รมต.อู๊ดด้ายันพาณิชย์คุมสินค้าแพงช่วงตรุษจีนได้ทั้งหมู-ไก่-ผัก ดันทำเกษตรพันธสัญญา ยก ‘อมก๋อยโมเดล’ เชียงใหม่ แก้ปัญหาผัก-ของแพง ปลื้มคนขานรับพณ.ร่วมมือ 4 ห้างใหญ่ขายไก่ต้มไหว้เจ้า ตัวละ 189 บาท ช่วยบรรเทาปัญหาสินค้าแพง แจงราคาหมูเริ่มลดลง หน้าฟาร์มก.ก.ละ 104 บาท จาก 110 บาท
‘อมก๋อย’โมเดลแก้ผักราคาตก
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้า ระหว่างการเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ภายใต้โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO ที่มช. จ.เชียงใหม่ว่า ขณะนี้ผักหลายตัวราคาลดลง ที่ยังแพงอยู่คือเนื้อหมู ส่วนไก่ก็ควบคุมได้แล้ว อาหารทะเลราคาก็ไม่ได้สูงขึ้น น้ำอัดลมก็ตรึงราคาแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ไม่มีการปรับราคาขึ้นเด็ดขาด โดยเนื้อหมูคุมราคาได้แล้วหน้าฟาร์มคุมที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท หมูเนื้อแดง หมูมาตรฐานกลางก็ไม่เกินกิโลกรัมละ 200-220 บาท และราคาเริ่มลดลงแล้ว หมูหน้าฟาร์มขณะนี้กิโลกรัมละประมาณ 104 บาท
สำหรับผักราคาลดลงมาเกษตรกรก็กระทบเพราะขายได้ราคาตกสิ่งที่แก้ปัญหาได้ในอนาคตคือ การทำเกษตรพันธสัญญา หรือคอนแท็ก ฟาร์มมิ่ง ตนฝากเกษตรจังหวัดและพาณิชย์จังหวัด ให้เกษตรกรรายย่อย รวมกลุ่มกันทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับผู้ซื้อที่มีตัวตนเชื่อถือได้ เซ็นสัญญาว่าฤดูกาลผลิตนี้ถ้าผลผลิตออกได้คุณภาพตามนี้ จะรับซื้อกิโลกรัมละเท่าไหร่จะไม่เบี้ยวทั้งสองฝ่าย จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่รักษาสัญญา และเป็นหลักประกันได้และบางครั้งผู้ซื้อจะเป็นผู้ลงทุนช่วยลงทุนบางส่วน เช่น ช่วยยา ปุ๋ย ต้นทุนอื่นซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายจะเป็นทางออกที่เป็นรูปธรรม
“เกษตรพันธสัญญา เป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จ ผมทำมาแล้วที่ อมก๋อย เกษตรกรผู้ปลูกบุกปลูกผักทำสัญญากับผู้ซื้อจากเชียงใหม่เซ็นสัญญาล่วงหน้าแบบเกษตรพันธสัญญา ขายได้ราคาดีจะใช้โมเดลนี้ทั่วประเทศเรียกว่า อมก๋อยโมเดล แต่เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดต้องลงไปดู อย่าปล่อยให้เกษตรกรเดียวดาย และ ไม่ปล่อยให้ผลผลิตล้นตลาด”
‘อู๊ดด้า’ตรวจห้างเหนือ
จากนั้น นายจุรินทร์ได้ตรวจเยี่ยมการจําหน่ายสินค้าราคาพิเศษในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยมี นายวรญาณ บุณณราช รองผวจ.เชียงใหม่ นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน น.ส.อรวรรณ ศิริโชติรัตน์ ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายประชาสัมพันธ์และประสานรัฐกิจ น.ส.ศิรดา พฤกษตระกูล ผู้จัดการเขตแม็คโคร สาขาภาคเหนือ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่ห้างแม็คโคร สาขาหางดง อ.เมือง จ.เชียงใหม่
นายจุรินทร์กล่าวว่า มาติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่ห้างแม็คโครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นห้างหนึ่งที่ให้ความร่วมมือกับ พณ.เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์ราคาสินค้าหมวดสำคัญ พณ.ควบคุมราคาไว้ได้ในระดับที่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โครงการพิเศษช่วงตรุษจีนคือไก่ต้มไหว้เจ้า 189 บาท ได้รับความร่วมมือจาก 4 ห้างแม็คโคร โลตัส บิ๊กซีและท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต ขายไก่ไหว้เจ้าต้มสุกแล้วตัวละไม่เกิน 189 บาท ขนาด 1.4-1.7 กิโลกรัมต่อตัว เตรียมไว้ในช่วงวันที่ 27-30 ม.ค. จำนวน 100,000 ตัว แต่ถ้าหมดก็เพิ่มได้จะทำให้ตรุษจีนปีนี้ราคาสินค้าไม่เป็นภาระกับพี่น้องไทยเชื้อสายจีนมากจนเกินไป
กลืนน้ำตา – เกษตรกรบนดอยในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน กลืนน้ำตาฟันทำลายผักกาดขาวนับ 100 ไร่ รวมกว่า 2 แสนกิโลกรัมทิ้ง หลังราคาตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 1 บาท ไม่คุ้มค่าแรงและค่าน้ำมันรถขนส่งไปขายตลาดในเมือง เมื่อวันที่ 28 ม.
‘ม้ง’แจงตัดผักกาดทิ้ง100ไร่
ส่วนกรณีสังคมออนไลน์ โพสต์คลิป เกษตรกรม้ง ตัดผลผลิตทางการเกษตร เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชี่ยล จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ เลาหลื่อ ชาวเผ่าม้ง หมู่บ้านม้งไมโครเวฟ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องตัดทำลายแปลงปลูกผักกาดขาวทิ้งกว่า 100 ไร่ เนื่องจากขายไม่ได้ ไม่มีตลาดรับซื้อ ราคาก็เหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท ประกอบกับเจอช่วงที่น้ำมันแพงอีก จากเดิมที่เคยตัดส่งป้อนเข้าตลาดทั้งที่อ.แม่สะเรียง และที่จ.เชียงใหม่ ต้องหยุดชะงักไปหมด บางวันยอมเสี่ยงตัดและบรรทุกออกไปรอจำหน่ายก็ไม่มีพ่อค้ามารับซื้อจนผักเน่าคารถมาแล้ว พอช่วงตรุษจีนที่หวังว่าจะขายผักได้ราคาดี ก็ต้องมาเจอกับผักที่ทะลักมากับขบวนรถไฟจากจีน เทียบท่าที่ลาว แล้ว กระจายมายังอีกหลายตลาดในประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่ตลาดเชียงใหม่ เมื่อเจอทางตันแบบนี้ก็ต้องยอมตัดทิ้ง เพื่อให้คนได้รู้ว่าเกษตรกรเริ่มจะไม่มีทางไปแล้ว ซึ่งผลผลิตของตนเองที่ต้องทำลายทิ้งไปมีมากกว่า 200,000 กิโลกรัม ไม่นับรวมกับรายอื่นๆ อีก
สำหรับราคาที่พอจะให้เกษตรกรอยู่ได้นั้นต้องไม่น้อยกว่า 5-6 บาทต่อกิโลกรัม เพราะหลังการปรับขึ้นราคาสินค้าก็พบว่าปุ๋ยที่เคยซื้อกระสอบละ 700-800 บาท ได้ขยับตัวขึ้นไปอยู่ที่กระสอบละ 1,200-1,300 บาท หากรวมกับค่าเมล็ดพันธุ์และค่าแรงแล้ว ถือว่าตอนนี้อยู่ไม่ได้ อยากวอนให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
โคราชลดโรงเลี้ยงไก่ 80%
ด้านสถานการณ์ราคาสินค้ารับเทศกาลตรุษจีน ที่จ.นครราชสีมา ราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ ไก่พันธุ์เนื้อตามฟาร์มต่างๆ สอบถาม นายหอมกรุ่น เลิศกระโทก อายุ 59 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่สามสายเลือดบ้านหนองมะค่า ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในห้วงสองปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อฟาร์มเลี้ยงไก่ของตนเอง ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายไก่ออกสู่ตลาดได้เนื่องจากปัญหาเรื่องของการขนย้าย และราคาที่ตกต่ำจากกิโลกรัมละ 70-80 บาท เหลือเพียงแค่ 62 บาท ทำให้ต้องลดอัตราการเลี้ยงลงจากเดิมที่เลี้ยงไว้เต็มฟาร์มจำนวน 12 โรง หรือประมาณ 30,000 ตัว เหลือเพียง 3 โรง หรือ 4,800 ตัว หรือลดลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจาก แบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาลดต่ำลงมาก แต่ช่วงนี้ราคาไก่สามสายพันธุ์เริ่ม ขยับตัวสูงขึ้นแล้ว โดยราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท เนื่องจากมีเกษตรกรส่วนหนึ่งชะลอการเลี้ยงออกไปก่อน จากภาวะขาดทุน ทำให้ไก่ออกสู่ตลาดน้อย โดยเฉพาะเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ความต้องการไก่เพิ่มมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่าราคาจะขยับตัว สูงขึ้น แต่ต้นทุนการเลี้ยงก็ปรับสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะค่าอาหารไก่ที่ขยับขึ้นจากกระสอบละ 400 บาทเศษ เป็น 500 บาทเศษ ทำให้แทบไม่มีรายได้เพิ่ม
ขอนแก่นแห่ซื้อรับตรุษจีน
ที่ตลาดบางลำภู ถนนกลางเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ชาวไทยเชื้อสายจีน ยังคงออกมาเลือกซื้อสินค้าประเภทต่างๆ เพื่อเตรียมไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรษ ในวันตรุษจีนกันอย่างคึกคัก โดยนางอารยาณี เนียมประดิษฐ์ ผู้จัดการตลาดบางลำภู กล่าวว่า ช่วงตรุษจีน ทางตลาดได้ขอร้องให้ผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู ขณะเดียวกัน ทางตลาดได้จัดเตรียมเนื้อหมูไว้วันละ 200 กิโลกรัม จำหน่ายในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ทั้งนี้ ปกติเนื้อหมูจะแพงขึ้นรับเทศกาลอยู่แล้ว เพราะประชาชนซื้อหาจำนวนมาก แต่ปีนี้ต้องตรึงราคาขาย เพื่อให้คนที่มีทุนน้อยยังคงซื้อหาได้ในราคาที่ไม่สูงมากนัก ไม่ว่าอย่างไรผู้คนก็ออกมาจับจ่าย เพราะไหว้ปีละครั้ง ไม่มีใครหนี ไม่มีใครถอย ถือเป็นการสร้างกำลังใจด้วย แม้สินค้าบางอย่างจะปรับตัวสูง แต่เชื่อว่าทุกคนจะผ่านไปได้
ขณะที่ น.ส.พิศศยา เรืองบุญฤทธิ์ เจ้าของร้านไก่ธนาธิป ไก่นำโชค กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ได้เตรียมไก่ไหว้ไว้บริการประชาชนประมาณ 500 ตัว โดยขายกิโลกรัมละ 65 บาท เฉลี่ยแล้วปรับขึ้นราคาประเภทละ 5 บาท ขณะที่ลูกค้าก็ปรับลดการซื้อไก่ไหว้ จากเดิมปีที่ผ่านมาเคยซื้อ 9 ตัว ปีนี้ก็ลดลงเหลือ 4 ตัว ซึ่งถือว่ายังพอขายได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าไก่สดขาดตลาดนั้น ไม่เป็นความจริง
ด้านน.ส.บานชื่น โคตะมะ เจ้าของร้านพี่สวย จำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาล กล่าวว่า ก่อนวันจ่ายจะเตรียมจัดผลไม้เป็นชุดพร้อมไหว้ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อได้โดยสะดวก ขณะที่ราคาผลไม้นั้นปรับขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะกล้วยหอม ซึ่งคาดว่าในวันจ่ายจะปรับขึ้นราคาอีก ถือเป็นการปรับขึ้นในช่วงเทศกาลที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก
บุรีรัมย์แจงคุมอหิวาต์หมู
วันเดียวกัน นายอภิชาต สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงการพบเชื้อ อหิวาต์แอฟริกาหมู (เอเอสเอฟ) ที่อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 20 ตัว เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ว่า โชคดีคอกที่พบเชื้อในหมู่บ้านนั้นไม่มีเกษตรกรเลี้ยงหมู ทำให้ตัดวงจรได้ง่าย ซึ่งปศุสัตว์ได้ทำไปตามขั้นตอนของการป้องกันเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนั้นได้มีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง มีการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้นำชุมชน ได้รับทราบหลายช่องทาง
สำหรับเกษตรกรที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำลายสุกรทั้งหมด 408 ราย สุกรที่ทำลายไปแล้วประมาณ 13,000 ตัว ซึ่งเกษตรกรจะได้รับเงินเยียวยา 3 ใน 4 ของราคาประเมินหมูในช่วงนั้น มูลค่าความเสียหายประมาณ 42 ล้านบาท เงินเยียวยาจะมาถึงมือเกษตรกรในเร็วๆ นี้
