โรคมะเร็งคร่าชีวิตในวัย73ปีคนบันเทิงร่วมสดุดี

สิ้นตำนานพระเอกตลอดกาล สรพงศ์ ชาตรี จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งในวัย 73 ปี หลังเข้ารักษาตัวในไอซียู นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงไทย ผลงานแสดงกว่า 500 เรื่อง เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทอง-สุพรรณหงส์มากมาย ผลงานสร้างชื่อ “แผลเก่า” ทั้งยังเป็นศิลปินที่ทำงานเพื่อสังคม สองดารารุ่นใหญ่ ดวงใจ หทัยกาญจน์ ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ รุดรับพี่สาวร่วมพิธีรดน้ำศพวันนี้ที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทร์ ทายาทขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ กำหนดสวดพระอภิธรรม 11-17 มี.ค. ก่อนเก็บศพไว้ 100 วัน กรมส่งเสริมวัฒนธรรมดำเนินการขอพระราชทานเพลิงในฐานะศิลปินแห่งชาติ

สิ้นตำนานพระเอกดัง สรพงศ์ ชาตรี เมื่อวันที่ 10 มี.ค. เพจ ดาราภาพยนตร์ เผยแพร่ข้อความว่า “นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งของวงการบันเทิงเมืองไทย กับการจากไปของพระเอกนักบุญ พี่เอก-สรพงศ์ ชาตรี ที่จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งที่ลุกลาม เมื่อเวลา 15.51 น. ณ ห้องพักผู้ป่วยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สิริอายุ 73 ปี

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อราว 5 ปีก่อน พระเอกในตำนาน สรพงศ์ ชาตรี พบว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด และรักษาตัวมาตลอด มีช่วงหนึ่งที่สุขภาพแข็งแรงพอจนกลับมาทำงานได้ตามปกติ กระทั่งเดือนมี.ค. 2564 โรคมะเร็งกลับมากำเริบอีก โดยเชื้อมะเร็งแพร่กระจายไปตามร่างกาย ล่าสุดนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา เพราะมีอาการสำลักขณะรับประทานกล้วยน้ำว้า และต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียู ก่อนเสียชีวิตในเวลา 15.51 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สิริอายุ 73 ปี

เวลา 17.00 น. นางชั้น เทียมเศวต อายุ 81 ปี พี่สาวของสรพงศ์ ชาตรี เผยว่าทราบข่าวว่าสรพงศ์ ชาตรี เสียชีวิตอย่างสงบแล้วจากครอบครัวของสรพงศ์ รู้สึกเสียใจมาก ทางครอบครัวและญาติๆ ที่จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังปรึกษาหารือกับครอบครัวของสรพงศ์ที่กรุงเทพฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไร

สรพงศ์ ชาตรี หรือ เอก นักแสดงเจ้าบทบาทที่สร้างชื่อในวงการบันเทิง ชื่อจริงว่า พิทยา เทียมเศวต ภายหลังเปลี่ยนเป็นกรีพงษ์ เทียมเศวต เกิดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2493 ที่อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 บวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนลาสิกขาเมื่ออายุ 11 ขวบ เริ่มงานแสดงครั้งแรกเมื่อปี 2512 เป็นตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่อง “สอยดาว สาวเดือน” รับบทเป็นลูกน้องนักเลงที่ออกมาฉากเดียว ไม่มีบทพูดและถูกยิงตาย ต่อมาปีเดียวกันได้เล่นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 คือเรื่อง “ต้อยติ่ง” สรพงศ์ยังคงรับบทตัวประกอบที่ออกมาฉากเดียวในช่วงท้ายเรื่องและไม่มีบทพูดเช่นเคย ภาพยนตร์เรื่องที่ 3 เรื่อง “ฟ้าคะนอง” เมื่อปี 2513 สรพงศ์ยังคงรับบทตัวประกอบที่ออกมาฉากเดียวแต่เริ่มมีบทพูดประกบคู่กับภาวนา ชนะจิต นางเอก นอกจากนี้ยังเคยเป็นเด็กยกของในกองถ่ายละคร

กระทั่งได้รับบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องที่ 4 คือเรื่อง “มันมากับความมืด” ปี 2514 ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล จากนั้นได้รับบทในภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม แทบทุกเรื่อง ทั้งบทพระเอก พระรอง และเป็นผู้ช่วยผู้กำกับฯ ในบางครั้ง

สิ้นตำนาน – สรพงศ์ ชาตรี ศิลปินแห่งชาติ พระเอกระดับตำนาน เสียชีวิตแล้วในวัย 73 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อเวลา 15.51 น. วันที่ 10 มี.ค.2565 ที่ร.พ.บำรุงราษฎร์ จัดพิธีสวดพระอภิธรรมที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาส กทม.

สรพงศ์มีผลงานแสดงกว่า 500 เรื่อง คว้ารางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดีครั้งแรกจากเรื่อง “ชีวิตบัดซบ” และ “สัตว์มนุษย์” สองปีติดต่อกัน ก่อนจะคว้ารางวัลตุ๊กตาทองอีกจากเรื่อง มือปืน มือปืน 2 สาละวิน เสียดาย 2 รางวัลสุพรรณหงส์ ดารานำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ถ้าเธอยังมีรัก มือปืน และนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง องค์บาก 2 รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง นักแสดงชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง มือปืน 2 สาละวิน ผลงานสร้างชื่อที่นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในและต่างประเทศคือเรื่อง “แผลเก่า” ปี 2520 กำกับฯ โดยเชิด ทรงศรี

ชื่อ สรพงศ์ ชาตรี ที่ใช้ในการแสดง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา ประทานให้ โดยคำว่า “สร” มาจาก อนุสรมงคลการ “พงศ์ ” มาจาก สุรพงศ์ โปร่งมณี (ผู้พามาฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม) และ “ชาตรี” มาจาก ชาตรีเฉลิม

สรพงศ์มีบุตรทั้งหมด 4 คน คือ พิมพ์อัปสร (ขวัญ), พิศุทธินี (เอิง), พิศรุตม์ (เอม) และพิทธกฤต เทียมเศวต (อั้ม) พิมพ์อัปสร บุตรคนแรกเกิดกับทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ฯ ส่วนบุตรคนที่สองถึงสี่เกิดกับแอ๊ด พิมพ์จันทร์ ใจวงศ์ ปัจจุบันสมรสกับดวงเดือน จิไธสงค์ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ.2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530

นอกเหนือไปจากงานแสดง สรพงศ์ได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหา วิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2552 และเคยดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศิลปะร่วมสมัย) สาขาศิลปะการแสดงในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงปี พ.ศ. 2551

ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เผยว่า “ทราบข่าวเมื่อตอนบ่ายสาม ทราบว่าช่วงเที่ยงมี พระสงฆ์ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และลูกสาวไปดูใจ และปล่อยให้พี่เอกไปตามธรรมชาติของเขา พี่เอกจะสอนเรื่องจิตใจให้เป็นคนดี มีเมตตา”

ด้านนางเอกคู่ขวัญ จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ เผยว่า “ทราบข่าวขณะกำลังถ่ายรายการ ความรู้สึกคือช็อก ตกใจ ใจวูบ ถือเป็นอีกหนึ่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิง”

ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 14/1 ม.2 ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านของนางชั้น เทียมเศวต พี่สาวของสรพงศ์ ชาตรี มีนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ นายก อบต.บ้านใหม่ และญาติๆ มาให้กำลังใจ นางชั้นกล่าวว่ารู้สึกเสียใจ เพิ่งไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แต่สรพงศ์ไม่ค่อยคุย ตนสวดมนต์ทุกวัน ไม่คิดว่าจะจากไปเร็ว ด้านนายเอนก ผดุงฤทธิ์ หลานที่มาดูแลก็เสียใจมาก เช่นเดียวกับนายวัชรพงศ์ซึ่งมาเยี่ยมให้กำลังใจถึงกับหลั่งน้ำตาและบอกว่ารักสรพงศ์มาก ตั้งใจจะฉายภาพยนตร์ของสรพงศ์เป็นอนุสรณ์ และจะทำบ้านพี่สาวให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สมบูรณ์เพื่อระลึกถึงสรพงศ์

ในช่วงค่ำ ดวงใจ หทัยกาญจน์ พร้อมด้วย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ดารารุ่นใหญ่ เดินทางมารับนางชั้นเพื่อไปร่วมพิธีรดน้ำศพ สรพงศ์ ชาตรี ในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 15.00 น. ที่วัดเทพศิรินทราวาส ศาลากลางน้ำ เมื่อสองนักแสดงมารับนางชั้นที่บ้านต่างร้องไห้โฮเข้ากอดนางชั้นพร้อมพูดให้กำลังใจ

ขณะที่ ขวัญ พิมพ์อัปษร ลูกสาวของเอก สรพงศ์ ที่เกิดจากภรรยาคนแรก โย ทัศน์วรรณ โพสต์ภาพขาวดำผ่านเฟซบุ๊กเพจ : Mom & Me Story เป็นภาพที่เจ้าตัวกำลังกุมมือคุณพ่อ พร้อมอิโมจิรูปหัวใจสีดำ คาดว่า เจ้าตัวอาจได้อยู่กับคุณพ่อในวินาทีสุดท้ายก่อนจากกันชั่วนิรันดร์ โดยมีแฟนๆ ที่ทราบข่าวเข้ามาให้กำลังใจเนืองแน่น

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เผยว่านายกรีพงศ์ เทียมเศวต หรือ สรพงศ์ ชาตรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักแสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พุทธศักราช 2551 ถึงแก่กรรม ในวันพฤหัสบดีที่ 10 มี.ค. เวลา 15.51 น. ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยโรคมะเร็งปอด สิริอายุ 73 ปี ทายาทได้ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. เวลา 17.00 น. และกำหนดสวดพระอภิธรรม ระหว่างวันที่ 11-17 มี.ค. เวลา 19.00 น. ณ ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาส แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งทายาทจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล 100 วัน และกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงต่อไป

อธิบดี สวธ. เผยอีกว่า นอกจากนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ เผยแพร่และถ่ายทอดผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน ในยามที่ศิลปินเสียชีวิตยังช่วยเหลือด้านต่างๆ นอกจากดำเนินการขอพระราชทานเพลิงแล้ว ยังมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน