จัดงานสืบชะตาป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิง

จัดงานสืบชะตาป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิง – เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต นายสายันห์ ข้ามหนึ่ง เจ้าหน้าที่สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ตัวแทนจากสภาประชาชนลุ่มน้ำอิง ร่วมกับนายฉัตรชัย สอนแก้ว ผู้ใหญ่บ้านทุ่งศรีเกิด และชุมชนบ้านทุ่งศรีเกิด ม.3 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ได้จัดกิจกรรมสืบชะตาป่าชุ่มน้ำ แม่น้ำอิง ร่วมผลักดันการขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำสู่ Ramsar site วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (World Wetland Day) ที่ป่าชุ่มน้ำบ้านทุ่งศรีเกิด ด้วยวันพื้นที่ ชุ่มน้ำโลกตรงกับวันที่ 2 ก.พ.ของทุกปี ซึ่งไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์ หรืออนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศโดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่ของนกน้ำ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 2541

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ป่าชุ่มน้ำหรือป่าริมอิงของบ้านทุ่งศรีเกิดมีพื้นที่ประมาณ 138 ไร่ ซึ่งคนในชุมชนรักษาไว้ตั้งแต่อดีต วันนี้เลยจัดพิธีสืบชะตาเพื่อเป็นการอนุรักษ์ป่าไว้ให้คนรุ่นหลัง ให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของป่า

ด้านนายสายันห์กล่าวว่า ป่าชุ่มน้ำบ้านทุ่งศรีเกิดเป็น 1 ใน 7 ป่าที่ขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ของป่า โดยนำความเชื่อทางศาสนามาเป็นกุศโลบายในการจัดงานสืบชะตาป่า เพื่อรักษาป่า และมีแผนงานระยะยาวร่วมกับชุมชนเรื่องการฟื้นฟูป่า หลังจากมีการวางแปลงสำรวจพันธุ์พืช ปลูกไม้ท้องถิ่นเสริม รวมถึงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาในแหล่งน้ำของชุมชน การจัดกิจกรรมสืบชะตาป่าชุ่มน้ำในลุ่มน้ำอิง มีเป้าหมายในการสร้างความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำร่วมกันของชาวบ้าน หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคีต่างๆ เพื่อการผลักดันขอขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศต่อไป

“โดยลุ่มน้ำอิงตอนล่างมีความยาวประมาณ 133 ก.ม. เริ่มตั้งแต่อ.เทิงไปจนบรรจบแม่น้ำโขงที่อ.เชียงของ พบพื้นที่ชุ่มน้ำจำนวน 26 แห่ง ป่าชุ่มน้ำหรือป่าริมอิงมีความสำคัญหนึ่งในนิยามของพื้นที่ชุ่มน้ำ Ramsar site คือเป็นพื้นที่รองรับน้ำหลากในฤดูฝน เป็นแหล่งให้น้ำ ในฤดูแล้งสำหรับการทำการเกษตรรอบๆ ข้างพื้นที่ จึงพยายามผลักดันขึ้นทะเบียนพื้นที่ ชุ่มน้ำในลุ่มน้ำอิงตอนล่างเพื่อให้มีการคุ้มครองลงนามอนุสัญญา Ramsar site”