ตร.จ่อเรียกสอบเพิ่มคดีรับน้องโหด – เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีรับน้องโหดที่ จ.นครราชสีมา ที่เป็นเหตุให้นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี เสียชีวิต ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาบ่อยครั้งแล้ว สิ่งนี้คือสังคมรุนแรงขึ้น ไม่เคารพกฎหมาย เรื่องการรับน้องนั้น ตนก็เตือนไปหลายครั้งและสั่งการไปหลายรอบแล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องลงไปดำเนินการสอบสวนดำเนินคดี ลงโทษไปตามกฎหมาย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งนายกฯ เองจะลงไปตรวจทุกอันก็ไม่ได้

ด้านพ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง กล่าวว่า วันนี้ได้เรียนผู้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวเข้ามาสอบปากคำทั้งหมด แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใครเพิ่ม มีเพียงกลุ่มรุ่นพี่ 7 คนเท่านั้นที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายหากมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ ด้านการเยียวยาครอบครัวน้องเปรม เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในเรื่องการจัดการศพ และจะช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่

ขณะที่ นายอุดม เชิดชู อายุ 74 ปี ตาของน้องเปรม พร้อมด้วยญาติๆ ได้พากันไปจุดธูปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องเปรมบริเวณที่จัดกิจกรรมรับน้องจุดที่เกิดเหตุตรงกลางทุ่งนาในพื้นที่ต.มะเริง โดยญาติของน้องเปรมยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ

นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ “เซฟ ขอนแก่นพอกันที” พร้อมผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอ่าน แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ระบุว่าสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นในหลักการประชาธิปไตย ยึดมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม จึงขอประณามและต่อต้านการกระทำอันโหดร้ายกดขี่ข่มเหงเพื่อนมนุษย์ แม้ระบบอำนาจนิยมยังคงกระจายอยู่ในหลายมหาวิทยาลัย สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะขอรณรงค์ทางความคิดและทลายระบบอำนาจนิยมให้หมดไป

“เราต้องรณรงค์และช่วยกันกำจัดระบบเหล่านี้ให้หมดไปจากรั้วมหาวิทยาลัย เพราะหากในรั้วมหาวิทยาลัยเรายังไม่สามารถเอาชนะได้ เราก็จะไม่สามารถต่อสู้กับระบบเผด็จการที่จะเติบโตไปสู่การเป็นคณะรัฐประหารได้ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะเกิดความสูญเสียตามมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า” นายวชิรวิทย์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน