วัย85พรรษา65‘วัดบวรนิเวศฯ’
คณะสงฆ์สูญเสียพระมหาเถระ ‘สมเด็จพระวันรัต (จุนท์)’ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ มรณภาพสงบเมื่อเวลา 14.22 น. ระหว่างเข้ารักษาอาการอาพาธมะเร็งถุงน้ำดี ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เผยเคยปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 พระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุในพระราชพิธีถวายพระเพลิง ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภา กาชาดไทย ได้ออกประกาศ เรื่องสมเด็จ พระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) มรณภาพ ความว่า ตามที่สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งอาพาธด้วยมะเร็งถุงน้ำดี ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2564 จนถึงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2565 เวลา 14.22 น. สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ
สำหรับสมเด็จพระวันรัต เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต และตำแหน่งอื่นๆ หลายตำแหน่ง ส่วนกำหนดการบำเพ็ญกุศลนั้น วัดบวรนิเวศวิหารจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป
สำหรับประวัติ มีนามเดิมว่า จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.2479 ที่บ้านเกาะเกตุ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด บิดา-มารดา ชื่อ นายจันทร์และนางเหล็ย พราหมณ์พิทักษ์
เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อเดือนก.ค. 2499 ที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร มีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตโต) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตตโร) วัดคิรีวิหาร จ.ตราด เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสุทธิธรรมภาณ (แจ่ม ธัมมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
พ.ศ.2495 สอบได้นักธรรมชั้นเอก และพ.ศ.2516 สอบได้ประโยคเปรียญธรรม 9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
สร้างผลงานอันทรงคุณูปการในหลากหลายด้าน อาทิ ด้านสาธารณูปการ ดูแลการบูรณปฏิสังขรณ์และก่อสร้างเสนาสนะวัดบวรนิเวศวิหารให้งดงามมั่นคงถาวร ด้านสาธารณสงเคราะห์ จัดตั้งทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ วัดตรีทศเทพฯ จัดหาทุนสมทบสร้างตึกวชิร ญาณวงศ์ ตึกวชิรญาณสามัคคีพยาบาล และตึก ภปร. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จัดหาทุนสมทบสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สิงห์บุรี สร้างตึกโรงพยาบาลตราด รับอุปถัมภ์นักเรียนโรงเรียนวัดคิรีวิหาร และโรงเรียนมัธยมคีรีเวศน์รัตนูปถัมภ์ จ.ตราด
ด้านการศึกษาสงฆ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นแม่กองธรรมสนามหลวง มีหน้าที่ควบคุมดูแลการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม ดำเนินการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรนักธรรมและธรรมศึกษา ชั้นตรี โท และเอกที่เปิดสอนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนตำแหน่งงานปกครองคณะสงฆ์ เคยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร, เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต) เป็นพระอุปัชฌาย์, แม่กองธรรมสนามหลวง ผู้อำนวยการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย กรรมการชำระพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอื่นๆ
สมณศักดิ์ พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่ สมเด็จพระวันรัต
ในปี พ.ศ.2499 เป็นพระนวกะร่วมสมัยกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงผนวชวันที่ 22 ต.ค.2499 และประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร จนกระทั่งทรงลาผนวช วันที่ 5 พ.ย.2499
เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระอมรโมลี ยังได้เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรเกี่ยวกับพระธรรมวินัยแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงผนวช เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2521 ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดจนทรงลาผนวชในวันที่ 20 พ.ย.2521
ภาระหน้าที่พิเศษ ในพระราชพิธีพระราช ทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ 15 พ.ย.2551 ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมมุนี ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง
รวมถึง พระราชพิธีพระราชทานเพลิง พระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี วันที่ 9 เม.ย.2555 สมเด็จพระวันรัต ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่าน พระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงอีกวาระหนึ่ง
อีกทั้ง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2560 ก็ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว อ่านพระอภิธรรมนำพระบรมศพ ในการเคลื่อนพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธี ท้องสนามหลวงอีกวาระเช่นกัน
ส่วนภาระหน้าที่พิเศษอื่น ยากที่จะหาผู้ใดทำหน้าที่นี้ได้ในปัจจุบัน คือได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้เป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติไทย) และให้ความเห็น ก่อนที่จะประกาศใช้ในแต่ละปี นอกจากนี้ ยังเดินหมุดและคำนวณปฏิทินปักขคณนาสำหรับวันลงอุโบสถให้คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตด้วย
