เปิดโฉม2มือปืน ยิงมาเฟียอินเดีย

‘บิ๊กปั๊ด’ ส่งหมายจับศาลภูเก็ตประสานทางการแคนาดาล่า 2 มือปืนเหี้ยมสังหารมาเฟียแขก พร้อมประสานตำรวจสากลออกหมายแดงเพื่อประสานงานไปยังสมาชิก 194 ประเทศทั่วโลกช่วยล่าตัวด้วย ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุพบกระบอกที่มีชื่อเป็นของอดีตนายตำรวจ เจ้าตัวยืนยันสูญหายไปนับ 10 ปี อยู่ระหว่างติดตามหาเบาะแสของผู้ที่นำไปมอบให้ผู้ก่อเหตุ

เปิดโฉมหน้า – ตำรวจไทยประสานตำรวจสากลออกหมายแดงล่าตัวนายแฌเนอ คาร์ล ลาร์คัมพ์ และนายแมทธิว เลอ็องดร์ โอวิด ดูเปร ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายจิมมี่ ซิงห์ ซานดู มาเฟียอินเดีย หลังศาลภูเก็ตออกหมายจับ เมื่อวันที่ 13 ก.พ.

จากกรณีนายจิมมี่ ซิงห์ ซานดู ชาวต่างชาติเชื้อสายอินเดีย สัญชาติแคนาดา ถูก 2 มือปืนยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าวิลล่าริมหาด โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจสืบพบว่าสาเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งในแก๊งมาเฟีย การหักหลังด้านยาเสพติด ทั้งได้พยานหลักฐานชี้ตัวมือปืนได้ชัดเจนแล้วเป็นชาวแคนาดา 2 ราย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. บินด่วนลงจ.ภูเก็ต ประชุมทางการสืบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ร.ต.ท.พลากรน์ นวลสุทธิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุ ประกอบด้วย 1.นาย แฌเนอ คาร์ล ลาร์คัมพ์ GENE KARL LAHRKAMP อายุ 36 ปี 2.นายแมทธิว เลอ็องดร์ โอวิด ดูเปร MATTHEW LEANDRE OVIDE DUPRE อายุ 36 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควร และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน โดยศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งคู่ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการให้นำหมายจับบุคคลทั้งสองประสานไปยังทางการแคนาดา เพื่อให้ติดตามจับกุมและนำตัวส่งให้ไทย รวมทั้งประสานไปยังองค์การตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงในระบบขององค์การตำรวจสากล เพื่อประสานงานไปยังประเทศสมาชิก 194 ประเทศ เพื่อ เฝ้าระวังและติดตามจับกุม 2 ชาวแคนาดาที่ถูกออกหมายจับต่อไป

จากการตรวจสอบนายแฌเนอและนายแมทธิวเดินทางเข้าประเทศไทยถึงจ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2564 หลังจากเกิดเหตุสังหารนายจิมมี่ ซิงห์ ในคืนวันที่ 4 ก.พ.แล้ว พบว่าทั้งคู่เดินทางออกจากภูเก็ตไปยังกรุงเทพฯ และเดินทางออกจากประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิในตอนค่ำวันที่ 6 ก.พ. โดยนายแฌเนอเดินทางไปยังแฟรงก์ เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ส่วนนายแมทธิว แยกเดินทางไปยังอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับพยานหลักฐานที่ชี้ชัดจนนำมาสู่การออกหมายจับดังกล่าวมาจากปากคำของเพื่อนร่วมแก๊งที่ถูกจับกุมได้ในการทำหน้าที่ติดจีพีเอสที่รถเหยื่อสังหาร รวมทั้งจากหลักฐานอาวุธปืนที่ใช้ยิงซึ่งคนร้ายนำไปทิ้งทะเลและตำรวจค้นเจอ เป็นปืนซีแซด ขนาด 9 ม.ม. และปืนวอลเทอร์ ขนาด 9 ม.ม. รวมทั้งรถเช่าโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งของกลางเหล่านี้สามารถตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวบุคคลได้

ส่วนกรณีอาวุธปืน 2 กระบอกที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ กระบอกหนึ่งเป็นของอดีตทหาร และอีกกระบอกเป็นของอดีตตำรวจ จากการตรวจสอบอาวุธปืนของอดีตตำรวจพบว่าเป็นปืนที่สูญหายมานานกว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากข้าราชการตำรวจคนดังกล่าวถูกขโมยปืนไป แต่ชุดสืบสวนจะเร่งติดตามความเชื่อมโยงหาเบาะแสผู้นำอาวุธปืนมาให้ โดยคาดว่าน่าจะนัดพบกันในที่พักโรงแรมทั้งในจ.ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างติดตามหาเบาะแสของผู้ที่นำอาวุธปืนมาส่งมอบให้ผู้ก่อเหตุ








Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนค้นหา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษแต่ละหน่วยงานเริ่มทยอยออกจากศูนย์ปฏิบัติการพิเศษบ้างแล้ว ยังคงมีเจ้าหน้าที่บางส่วนและเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองการต่างประเทศ รอญาติของผู้เสียชีวิตมารับศพกลับไปประกอบพิธีกรรมที่ประเทศอินเดียต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงจ.ภูเก็ต วันที่ 13 ก.พ. ภายในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน