ซักฟอกยกแรกเขย่าศก.ฝ่ายค้านฉะแพง-จน-พัง บิ๊กตู่ขู่อย่าให้แผลงศรเมิน‘โทนี่’ เตือนไฮแจ๊ก‘สนธยา’โวยโดนทรยศ

เวทีซักฟอกระอุ‘มิ่งขวัญ’ ประกาศลาออก ส.ส.กลางสภา ลั่น 8 ปีก็เกินพอ ไม่ขอทรยศประชาชน ‘ธรรมนัส’ เตรียมทาบร่วมพรรคทันควัน ‘หมอชลน่าน’ ถล่ม ‘บิ๊กตู่-ครม.’ แก้เศรษฐกิจเหลว ต้นตอ ‘แพง-จน-พัง’ ทั้งแผ่นดิน จี้ยุบสภาหรือลาออก ส.ส.ฝ่ายค้านรุมยำปกปิดโรคอหิวาต์หมู เอื้อเจ้าสัว- นักการเมืองฟันกำไรจากราคาแพง ‘ประยุทธ์’ ยกตัวเองเป็นพระราม ฮึ่มอย่าให้ต้องแผลงศรบ่อย เมิน ‘โทนี่’ เตือนระวังถูกไฮแจ๊ก ‘อนุทิน’ ไม่ตอบโต้ปมฉีดวัคซีน 30 ล้าน ‘บิ๊กป้อม’ กำชับส.ส.พปชร. อยู่โยงประชุมสภา ‘สนธยา คุณปลื้ม’ โพสต์เดือด เฉ่งคนทรยศใน พปชร.

‘บิ๊กตู่’กำลังใจดีสู้ซักฟอก-เมิน‘โทนี่’
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้คำแนะนำต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ. โดยมีแกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และส.ส.พรรคพลังประชารัฐ บางส่วน มาต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับส.ส.ว่า ขอบคุณที่มา ขอให้ทุกคนช่วยกัน สู้เต็มที่ สามัคคีกัน ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้นายกฯ มีกำลังใจดี หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็มีกำลังใจดีอยู่ทุกวัน ต่อข้อถามว่ามีการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่เริ่มเลย

เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซัมเตือนให้ระวังโดนไฮแจ๊กตำแหน่งนายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติตามมาตรา 151 ที่อาจจะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น

‘บิ๊กป้อม’กำชับพปชร.อยู่โยง
เวลา 09.00 น. ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ ชั้น 6 รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานประชุมส.ส.พรรค ก่อนการประชุมสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 มีรัฐมนตรี แกนนำและส.ส.พรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

พล.อ.ประวิตรกล่าวในที่ประชุม โดยขอบคุณสมาชิกที่มี ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมประชุมมากเป็นอันดับที่หนึ่ง ขอให้รักษาการทำหน้าที่ตรงนี้ไว้ และวันนี้ขอให้สมาชิกเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงเพื่อเป็นกำลังใจให้นายกฯ และในช่วงที่รัฐมนตรีแต่ละคนชี้แจงขอให้นั่งอยู่ในห้องเพื่อเป็นกำลังใจ

ขณะที่หัวหน้าภาคทั้ง 10 ภาค ให้สลับกันนั่งอยู่ในประชุม โดยแบ่งช่วงเวลา ตั้งแต่เวลา 09.00-11.00 น., 12.00-17.00 น. และ 18.00-21.00 น. เพื่อไม่ให้บรรยากาศในที่ประชุมส.ส.ของพรรคดูน้อยเกินไป และหลังปิดสมัยประชุมสภาจะกำหนดนัดประชุมใหญ่สามัญของพรรคช่วงปลายมี.ค.นี้ โดยระหว่างพักจะดูแลและสนับสนุนการลงพื้นที่ของส.ส.ตลอด 3 เดือนอย่างเต็มที่

สั่งลงพื้นที่ช่วงปิดสมัยประชุม
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รักษาการผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประวิตรย้ำหลังปิดสมัยประชุมสภาให้ส.ส.ทุกคน ลงพื้นที่ดูแลพื้นที่ตัวเอง รวมทั้งดูเรื่องผู้สูงอายุและเรื่องโควิด-19 หัวหน้าพรรคยังขอบคุณนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค เรื่องสถิติส.ส.ประชุมสภาที่ทำออกมา พบว่าสถิติการโหวตของพรรคพลังประชารัฐสูงสุดในสภาถึง 89.1 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าพรรคอื่น นี่คือสิ่งที่เราได้เห็น ส่วนการประชุมใหญ่ของพรรคให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รักษาการเลขาธิการพรรค ไปหารือถึงความเหมาะสมจะเป็นวันไหนเดือนไหน

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปวันแรกว่า ไม่รู้สึกกังวล ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะเปิดแผลรัฐบาลเพื่อไปโรยเกลือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพ.ค.นั้น เป็นแค่วาทกรรมหวังโจมตีรัฐบาล เพราะพูดว่าจะเปิดมา 3 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร จึงไม่รู้สึกกังวล

‘อนุทิน’ไม่ขอโต้‘นายเก่า’
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ระบุว่า ตอนนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านโดนไล่ฉีดวัคซีน 20 ล้าน 30 ล้าน เตรียมจะย้ายพรรค และมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ไปร่วมประชุมกับพรรคฝ่ายรัฐบาล ได้ยินว่าแจกคนละ 2 แสนบาทต่อเดือนว่า เรื่องวัคซีน นายทักษิณ พูดมาหลายครั้ง ส่วนที่แนะนำแล้วเป็นประโยชน์ก็แนะนำมา อันไหนที่จริงหรือเท็จ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วเป็นอย่างไร ที่บอกเป็นไปไม่ได้ก็แสดงให้เห็นแล้ว

“กรณีของนายทักษิณ พวกผมภูมิใจไทย ต้องยอมรับว่าเคยเป็นลูกน้องมาก่อน เคยเป็นผู้บังคับบัญชา ท่านเคยมีพระคุณกับเราหลายเรื่องในอดีต ฉะนั้นเรายังมีความเคารพในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ขอตอบโต้ใดๆ” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่านายทักษิณ ระบุว่ามีการฉีดวัคซีน 20-30 ล้านบาทให้ส.ส.ฝ่ายค้าน นายอนุทินปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมยกมือไหว้ ต่อข้อถามถึงข่าวการจ่ายเดือนละ 2 แสนบาทให้ส.ส.ฝ่ายค้าน นายอนุทินกล่าวว่า “ผมยังขอยืมเงินนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย 500 บาท วันนี้ไม่มีซักบาท”

ไม่คิดเป็นนายกฯ-คุยใจกว้าง
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่าอาจมีผู้นำบางคนถูกไฮแจ๊กความเป็นนายกฯ กลางสภา และมีการมองว่านายอนุทิน มีโอกาสเป็น นายกฯ คนต่อไป นายอนุทิน ไม่ตอบคำถาม พร้อมหันมาทางผู้สื่อข่าวและทำท่าเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผาก ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงนี้นายอนุทิน ดูราศีนายกฯ จับ นายอนุทินส่ายหัวพร้อมระบุว่า ไม่เอาหรอก เหนื่อย นอนไม่พอ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคกระซิบมาบอกตนว่าแน่นปึ้ก เพราะท่านเป็นคนดูกิจกรรมทางการเมืองของพรรค ต่อข้อถามว่า พรรคภูมิใจไทย ตั้งความหวังในการเลือกตั้งครั้งหน้าขนาดไหน นายอนุทินกล่าวว่า เราทำให้ดีที่สุด ดูแลชาวบ้านให้ดีที่สุด เมื่อถามว่า พุ่งเป้าจะเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ นายอนุทินยกมือทำสัญลักษณ์ไอ เลิฟ ยู และโบกมือปฏิเสธ

ส่วนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลให้คำแนะนำตอบข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ฉะนั้นต้องใจกว้าง โดยนายกฯ ได้แจกหนังสือธรรมะ ของ ว.วชิรเมธี ตนได้อ่านแล้ว และพอดีตนเป็นคนใจกว้างอยู่แล้ว

‘ศักดิ์สยาม’มั่นใจรัฐบาลครบเทอม
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ข่าวพรรคภูมิใจไทยเนื้อหอมมาก จะยังมีส.ส. สมัครเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มอีกหรือไม่ว่า ยังไม่ทราบ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วเป็นวิถีทางการเมือง บุคลากรทางการเมือง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส.เห็นว่าแนวทางของพรรคภูมิใจไทยว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ ประชาชนได้ก็เข้ามาเป็นสมาชิก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่าส.ส.ฝ่ายค้านรับการฉีดวัคซีนจากรัฐบาล 20-30 ล้าน พร้อมรับเดือนละ 2 แสนบาท นายศักดิ์สยามหัวเราะก่อนกล่าวว่า เรารับฟังทุกฝ่ายอยู่แล้ว ไม่มีประเด็นอะไร ต่อข้อถามว่าการที่นายทักษิณพูดอย่างนั้นเป็นเพราะอาจกลัวพรรคภูมิใจไทย ดูดส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.)หรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ไม่หรอก ตนว่ามันเป็นวิถีทางการเมือง เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าหรือไม่ว่าจะเป็นพรรคขนาดใหญ่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตนพูดตั้งแต่เข้าสู่การเลือกตั้งปี 2562 แล้วว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคต้องการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลทั้งนั้น เพียงแต่ผู้ตัดสินคือประชาชน

ต่อข้อถามว่าสนามเลือกตั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยหวังแค่ไหน นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เอาการเลือกตั้งปี 2562 ให้จบก่อน ซึ่งนายกฯ เป็นคนทำงานหนัก เราก็จะสนับสนุนนายกฯ เชื่อว่าครบเทอม เพราะเท่าที่ดูจากความเป็นจริงเสถียรภาพของรัฐบาลมีสูง เมื่อถามว่าขณะนี้หลายฝ่ายพุ่งเป้ามาที่พรรคภูมิใจไทยว่าเป็นตัวแปรสำคัญของเสถียรภาพรัฐบาล นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ไม่หรอก คิดว่าทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเดียวกัน คือการรักษาเสถียรภาพรัฐบาล

‘ชลน่าน’เปิดเกมขยี้-แก้ศก.เหลว
เวลา 09.30 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อครม. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เริ่มขึ้น โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาเป็นประธานการประชุม

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดญัตติว่า สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศขณะนี้กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพงค่าแรงถูก สืบเนื่องจากการบริหารที่ล้มเหลวผิดพลาดทุกด้านของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและทรุดตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ยึดอำนาจมาจนถึงรัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลเดียวกัน มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนี้ครัวเรือน อัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้น

เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตรการแก้ปัญหาไม่มีความชัดเจน ยิ่งทำให้เศรษฐกิจดิ่งเหว การท่องเที่ยวได้รับผล กระทบอย่างรุนแรง ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อแอฟริกาในสุกร รัฐบาลปกปิดข้อมูลการระบาด เกษตรกรเดือดร้อนในวงกว้างแต่กลับมีข้อมูลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่ การแก้ปัญหาโรคระบาดทั้งคน และสัตว์ขาดความรู้ภูมิปัญญา

ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งรุนแรง เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปีแต่รัฐบาลไม่มีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม มีการนำงบไปแลกเปลี่ยนในการแก้ปัญหากระทำที่ผิดพลาดของนายกฯ กรณีเหมืองทองอัครา การแก้ปัญหาประมง ล้มเหลว การปฏิรูปการเมืองไม่คืบหน้าเหตุรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล และสูญเสียโอกาสที่จะได้จากความร่วมมือในกลุ่ม เอเปก การบริหารส่อในทางทุจริต จากรายงานของวุฒิสภาและหน่วยงานภายนอกพบรัฐบาลนี้มีการทุจริตสูงมาก ปัญหายาเสพติดขยาย วงกว้างและเป็นแหล่งส่งออกไปต่างประเทศ ถือได้ว่าขณะนี้เป็นวิกฤตของประเทศ

ชี้แพงจนพังทั้งแผ่นดิน-ยี้แจกกล้วย
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ญัตตินี้ไม่ต้องมีมติ เป็นการซักถามข้อเท็จจริงและเสนอต่อครม. เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่ต้องการรู้ว่าทำไมถึงตอนนี้พวกเขาทุกข์ลำบากยากแค้น ถือเป็นญัตติ แพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน ยังมีวิกฤตการใช้งบเงินกู้ และการจัดสรรงบประมาณปี 2565 ที่ไม่เหมาะสม สิ่งที่ต้องขุดต่อคือความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ย่ำแย่ ระบบการเงินไม่เอื้อต่อการลงทุน ผู้ประกอบการรายย่อยล้มหายตายจาก การพัฒนาประเทศในยุคดิจิตอลเราสูญเสียโอกาสมากในด้านนี้ ซ้ำร้ายที่สุดคือมีกลไกการโกงการหาประโยชน์จากระบบนี้ด้วย รายได้จากภาคการท่องเที่ยวก็ล้มเหลวหดตัว เข้าใจได้ว่าเกิดโควิด-19 แต่เมื่อเปรียบเทียบประเทศอื่นๆ ทำไมเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องถามคือทำไมการระบาดของโควิดยังอยู่ถึงปัจจุบัน ท่านอาจโชคช่วยเพราะเกาะโรคเพื่อให้ตัวเองดำรงอยู่ จึงเลี้ยงโรคเลี้ยงไข้ ซึ่งโชคดีที่โอมิครอนเข้ามาช่วยชีวิตท่านไว้

ความล้มเหลววิกฤตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาพการสร้างธุรกิจการเมือง สภาเสื่อม มีทั้งกล้วย ฉีดวัคซีน 20-30 ล้าน ฝากถาม นายกฯ ทำไมจึงยอมให้เกิดภาพอย่างนี้ ทำไมต้องแจกกล้วยเพราะทำให้การปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ทำไมต้องออก พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ที่กลับก่อเกิดปัญหาอย่างมากมาย เพราะไร้การรายงานควบคุมตรวจสอบ ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายปีละ 2 แสนล้านบาท พี่น้องสมาคมชาวประมงจะขอแก้กฎหมายแต่ถูกตีตกทั้งหมด นายกฯ ไม่ยอมเซ็นเข้าสภา ทั้งหมดนี้ก่อให้ประเทศเกิดปัญหาแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน จนเกิดจากวิกฤตทางการเมือง

จี้นายกฯยุบสภา-ลาออก
เหตุของปัญหาอยู่ที่การเมือง ท่านยึดอำนาจเข้ามาสู่อำนาจ มุ่งสืบทอดอำนาจด้วยการวางโครงสร้างรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจหลังได้อำนาจก็ไม่ชอบธรรม เอื้อประโยชน์ ไม่เห็นหัวประชาชน การเลือกตั้งปี 2562 ก็ใช้กลไกที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญจัดการทุกวิถีทางทำให้ได้เสียงถึง 275 เสียง เปิดโอกาสพรรคเล็กเข้าสภา เป็นกับดักการเข้าสู่อำนาจ เสมือนดี แต่คือการทำลายล้างประชาธิปไตย และการยุบพรรคที่ได้ส.ส.เยอะ ถ้าไม่เรียกว่าทำลายล้างจะเรียกว่าอะไร สิ่งเหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหา

การประชุมสภาตั้งแต่ 4 ก.ย.2563 องค์ประชุมฝ่ายรัฐบาลไม่เคยถึงกึ่งหนึ่ง เกิดวิกฤตขัดแย้งแบ่งอำนาจกันในพรรคร่วมรัฐบาล ผลพวงที่แย่ที่สุดคือเราได้ผู้บริหารที่ไร้ความสามารถแย่ที่สุดเข้ามาบริหาร ได้นักบริหารที่เป็นปัญหาจนสร้างปัญหาแพง จน พัง “ถามว่าจะยอมให้แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ เราพยายามหลายครั้งแต่ท่านตีตกตลอด มั่นใจว่าท่านไม่แก้แน่ ปัญหาเชิงโครงสร้างอยู่ในกระดาษ แต่พฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเป็นของนายกฯ ผมไม่โทษรัฐมนตรีท่านอื่นเพราะนายกฯ เป็นคสช.มา จึงใช้กลไกพิเศษในการบริหารมาตลอด ในชีวิตการเป็นผู้บริหารท่านใช้อำนาจพิเศษที่เรียกว่าเผด็จการมาตลอด ถ้าไม่แก้ตรงนี้บ้านนี้เมืองนี้จะอยู่ต่อไปไม่ได้ แต่จะพัง

“ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุคือตัวนายกฯ หยุดให้ประเทศนี้เลือดไหลออก หยุดทรมานพี่น้องประชาชน สร้างโอกาสให้เขาลืมตาอ้าปากได้ สิ่งที่จะหยุดได้คือตัวนายกฯ ผมมั่นใจและสัมผัสได้ท่านรักประเทศและประชาชน แต่ท่านรักไม่ถูก วิธีการท่านไม่ชอบ จึงขอให้ท่านประกาศว่าขอออกจากตำแหน่งนี้ จะด้วยการลาออกก็ได้เพื่อแก้ปัญหาได้รวดเร็ว หรือประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน นั่นคือการแก้ปัญหาโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แพงจนพังทั้งแผ่นดินก็จะแก้ปัญหาได้” นพ.ชลน่านกล่าว

ศึกซักฟอก – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลุกชี้แจงตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ก.พ.

‘ประยุทธ์’แจง-ยกตนเป็นพระราม
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ตนพร้อมรับฟังด้วยเหตุด้วยผล ที่เป็นประโยชน์และนำไปแก้ไขได้ก็พร้อมรับไปดำเนินการ แต่ขณะนี้เกิดหลายสถานการณ์พร้อมกัน รัฐบาลพยายามดำเนินการมาตลอด และตนก็ไม่ได้ทำคนเดียว แต่ทำงานร่วมกับคณะทำงานต่างๆ ทั้งรัฐมนตรี และข้าราชการหลายแสนคน ตนเคยคุยกับท่านครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่าตนเข้ามาในสภาควรวางบทบาทเหมือนรามเกียรติ์ ตนคงเล่นบทพระราม พระลักษมณ์ อีกฝ่ายทศกัณฐ์ ประเทศชาติไม่ใช่แบบรามเกียรติ์ แต่ท้ายสุดรามเกียรติ์ทศกัณฐ์เป็นอย่างไรก็รู้นะ ตนไม่อยากไปกล่าวอะไรให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน และพยายามระวังตัวที่สุด

ที่บอกว่ารัฐบาลใช้อำนาจทำกลไกเข้าสู่อำนาจรวมถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลเดิมแบบปี 2557 ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ตั้งมาตามรัฐธรรมนูญ 2560 และคนที่อยู่ในอำนาจเดิมก็มาทำหน้าที่ใหม่ตามรัฐธรรมนูญใหม่และกฎหมายใหม่ ครม.นี้มี 4 คนที่ซ้ำเดิม นอกนั้น 32 คนเป็นคนใหม่ทั้งหมด นโยบายต้องต่างกันแน่นอน ส่วนการก่อหนี้สาธารณะ การขยายเพดานหนี้และราคาน้ำมันแพงเราชี้แจงได้หมด สถานการณ์วันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เป็นวิกฤตการณ์ของโลกและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การแก้ไขปัญหาต้องยุ่งยาก

เรื่องโควิด-19 วันนี้เราจัดหาวัคซีนได้เพียงพอจนไทยอยู่ในสถานะประเทศที่ได้รับการยอมรับ ค่าฝุ่น PM 2.5 มีแผนยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว อย่าพูดลอยๆ หลายคนบอกว่าจะแก้ PM 2.5 แต่อยากให้เอาแค่การแก้ปัญหาจราจรให้ได้ก่อน ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปทุกประเทศเป็นแบบนี้ ตนไม่ได้ทำงานแบบสุกเอาเผากินเพื่อตอบสนองความพอใจของคนบางคน

ท้างัดหลักฐานข้อหาทุจริต
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการบริหารที่ส่อไปในทางทุจริตส่งผลกระทบต่องบประมาณ อย่าพูดคำนี้กับตน หากไม่มี หลักฐาน ยืนยันจากวันนั้นถึงวันนี้ถ้าตนยังอยู่จะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทั้งนโยบาย เจตนารมณ์และตัวของตนเอง การเยียวยาผ่านโครงการคนละครึ่งที่มีหลายเฟสไม่ได้ทำเพื่อคะแนนเสียง แต่ต้องการให้เงินเหล่านี้ไปถึงประชาชนโดยตรง

ส่วนการเปิดประเทศทำให้เกิดสภาพคล่องของการค้า วันนี้สิ่งที่ตนเป็นกังวลที่สุดคือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ชินแล้วกับการใช้คำพูด วาจาและกิริยาหยาบคาย เคยชินกับความรุนแรงและฝ่าฝืนกฎหมาย ท้ายสุดกลับมาด่าเจ้าหน้าที่ เราจะอยู่กันแบบนี้ต่อไปหรือ ถ้าจะอยู่กันแบบนี้ต่อไป ก็เป็นความรับผิดชอบของทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล

“ฉะนั้นขอให้เอาข้อมูล ข้อเท็จจริง และเข้าใจซึ่งกันและกัน ที่ผมพูดมานั้นไม่ได้มีอารมณ์ และโมโหทั้งสิ้น แต่รีบพูดเพราะเรื่องมันเยอะ หากมีเรื่องอะไรที่จะต้องแก้ไข ผมก็จะนำกลับไปแก้ไข ขอบคุณฝ่ายค้าน ต่างคนต่างเล่นคนละบทบาท ท่านให้ผมเป็น พระลักษมณ์ พระรามแล้วท่านเป็นทศกัณฐ์ ดูหนังดูละคร ก็ขอให้ย้อนดูตัวคนเล่นละครด้วย ผมก็ถูกท่านดูอยู่ ทุกคนต้องดูตัวละครตัวอื่นด้วยถึงจะสำเร็จ ประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์เยอะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ฮึ่ม!อย่าให้แผลงศรบ่อย
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังการประชุมสภาถึงเวลา 13.00 น.ว่า ก็ไม่มีอะไร เป็นการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 152 ก็รับฟังมา อันไหนที่ไม่ใช่ก็ชี้แจงไป ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกมิติที่กล่าวมาทั้งหมด สถานการณ์ช่วงนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ถ้าทุกคนช่วยกันทำ เราก็พร้อมจะแก้ไข แต่อย่าบอกว่าไม่ได้แก้อะไรมาเลย อันนี้ไม่ใช่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านรุนแรงเกินไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่หรอก ก็แล้วแต่เขา เมื่อถามว่าคำพูดที่ ฝ่ายค้านใช้พูด ถือว่ารุนแรงไปหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ถามสังคมดูแล้วกัน สื่อว่าอย่างไร แรงหรือไม่ สังคมว่าอย่างไร ประชาชน ว่าอย่างไร แล้วใช่เวลาหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะเปิดใจกว้างรับฟังเหมือนกับที่แจกหนังสือธรรมะให้ครม.อ่านหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ยกมือทำท่าตัดบท และกล่าวว่า “สบายใจ” ต่อข้อถามว่า ที่ นายกฯระบุว่าฝ่ายค้านเป็นทศกัณฐ์ แล้วตัว นายกฯ เป็นพระราม หมายความว่าอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนว่า “อย่าให้พระราม แผลงศรบ่อยก็แล้วกัน”

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ออกจากรัฐสภาไปทำเนียบรัฐบาล หารือกับนายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย และคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะ เสร็จแล้วก็กลับมารัฐสภา

‘ทวี’แฉรฟท.ช่วยตระกูลชิดชอบ
เวลา 11.42 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) อภิปรายในสภาว่า พล.อ. ประยุทธ์ ทำงานมา 8 ปี ร่างกายก็หมดสภาพ เดินจะหัวทิ่ม ล้มคะมำ จิตใจก็หวั่นไหว ความรู้ก็ไม่มี ใช้ความรู้ระดับผู้บังคับกองร้อย กองพัน ผักชีแพงก็ให้ทหารปลูก แต่ตอนนี้เป็นนายกฯ ก็ใช้วิธีการเดิม แสดงว่าองค์ความรู้ไม่เพิ่มขึ้นเลย

“พรรคก็แตกยับเยินจนเสียงในสภาไม่พอ ต้องหาซื้อเสียงฝ่ายค้านไปเป็นพวก ยังมีคนมาทาบทามผมเลย พรรคเสรีรวมไทยไปอยู่ด้วยได้หรือไม่ ขอโทษผมให้ส้นตีนไปเลย มาติดต่อผมได้อย่างไร ถ้าทำไม่ได้ก็เอาเชือกไปแขวนคอ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) อภิปรายถึงปัญหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ว่า ปี 2565 ศาลฎีกายืนตามคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้วเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฟ้อง ประชาชนแพ้ สรุปที่ดิน 5,083 ไร่เป็นของรฟท. และมีการเขียนไว้ว่าที่ดินเป็นของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทาน แต่ปลายธ.ค.2564 ผู้ว่าฯ รฟท.ไปฟ้องศาลปกครอง ฟ้องกรมที่ดิน รฟท.บอกว่ามีที่ดินไม่ถึง 500 แปลง แต่กรมที่ดินบอกว่ารฟท.มี 850 แปลง ตนหยิบเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ตัดสินใจเปลี่ยนจากศาลยุติธรรมไปฟ้องศาลปกครองแทนนั้นไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องเดิมศาลยุติธรรมก็ให้ความยุติธรรมแล้ว

ขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจเพราะที่ดินดังกล่าว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ยอมรับว่าเป็นที่ที่ตัวเองและญาติพี่น้องอยู่ อีกทั้งเป็นพื้นที่สนามฟุตบอลช้างอารีน่า และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอยู่ ผู้ว่าฯ รฟท.จึงไม่กล้าฟ้องเจ้านายตัวเอง บุญคุณกับความถูกต้อง ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาความถูกต้อง และประโยชน์ส่วนรวม นายกฯ ประกาศว่าเป็นคนซื่อสัตย์ ดังนั้น นายกฯ ต้องมารักษาการ รมว.คมนาคม ท่านอาจให้ตำแหน่งรมว.กลาโหมแก่นายศักดิ์สยาม เพราะถึงอย่างไรเชื่อว่าทหารก็มีความเข้มแข็ง” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

สำหรับพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติให้อำนาจรัฐละเมิด รุกล้ำ แย่งชิงพื้นที่ของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เข้าไปอยู่ก่อน เช่น ปัญหาที่บูโด-สุไหงปาดี รัฐบาลใช้อำนาจนิยมประกาศทับที่ประชาชน การได้พื้นที่ป่าคืนเพราะท่านไปรุกสิทธิทวงคืนจากกลุ่มชาติพันธุ์ และทวงคืนความเป็นคนจากคนจน

‘ไพบูลย์’ขยายแผลองค์ประชุม
เวลา 13.30 น. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบโต้นพ.ชลน่าน อภิปรายเรื่ององค์ประชุมเป็นความผิดของพรรคร่วมรัฐบาลว่า จากการติดตามผลการโหวต นพ.ชลน่านและส.ส.พรรคเพื่อไทย มาร่วมโหวตในสภาน้อยมาก ส่วนใหญ่มาเซ็นชื่อหน้าห้องและกลับไป การติดตามผลการโหวตตั้งแต่ธ.ค.2564 ถึงก.พ.2565 มีการโหวต 159 ครั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น นพ.ชลน่าน มาโหวตแค่ 37 ครั้ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค มาโหวต 23 ครั้ง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย ซึ่งเสนอนับ องค์ประชุมอยู่เรื่อย มาโหวตเพียง 43 ครั้ง

ส.ส.เพื่อไทยมีทั้งหมด 131 คน เฉลี่ยแล้วมาโหวตเพียง 46 ครั้ง คิดเป็น 29% หากเทียบกับส.ส. 7 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ มีส.ส. 97 คน มาร่วมโหวตเฉลี่ย 89% พรรคภูมิใจไทยมีส.ส. 59 คน เฉลี่ย 87% พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีส.ส. 51 คน เฉลี่ย 59% พรรคประชาธิปัตย์ มีส.ส. 50 คน เฉลี่ย 78% พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) มีส.ส. 12 คน เฉลี่ย 78% พรรคเสรีรวมไทย มีส.ส. 10 คน เฉลี่ย 30% จะตอบคำถามอย่างไร

จากนี้ตนจะติดตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(12) สมาชิกภาพของส.ส.จะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อขาดประชุมเกิน 1 ใน 4 ของจำนวนวันประชุมในสมัยประชุมที่มีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน หากไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะเสนอว่าการประชุมต้องหมายถึงการเข้าไปร่วมโหวตด้วยจึงถือว่าเป็นวันประชุม ซึ่งไม่ได้จะไปฟ้องเพียงแต่เป็นห่วงในข้อกฎหมายเพราะจะผิดประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย ต่อไปคือตนจะติดตามตั้งแต่พ.ย.ถึงก.พ.2566 โดยจะดูว่ามีส.ส.มาโหวตกี่วัน หรือมีส.ส.คนใดไม่มาโหวตเลย โดยมีจำนวนวันที่ไม่มาเกิน 1 ใน 4 หากเกินจะถือว่าขาดประชุมเกินหรือไม่

รุมยำปกปิดอหิวาต์หมู-ราคาแพง
ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ (ทศล.) อภิปรายว่า ขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่กำกับกรมการค้าภายใน และนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ กำกับกรมปศุสัตว์ การร่วมกันทุจริต กักตุนหมู ทำให้หมูแพง เจ้าสัวสุกรเจ้าใหญ่ และนักการเมืองที่เลี้ยงสุกรแต่ละจังหวัดฟันกำไร 42 บาทต่อก.ก. ในช่วง 3 เดือน กว่า 18,900 ล้านบาทนอกจากนี้ ยังมีปัญหาน่้ำมันแพงและมีเรื่องทุจริตถุงมือยางที่ยังไม่คืบหน้าด้วย

ด้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ราคาหมูแพงมาตลอดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 และแพงสุดในเดือนม.ค.2565 อีกทั้งในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันที่กรมปศุสัตว์ ยอมรับว่ามีโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) และมีการตรวจสอบการกักตุนเนื้อหมูในห้องเย็น หากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลตรงจุดนี้ เชื่อว่าราคาหมูอาจทะลุถึง 300 บาทได้ แต่รัฐบาลกลับออกมาเคลมว่าสามารถแก้ได้ถูกจุด ซึ่งตนมองว่าเป็นละครตบตาคนไทยทั้งประเทศ เพราะ ครม.ทราบมานานแล้วว่ามีโรคระบาด

“อยากถามนายกฯ ว่าจะรับผิดชอบการปกปิดข้อมูล การละเลย การปฏิบัติหน้าที่ ความฉ้อฉลของกรมปศุสัตว์ที่ทำให้ประเทศเสียหายอย่างไร คุณประยุทธ์ บอกให้ผมเอาไอ้โม่งออกมา ก็นั่งอยู่ข้างๆ กัน หากหา ไอ้โม่งไม่เจอ นายกฯ ก็ไปส่องกระจกว่านี่คือความรับผิดชอบของท่าน”

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า 8 ปีที่ผ่านมาอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ เศรษฐกิจพังล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งวิธีแก้มีให้ 2 ตัวเลือก คือ 1.ลาออก ให้สภาดำเนินการสรรหานายกฯ ใหม่ หรือ 2. ยุบสภาให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน

‘ศิริกัญญา’ข้องใจดองชื่อกสทช.
ส่วนน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า รัฐบาลนี้คิดอะไรไม่ออกก็แจกแต่คนละครึ่ง ซึ่งเงินหมดไปแล้ว 2.2 แสนล้านบาท แต่เศรษฐกิจของประเทศยังวนเวียนที่เดิม และตนไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นได้ ถ้าธุรกิจเอสเอ็มอียังไม่ฟื้น เกษตรกรยังมีรายได้ตกต่ำ

ส่วนการควบรวมทรู ดีแทค ถ้าสำเร็จ น่าจะกระทบค่าครองชีพประชาชน โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้แก้ประกาศริบอำนาจตัวเอง บอกว่าหากจะควบรวมไม่ต้องมาขออนุญาต ให้ควบรวมแล้วมารายงานให้ทราบ ที่ตนไม่เข้าใจคือกระบวนการสรรหากสทช.จากสภาเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่นายกฯ ยังไม่ยอมทูลเกล้าฯ จริงหรือไม่ นายกฯ จะรอให้บอร์ดชุดนี้ ดูแลดีลนี้ให้จบก่อนใช่หรือไม่

ลาออก – นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ยื่นหนังสือลาออกจากส.ส. หลังร่วมอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพราะไม่เห็นด้วยกับพรรคที่ย้ายขั้วไปหนุน นายกฯ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ก.พ.

‘มิ่งขวัญ’ลั่น 8 ปีก็เกินพอ
เวลา 17.00 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) อภิปรายว่า เศรษฐกิจไทยตกต่ำมาโดยลำดับ ตั้งแต่คสช.เข้ามาปฏิวัติปี 2557 ถึงปัจจุบัน ขณะที่วิสัยทัศน์และภาวะผู้นำ การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง 15 ล้านล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ทุบทำลายสถิติทำหนี้สาธารณะประเทศพุ่ง 9 ล้านล้านบาท บัตรคนจนพุ่งไปถึง 20 ล้านคน ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมแต่เรากำลังเผชิญภาวะวิกฤตราคาข้าวตกต่ำ ส่วนราคาปุ๋ยสูงขึ้น การประมงไทยก็เจ๊งแบบหายนะวายป่วง ทั้งที่การประมงเป็นหัวใจของภาคใต้

พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่บริหารล้มเหลว ทั้งเรื่องโควิดพอมีปัญหาก็ล็อกดาวน์ สุดท้ายเจ๊งทั้งประเทศ เกิดความเหลื่อมล้ำเพราะเอื้อประโยชน์นายทุน คนรวยก็รวยสุดกู่ คนจนก็ไม่มีจะกิน ดังนั้น 8 ปีก็เกินพอ หลายคนอยากให้ท่านลาออก นายกฯ อยู่มา 3 ช่วงของเวลาตั้งแต่ พ.ค.2557 จนถึงปัจจุบัน ขอถามคนทั้งประเทศว่าเรามีความสุขหรือความทุกข์

ลาออกกลางสภา-พรรคธรรมนัสจีบ
นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ตนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ก่อนประกาศจุดยืน ถามกรรมการบริหารพรรคว่าเราจะอยู่ตรงไหน ทุกคนบอกว่าจะไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าให้ประกาศตนจะไม่ตระบัดสัตย์เพราะเป็นคนรักษาคำพูด รัฐธรรมนูญเปิดโอกาส ส.ส.ไม่ต้องทำตามมติพรรค แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้เกิดศัพท์งูเห่าและลิงกินกล้วย ดังนั้น ตนขออภิปรายและไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ว่าไปทำอะไร หรือให้ใครไปทำอะไรจนพวกเขาเปลี่ยนจุดยืน

“ผมไม่ทรยศต่อสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่มีความสุขกับการทำงาน ดังนั้นขอยื่นใบลาออกวันนี้ ผมยอมสละความเป็น ส.ส.เพื่อให้มันจบ ผมขอให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ขับผมออกจากพรรค เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน แต่ผมจะยังดำเนินกิจกรรมทางการเมือง จะใช้องค์ความรู้ ความสามารถทำงานให้ประชาชน สิ่งสำคัญสุด คือผมจะออกไปพิสูจน์ว่าแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล ความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขหรือไม่ ขอให้ติดตาม ผมจะไปเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย” นายมิ่งขวัญประกาศลาออกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ระบุว่าไม่ต้องเศร้าขนาดนั้น ทำให้นายมิ่งขวัญชี้หน้าพร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวผมจะให้ท่านทำแบบผม ถ้าท่านกล้าดี ผมจะขอท้าพนันกับท่าน” จากนั้นนายมิ่งขวัญเดินไปยื่นใบลาออกกับประธาน

โดยใบลาให้มีผลวันที่ 18 ก.พ. และต่อมา มีรายงานพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) ที่มี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแกนนำได้ทาบทามนายมิ่งขวัญ เข้าร่วมงานกับพรรคแล้ว

‘วิสุทธิ์’ท้า‘ประภัตร’สาบาน
จากนั้น นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ชี้แจงเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่า รฟท.ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เมื่อ 23 ธ.ค.2564 เมื่อใช้สิทธิทางศาล แต่กรมที่ดินไม่ได้รับหมาย หรือสำเนาคำฟ้อง หากได้รับแล้ว จะทำคำชี้แจงไปศาลปกครอง เชื่อว่าจะนำไปสู่การทำแผนที่ร่วมกัน และทำให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาล

ด้านนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงปัญหาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ที่ได้รับผล กระทบสัตว์ตายจากโรคลัมปี สกิน ล่าช้า และปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร อย่างละเอียด พร้อมยืนยันไม่ได้มีการปกปิดข้อมูล

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อกล่าวหาว่านายประภัตร ปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ที่ตรวจพบเจอตั้งแต่ปี 2562 ไม่รู้ว่า นายกฯรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ เพราะครม.อนุมัติงบไปถึง 4 ครั้ง รวม 900 กว่าล้านบาท โดยระบุชัดว่าจะนำไปแก้ไขโรค อหิวาต์ในสุกร

“สาบานได้ไหมว่าไม่รู้ ไปวัดพระแก้วกันไหม ท่านโกหก หลอกลวง ปกปิด ซ่อนเร้น เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แบบนี้กระทำผิดมาตรา 157 หรือไม่ ผมยังคิดว่านายกฯไม่น่ายุ่งกับเงินหมู จึงขอให้นายกฯหาคนผิดมาลงโทษ ถ้าทำได้ ต่อไปผมจะเป็นองค์ประชุมให้ท่านเวลาใครอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 และขอเสนอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบจาก 14 ภาคี เชื่อว่าภายใน 7 วันก็รู้ คำตอบ ยอมรับว่าผมก็เหนื่อยกับท่าน สงสารท่าน หมูยังมากัดท่านอีก”นายวิสุทธิ์ กล่าว

‘ตู่’ซัดข้อมูลเพี้ยน-14ส.ส.ให้กำลังใจ
ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์เฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ว่า การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านนั้น มีข้อมูลหลายส่วนที่ “คลาดเคลื่อน” ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของทางราชการ พร้อมชี้แจงประเด็นสำคัญๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ ถูกต้องด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็น 14 ส.ส.ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐได้เข้าพบพล.อ. ประยุทธ์ ที่ห้องรับรอง รัฐสภา เพื่อให้กำลังใจในการอภิปรายครั้งนี้ โดยขอให้ฝ่าฟันปัญหาและมรสุม เพื่อนำรัฐนาวาลำนี้ดูแลประชาชนในยามวิกฤต ขอให้นายกฯทำงานอยู่ครบวาระ ไม่ว่านายกฯจะอยู่ที่ไหน พร้อมจะอยู่กับ นายกฯและยืนยันว่าคนใต้รักนายกฯ

เวลา 19.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงในสภาว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ไม่ได้แพร่ระบาดในคน การที่ส่งหมูออกไปต่างประเทศ แล้วปกปิด บอกเลยว่าปกปิดไม่ได้ เราต้องช่วยกันให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรทุก ขนาด เข้าสู่มาตรการการช่วยเหลือของรัฐ จึงต้องพัฒนาการเลี้ยงสุกรให้ป้องกันโรคระบาดได้

ส่วนราคาสินค้าแพง เงินเฟ้อ เป็นเรื่องที่ตนและรัฐบาลทุกคนให้ความสำคัญ และทยอยแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาโดยตลอด จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ราคาสินค้าราคาแพงทั่วโลก แต่ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมว่ารับมือได้ดี ซึ่งเรายังต้องพบกับสถานการณ์นี้ต่อไปสักพัก โดยเรามีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.2% และต้องรักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ให้ได้ ซึ่งตั้งเป้าไว้ไม่ให้เกิน 3% ดังนั้น จะเอาข้อมูลของเรามาพูดเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ไม่เป็นธรรมกับรัฐบาลเพราะต้องดูรอบโลกภายนอกด้วย

ยืนยันการเงินการคลังไทยยังดี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับก๊าซหุงต้มมีราคาสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ที่เพิ่มขึ้น 24-25 ดอลลาห์สหรัฐ น้ำมันเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2564 แต่คนไทยจ่ายค่า น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเพียง 20% เมื่อเทียบกับ ประเทศอื่นๆ ที่จ่ายสูงกว่านี้ รัฐบาลเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน และพยายามลดภาระ ใช้จ่ายให้กับประชาชน ประชาชนไว้ใจให้เราเข้ามา บางอย่างต้องคิดไปด้วยกัน อะไรไม่ดีก็เตือนก็บอก อย่างมาตรา 152 เมื่อให้ตนมาฟัง ตนก็มาฟัง และอะไรที่ต้องแก้ก็จะกลับไปแก้ ไม่ใช่วาระที่จะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันนี้เราก็พยายามแก้ปัญหา มาตรการที่เราทำไปมีตั้งหลายเรื่องเช่น คนละครึ่ง เพื่อลดค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป เขาอยากได้เงิน ไปดำรงชีพ ให้ครอบครัวเขาอยู่ได้ ซึ่งจะซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ลงทะเบียน ไม่ใช่จากเจ้าสัวที่ไหน มาตรการออกมาแบบนี้อย่าไปบิดเบือน

“ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอื่น ไม่เหมือนใครทั้งสิ้นบนโลกใบนี้ ผมพบกับต่างประเทศ ประเทศไทยไม่มีอะไรที่เหมือนคนอื่นเขาเลย เรามีศักยภาพ มีสถาบันครบถ้วน ที่ทำให้ บ้านเมืองนี้อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ เราไม่ได้กู้มาจากต่างประเทศมาก จนคนอื่นเขาเมินหน้าหนี ถ้าเราจะกู้อีกเขาก็ให้เรากู้ แต่พวกท่าน ไม่ให้ผมกู้ ผมไม่อยากจะบอกว่า เจ้าหนี้ทุกคนอยากให้ประเทศไทยกู้ เพราะกองทุนสำรองประเทศเราก็มี ทำไมไม่เอาจุดดีตรงนี้มาพูดกัน มัวแต่โจมตีกันไปกันมา มันไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งนั้นในเวลานี้ ดังนั้นผมยืนยัน ไทยยังมีประสิทธิภาพในการเงิน การคลัง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เวลา 20.30 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงว่า กระทรวงการคลังได้มีการปรับเพดานหนี้สาธารณะเพื่อให้เป็นไปตามกรอบกฎหมายตลอดเวลา และเพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ แต่ปี 2563-64 มีวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด วงเงินที่จำเป็นต้องกู้มาเพื่อแก้ปัญหาจึงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งทุกประเทศเจอภาระหนี้เช่นนี้เหมือนกันหมด

‘อนุทิน’รับบทเป็นนางสีดา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกฯกล่าวระหว่างการชี้แจงอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในสภาโดยเปรียบตัวเองเป็นพระรามพระลักษมณ์ว่า มีคนอื่นไปพูดกับนายกฯ และเปรียบว่าเป็นอย่างนั้น นายกฯก็พูดไปอย่างนั้นเอง เพราะเป็นการส่งสัญญาณกับคนที่พูดกับนายกฯ ซึ่งเป็นการเปรียบในสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอนุทิน เปรียบตัวเองว่า เป็นนางสีดา แล้วนายวิษณุจะเปรียบตัวเองเป็นตัวละครใดในเรื่องรามเกียรติ์ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมเหรอ พิเภกมั้ง ส่วนสาเหตุที่บอกเป็นพิเภกเพราะสนุกดี” เมื่อถามว่า พิเภกเคยอยู่กับทศกัณฐ์มาก่อน นายวิษณุ กล่าวว่า สุดท้ายตอนหลังพิเภกก็มาอยู่กับพระราม แต่ตนพูดเล่น ไม่ได้เป็นหรอกพิเภก ตนเป็นพระวิษณุ ซึ่งเป็นเทวดาองค์หนึ่ง และพระวิษณุก็คือพระนารายณ์และยังเป็นร่างหนึ่งของพระราม

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนรับบทนางสีดา

‘เต้’แซะสีดา-ปูดนายกฯส่งคนดีล
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่านางสีดา เป็นเมียทั้งทศกัณฐ์ และพระราม แสดงว่าเป็นหญิงสองผัว ในมุมของสังคมไทยอาจจะมองว่าเป็นหญิงที่สำส่อนหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ แต่ถ้าคนละเวลาไม่เป็นไร แต่ถ้าเวลาเดียวกันไม่ได้ และพอไปดูนิยายรามเกียรติ์ ตนขอเป็นหนุมาน เพราะในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันนี้ คิดว่าความสามารถของหนุมานคือเผากรุงลงกา ซึ่งสิ่งที่อยากเผาที่สุดคือ เผากรุงลงกาของพล.อ.ประยุทธ์ ให้ราบคาบ และมองว่าจุดจบของรามเกียรติ์เรื่องนี้คือโดนเผากรุงลงกา

“ขณะนี้นายกฯยังให้หลายคนมาประสานกับกลุ่ม 16 ทำให้ผมเตรียมเหมาสวนกล้วยที่ราชบุรี 200 เครือ มาวางไว้ที่หน้าสภาช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบหน้า และถ้านายกฯกล้วยไม่พอ ก็มาเอากล้วยที่มงคลกิตติ์ ได้ ตอนนี้นายกฯไม่ต้องแผลงศรให้ใคร แผลงศรให้ตัวเอง และเชื่อว่านายกฯไม่สนใจเนื้อหาการอภิปราย แต่สนใจมือส.ส.ที่โหวตในสภามากกว่า เวลานี้มีคนใส่แว่นมาจีบสมาชิก กลุ่ม 16 มาประสานที่หลังเวทีประชุมสภา โดยกลุ่ม 16 มีฝ่ายค้าน 1 คน ฝ่ายรัฐบาล 15 เปิดเผย 9 คน เบื้องต้นระบุจะให้ได้ 10 หวี”นายมงคลกิตติ์ กล่าว

‘คุณปลื้ม’ฉะคนทรยศในพปชร.
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พี่ใหญ่ตระกูลคุณปลื้ม ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันหยุดที่ผ่านมามีใครต่อใครเป็นห่วงเป็นใยโทร.มาถามกันมากเรื่องเลือกตั้งทั่วไปว่ากลุ่มเรารักชลบุรีจะต้องสลายตัว เพราะพลังประชารัฐจะเลือกผู้สมัครมาลงเอง หลังจากผมไปคุยกับ “ผู้ใหญ่” มาแล้ว ก็ได้เวลาที่ผมพอจะมาเล่าสู่กันฟัง ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน เพราะหลายปีก่อนก็ได้รับคำร้องขอให้ไปร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐในสถานการณ์พิเศษในขณะนั้นเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ จนจู่ๆ ก็มีคนของพรรคประกาศว่าจะหาคนมาลง ส.ส.ทุกเขต

ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคจึงไม่ยากที่ผมจะสอบถาม “ผู้ใหญ่” ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ต้น ผมได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า “มันก็อยากจะสร้างอาณาจักร อย่าไปสนใจ” เรื่องน่าจะจบแค่นั้น แต่ไม่ใช่ เพราะยังมีหลายอย่างที่น่าคิดโดยเฉพาะประโยคที่ว่า “อย่าไปสนใจ” จริงๆ ผมก็พยายามไม่สนใจมานาน เพราะคอยแต่คิดว่าการที่คนคนหนึ่งจะพูดเท็จหลายเรื่องในที่ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูดีนั้นก็เห็นอยู่ดาษดื่น มีเพิ่มมาอีกคนก็ไม่แปลก คล้ายกับเวลาหมาเห่า ถ้าไม่สร้างปัญหาร้ายอะไร เราก็ไม่ควรไปดุ เพราะหมาก็ทำตามสัญชาตญาณของหมา แต่คราวนี้ต่างไป เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าหมาเริ่มก้าวร้าว ทั้งที่อุ้มชูมายาวนาน คนชลบุรีรักใครรักจริง คบใครคบจริง เราเป็นแบบนี้กันมาตลอด นับญาติกันมาตั้งแต่เกิด แต่กับการทรยศ หักหลัง เราก็จะไม่นิ่งเฉย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ตระกูลคุณปลื้ม บ้านใหญ่จ.ชลบุรี จะย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่กับพรรคสร้างอนาคตไทย (สอคท.) ที่มีนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง เป็นแกนนำ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ น้องชายของนายสนธยา ระบุว่า ขณะนี้สมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่คิดที่จะไปสังกัดพรรคทางเลือกใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน