ปมสัมปทานบีทีเอส‘อนุทิน’เซ็นประกาศปลดล็อกกัญชาแล้วพปชร.จ่อปรับโฆษก
7 รัฐมนตรีภูมิใจไทยบอยคอต ไม่เข้าร่วมประชุม ครม. ยืนยันความเห็นคัดค้านขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่มหาดไทยเสนอ เผยคมนาคมทำหนังสือ ท้วงติง 4 ข้อ ครม.สั่งมหาดไทยตอบ ข้อสงสัย ก่อนส่งกลับมาพิจารณาใหม่ นายกฯ ถกเครียด ‘อนุพงษ์-วิษณุ’ ส.ส.ภูมิใจไทยแถลงหนุน 7 รัฐมนตรีกล้าชน ‘ป้อม’ ย้ำอีก ไม่แย่งเก้าอี้ มท.1 จาก ‘ป๊อก’ ยันไม่ต้อง เคลียร์ ‘บิ๊กตู่’ เรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติ เชื่อยังอยู่ด้วยกัน ไม่ไปไหน แต่นายกฯ ยังกั๊ก บอกเป็นเรื่องอนาคต ส.ส.พปชร. กดดันเปลี่ยนตัวโฆษกพรรค ‘ถวิล ไพรสณฑ์’ ลา ปชป. เข้าสังกัดก้าวไกล
ภท.บอยคอต-7 รมต.โดดถกครม.
เวลา 09.00 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมครม. แบบเต็มคณะหลังประชุมผ่านระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากปัญหาการระบาดของโควิด-19
โดยมีรายงานว่า มหาดไทย(มท.) เตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ กทม. เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัทบีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS อีก 30 ปี เป็นสิ้นสุดปี 2602 จากเดิมปี 2572 แลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แสดงจุดยืนชัดเจนไม่เห็นด้วยมาตลอด
โดยวันนี้รัฐมนตรีของ ภท.ทั้ง 7 คนคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์, นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ได้ยื่นใบลาประชุมครม.ต่อเลขาธิการครม. เมื่อค่ำ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุเหตุผลว่าไม่สะดวกจะร่วมพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยมี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ จากภท. เข้าร่วมประชุมครม.เพียงคนเดียว
ค้านต่อสัมปทานบีทีเอส
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม (คค.) โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีหนังสือความเห็นประกอบการพิจารณาเรื่องดังกล่าวถึงเลขาฯ ครม. 7 ก.พ. มีเนื้อหาสรุปว่า ตามที่กทม.ชี้แจงการดำเนินการตามความเห็นที่ คค.เคยเสนอไปนั้น พิจารณาแล้วยังไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกทม. เพราะที่จัดทำเพิ่มเติมไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของคค.แตกต่าง จากเดิม ทั้งการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม และความชัดเจนประเด็นข้อกฎหมาย และรฟม.ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวโครงการอันเป็นสาระสำคัญที่ไม่เห็นด้วยกับมหาดไทย นอกเหนือจากประเด็นอื่นๆ
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ทำหนังสือลงวันที่ 8 ก.พ.2565 ถึงเลขาฯ ครม.ระบุ ตามที่มีหนังสือแจ้งประชุม ครม. มีวาระพิจารณา ลำดับที่ 3 เรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอเรียนว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกทม.
ยันกังวลข้อกฎหมาย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การ ท่องเที่ยวและกีฬา เผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ว่าไม่ได้เข้าประชุม ครม.เพราะต้องกักตัวหลังเพิ่งกลับจากจีน ส่วนกระแสข่าวรัฐมนตรีภท.ไม่ร่วมประชุม ครม. ได้ยินมาแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก แต่รายละเอียดถามนายอนุทินดีที่สุด
ด้านน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ยอมรับว่า ลา 2 วัน เนื่องจาก ติดภารกิจงานที่ จ.อุทัยธานี ส่วนการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในฐานะคน ภท. จุดยืนต้องว่าตามหัวหน้าและเลขาฯ พรรค
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า มีภารกิจไปเปิดงานที่ จ.เชียงใหม่ และต้องเตรียมข้อมูลตอบกระทู้สภาสัปดาห์ ส่วนที่รัฐมนตรี ภท.พร้อมใจกันลาเนื่องจากไม่เห็นด้วยเรื่องการขยายสัมปทานบีทีเอส นั้น เป็นความกังวลใจเรื่องข้อกฎหมาย

พรรคใหม่ – ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา นำส.ส.ในกลุ่ม เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนฯ เป็นครั้งแรก หลังถูกพรรคพลังประชารัฐขับพ้นพรรค แล้วยกทีมย้ายมาสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ที่รัฐสภา เมื่อ 8 ก.พ.
ครม.ยอมถอยปมขยายสัมปทาน
เวลา 13.55 น. หลังประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ พูดคุยนอกรอบกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักนายกฯ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยนำเอกสารคาดเป็นรายละเอียดโครงการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายหลัง ครม.มีมติรับทราบ แต่ให้มท.ไปชี้แจง คค.ให้ชัดเจนก่อนนำกลับมาพิจารณาใหม่ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าว เพียงแต่โบกมือให้สื่อมวลชนก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ไปรออยู่ก่อน
พล.อ.อนุพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ครม.มีมติให้ไปชี้แจงเพิ่มเติมข้อมูลและเสนอกลับเข้ามาใหม่ หลัง คค.มีหนังสือทักท้วง 4 ข้อ และวันนี้ที่ประชุมครม.ได้พิจารณาวาระดังกล่าว ไม่ได้ถอนออกไป เพียงแค่ให้เอาข้อมูลมาเพิ่มเติมและพิจารณาในครม.ครั้งต่อไป ส่วนที่ 7 รัฐมนตรี ภท.ไม่เข้าร่วมประชุมครม.นั้น ไม่เป็นไรเพราะมติ ครม. ก็ยังเป็นมติครม. เมื่อถามว่าจะนำเรื่องกลับเข้าครม.เมื่อไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เสร็จเมื่อไรก็สามารถนำกลับเข้ามาพิจารณาได้เมื่อนั้น
วิษณุชี้ครม.ยังพิจารณาไม่จบ
ด้าน นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ถือว่าผ่านการพิจารณาจากครม.แต่ยังไม่เสร็จ เนื่องจากคค.เพิ่งตั้งข้อสังเกต 4 ข้อ ลงวันที่ 7 ก.พ. คค.ไม่ได้มานั่งในที่ประชุม และมท.เพิ่งมาเห็น วันนี้ จึงต้องไปหา คำตอบเสร็จเมื่อไรค่อยเอาเข้าที่ประชุม ต่อให้เสร็จสิ้น จึงถือว่าการพิจารณา ยังไม่เสร็จสิ้น ไม่ได้ถอนออกไป โดยคำตอบ ดังกล่าวถ้าได้มาเร็วก็เร็ว ได้มาอาทิตย์หน้าก็อาทิตย์หน้า นายกฯ วางกรอบให้ดำเนินการ โดยเร็ว
เมื่อถามว่าคำถาม 4 ข้อเป็นประเด็นใหม่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่แน่ใจ คำถามระบุ 1.ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคา 2.เรื่องการใช้ระบบตั๋วร่วม 3.ปัญหาเรื่องกฎหมายบางประการ ไม่รู้ว่าอะไร และ 4.สะพานสองแห่งที่รื้อย้ายที่ถนนหทัยราษฎร์และถนนพุทธมณฑล สาย 2 เมื่อถามว่าหาก คค. ไม่เห็นชอบ ครม.จะพิจารณาต่อไม่ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สามารถโหวตพิจารณาได้ หลายเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเห็นชอบกัน
รมต.บ่น-มาไม้เดิม
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ขอให้มท. กลับไปดูรายละเอียดของ คค.ที่นำหนังสือเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ที่ต้องพิจารณาประกอบเพื่อจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ รวมทั้งให้ไปดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช. ซึ่งมท. จะรีบกลับไปดูข้อมูลทั้งหมด เพื่อสรุปมาเสนอ ครม.อีกครั้งโดยเร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์นี้
ตู่สั่งลุย-เคาะได้แล้ว
รายงานข่าวจากทำเนียบเผยว่า ครม.แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางเรื่องสัญญาบีทีเอส โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ อธิบายว่าการพิจารณาวันนี้ไม่ใช่การต่อสัมปทานแต่เป็นการแก้ไขสัญญาเพื่อแก้ หนี้สิน 5 หมื่นล้านบาท เพราะไม่ว่าจะเป็น กทม.หรือรัฐบาลฝ่ายเดียวแก้ไขไม่ได้ เอกชน ต้องมาช่วย ส่วนจะให้เอกชนลดค่าโดยสารให้ต่ำกว่า 65 บาทตลอดสายทำไม่ได้ หากอยากได้ราคาถูก กทม.ต้องลดส่วนแบ่งรายได้เพื่อนำไปชดเชย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้วที่เสนอ ครม.แต่เมื่อมีข้อสงสัยและคค.ทำหนังสือ มีคำถามต้องการให้ตอบ 4 ข้อ ส่วนใหญ่ชี้แจงไปหมดแล้วเหลือเพียงประเด็นที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่ต้องทำให้ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ เสริมว่าอย่างไรต้องนำเข้า ครม.เพราะมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรอาจผิดมาตรา 157
โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะเร่งพิจารณา เช่น นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนา สังคมฯ มีรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บางคนสอบถามเรื่องภาระหนี้สินใครจะรับผิดชอบ รัฐมนตรีบางคนเอ่ยปากว่าหลายครั้งแล้วที่นำวาระนี้เข้า ครม.แต่จบลงแบบนี้ทุกครั้ง เพราะคค.มีคำถามแบบนี้มาทุกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า “รอบหน้าเคาะได้แล้ว” และช่วงหนึ่ง ได้ปรารภถึงราคาค่าโดยสาร 65 บาท ว่า “ก่อนหน้านี้ก็เห็นด้วยกันมาแล้ว ทำไม ตอนนี้ถึงมาเปลี่ยนใจ”
มั่นใจทำถูกต้องตามกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงท้ายว่า “วันนี้ผมพิสูจน์แล้วว่าใครเป็นอย่างไร ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ ปัญหานี้คาราคาซัง มานานแล้วอยากให้มันจบ” พร้อมถาม พล.อ.อนุพงษ์ว่าสามารถนำเรื่องกลับมาพิจารณาสัปดาห์หน้าได้เลยหรือไม่ แต่ พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่าไม่น่าจะทัน เพราะต้อง ทำหนังสือถามหลายหน่วยงาน แม้ว่าทุกคำถามจะตอบไปแล้ว แต่มีข้อที่ต้องถาม ป.ป.ช.ซึ่งไม่น่าจะทัน
ช่วงพักเบรกการประชุมก่อนจะพิจารณาวาระนี้ พล.อ.ประยุทธ์ คุยเล่นกับรัฐมนตรีที่เข้าประชุมว่า “วันนี้บรรยากาศดูเหงาๆ รัฐมนตรีหายไปเยอะ สงสัยรถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นหัวเราะชอบใจ ขณะเดียวกันนายกฯ บอกกับคนอื่นๆด้วย ว่า “ผมเชื่อมั่นในฝ่ายกฎหมายของผม” ขณะที่ระหว่างประชุมสำนักงาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน สามารถทำได้ตาม
สส.พรรคภท.ร่วมค้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ ภท. กล่าวว่า ส.ส.พรรคเห็นด้วยกับการที่รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคไม่เข้าร่วมครม. เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการพิจารณา เห็นชอบต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว อัตราค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย หน่วยงานของคค.เห็นว่าสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดต่ำกว่า 65 บาทได้
ขอบคุณผู้ใหญ่ในพรรคที่มีแนวทางชัดเจนในเรื่องนี้ ขอบคุณที่กล้าสู้ แม้จะอยู่ใน ครม.ชุดเดียวกัน ขอบคุณที่ให้พวกตนได้สู้ในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน จริงๆ ตนไปร่วมเสวนารับฟังความคิดเห็นหลายแห่ง ราคา 65 บาท ตัวแทนภาคประชาชน สมาคม องค์กร ผู้บริโภคล้วนแสดงความเป็นห่วงเรื่องภาระค่าใช้จ่าย ของผู้มีรายได้น้อย ส่วนตัวรับไม่ได้กับราคาค่าโดยสารมหาโหด ขูดเลือดขูดเนื้อคนจน ส.ส.ภท.ก็เห็นด้วย และกำลังหาวิธีในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่
ตู่ชี้ไม่มีปัญหาภท.ไม่ร่วมถก
ที่ทำเนียบ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงหลัง ครม.ว่า วันนี้รัฐมนตรีหลายคนติดภารกิจ แต่พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจสถานการณ์ เพราะรัฐบาลมีความสุจริตใจมุ่งแก้ปัญหาที่ทั่วโลกเผชิญร่วมกัน นายกฯ ฝากถึงสมาชิกสภา ให้เข้าร่วมประชุมให้มากที่สุด เพราะมีกฎหมายสำคัญหลายฉบับรอการพิจารณา
นายธนกรตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายถึงปัญหาการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมถึง ภท.ไม่ประชุมครม.วันนี้จะมีผลต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร การดำเนินการเป็นไปตามคำสั่ง คสช.ที่กำหนดให้มท. กทม.นำผลการเจรจาเสนอที่ประชุมครม.พิจารณา การพิจารณาวันนี้บางหน่วยงาน มีข้อสังเกต ครม.จึงมอบหมายให้กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปหารือ เพื่อให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอครม.พิจารณา ต่อไป
กั๊กสมัยหน้าจับมือพรรคไหน
ส่วนกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงว่าพูดคุยกันแล้ว และถือเป็นคำตอบของนายกฯ เองใช่หรือไม่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่าขณะนี้ยังคงอยู่กับ พปชร.เนื่องจากเป็นพรรคที่สนับสนุนนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “นายกฯ ย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณ ทุกพรรคที่ยืนยันสนับสนุนนายกฯ ในการทำงานทั้งวันนี้และอนาคต ส่วนการเมืองและการเลือกตั้งเป็นเรื่องอนาคตที่ทุกพรรคต้องแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรคของตัวเอง ทั้งพรรคเก่าและพรรคใหม่ ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อมาถึงเป็นเรื่องของประชาชนและเป็นเรื่องของ นายกฯ ที่ต้องพิจารณาต่อไป”
ส่วนไทม์ไลน์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่าวันนี้ไม่ได้นำเข้าหารือ ใน ครม. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของกกต. และมท.ในการจัดเตรียม การเลือกตั้ง ตามกำหนดการประมาณเดือนพ.ค.
ป้อมอารมณ์ดี-พปชร.ไร้ปัญหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้า พปชร. ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.อย่างอารมณ์ดี ถึงสถานการณ์ภายในพรรคพปชร.ว่า ไม่มีอะไร บอกไปแล้วทุกครั้งมีแต่สื่อไปเขียนกันเอง เมื่อถามว่าตอนนี้ สบายใจขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สบายใจทุกที เมื่อถามว่าที่บอก จะมีคนมาร่วมงานกับพปชร.เพิ่มขึ้น มีใครบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่บอก เอาไว้ใกล้ๆ เวลาก่อน เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจจะได้ส.ส. 150 เสียง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปตามที่ประกาศไว้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็คิดไว้อย่างนั้น
เมื่อถามว่าที่ขอร้อง ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมสภาจะทำให้ทิศทางการประชุมสภาดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเรียบร้อย เพราะความจริง ส.ส.พปชร.ก็เข้าประชุมกว่า 80 คนทุกครั้ง แต่ก็ขอร้องพรรคอื่นๆ ให้เข้าร่วมประชุมด้วย เมื่อถามว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถึงบทบาทการเมืองและขอความร่วมมือในการทำงานเกี่ยวกับการประชุมสภาบ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้คุยเลย แต่คุยว่า ออกไปแล้วต้องสนับสนุนรัฐบาลพูดชัดเจนไม่ต้องห่วง ตนพูดอย่างไรก็ต้องอย่างนั้น
ไม่คุยตู่ปมพรรคใหม่-ยังอยู่ด้วยกัน
เมื่อถามว่ายืนยันจะอยู่กับ พปชร.ไม่ไปไหน ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า ไม่ไปไหนๆ มีแต่พวกสื่อจะไล่ตนให้ไป และยืนยัน พปชร. ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เมื่อถามว่าคนนอกเริ่มมองว่าพปชร.กำลัง จะแตก พล.อ.ประวิตรยิ้มก่อนกล่าวว่า จะแตกอะไรเล่า แตกได้อย่างไร ก็ตนยังอยู่ ทุกคนก็อยู่กันหลายคน ทั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รักษาการเลขาฯ พรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ยังอยู่กันทั้งนั้น ยืนยันพรรคยังรักกันเหมือนเดิมไม่มีอะไร
เมื่อถามว่าถึงเวลาที่จะชวน พล.อ.ประยุทธ์ มาอยู่กับพรรคแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาไม่ต้องมาหรอก เพราะเป็น แคนดิเดตนายกฯ อยู่แล้ว เมื่อถามว่าได้คุยกับพล.อ.ประยุทธ์ ถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคใหม่อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องคุยเพราะรู้กันอยู่ รู้ว่าอย่างไรก็อยู่กับตน ยืนยันว่ายังอยู่ด้วยกันและอยู่ด้วยกัน มาตลอด ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ อยู่ด้วยกันมา 50 ปีแล้ว
ลั่นไม่แย่งเก้าอี้น้องป๊อก
เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย หรือยัง หลังมีกระแสข่าวพรรคเศรษฐกิจไทยสนับสนุน พล.อ.ประวิตร ให้เป็นรมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “โอ้ย อนุพงษ์นั่นน้องผม รมว.มหาดไทยเป็นน้องผม แล้วผมจะไปอยู่ ไปแย่งน้องได้อย่างไร” เมื่อถามย้ำว่ามองว่าเรื่องที่ออกมาเป็นแผนทำให้เกิดรอยร้าวระหว่าง 3 ป.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ดูเอาเองเพราะข่าวมาจากผู้สื่อข่าว เมื่อถามย้ำว่าจะสืบหาที่มาของข่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร บอกว่าไม่รู้ก็จะว่าตนไม่รู้เรื่องอีก เมื่อถามว่าพรรคเศรษฐกิจไทยและรวมไทย สร้างชาติ เรียกว่าเป็นพรรคพันธมิตรของ พปชร.ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาก็อยู่ของเขา เราก็อยู่ของเรา
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ กรณีได้รับแต่งตั้งเป็นผอ.พรรคว่า พล.อ.ประวิตรวางใจให้มาดูแลส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงที่ต้อง เตรียมการเลือกตั้ง ที่มีการแบ่งเขตใหม่เป็น 400 เขต ดังนั้นตำแหน่งนี้มีความจำเป็น และสำคัญมาก ต้องดูเรื่องตัวผู้สมัคร พล.อ.ประวิตรตั้งใจที่จะให้พปชร.เติบโตขึ้น ตั้งเป้าที่ 140-150 เขต เมื่อถามว่าพปชร. ยังชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อยู่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ตนมาพปชร.ก็เพราะประเด็นนี้ คาดการณ์ว่าทุกคนในพรรครวมถึง หัวหน้าพรรคก็มีเจตจำนงและมีความต้องการเรื่องนี้อยู่แล้ว ขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น
พปชร.เล็งเปลี่ยนโฆษก
รายงานข่าวเผย ที่ประชุม พปชร. 7 ก.พ. ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรกล่าวตอนหนึ่งถึงการสื่อสารผลงานของพรรค โดยกำชับให้ปรับภาพลักษณ์งานสื่อสารให้ดีขึ้น และส.ส.ต้องช่วยสื่อสารกับประชาชน ถึงผลงาน รวมถึงสถานการณ์ในพรรคที่ยังเป็นปึกแผ่น โดยมอบหมาย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รักษาการเลขาฯ พรรค รับไปปรับปรุงการสื่อสาร ของพรรคให้เป็นระบบ
ที่ประชุม ส.ส.วิเคราะห์กันว่าที่ผ่านมา มีข่าวเชิงลบจากฝ่ายตรงข้ามที่โจมตีพปชร. วันละหลายข่าว แต่ทีมโฆษกพรรคยังขาดการชี้แจง สื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน และเปิดช่องให้โจมตีพรรค โดยส.ส.บางส่วนอึดอัดใจกับการทำหน้าที่ของน.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรค ที่ไม่สามารถสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของพรรคและส.ส.ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการ พูดคุยในกลุ่มส.ส.อยากเสนอให้พรรค ปรับเปลี่ยนทีมโฆษกต่อไป
ชทพ.ค้านยุบก่อน 2 กม.ลูกผ่าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ที่จะยุบสภา ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน พ.ค.ว่า กระแสยุบสภามีมาตลอด ตั้งแต่ ตอนตั้งรัฐบาลบอกว่าจะอยู่ไม่ถึง จะไม่ครบเทอม แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่กฎหมายลูก เตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งในระบบบัตร 2 ใบ จะเข้ารัฐสภาปลายก.พ.นี้ โดยคาดว่า กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะเสร็จประมาณมิ.ย.ถึงก.ค. และจะมีผลบังคับใช้ตามที่นายวิษณุ เคยกล่าวไว้หากยุบสภาก่อนจะมีความซับซ้อนพอสมควรในกลไกการนับคะแนนเลือกตั้ง กระแสยุบสภามักเกิดก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
‘ถวิล’ทิ้งปชป.ซบก้าวไกล
ที่สำนักงานใหญ่ ก.ก. อาคารอนาคตใหม่ เขตบางกะปิ กทม. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และนายณัฐชา บุญไชย อินสวัสดิ์ โฆษกพรรค ต้อนรับนายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตมือกฎหมาย ปชป. อดีตรมว.ทบวงมหาวิทยาลัย และอดีตรองประธานสภา มาสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ
นายถวิล กล่าวว่า จุดประสงค์ที่เข้ามาเป็นสมาชิก ก.ก.เพื่อสนับสนุนให้สานต่อเจตนารมณ์และนโยบายของก.ก. โดยเฉพาะการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นกำลังใจให้ส.ส.พรรคนี้ ยึดมั่นและหนักแน่นในอุดมการณ์และเจตนารมณ์ ทำงานเพื่อประเทศและประชาชนต่อไป ยืนยันว่าไม่มีความประสงค์จะลงสมัครส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพียงแต่ต้องการเห็นอนาคตของประเทศไทย มีการกระจาย อำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ที่ตนได้ต่อสู้ขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน และจะช่วยงานในพรรคในทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พรรคชัชปัดรวมพรรคใหม่
นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า ที่ประชุมส.ส. ไม่ได้หารือหรือยกประเด็นที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรมต.สำนักนายกฯ ผู้จัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ระบุพรรค พลังท้องถิ่นไทจะไปควบรวมพรรคในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ยืนยันว่าพรรค จะเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป ส่วนอนาคต จะมีการทำงานร่วมกันหรือไม่ต้องพูดคุย
กรณีดังกล่าวหากจะเกิดขึ้นจะไม่ใช่การพูดคุยในระดับ กก.บห.พรรคเท่านั้น แต่ต้องเรียกประชุมสมาชิกพรรคที่มีกว่า 3 หมื่นคนทั่วประเทศด้วย นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรค มีความเป็นประชาธิปไตย จึงไม่คุยเรื่องดังกล่าวในขณะนี้ และเดินหน้าทำงานการเมืองในนามพรรคพลังท้องถิ่นไทต่อไป
สภาจัดที่นั่งให้พรรคเศรษฐกิจไทย
ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งมีวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ. 2 ฉบับที่ครม.เสนอ คือร่างพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม และ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยกรรม การประชุมเป็นอย่างราบรื่น ในห้องประชุมรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาได้จัดที่นั่งและนำป้ายพรรคเศรษฐกิจไทยมาตั้งไว้ให้ ส.ส.กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 18 คน โดยอยู่ติดกับที่นั่งพปชร. โดยมีส.ส.บางส่วนมานั่งประจำที่ แล้ว อาทิ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน และนายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา
เวลา16.00 น. ระหว่างพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ…. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มาร่วมประชุม ภายหลังจากที่พ้นจากการกักตัวที่จ.ภูเก็ต โดยหลังเลิกประชุมเวลา 17.03 น. ส.ส. พปชร.เข้าไปทักทาย ร.อ.ธรรมนัส ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส ได้พูดคุยกับนายอนุทินด้วย