ตั้งเงื่อนไขเข้มห้ามโพสต์ยุยง

ได้อิสรภาพแล้ว ‘เพนกวิน’ ออกจากคุกโผสวมกอดแม่ หลังศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว 3 เดือนให้ไปเรียนหนังสือ พร้อมกำหนดเงื่อนไขเข้ม 6 ข้อ หลังคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำเอกสารยืนยันความเป็นนักศึกษา-การสอบ ขณะที่ ‘อานนท์’ ตัดสินใจไม่ยื่นประกันอีกแล้ว แต่ทนายความขอให้ตัดสินใจใหม่ เนื่องจากคนรอบข้างเป็นห่วง อีกทั้งคนอื่นๆ ก็ได้ประกันตัวเกือบหมดแล้ว

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 ก.พ. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน หลังศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวทั้งสองคน จากนั้นให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่หน้าเรือนจำ เพื่อประกาศแนวทางสำคัญ

นายกฤษฎางค์กล่าวว่า หลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงได้พูดคุยและอธิบายถึงเรื่องที่ศาลไม่ให้ประกันว่า จริงๆ แล้วทนายความไม่ได้ยื่นแค่เรื่องนายอานนท์จะออกไปทำมาหากินเพียงอย่างเดียว ในคำร้องขอยื่นปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เรายื่นหลังจากที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกและศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวนายอานนท์กับเพนกวินแล้ว เหตุผลที่เราได้ยื่นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่ใช่เพียงแค่ให้อานนท์ออกมาทำมาหากิน หรือให้เพนกวินได้ออกมาเรียนต่อ

ทนายความกล่าวต่อว่า คำร้องที่ยื่นไปให้พิจารณาว่าทั้ง 3 คดี ที่ทั้งคู่ถูกกล่าวหาในมาตรา 112 ของศาลอาญากรุงเทพใต้นั้น ในคดีประเภทเดียวกันนี้ ที่ศาลอื่นได้อนุญาตให้ปล่อยตัวแล้วโดยมีเงื่อนไขรัดกุม เช่น ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM ห้ามจำเลยออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 06.00 น. และเป็นการให้ประกันเพียงแค่เดือน พ.ค.2565 และก็ได้ชี้แจงกับศาลอาญากรุงเทพใต้อีกว่าในคดี 112 เหมือนกันนี้ก็ได้อนุญาตให้ประกันตัวไปหลายคนแล้ว และทั้งสองเองก็ถูกจำขังมาเป็นเวลานานถึง 7 เดือนแล้ว แต่ศาลก็ไม่อนุญาตตามที่ทราบกัน โดยให้เหตุผลว่า ในส่วนของเพนกวิน ให้เอาเอกสารการลงทะเบียนเรียน ที่ออกโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอนนี้ได้ออกเอกสารให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ตอนนี้อยู่ระหว่างให้ทนาย เอาเอกสารดังกล่าวไปยื่นต่อศาลตามที่ศาลต้องการ คาดว่าศาลน่าจะมีคำสั่งภายในเย็น วันนี้ว่าจะให้ประกันหรือไม่ให้ประกันตัว ส่วนสภาพจิตใจทั้งคู่ในตอนนี้ยังดีอยู่ แต่ห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า เพราะสถานการณ์ในเรือนจำตอนนี้โควิดระบาดหนัก โดยเฉพาะเพนกวินยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แม้แต่เข็มเดียว

นายกฤษฎางค์กล่าวว่าในส่วนของทนายอานนท์ ก็ได้ชี้ให้ฟังว่าได้ยื่นเหตุผลดังกล่าวต่อศาลแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการอนุญาต นายอานนท์เองก็รับทราบ แล้วคิดว่าในช่วงนี้จะไม่ยื่นประกันตัวแล้ว เพราะว่าศาลท่านอยากให้อยู่ในเรือนจำก็จะอยู่ต่อไป แต่ทนายก็ได้บอกให้นายอานนท์พิจารณาอีกที แต่เดิมทีทั้งสองคนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยื่นประกันตัว แต่เนื่องจากอาจารย์ และพ่อแม่พี่น้อง อยากให้ออกมา เพราะเห็นว่าคดีของทั้งสองคนจะสืบพยานอีกที ส่วนใหญ่จะอยู่ในปี 2566 ซึ่งเสียเวลาที่จะอยู่ข้างใน จะได้เอาเวลามาคิดหาทางต่อสู้คดีร่วมกับทนาย

ด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าหลังทนายความได้ยื่นประกัน ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ อีกครั้ง โดยได้แนบหลักฐานการศึกษา ซึ่งประกอบด้วยหนังสือรับรองสถานภาพการศึกษาจากคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพิ่มเติมในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว

เวลา 16.30 น. ที่ประชุมคณะผู้บริหารของศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวเพนกวิน โดยคำสั่งระบุว่า ที่ประชุมคณะผู้บริหารของศาลอาญากรุงเทพใต้ร่วมกันพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยพิเคราะห์จากคำร้อง เอกสารประกอบคำร้องซึ่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกหนังสือรับรองสถานภาพการศึกษา และเงื่อนไขที่จำเลยเสนอต่อศาล เห็นควรอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวในช่วงเวลาอันจำกัด เพื่อให้โอกาสจำเลยได้ออกไปศึกษาในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2564 สักช่วงเวลาหนึ่ง มีกำหนด 3 เดือน (ครบกำหนดวันที่ 24 พฤษภาคม 2565) ตีราคาหลักประกัน 200,000 บาท

พร้อมกำหนด 6 เงื่อนไข ดังนี้ 1. ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือด้อยค่าต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาลในทุกด้าน 2.ห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล 3.ห้ามโพสต์ข้อความปลุกปั่นในสื่อโซเชี่ยลมีเดียหรือเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 4.ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ของวันใหม่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล 5.ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล 6.ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM เพื่อจำกัดระยะเวลาเดินทาง

หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ศาลอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวอันมีเวลาจำกัด และเมื่อครบกำหนดปล่อยตัวชั่วคราว ให้จำเลย มารายงานตัวต่อศาลและให้นายประกันส่งตัวจำเลยมาศาล ในวันที่ 24 พ.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ให้มีหนังสือแจ้งสำนักงานตรวจคน เข้าเมืองทราบ

สำหรับเพนกวิน ถูกคุมขังในเรือนจำรวมทั้งสิ้น 200 วัน

ปล่อย‘กวิ้น’ – ‘เพนกวิน’ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้รับการปล่อยตัวกลับสู่อ้อมอกแม่แล้ว โดยมีมวลชนไปรอต้อนรับและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ก.พ.

เมื่อเวลา 18.00 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวนายพริษฐ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการมารอรับอิสรภาพของนายพริษฐ์ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีสื่อมวลชนและแนวร่วม กลุ่มผู้ชุมนุมมารอรับที่ประตูเข้า-ออก หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จำนวนมาก โดยที่บริเวณหน้าป้ายเรือนจำ ได้นำภาพของนายพริษฐ์และนายอานนท์มาแขวนคอ มีข้อความว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” มีนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ เดินทางมารอรับลูกชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

นางสุรีย์รัตน์เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ลูกๆ ได้รับการปล่อยตัวออกมา แต่ก็มีความเป็นห่วงว่า หากได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วก็ไม่อยากให้กลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำอีก และเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะตัวเพนกวินค่อนข้างเป็นคนที่มองโลกสวย ไม่ค่อยระมัดระวังอันตราย เพราะตนยังถูกคนติดตาม จึงเกรงว่าลูกจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะฉะนั้นอยากฝากให้คนรู้จักเพนกวินขอให้ช่วยกันสอดส่อง ดูแล ด้วยว่ามีใครตามเพนกวินหรือไม่ เพราะเขาไม่ได้มีรถส่วนตัว ไม่มีคนขับหรือคนติดตาม ส่วนนายอานนท์ นำภา ที่ยังคงอยู่ในเรือนจำ ได้ปรึกษากับนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความทราบว่า น่าจะยื่นประกันตัวในเร็วๆ นี้ เพราะหากลูกชายตนได้รับการปล่อยตัวแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่จะให้นายอานนท์อยู่ในเรือนจำ เพราะเขามีครอบครัวที่ต้องดูแล

กระทั่งเวลา 19.20 น. นายพริษฐ์ได้ถูกปล่อยตัวออกมาท่ามกลางความยินดีของ แนวร่วมที่มารอต้อนรับและเข้าสวมกอดกับมารดาด้วยความคิดถึง

นายพริษฐ์กล่าวว่า ขอบคุณที่สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ตลอดในการจองจำตลอดระยะเวลา 6 เดือน ขอบคุณน้ำใจและทุกกำลังใจทุกการสนับสนุนและการช่วยเหลือที่ หลั่งไหลมา ยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างขมขื่นสำหรับตน แต่ผ่านมาได้ด้วยกำลังใจของพี่น้องทุกคน วันนี้ดีใจมากที่พี่น้องที่เคยไปทำกิจกรรมยืนหยุดขังจนวันนี้ได้รับการปล่อยตัว วันก่อนมีการระดมทุนร่วมกันเสียสละเงินหลักร้อยหลักพัน จนได้นับเป็นหลายล้านบาท เป็นการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มราษฎรยังไม่ตาย ยังคงดำเนินต่อไป และความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย พี่น้องเจ้าหน้าที่ทุกท่านปฏิบัติต่อตนอย่างให้เกียรติ เราไม่ใช่อาชญากร พี่น้องประชาชนที่เห็นกันอยู่ก็รู้ว่ามันเกิดกับตนเพราะอะไร

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า การตกเป็นผู้ต้องขังทางการเมือง เหมือนเป็นเชลยเขา เป็นแต้มแต้มนึงที่ทำให้ฝ่ายผู้มีอำนาจเขาเล่น การที่เราจะก้าวไปข้างหน้าต้องให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ข้างหลังด้วย อย่างนายอานนท์ พี่ชายแสนดีของตนที่คอยดูแลให้กำลังใจกันมาตลอด นอกจากพี่อานนท์แล้ว ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองอีกหลายท่านที่อาจจะยังไม่ได้รับความยุติธรรม ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว ต้องถูกคุมขังทั้งที่ยังไม่มีความผิดอะไร พี่น้องที่ฝ่าฟันต่อสู้ในเรือนจำมาควรได้รับความเป็นธรรม เงื่อนไขที่ศาลกำหนดตนให้ความเคารพเงื่อนไข แต่ตนเชื่อว่าเงื่อนไขศาลไม่สามารถที่จะสกัดกั้นความคิดเห็นของประชาชนได้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน