โผล่อีกวัด แฉ‘เจ้าคุณแจ๊ค’อมเงินทอนวัด หางบฯ บูรณะวัดที่สุรินทร์ 2 รอบ ได้มารอบละ 2 ล้าน แต่ส่งเงินให้จริงแค่ 9 แสน ตำรวจกำลังเร่งสอบขยายผลไปยังคนใกล้ตัว รวมถึงพระผู้ใหญ่ว่าจะมีเอี่ยวด้วยหรือไม่ ขณะเจ้าคณะจังหวัดนครนายกสั่งพักงาน‘พระสิทธิวรนายก’แล้ว

กรณีจับกุมพระสิทธิวรนายก หรือเจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน อ.เมือง จ.นครนายก และรองเจ้าคณะจังหวัดนคร นายก หลังพบว่าร่วมกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผอ.พศ. ทุจริตเงินบูรณะซ่อมแซมวัดไป 110 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมออกหมายเรียก 11 เจ้าอาวาส มาให้ปากคำรอบสอง หากพบผิดก็จะดำเนินคดีเพิ่มตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยถึงกรณีกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เข้าชี้แจงถึงปฏิบัติการดังกล่าว ว่า พร้อมจะให้ความร่วมมือ และยินดีจะเข้าไปชี้แจงรายละเอียดทุกขั้นตอน เพราะเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง และก็ยังทำเพื่อพระพุทธศาสนา ไม่มีเจตนาใดแอบแฝงอย่างแน่นอน

พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกให้พระสิทธิวรนายกมาสอบปากคำอีกครั้งในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ เพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 คดี เมื่อรวมกับคดีแรกที่แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ก็เท่ากับว่าเจ้าคุณแจ๊คจะต้องถูกดำเนินคดีรวม 3 คดี เพราะเป็นกรณีต่างกรรมต่างวาระกัน นอกจากนี้ก็จะเชิญพยานบุคคลมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกบางประเด็นด้วย เพื่อติดตามหาเงินส่วนที่ขาดหายไปอีกกว่า 90 ล้านบาทกลับคืนมาด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพยานที่จะถูกออกหมายเรียกมาให้ปากคำนั้น ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก 11 รูป เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ก็จะเชิญตัวผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายหนึ่ง พร้อมกับกลุ่มลูกศิษย์ใกล้ตัวของเจ้าคุณแจ๊คมาให้ปากคำด้วย หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงทำให้เชื่อได้ว่าเป็นตัวการสำคัญ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักย้ายถ่ายเทเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตด้วย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลการสอบสวนให้ชัดเจนว่า นอกจากเจ้าคุณแจ๊คแล้วยังมีพระชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นกับการทุจริตครั้งนี้ด้วยหรือไม่ และหากพบก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกด้วยว่า หลังจับกุมมีตัวแทนของวัดหลายแห่งจากหลายพื้นที่ที่เคยทำธุรกรรมกับเจ้าคุณแจ๊ค นอกเหนือจากวัดที่ จ.นครนายก ติดต่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ล่าสุดมีวัดแห่งหนึ่งที่ จ.สุรินทร์ ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ระบุว่า เมื่อปี 55 เจ้าคุณแจ๊คได้ประสานงบบูรณะซ่อมแซมมาให้กับทางวัด 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนมี.ค. 2 ล้านบาท หลังจากได้งบมาแล้ว เจ้าคุณแจ๊คก็ให้เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถอนเงินสดออกมาให้ทั้งหมด และคืนมาให้ 9 แสนบาท ส่วนครั้งที่สองในเดือน ธ.ค.ก็ได้งบมาอีกประมาณ 2 ล้านบาท แต่ครั้งนี้ทางเจ้าคุณแจ๊คก็เอาเงินไปทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง

ด้านนายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษกสำนักพุทธฯ กล่าวหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 5/2565 ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ว่า ได้รายงานกรณีที่พระสิทธิวรนายก ตกเป็น ผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 โดยล่าสุด พระราชพรหมคุณ เจ้าคณะจังหวัดนครนายก ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2565 พักงานพระสิทธิวรนายก จากตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายกแล้ว จนกว่าการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในคดีดังกล่าวจะเสร็จสิ้น พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าพระสิทธิวรนายกกระทำผิดพระธรรมวินัยด้วยหรือไม่ และจากการสอบถามสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครนายกยืนยันว่าพระสิทธิวรนายกยังอยู่ที่วัด ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน