เนื้อจระเข้แทนหมูแพง ฮา-ไหว้เจ้า

นครปฐมปรับของเซ่น‘ตรุษจีน’ซบเซาทั่วปท. วันนี้เปิดลงคนละครึ่ง1,200บ.-ใช้ถึง30เมย.

ไหว้ตรุษจีนเงียบเหงา ปรับของไหว้ ลดซื้อสินค้าแพง ฟาร์มดอนตูมนครปฐม ฮือฮานำหัวจระเข้ ไหว้เจ้า-บรรพบุรุษแทนหัวหมู อาหารทุกรายการใส่เนื้อจระเข้แทนหมู-ไก่ ศาลพระกาฬ เมืองลพบุรี ก็เงียบ รมต.อู๊ดด้า ยันคุม 7 สินค้า หลังตรุษจีนหมูถูกลง วันนี้คลังเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 วันแรก ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม รับคนละ 1,200 บาท ใช้ได้ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 เม.ย. แบงก์ กรุงไทย พร้อมโอนเงินต่างธนาคารเข้า จี-วอลเล็ต-แอพฯ เป๋าตังแล้ว

ไหว้พระร่วง – ชาวไทยเชื้อสายจีนนำเป็ด ไก่ หัวหมู ผลไม้ ของเซ่นไหว้อื่นๆ มากราบสักการะขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ เนื่องในเทศกาลวันตรุษจีน ที่พระวิหารขององค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 31 ม.ค.

พาณิชย์ย้ำคุมสินค้า 7 หมวด
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ได้ติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นทุกหมวดอย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติทุกปีราคาสินค้าในหมวดอาหารจะมีราคาสูงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา ปีนี้ พณ.ติดตามสถานการณ์ราคาทุกหมวด ทำให้สินค้าอย่างน้อยสินค้า 7 หมวด สินค้าสำคัญก็สามารถตรึงราคาไว้ได้ ซึ่งเกิดจากการที่กรมการค้าภายใน(คน.) ได้เชิญเกษตรกร ผู้ประกอบการ รวมทั้งร้านค้าส่งค้าปลีกทั่วประเทศมาหารือร่วมกันและทุกฝ่ายก็เห็นตรงกันว่าต้องตรึงราคา ประกอบด้วย 1.หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.หมวดน้ำอัดลม 3.หมวดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4.หมวดซอสปรุงรส 5.หมวดนมและผลิตภัณฑ์นม 6.หมวดอาหารกระป๋อง และ 7.หมวดอาหารสด

ส่วนราคาไข่ไก่จากการติดตามราคาในห้างค้าส่งค้าปลีกสำคัญๆ ที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดราคาชี้นำของประเทศทั้งแมคโคร โลตัส บิ๊กซี และราคาในตลาดต่างๆ ในพื้นที่กทม.และในต่างจังหวัด ก็พบว่าราคาไข่ไก่ลดลงกว่าราคากำกับของพณ. ในช่วงตรุษจีนโดยราคากำกับนั้นกำหนดไว้ว่าไข่ไก่หน้าฟาร์ม ต้องไม่เกินฟองละ 2.90 บาท และราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ซึ่งเป็นเบอร์ที่นิยมบริโภคจำหน่ายปลีกไม่เกินฟองละ 3.50 บาท แต่ปรากฏว่าราคาเฉลี่ยของไข่ไก่ทั่วประเทศลดลง 7% จากราคาที่กำกับ เหลือเฉลี่ยฟองละ 3.39 บาท

หลังตรุษจีนหมูถูกลง
สำหรับเนื้อหมู หรือเนื้อสุกร กำกับราคาสุกรหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท ราคาหมูเนื้อแดงมาตรฐานกลางมีราคาต่ำกว่าราคากำกับของกระทรวงพาณิชย์เฉลี่ย 11% จากราคากำกับที่ 205-210 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเฉลี่ยทั่วทั้งประเทศที่ 187.19 บาทต่อกิโลกรัม และกรมการค้าภายในวิเคราะห์ว่าหลังตรุษจีนราคาเนื้อสุกรอาจจะมีแนวโน้มลดต่ำลงได้อีก และสินค้าอาหารด้านประมงนั้นพบว่าส่วนใหญ่ราคาต่ำลง เช่น ปลานิล ราคาลดลง 11% อยู่ที่เฉลี่ยก.ก.ละ 55-65 บาท ปลาทับทิมราคาลดลง 3% มีปลาดุกที่ราคาเพิ่มขึ้น 3%

ขณะที่ราคาไก่ ปกติจะสูงขึ้นมากในช่วงตรุษจีนเพราะประชาชนคนไทยเชื้อสายจีนนำไปใช้ในการเส้นไหว้บรรพบุรุษ ปีนี้กำกับราคาไก่หน้าฟาร์มที่ กิโลกรัมละไม่เกิน 40 บาท โดยจำหน่ายใน 3 ห้างใหญ่ แม็คโคร โลตัสและบิ๊กซี 710 สาขาทั่วประเทศในราคากำกับดังนี้ ไก่ทั้งตัวก.ก.ละไม่เกิน 65 บาท น่องติดสะโพก ไม่เกินก.ก.ละ 65 บาท เนื้อหน้าอกไม่เกินก.ก.ละ 75 บาท

ด้านราคาผัก จากการติดตามของพาณิชย์จังหวัดทั่วทั้งประเทศพบว่าราคาผักลดลงทุกตัว ผักคะน้าลดลงจากช่วงที่สูงสุด ช่วงก่อนปีใหม่จนถึงตรุษจีน ลดลงเฉลี่ย 44% ถั่วฝักยาวลดลง 13% กะหล่ำปีลดลง 32% กวางตุ้งลดลง 26% ผักกาดขาวลดลง 63% ผักบุ้งจีนลดลง 36% ต้นหอมลดลง 52% ผักชีลดลง 79% และมะนาวเบอร์ 1-2 ลดลง 17% เฉลี่ยถูกกว่าช่วงที่ขึ้นไปสูงถึง 40%

สำหรับความคืบหน้าโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 17 ที่ของบกลางจากคณะรัฐมนตรีนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า แม้งบประมาณยังไม่ลงมา แต่ทาง พณ.ใช้วิธีบริหารจัดการการลดราคาช่วยประชาชนโดยเน้นความร่วมมือต่อเนื่องจากโครงการเดิมทั้งหมูลดราคาและโมบายพาณิชย์ โดยพยายามจะไม่ให้ขาดตอนเพื่อพยุงราคาชี้นำตลาดหรือราคากำกับนี้ไปให้นานที่สุดจนกว่าจะคลี่คลาย

สกัดลอบส่งออกหมู
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ ผอ.สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กล่าวว่า นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ขานรับนโยบายรัฐบาล โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานในการกำกับดูแล เข้มงวดกวดขันทั้งเรื่องการลักลอบส่งออกสุกร เรื่องยาเสพติด หรือ สินค้าผิดกฎหมายทุกชนิด โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้นำเรือตรวจการณ์ออกตรวจตราตั้งแต่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอ่าวไทยจนถึงสุดเขตศุลกากรกรุงเทพด้านเหนือย่านรัฐสภาเกียกกายเพื่อเป็นการป้องปรามการ กระทำความผิดทางศุลกากร และรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตามที่รัฐบาลได้ออกมาตรการห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตออกนอกราชอาณาจักร เป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากราคาเนื้อสุกรในประเทศมีราคาปรับตัวสูงขึ้น

นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ ผอ.ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร กล่าวว่า จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่าปี 2565 เศรษฐกิจไทยยังคงมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น คาดมีการขยายตัวในอัตรา 4% ขณะที่การส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.6% ตามอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ประเมินว่าจะมีผู้มาใช้บริการด้านพิธีการศุลกากรเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ศูนย์เอกซเรย์เตรียมความพร้อมในด้านบุคลากรในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

แจงเริ่มคนละครึ่งเฟส 4
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ว่า เริ่มให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่สิ้นสุดไปเมื่อสิ้นเดือนธ.ค.2564 จำนวน 27.98 ล้านคน ยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 4 วันแรกในวันที่ 1 ก.พ. เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และเริ่มใช้จ่ายได้ทันทีหลังการกดยืนยันสิทธิเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้รับสนับสนุนวงเงินค่าสินค้าหรือบริการที่กำหนดในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ.-30 เม.ย.2565 โดยต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการภายใน วันที่ 28 ก.ค. เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ โดยสิทธิที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ให้จัดทำโครงการได้เตรียมความพร้อมระบบการโอนเงินต่างธนาคารเพื่อโอนเข้า จี-วอลเล็ต แล้ว

ส่วนของประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ลงทะเบียนผ่านแอพฯ เป๋าตัง หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิโดยเริ่มใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 17 ก.พ. สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศปิดรับสมัครผ่าน www.คนละครึ่ง.com

ขณะที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 4 และผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2 จะได้รับเงินช่วยเหลือวงเงิน 200 บาทต่อคนสำหรับเดือนก.พ. ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เช่นเดียวกัน

ไหว้ศาลเจ้า – ชาวไทยเชื้อสายจีนพาครอบครัวกราบไหว้เทพเจ้า ที่ศาลเจ้าปุงเถ่ากง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เนื่องวันตรุษจีน ขอพรให้คนไทยผ่านพ้นสถานการณ์โควิดโรคร้าย ที่ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก และเศรษฐกิจกลับมาฟื้นฟูโดยเร็ววัน เมื่อวันที่ 31 ม.ค.

เชียงใหม่เลี่ยงไหว้แออัด
ส่วนบรรยากาศวันไหว้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่ต่างๆ ชาวไทยเชื้อสายจีนต่างพากันมากราบไหว้ขอพร ทยอยนำของมา เซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือกันที่จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนหนึ่งได้นำของเซ่นไหว้มาสักการะขอพร เทพเจ้าปุงเถ่ากง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กันก่อน เพื่อเลี่ยงความแออัดชาวไทยเชื้อสายจีน และขอพรให้คนไทยผ่านพ้นสถานการณ์โควิดโรคร้ายที่ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก และเศรษฐกิจกลับมาฟื้นฟูโดยเร็ววัน

ที่ศาลเจ้าพ่อเสือหาดใหญ่ ย่านถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 ใจกลางเมืองหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประชาชนได้เดินทางไปกราบไหว้ขอพรองค์เทพต่างๆ โดยเฉพาะองค์เทพ “ตั่ว เหล่าเอี๊ย หรือเฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่” ซึ่งเป็นพระประธานของศาลเจ้าพ่อเสือหาดใหญ่กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชาวจีนถือเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องอภิบาล และปราบปรามศัตรู และเป็นเทพองค์หนึ่งที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรในช่วงตรุษจีน ขณะที่หลายคนก็มาทำพิธีแก้ปีชงด้วย

ด้านนายฮันยัน เชน อายุ 54 เจ้าของกิจการ หจก.ธนวัฒน์ค้าข้าว 6888 ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้แจกข้าวสารเป็นปีที่ 24 แล้ว โดยปีนี้แจก จำนวน 700 ถุง มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาด แบ่งเป็นแจกที่หน้าร้าน 400 ถุง มีชาวบ้านมาต่อแถวรอรับจำนวนมาก ส่วนอีก 300 ถุงนำใส่รถกระบะเข้าไปแจกให้ชาวบ้านที่อยู่ในซอยถนนรัถการรอบๆ ร้าน

สมุยเงียบกว่าทุกปี
ที่ศาลเจ้าไหหลำหน้าทอน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน ได้มีคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยบนเกาะสมุย สวมชุดสีแดง นำเครื่องเซ่นไหว้ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่ ปลา ผลไม้มงคล ขนม น้ำชา เหล้า มากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้า แม้ว่าวันตรุษจีนปีนี้มีผู้มากราบไหว้ไม่คึกคักมากนัก และของเซ่นไหว้ปริมาณลดลง เพราะพิษเศรษฐกิจตกต่ำ กระทบต่อรายได้ที่ลดลง ปัจจัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด

นายสุธรรม สุรินทร์วรางกูร หรือโกไข่ ผู้ดูแลศาลเจ้าไหหลำ กล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้มีคนไทยเชื้อสายจีนมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่คึกคักมากนัก แต่ก็มากันเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีและการแพร่ระบาดของโควิด

ตรังนำหมูย่างมาไหว้น้อยลง
ที่ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย อ.เมือง จ.ตรัง ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างพาบุตรหลานสวมชุดสีแดง พากันนำอาหารคาวหวาน อาทิ หมูย่าง เป็ด ไก่ ขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้มงคลต่างๆ รวมถึงกระดาษเงิน กระดาษทอง มาจุดธูป เทียน ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และไหว้บรรพบุรุษกันอย่างคึกคัก ในปีนี้ประชาชนนำหมูย่างมาไหว้ที่ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากหมูมีราคาแพง ถึงกิโลกรัมละ 550-600 บาท

นอกจากนี้ตามศาลเจ้าต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก ทยอยนำเครื่องเซ่นไหว้ พร้อมเติมตะเกียงน้ำมันไปสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยขอให้หน้าที่การงานประสบความสำเร็จ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ขอให้ผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิดเศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเร็ว

ยะลาขอพรเจ้าแม่กวนอิม
ที่วัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ต่างพาลูกหลาน ญาติพี่น้อง เดินทางเข้ามาสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าแม่กวนอิม ทั้งเติมน้ำมันตะเกียง จุดประทัด ขณะที่บางที่ปฏิบัติท่ามกลางมาตรการของสาธารณสุขอำเภอเบตง โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อชุดสีแดงใหม่เหมือนทุกปี โดยให้เหตุผลว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย จึงไม่ได้จัดซื้อชุดใหม่ บางคนระบุว่าปีนี้ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากโควิดกันทั่วหน้า ทำให้สมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับมาบ้านเกิดไม่ได้ เพราะอยู่ในพื้นที่การแพร่ระบาด หากกลับมาต้องถูกกักตัว ส่วนใหญ่ประกอบพิธีกรรมอย่างเรียบง่ายด้วยการไหว้บรรพบุรุษที่บ้าน และแจก อั่งเปาให้ลูกหลานกัน

ขณะที่อ.เบตง ปิดด่านมาตั้งแต่โควิดระบาด ทำให้เศรษฐกิจซบเซามากว่า 2 ปีเศษ จากที่เคยมีเงินสะพัดในช่วงตรุษจีนปีละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท จากการที่ช่วงตรุษจีนทุกปี ชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เดินทางมารวมญาติที่ฝั่งไทย ทำให้มีเงินสะพัดในแต่ละปี ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท แต่ปีนี้ไม่ได้มากัน

โคราชแห่ขอพร‘ย่าโม’
ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เขตเทศบาลนครนครราชสีมา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ แต่งกายด้วยเสื้อสีโทนแดงตามความเชื่อว่าเป็นสีแห่งความโชคดี ต่างพากันนำเครื่องเซ่นไหว้ มาไหว้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโมของชาวโคราช เป็นแห่งแรกอย่างเนืองแน่น

ส่วนที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถนนจอมพล และศาลเจ้าพ่อไฟ ตรงข้ามลานย่าโม ประชาชนต่างนำครอบครัวมาเซ่นไหว้ หัวหมู เป็ด ไก่ และผลไม้ ไหว้ขอพรเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกันตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย

ที่ตลาดสดเทศบาล 1 เมืองปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ประชาชนต่างพากันมาเลือกซื้อสินค้าเพื่อนำไปทำพิธีไหว้กันอย่างคึกคัก ทำให้ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า มีสีหน้ายิ้มแย้มที่ขายของได้มากขึ้น จากการตรวจสอบแผงขายเนื้อหมูและหัวหมูนับว่าราคาพุ่งสูงขึ้นมาก เช่นก่อนนั้นหัวหมูต้มแล้วสำหรับนำไปไหว้ 1 หัวประมาณ 5-6 ร้อย แต่ตรุษจีนปีนี้พุ่งสูงถึงหัวละ 700 บาท ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าบอกต้นทุนรับมาแพงทำให้นำมาขายต้องบวกราคาขึ้น

ตลาดบุรีรัมย์ซบเซา
ด้านนายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจตลาด เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นวันจ่ายของคนไทยเชื้อสายจีน น่าจะเป็นวันที่เงินสะพัดมากที่สุด แต่ปรากฏว่าผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้าของเซ่นไหว้ กลับมียอดขายลดลง ต่างจากทุกปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาอาหารแทบทุกประเภท เช่น ปลาสด หน่อไม้จีน ไก่สด และสินค้าชนิดอื่น ได้ปรับราคาลง โดยเฉพาะผักสด มะละกอ ราคาถูกลงอย่างเห็นได้ชัด เฉลี่ยมะละกอขายส่งที่กิโลกรัมละ 15 บาท ผักกาดทุกชนิดลดราคาลง ผักชีที่เคยราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ก็เหลือ 50 บาท ส่วนอาหารทะเล มีเพียงกุ้งขาวที่ปรับราคาขึ้น 10-15 บาท ส่วนหอยปรับลดลง และปูราคาคงเดิม สำหรับเนื้อหมูมีแนวโน้มปรับราคาลง คาดว่าสาเหตุที่สินค้าไม่ปรับราคาขึ้นในช่วงตรุษจีนเหมือนทุกปี เพราะคนไหว้เจ้าลดลง

ศาลพระกาฬก็เงียบ
ที่ศาลพระกาฬ อ.เมือง จ.ลพบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน มีชาวไทยเชื้อสายจีน สวมใส่เสื้อผ้าสีโทนแดง ทยอยนำของเซ่นไหว้แบบประหยัด เข้ามาสักการะ ซึ่งของเซ่นไหว้ในปีนี้แทบจะไม่มีหมู ผิดกับทุกปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ที่นำมาจะเป็นไก่ ไข่ ผลไม้ ขนมเข่ง และขนมเทียน และในแต่ละปีจะมีลูกหลานเชื้อสายจีนจำนวนมาก เดินทางกลับมาไหว้สักการะขอพรที่ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ แต่ปีนี้เงียบเหงา และซบเซา ส่วนหนึ่งจากการแพร่ระบาดของโควิด และข้าวของที่ปรับราคาขึ้นแทบทุกชนิด ส่งผลกับการจับจ่ายใช้สอยที่ต้องประหยัดทุกอย่าง และไม่มีการนำประทัดมาจุดเป็นที่อึกทึกเหมือนปีก่อนๆ เพราะมองว่าเศรษฐกิจแบบนี้เป็นการฟุ่มเฟือย

ไหว้เนื้อจระเข้ – ฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม รวมญาติจัดไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน โดยใช้จระเข้เป็นตัวไหว้แทน เนื้อหมู เป็นสายพันธุ์น้ำจืดหนัก 30 ก.ก. ยาว 2 เมตร และเครื่องไหว้ของคาว ประกอบด้วยเมนูเนื้อจระเข้ล้วน เมื่อวันที่ 31 ม.ค.

นครปฐมจระเข้ไหว้แทนหมู
ที่ฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้มีการรวมญาติจัดไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษ แต่ของที่นำมาไหว้เป็นผลผลิตจากฟาร์ม โดยนำจระเข้ มาไหว้แทนหมู เป็นสายพันธุ์น้ำจืดน้ำหนัก 30 กิโลกรัม มีความยาว 2 เมตร ขณะที่อาหารไหว้ก็ใส่เนื้อจระเข้แทนทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น แกง กระดูกอ่อน ต้มหน่อไม้ผัดผักรวม ผัดขิง ผัดเผ็ดเนื้อ ทอดกระเทียม บ่องตันตุ๋น ผัดกะเพรา เนื่องจากมีราคาถูกกว่าเนื้อหมูมาก
น.ส.วิสาชิณี รุ่งทวีชัย อายุ 50 ปี เจ้าของธุรกิจฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย กล่าวว่า ทำฟาร์มจระเข้มากว่า 30 ปี เลี้ยงไว้ 12,000 กว่าตัว ปีนี้อะไรก็แพงไปทุกอย่าง จึงตัดสินใจว่าวัตถุดิบของเรามีจระเข้และผลไม้ที่ปลูกเอาไว้ในสวน ซึ่งวันนี้เป็นวันดี ตนพร้อมครอบครัวญาติพี่น้อง จึงนำอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อจระเข้มาไหว้แทนเนื้อหมู และไก่ ที่มีราคาแพง เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์