายของประชาชน
เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจึงได้ร่างมติครม. ฉบับภาคประชาชนขึ้นมา ประกอบด้วยข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อ และรายละเอียดจากพวกเราประชาชนที่ประสบปัญหาตัวจริงเสียงจริง พวกเราใช้เวลาเพียง 1 วัน ทำให้ร่างมติครม.นี้เกิดขึ้น เพราะเราอยากสะท้อนให้ผู้มีอำนาจและเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มได้เห็นว่าปัญหา เชิงนโยบายเหล่านี้ไม่อาจรอให้เวลาล่วงเลยไปแล้วจึงค่อยแก้ หากรัฐบาลมีความจริงใจและมีประสิทธิภาพมากพอก็จะสามารถแก้ไขปัญหานำเข้าสู่ ครม.ได้โดยไร้ข้ออ้างใดๆ
นับแต่บัดนี้ เราจะนำร่างมติครม. ภาคประชาชนไปยื่นให้ถึงมือครม. พวกเราได้ประกาศระดมกำลังมวลชนเพิ่มเติม จนมีมวลชนไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จาก 119 เครือข่าย และจะทยอยเข้ามาสมทบเรื่อยๆ เราจะนำมวลชนของพวกเราเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นร่างมติครม.ฉบับนี้ และจะมีทั้งหมด 2 เงื่อนไขที่รัฐบาลต้องรับ ได้แก่
1.พล.อ.ประวิตรต้องมารับร่างมติครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง 2.จะไม่มีการเปิดเจรจาวงเล็ก แต่ให้มารับร่างมติครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง และเจรจาต่อหน้าผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งหมด 3.จะต้องมีหลักประกัน ที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะมีการนำ ข้อเรียกร้องทั้งหมดเข้าสู่การประชุมของครม. ให้มีมติเห็นชอบโดยเร็วที่สุด
พวกเรายืนยันว่าเราให้เวลาแก้ไขปัญหาของพวกเรามานานพอแล้ว และไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป ยิ่งดำเนินการล่าช้าเท่าไร มวลชนก็จะเพิ่มมากขึ้น และการเคลื่อนไหวก็จะถูกยกระดับมากขึ้นเท่านั้น และอาจนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลท่ามกลางความสั่นคลอนของพวกท่านเอง
Advertisement
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลมีการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ทั้งสันติบาล นครบาล ตำรวจควบคุมฝูงชน 150 นาย โดยปิดถนนตั้งแต่ช่วงแยกสนามม้านางเลิ้งเดิม ถึงแยกสวนมิสกวัน วางรั้วแผงเหล็กร้อยด้วยลวดสะลิง 3 ชั้น โดยชั้นแรก อยู่ที่ด้านหน้าโรงเรียนราชวินิต เสริมแนวรั้วลวดหนาม 3 ชั้น พร้อมวางกำลังตำรวจ 3 ชั้น ชั้นที่ 2 อยู่บริเวณป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และชั้นที่ 3 อยู่บริเวณกลางสะพานชมัยมรุเชฐ เสริมด้วยรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก
เจรจา – กลุ่ม พีมูฟยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่แยกนางเลิ้ง โดยนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดคุยและเจรจาด้วย ที่บริเวณหน้าศาล กรมหลวงชุมพรฯ ซึ่ง ผู้ชุมนุมยืนยันจะพักค้างคืนในบริเวณดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 ม.ค.
ต่อมาเวลา 09.52 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ได้เคลื่อนมาถึงบริเวณแยกสนามม้านางเลิ้ง และขอเจรจาเพื่อไปชุมนุมประชิดทำเนียบรัฐบาล เพื่อเปิดครม.ภาคประชาชน หลังจากรัฐบาลอ้างว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ตามกรอบเวลาที่ตกลงกับประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่มีการเสริมกำลังอย่างต่อเนื่องและกันสื่อมวลชนให้อยู่หลังแนวเจ้าหน้าที่และอยู่บนทางเท้า
ขณะที่เวลา 10.10 น. พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้เข้าเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม ด้านหน้ารั้วลวดหนามหีบเพลง ด้านหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจและโห่ไล่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะล่าถอยออกมา
ต่อมาเวลา 13.00 น. กลุ่มพีมูฟยังคงปักหลัก ชุมนุมอยู่ที่แยกนางเลิ้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดรั้วลวดหนามให้ตัวแทนกลุ่ม ผู้ชุมนุม 3 คนเข้าไปเจรจาพูดคุยกับนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณหน้าศาลกรมหลวงชุมพรฯ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขอให้ทางรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาพูดคุยกับพวกตนที่บริเวณที่ชุมนุม ซึ่งทางนายมงคลชัยได้ทำตามข้อเรียกร้องของทาง ผู้ชุมนุมได้มาพูดคุย โดยมีกลุ่มการ์ดยืนล้อมวง ไว้ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเด็ดขาด
นายมงคลชัยกล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ในวันที่ 31 ม.ค. ได้รับการยืนยันจากทาง พล.อ.ประวิตรแล้วว่าจะนั่งเป็นประธานการประชุมด้วยระบบซูม ช่วงนี้เป็นช่วงโควิดแพร่ระบาด ตนเข้าใจแต่ต้องเคารพในกติกาในขณะนี้ เพราะฉะนั้นต้องขอเวลาสักนิดหนึ่ง ภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้ก็คงจะมีอะไรชัดเจน และท่านก็มีข้อสั่งการมาทางพวกตนหลายเรื่อง ขณะที่กลุ่มมีมูฟยืนยันว่าหากวันนี้ไม่บรรลุ ข้อตกลง และไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร จะไม่กลับบ้านอย่างเด็ดขาดและจะปักหลักพักค้าง ชุมนุมกันบริเวณตรงข้ามโรงเรียนราชวินิตมัธยม แยกนางเลิ้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีพีมูฟออกมาเคลื่อนไหว เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตรไม่เคยนิ่งนอนใจ ไม่ได้เพิกเฉย และจะดำเนินการทุกเรื่องตามขั้นตอนของข้อกฎหมายอย่างแน่นอน โดยจะประชุมคณะกรรมการที่ตนเองเป็นประธานวันที่ 31 ม.ค.นี้
