รักษาที่บ้านไม่เข้าข่าย ติดเชื้อหมื่น2วันซ้อน

สมาคมประกันภัยรื้อเกณฑ์เบิกค่ารักษาป่วยโควิด ตั้ง 5 เงื่อนไข นอนโรงพยาบาลขึ้นอยู่กับดุลพินิจแพทย์ ต้องมีไข้สูงกว่า 39 องศา นานกว่า 24 ชั่วโมง ค่าออกซิเจนน้อยกว่า 94% ส่วนรักษาตัวที่บ้าน เบิกไม่ได้ ชี้แค่การกักตัวจากป่วยแบบไม่มีอาการหรือมีน้อย เริ่มใช้ 15 ก.พ.นี้ ยอดโควิดพุ่งทะลุหมื่น 2 วันติด ติดเชื้อเกินร้อยขาขึ้นอีก 25 จังหวัด ปากน้ำทะลุพันคนแล้ว สธ.ยังมั่นใจคุมได้ ไม่กังวล ชี้ยอดป่วยหนัก-เสียชีวิตยังไม่เพิ่ม เร่งฉีดบูสต์กลุ่มเสี่ยง 608 ส่วนเด็ก 5-11 ขวบ ฉีดแล้ว 2 หมื่นคนใน 1 สัปดาห์ ชงมาตรการศบค.สัปดาห์นี้ ยันไม่ล็อกดาวน์ ‘บิ๊กตู่’ จี้เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็ก-เด็กเล็กให้ทั่วถึงมากที่สุด

โควิดทะลุหมื่น 2 วันติด
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ จำนวน 10,879 ราย เป็นหลักหมื่นรายวันที่สอง นับจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นมา รวมสะสม 2,497,001 ราย หายป่วย 8,285 ราย สะสม 2,383,673 ราย เสียชีวิต 20 ราย สะสม 22,291 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 91,037 ราย มีอาการหนัก 533 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 104 ราย

ผู้เสียชีวิต 20 ราย มาจาก 15 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา 3 ราย, กทม. เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 2 ราย และ นนทบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม นครสวรรค์ น่าน อุตรดิตถ์ ชลบุรี และลพบุรี จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 10 ราย หญิง 10 ราย อายุ 35-98 ปี ค่ากลางอายุ 83 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว 95%

ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 1,470 ราย 2.สมุทรปราการ 1,282 ราย 3.ชลบุรี 556 ราย 4.นนทบุรี 439 ราย 5.ภูเก็ต 415 ราย 6.สมุทรสาคร 285 ราย 7.ขอนแก่น 256 ราย 8.ราชบุรี 213 ราย 9.นครศรีธรรมราช 213 ราย และ 10.ปทุม ธานี 209 ราย

ป่วยเกินร้อยพุ่ง 25 จังหวัด
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 25 จังหวัด คือ นครปฐม 191 ราย, เชียงใหม่ 187 ราย, นครราชสีมา 184 ราย, มหาสารคาม 174 ราย, อุบลราชธานี 170 ราย, ฉะเชิงเทรา 167 ราย, ร้อยเอ็ด 162 ราย, สุพรรณบุรี 158 ราย, ระยอง 153 ราย, พระนครศรีอยุธยา 146 ราย, อุดรธานี 141 ราย, หนองคาย 137 ราย, สุรินทร์ 128 ราย, ศรีสะเกษ 124 ราย, สระบุรี 124 ราย, พัทลุง 122 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 113 ราย, เพชรบุรี 109 ราย, นครสวรรค์ 106 ราย, สระแก้ว 106 ราย, สุราษฎร์ธานี 105 ราย, บุรีรัมย์ 104 ราย, นครนายก 103 ราย, ชุมพร 102 ราย และลพบุรี 102 ราย ส่วนติดเชื้อเพียงหลักหน่วยมี 3 จังหวัด ได้แก่ ยะลา 7 ราย, นราธิวาส 5 ราย และแม่ฮ่องสอน 5 ราย

ขณะที่การติดเชื้อมาจากเรือนจำ 30 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 178 ราย ใน 39 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 81 ราย, เยอรมนี 10 ราย, คาซัคสถาน 9 ราย, ฝรั่งเศส ยูเครน ประเทศละ 8 ราย, อิสราเอล 6 ราย, ศรีลังกา อังกฤษ ประเทศละ 5 ราย ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 7 ราย แซนด์ บ็อกซ์ 153 ราย ระบบกักตัว 18 ราย

สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่ วันที่ 1-5 ก.พ.2565 จำนวน 24,298 ราย รายงานติดเชื้อ 918 ราย คิดเป็น 3.78% แบ่งเป็นระบบเทสต์แอนด์โก 5,958 ราย ติดเชื้อ 30 ราย คิดเป็น 0.61% แซนด์ บ็อกซ์ 15,785 ราย ติดเชื้อ 796 ราย คิดเป็น 5.04% และกักตัว 3,555 ราย ติดเชื้อ 92 ราย คิดเป็น 2.59%

ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.พ. ฉีดได้ 250,182 โดส สะสมรวม 116,878,247 โดส เป็นเข็มแรก 52,495,750 ราย คิดเป็น 75.5% ของประชากร เข็มสอง 48,922,790 ราย คิดเป็น 70.3% ของประชากร และเข็มสาม 15,495,707 ราย คิดเป็น 22.2% ของประชากร

สธ.ยันคุมได้-โควิดขาขึ้น
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า ขณะนี้แม้จะมีสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็ว แต่ข้อมูลวิชาการทั่วโลกยืนยันตรงกันว่า ความรุนแรงไม่ได้มากกว่าสายพันธุ์เดลตา ดังนั้น การที่เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อดูจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยหนักไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ก็อยู่ในสถานการณ์ที่เราคาดการณ์ไว้ ระบบสาธารณสุขยังรองรับผู้ป่วยอาการหนักเพื่อป้องกันการเสียชีวิตได้ ส่วนผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยใช้ระบบการรักษาที่บ้าน (โฮม ไอโซเลชั่น) ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้เตียงร.พ.เพียงพอต่อการรักษา ทั้งผู้ป่วยโควิดและโรคอื่น

“ตอนนี้ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนว่า อย่ากังวลเรื่องตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากจนเกินไปนัก เราอยู่กับโรคมา 2 ปีแล้ว ตอนนี้เราต้อง มูฟออน เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินต่อ สิ่งสำคัญตอนนี้ที่เห็นได้ชัดคือ การลดอัตราผู้เสียชีวิต เนื่องจากข้อมูลตอนนี้พบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์โดส จึงต้องเน้นย้ำในเรื่องนี้ หากใครถึงเวลารับเข็มกระตุ้นขอให้มารับตามกำหนด เพื่อลดอัตราความรุนแรงของโรค” นพ.โอภาสกล่าว

ยันไม่ล็อกดาวน์
ส่วนวัคซีนเด็กก็มีความสำคัญ เพราะตอนนี้เปิดเทอมแล้ว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนสำหรับเด็กแล้ว 2 ชนิด ซึ่งมีความปลอดภัย เป็นที่ยอมรับกัน ทั่วโลกก็ฉีดเด็กไปเยอะ สำหรับไทยฉีดเด็กโตแล้วกว่า 90% ยังไม่พบผลข้างเคียงที่อันตรายรุนแรง อยากขอประชาสัมพันธ์ ผู้ปกครองพิจารณาวัคซีนบุตรหลาน ซึ่งยังเป็นไปตามความสมัครใจ

สำหรับการรับวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ขวบ ที่ผ่านมา 1 สัปดาห์ฉีดไป 20,000 คน เป็นกลุ่มเด็กป่วย 7 โรคเรื้อรัง และตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. เริ่มฉีดวัคซีนในเด็กทั่วไป เชื่อว่าขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังเตรียมความพร้อมดำเนินการ ส่วนที่ อย.อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีน ซิโนแวค ซิโนฟาร์มให้ฉีดกับเด็ก 6 ขวบขึ้นไปนั้น จะเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับ ผู้ปกครองและเด็ก เลือกวัคซีนฉีดเองได้ เพราะการรับวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจ อีกทั้งวัคซีนในเด็กก็มีมาก จึงเปิดให้เลือก โดยย้ำว่าวัคซีนทุกตัวที่ผ่านการขึ้นทะเบียนของ อย.มีความปลอดภัย

เมื่อถามว่าในการประชุม ศบค.นัดถัดไป สธ.จะเสนอมาตรการใด นพ.โอภาสกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สธ.ก็เตรียมข้อมูลเพื่อไปนำเสนอ คาดว่าจะมีการประชุมสัปดาห์นี้ ส่วนมาตรการที่จะเสนอ ต้องรอดูวาระการประชุม ศบค.อีกครั้ง ว่าจะต้องพิจารณาเรื่องใดบ้าง สธ.ก็จะทำมาตรการเข้าไปเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ จะเห็นว่าสถานการณ์โควิดในไทยและทั่วโลกเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลายประเทศก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น แม้จำนวนติดเชื้อจะสูง ถึงหลัก 5-6 หมื่นรายต่อวัน สธ.เองก็มีความเห็นว่า เราไม่ควรจะล็อกดาวน์ตัวเองไว้ คาดว่ามาตรการต่างๆ ก็ควรจะผ่อนคลายลง เพื่อให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคและเตรียมตัวเข้าสู่โรคประจำถิ่นต่อไป

นายกฯเร่งเด็กรับวัคซีน
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยกรณีที่พบว่ากลุ่มเด็กติดโควิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพบเด็กช่วงอายุระหว่าง 5-11 ขวบติดเชื้อโควิดในช่วงเดือนเม.ย.-31 ธ.ค.2564 แล้วจำนวน 123,403 คน ขณะที่ช่วงเดือนม.ค.-2 ก.พ.2565 ติดเชื้อสะสม 13,600 คน ส่วนกลุ่มอายุ 12-17 ปี ช่วงปี 2564 ติดเชื้อสะสม 111,952 คน และช่วงม.ค.-2 ก.พ.2565 ติดเชื้อสะสม 10,226 คน กำชับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการและดูแลให้กลุ่มเด็กดังกล่าวได้รับวัคซีนครอบคลุมครบตามเกณฑ์ที่กำหนดให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและบรรเทาอาการรุนแรงของโรค โดยหลังจากที่วัคซีนล็อตแรกถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ม.ค. สธ.ได้นำร่องฉีดวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์สูตรเด็กฝาสีส้ม) ที่สถาบันสุขภาพเด็กมหาราชินี (โรงพยา บาลเด็ก) ให้กับเด็กกลุ่มอายุ 5-11 ขวบ ที่มีโรคประจำตัวและมีความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามความสมัครใจ และเข็มที่ 2 จะเริ่มวันที่ 26 ก.พ. เป็นต้นไป

รื้อเกณฑ์เบิกป่วยโควิด
ขณะที่นายบรรยง วิทยวีรศักดิ์ กูรูวงการประกันชีวิต โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากวงการประกันชีวิตแจ้งว่า สมาคมประกันชีวิตไทยได้ออกแนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองการประกันสุขภาพ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทประกันชีวิต โดยมีเนื้อหาโดยย่อว่า จากนี้ไปบริษัทประกันชีวิตจะให้การชดเชยค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายวันสำหรับผู้เอาประกันที่ป่วยเป็นโควิดก็ต่อเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น โดยเริ่มมีผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตบางแห่งได้ออกมาแจ้งให้ตัวแทนประกันชีวิตได้รับทราบว่า บริษัทกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการเบิกค่ารักษาพยาบาลโรคโควิดเร็วๆ นี้

แหล่งข่าวเผยว่า การที่บริษัทประกันชีวิตได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติ การให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย โควิดครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด-19 แบบโฮมไอโซเลชั่น ฉบับปรับปรุง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2565 โดยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ให้กักตัวที่บ้าน ส่วนผู้ป่วยที่จะเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาลนั้น ต้องมีความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

แจงร.พ.คู่สัญญา-เริ่ม15ก.พ.
เมื่อมีอาการไข้สูงกว่า 39 องศา ระยะเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง, หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาที ในผู้ใหญ่ ค่าออกซิเจน น้อยกว่า 94%, โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลพินิจของแพทย์ สำหรับในเด็ก หากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง

ขณะที่สมาคมประกันชีวิตไทยได้ยกเหตุผลว่า ในระยะเวลาอันใกล้การติดเชื้อโควิด-19 จะกลายสภาพเป็นเหมือนโรคประจำถิ่น เช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งกระบวนการดูแลรักษาจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเป็น ผู้ป่วยในอีกต่อไป และผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่ม สีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียง เล็กน้อย ดังนั้น การรักษาในฮอสพิเทล เป็นเพียงการแยกกักตัว หรือไอโซเลชั่น ซึ่งไม่ควรถือว่าเป็นการเข้าพักรักษาตัวใน โรงพยาบาล ตามนิยามเดิม

สมาคมจึงขอให้บริษัทประกันชีวิตที่เป็นสมาชิก ได้เตรียมความพร้อมในการสื่อสารภายในบริษัทและโรงพยาบาลคู่สัญญา เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน และสัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายได้จากการนอน พักรักษาตัวในโรงพยาบาล (ถ้ามี) ให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว โดยจะเริ่มใช้แนวปฏิบัตินี้พร้อมกันทั้งธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.2565 เป็นต้นไป

สรุปคือ ผู้เอาประกันภัยที่ป่วยโควิด จะเบิกค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยรายได้จากการนอนโรงพยาบาลหรือฮอส พิเทลได้นั้น ต้องมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ข้อใดข้อหนึ่งใน 5 ข้อข้างต้นเท่านั้น ถ้าไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ต้องใช้วิธีกักตัวที่บ้านเอง ซึ่งจะเบิกค่ารักษาจากบริษัทไม่ได้ ตัวแทนประกันชีวิตจึงต้องเร่งทำความเข้าใจ และชี้แจงให้ลูกค้าเข้าใจในเงื่อนไขก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือฮอสพิเทลต่อไป และถ้าโรงพยาบาลยังรับเข้ารักษาทั้งที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ผู้เอาประกันอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

เชียงใหม่ป่วยเพิ่ม 194
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค โควิด-19 ในพื้นที่ต่างๆ ที่ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 194 ราย โดยเป็น ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 186 ราย อีก 8 ราย จากต่างพื้นที่ ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เดือนม.ค.2665 อยู่ที่ 6,275 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ จำนวน 1,614 ราย โดยเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 1,350 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 240 ราย อาการหนัก (สีแดง) 24 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่วนการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิต (เอทีเค) จำนวน 3,441 ราย พบผู้มีผลบวก 593 ราย
ขณะที่การบริหารจัดการวัคซีน มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,578,673 คน คิดเป็นร้อยละ 91.28 จากประชากรจังหวัดเชียงใหม่

พะเยากลุ่มเลี้ยงผีลามอีก
ที่ จ.พะเยา ยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยใหม่จำนวน 41 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่งานเลี้ยงตรุษจีนเลี้ยงผีของพี่น้องชนเผ่า ในพื้นที่หมู่ 5 ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ โดยสองวันที่ผ่านมาพบผู้ป่วยแล้วร่วม 30 ราย และติดเชื้อในครอบครัว ชุมชน สถานที่ทำงานและโรงเรียน รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสมระลอกเดือนม.ค.2565 จำนวนทั้งสิ้น 944 ราย

ภูเก็ตยังติดเชื้อพุ่ง 560
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ภูเก็ต รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 560 ราย จากในจังหวัด 415 ราย และแซนด์บ็อกซ์ 145 ราย ส่วนการตรวจเชิงรุก ผลตรวจเอทีเคที่ อ.เมือง จำนวน 2,610 ราย พบ 179 ราย, อ.กะทู้ 370 ราย พบ 47 ราย, อ.ถลาง 254 ราย พบ 4 ราย สรุปพบผู้เข้าข่ายรายใหม่ตรวจเชิงรุก 230 ราย ยอดคงเหลือของผู้เข้าข่ายกักตัว 744 ราย

ปิดไนท์บาซาร์พิมาย
ส่วนเทศบาลตำบลในเมืองพิมาย จ.นครราชสีมา ได้ประกาศปิดตลาดไนท์บาซาร์พิมาย ระหว่างวันที่ 6-8 ก.พ.เพื่อทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และตรวจเอทีเค ผู้ค้าในตลาดและสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรวมถึงสอบสวนโรคเพื่อควบคุมเชื้อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

นศ.ป่วย-กักเพื่อน-ครูกว่า 30
ขณะที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราช สีมา (มรภ.นม.) รายงานว่า ได้รับแจ้งว่ามีนักศึกษาภาคปกติ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ หลักสูตรครุศาสตร์ สาขาวิชานาฏศิลป์ รวม 5 คน แบ่งเป็น ปี 4 เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน และปี 3 หญิง 1 คน ติดเชื้อโควิด สอบสวนโรค พบไทม์ไลน์เป็นกลุ่มไปซ้อมรำที่มหาวิทยาลัย และแสดงรำในงานเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาโดยหลายคนได้ไปเดินห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายห้างในเมืองโคราช ไปสถานีรถไฟ ร้านอาหาร ร้านหมูกระทะ และตลาด หลายแห่ง โดยได้กักตัวนักศึกษาและอาจารย์ รวมกว่า 30 คน ที่เป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงแล้ว

โวย‘หมอพร้อม’ไม่แก้ชื่อ‘นญ’
วันที่ 6 ก.พ. นายกิตติ สุระคำแหง อดีตรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงกรณีหญิงสาววัย 30 ปี ชาวปัตตานี มีชื่อในแอพหมอพร้อมด้วยคำขึ้นต้นเป็นนักโทษหญิง ทั้งที่พ้นโทษออกมาแล้ว ว่า ประเด็นนี้ถือว่า ผิดปกติ ต้องแก้ไข เห็นใจและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ขอเป็นกำลังใจสู้ต่อไป

นพ.อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เรื่องนี้น่าเห็นใจอย่างมาก ถือเป็นเรื่องที่ต้องรีบตรวจสอบและแก้ไขอย่างเร็ว เพื่อไม่เป็นตราบาปให้กับ ผู้ที่พ้นโทษมาแล้ว โดยตนจะรีบตรวจสอบว่าเกิดจากความผิดพลาดที่ระบบส่วนกลางหรือในพื้นที่ กันแน่ ตนจะเร่งตรวจสอบและแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ด้านหญิงสาว อายุ 30 ปี ชาวจ.ปัตตานี กล่าวว่า มันคือตราบาป ที่ไม่สามารถลบ ออกเลยใช่ไม หรือ แอพหมอพร้อม โชว์แบบนี้ คำว่า นญ. คำนำหน้าชื่อของตน คือผลงานของเจ้าหน้าที่ ตนไม่รู้จะทำยังไง อายทุกครั้งที่จะต้องโชว์ ไม่โชว์ไม่ได้ มันเหมือนเป็นการบังคับ ให้เราประกาศตราบาปของเราเลยแบบนี้ ทั้งที่ได้รับโทษครบแล้ว และพ้นโทษมาแล้ว 7 เดือน หลังรับโทษเต็ม ก็ได้รับอิสรภาพ แต่ตราบาป บนแอพหมอพร้อมที่โชว์ ยังประทับไว้ ก็ไม่รู้จะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน จึงมาปรึกษาสื่อว่าจะทำอย่างไร พอจะมีหน่วยงานไหน ที่จะช่วยเหลือได้บ้าง ถ้าเป็นไปได้ขอใช้คำว่านางเหมือนคนทั่วไปได้หรือไม่ อยากรู้เหมือนกันว่า มันคือความผิดพลาดของใคร แล้วใครจะรับผิดชอบได้บ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน