ผบ.ตร.บินลงพื้นที่ด่วน ระดมถกล่ากลุ่มก่อเหตุ
บึ้มป่วนต่อเนื่องเมืองยะลา ตั้งแต่บ่าย ยันกลางดึกอีก 9 จุด โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต คาดมุ่งสร้างสถานการณ์มากกว่าเอาชีวิต เป็นฝีมือกลุ่มเดียวกับก่อเหตุ 17 จุดวันก่อน แต่ระเบิดทำงานผิดพลาดจึงมาระเบิดภายหลัง จุดชนวนแบบตั้งเวลา อาศัยแรงอัดทำให้ เสียงดัง ไม่มีสะเก็ด ‘บิ๊กปั๊ด’ ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ยะลา กำชับตร.ร่วมปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยงานมั่นคง หาข่าวเชิงรุก ป้องกัน เร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังคนร้ายลอบวางระเบิด 14 จุดย่านธุรกิจกลางเมืองยะลาว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ยังคงเกิดเหตุต่อเนืองไปจนถึงกลางดึก โดยจุดแรกข้างอู่ซ่อมรถ เอคาร์ คัลเลอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 37/3 ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จุดที่ 2 หน้าโครงการชลประทานยะลา สำนักงานชลประทานที่ 17 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ทั้ง 2 จุดเป็นเส้นทางไปเรือนจำกลางยะลา จุดที่ 3 หน้าบ้านเลขที่ 37/4 ถนนสุขยางค์ 2 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จุดที่ 4 หน้าบ้านเลขที่ 56 ถนนสุขยางค์ 2 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จากการตรวจสอบของ เจ้าหน้าที่ ทั้งหมดไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ต่อมาจุดที่ 5 เมื่อเวลา 21.44 น. เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด ใกล้กับทีโอที สาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ไม่มีรายงานความ เสียหาย จุดที่ 6 ข้างโรงเรียนเทศบาล 1 ทางไปเรือนจำกลางยะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จุดที่ 7 เวลา 22.10 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัย บริเวณแยกบูคอรี ถนนสวนขวัญเมือง ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จุดที่ 8 เวลา 22.45 น. รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาบ้านสะเตง
จากนั้นเวลา 02.18 น. วันที่ 30 ม.ค. มีเสียงคล้ายระเบิดหน้าร้านเมืองยะลายางยนต์ ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ตำรวจสภ.เมืองยะลาปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ จนกระทั่งรุ่งเช้าเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณป้อมยามโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนคอรอยี ต.สะเตง อ.เมืองยะลา แยกบูคอรี ถ.สวนขวัญเมือง และจุดอื่นๆ ที่พบวัตถุต้องสงสัย พร้อมทั้งเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป โดยวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ เป็นลักษณะเดียวกันกับที่ระเบิดในเมืองยะลา และชายขอบเมืองยะลา 17 จุด เมื่อวันที่ 28 ม.ค.
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่าภายหลัง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบระเบิดที่ใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอัดดินในกระป๋อง สเปรย์และท่อเหล็ก จุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา อาศัยแรงอัดทำให้เกิดเสียงดัง ไม่มีสะเก็ดระเบิด เป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุเมื่อคืนวันที่ 28 ม.ค. จึงคาดว่าเป็น การระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบผู้ก่อเหตุวางระเบิดไว้ในจุดดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ม.ค. แต่คาดว่าระเบิดน่าทำงานผิดพลาด จึงเพิ่งมาระเบิดเมื่อคืนนี้
ตามคดีบึ้ม – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้ง ยอดสุข ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุ ลอบวางระเบิด 21 จุด ในเขตเทศบาลเมืองยะลา ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 30 ม.ค.
รองโฆษกตำรวจกล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปประกอบการตรวจพิสูจน์ รวม ถึงประกอบการสืบสวนสอบสวนหาตัว ผู้กระทำความผิดต่อไป และในวันที่ 30 ม.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เดินทางไป จ.ยะลา เพื่อประชุมเร่งรัดการดำเนินคดี และร่วมกันหารือถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็ว
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า “พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบในพื้นที่ต่อไป
รองโฆษกตำรวจกล่าวว่า เพื่อสนองนโยบายของนายกฯ และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์จึงกำชับสั่งการให้ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งหาข่าว เชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งรัดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมถึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก
