ดีเดย์ญัตติไม่วางใจ23พ.ค. ไตรรงค์เผยเหตุคนทิ้งปชป.
เพื่อไทยชิงยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘บิ๊กตู่-รมต.’ ดีเดย์วันที่ 23 พ.ค. ชี้ต้องทำทันทีสกัดไม่ให้ยุบสภาหนี โจ้-ยุทธพงศ์เตือนกองทัพเรือระวังเจ็บอีก ทุ่ม 4.1 พันล้านจัดซื้อโดรนไร้คนขับจากเครือข่ายขายเรือดำน้ำที่ไร้เครื่องยนต์ เตรียมพบรมว.คลัง ชี้พิรุธ 3 โครงการท่อส่งน้ำอีอีซี ด้านพรรคเล็กขู่รัฐบาลตั้งเงื่อนไขโหวตซักฟอก ถ้ารมต.ชี้แจงไม่เคลียร์ เจอเรียกคุยรายคน ‘เสี่ยเฮ้ง’ แจงแค่พิราบไม่ใช่มือประสานพรรคเล็ก ย้ำ ‘บิ๊กป้อม’ ยังดูแลทุกพรรค ‘อันวาร์’ ทิ้งบอมบ์ปชป. จี้ถาม ‘จุรินทร์’ ยิ่งอยู่ยิ่งหนุนเผด็จการเพิ่ม แชร์ว่อนพรรคกล้าปล่อยกู้แม่ค้า ‘กรณ์’ ยอมรับเรื่องจริง แต่ไม่ได้ปล่อยกู้ แค่เป็นคนกลางให้เข้าถึงสถาบันการเงิน

ปชป.ติวเข้มพร้อมสู้เลือกตั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มี.ค. ที่โรงแรมแคนทารีฮิลล์ จ.เชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดสัมมนาส.ส. รัฐมนตรี และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค กล่าวเปิดสัมมนาว่า ปีนี้เข้าปีที่ 4 ถือเป็นปีสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎร เศรษฐกิจยังเป็นโจทย์ใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนการเมือง เห็นชัดเจน ถ้าเปิดสมัยประชุมสภาคือ 1.การอภิปายไม่ไว้วางใจ ซึ่งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีทุกคนต้องเตรียมพร้อมชี้แจงและ 2.คำถามนายกฯ ครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายคนยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ส่วนการยุบสภานั้น จากการรับประทานอาหารค่ำกับพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม รับสัญญาณได้ว่านายกฯ ตั้งใจจะเดินหน้าทำงานต่อ แต่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ ดังนั้น เราต้อง เตรียมพร้อมทั้งตัวบุคคล นโยบายผู้สนับสนุน และเรื่องอื่นๆ รวมทั้งการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ด้วย เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่สามารถช่วยหาเสียงได้ ดังนั้น ใครที่ไม่ติดเงื่อนไขนี้ ขอให้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วย เพราะพรรคส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

โวคะแนนนิยมพุ่ง-แย่งลงสมัคร
นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อเตรียมรับมือยุบสภาว่า การยุบสภาจะมีหรือไม่ ไม่มีใครทราบ แต่รัฐบาลก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ถ้าอยู่ครบ 4 ปีในเดือนมี.ค.2566 ก็ต้องเลือกตั้งอยู่ดี ซึ่งการเตรียมผู้สมัครถือว่าคืบหน้าไปมาก โดยผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคได้เตรียมพร้อมแล้วถึง 70-80% ส่วนปัญหามีผู้เสนอตัวมากว่าหนึ่งคนนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า สาเหตุมาจากพรรค มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีคนต้องการมาลงสมัครในนามของประชาธิปัตย์มากขึ้น ซึ่งพรรคมีกระบวนการพิจารณา เขตใดมีปัญหาก็ต้องทำโพลเพื่อตัดสิน

ชี้พรรคไม่ผิด-เลือดเก่าไหลออก
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้คนเก่าลาออก นายจุรินทร์กล่าวว่า การที่มีคนออกจากพรรค ไม่ได้แปลว่าเป็นความผิดของพรรคเสมอไป เพราะแต่ละคนมีเงื่อนไข มีที่มาที่ไป ซึ่งตนเคารพ ขณะเดียวกันคนที่อยู่ในพรรคก็ต้องเดินหน้าต่อ และหาคนใหม่เข้ามาเติมเต็ม ส่วนที่มีการสร้างวาทกรรมคนที่ออกจากพรรคคือเลือดเทียมนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ขอตอบ แต่เห็นความสำคัญของทุกคน ตนมีหน้าที่ขับเคลื่อนร่วมกับทุกคนที่ยังแน่นเหนียวกับพรรค เพื่อพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ มั่นใจว่าประชา ธิปัตย์เดินขึ้นไม่ได้เดินลง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 มี.ค. พรรคจะจัดงานดินเนอร์ทอล์กเพื่อระดมทุน ที่โรงแรมเซ็นทารา ลาดพร้าว โดยเชิญนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรอง หัวหหน้าพรรค อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรืออังก์ถัด และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) มาบรรยายเรื่องเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก โดยจะจัดที่นั่งโต๊ะละ 5 คน จำนวน 100 โต๊ะ งานนี้เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมพร้อมทั้งเรื่องคน นโยบาย ยุทธศาสตร์และปัจจัยสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

ไตรรงค์เผยสาเหตุคนทิ้งปชป.
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ปชป. ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวบรรยายตอนหนึ่งในงานสัมมนาว่า การรวมกลุ่มของนักการเมืองต้องมีอุดมการณ์ที่ตรงกันก่อน ไม่ใช่เห็นแก่ประโยชน์หรืออามิสสินจ้าง อย่างนี้ไม่ใช่พรรคการเมือง ช่วงหลังคนลาออกจากพรรคไปหลายคน ต้องยอมรับว่าบางคนมาหาตนถึงบ้าน บางคนโทรศัพท์มาเล่า ได้ฟังแล้วรู้สึกว่าเขาเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ว่าการบริหารงานในพรรคใจแคบ ดูแลเฉพาะกลุ่มคนของนายจุรินทร์ บางคนบอกว่าระแวงว่า ในช่วงสมัยทั้งนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ และนายจุรินทร์ มีอำนาจแฝงชักใยอยู่เบื้องหลังที่มีอำนาจมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่รับฟังมา แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง หรือเกิดขึ้นจริงก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กินใจคนเหล่านั้น ถ้าเรารักพรรค เราก็ต้องหนักแน่น และแก้ไขปัญหาภายในพรรค ไม่ใช่ลาออกทิ้งพรรคไป

โวกระแสกทม.กระเตื้องขึ้น
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคกลาง รายงานว่า ความจริงรองหัวหน้าพรรคภาคกลางไม่ได้หมายความว่าตนจะทำงานและบริหารงานได้หมด ในบางจังหวัดเช่น ประจวบคีรีขันธ์ เลขาธิการพรรคเป็นผู้ดูแล ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าเราสามารถสร้างกระแสนิยมพรรค เป็นสถาบัน เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของได้ จากเดิมที่มีส.ส. 9 คน น่าจะได้กลับมา 26 คน ขณะนี้ได้เตรียมผู้สมัครแล้ว 60-70 เปอร์เซ็นต์

ส่วนนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม.รายงานว่า การทำงานในพื้นที่กทม. ตอนนี้เดินหน้าเตรียมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก. ซึ่งสำคัญมากเพราะเลือกตั้งที่ผ่านมา เราไม่ได้ส.ส.กทม.เลย แต่จากการลงพื้นที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คนเริ่มกลับมาสนับสนุนพรรค มากขึ้น โดยจะมาเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค ซึ่งตรงนี้เป็นสัญญาณที่ดี ภาพรวมตนเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งในพื้นที่กทม. จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ลั่นภาคใต้ได้แน่ 40 ที่นั่ง
ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การหาเสียงในภาคใต้ เราต้องชนะแน่นอน อย่างที่ตนเคยพูดไว้ว่าจะต้องได้ส.ส. 35 ที่นั่งนั้น ตนยังยืนยันว่าทำได้จริงๆ และเราควรมีนโยบายภาคใต้ด้วย เช่น การกระจาย อำนาจ เพราะรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวในเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง รวมถึงเราต้องส่งเสริมการค้าขาย ยกระดับทุเรียนและยางพารา โดยเฉพาะราคายาง จะให้ได้กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งจะทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

“ยืนยันว่าถ้าทำตามยุทธศาสตร์นี้ เราจะได้ที่นั่งส.ส.เพิ่มขึ้นเป็น 40 ที่นั่งก็ได้ และผมให้การบ้านกับส.ส.ทุกคนไปแล้ว ถ้าทุกคนทำตามชนะอย่างแน่นอน และคนเดิมจะได้กลับมาอย่างแน่นอน” นายเดชอิศม์ กล่าว

เฉลิมชัยยันไม่ปล่อยสส.สอบตกแน่
จากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวปิดสัมมนาว่า วันนี้พรรคมีส.ส. 51 คน ถือว่าไม่มาก แต่พลังไม่ได้อยู่ที่จำนวน แต่อยู่ที่การกระทำ ขอเรียกร้องทุกคนต้องมา ช่วยพรรคให้เดินไปข้างหน้า ต้องเพิ่ม จำนวนส.ส.ให้ได้ สร้างความเชื่อมั่นและมีนโยบายช่วยเหลือประชาชนได้

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ส.ส.ที่มีอยู่ตอนนี้ตนจะไม่มีวันปล่อยให้สอบตกเด็ดขาด ตนมั่นใจในหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารและที่ปรึกษาว่าพร้อมจะยืนเคียงข้างทุกคน เราจะได้ส.ส.มากกว่าเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ เรียนด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีที่มีอยู่ว่าพร้อมรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด มั่นใจว่ากระแสพรรคดีขึ้นจากผลงานที่ทำมา ตนไม่ได้มโนหรือคิดไปเอง กระแสดีขึ้น หมายถึงเรามีโอกาสดีขึ้น หากไม่คว้าเอาไว้เท่ากับเป็นศูนย์ ดังนั้น ต้องพาทั้งพรรคคว้าโอกาสนั้นมาให้ได้

ยินดีรับผิดชอบทุกเรื่อง
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ตนขอให้ทุกคนมีอะไรพูดภายในพรรค เพราะไม่มีใครได้อะไรทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันไม่มีใครสู้เราได้ ตนยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกเรื่อง แม้กระทั่งผลการเลือกตั้งในรอบที่จะถึงนี้ ส่วนจะรับผิดชอบแค่ไหน ก่อนเลือกตั้งตนจะพูดให้ชัดเจน จะเป็นความรับผิดชอบจริงๆ ทั้งนี้ อะไรที่ไม่เกินเลยไปนักขอให้มองข้ามผ่านไปบ้าง อย่าให้คาใจ มั่นใจว่าผู้บริหารพรรคยุคนี้ให้โอกาสทุกคน ไม่เลือกข้าง เอาพวกใครพวกมันไม่ใช่ ยืนยันไม่จริง ตนจะนำพาพรรคให้อยู่คู่ประเทศไทยต่อไป ไม่ใช่เดินอย่างไฟวูบเดียวแล้วจบ แต่ต้องเดินไปอย่างมั่นคง เพื่อให้ประชาธิปัตย์รุ่นถัดๆ ไปรับสิ่งที่ดี สิ่งที่แข็งแรงที่สุด

อันวาร์ทิ้งบอมบ์จี้ถาม‘อู๊ดด้า’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมมนา นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกตั้งคำถามต่อนายจุรินทร์ โดยมีเนื้อหาระบุว่า “2 คำถามถึงหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารและสมาชิกพรรคทั่วประเทศ” ว่า อยากรู้ว่าอนาคตพรรคจะเป็นอย่างไร เพราะยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนเผด็จการ และในส่วนของส.ส.ที่มาจากประชาชนจำนวน 100 ที่นั่ง ตรงนี้เอามาจากไหน และจุดยืนของพรรคคืออะไร หวังว่าคำถามที่ถามไปจะได้รับคำตอบ

นายอันวาร์ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองว่า ยังไม่ตัดสินใจ เพราะรอความชัดเจนจากพรรคว่าจะส่งลงสมัครต่อไปหรือไม่ แต่มั่นใจว่าคนในพื้นที่ยังต้องการให้ตนทำหน้าที่ต่อไป และไม่พอใจที่พรรคไม่สนับสนุนตน ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีพรรคอื่นมาพูดคุยบ้างแล้ว ถ้าประชาธิปัตย์ไม่ให้อยู่ ตนมีทางออกอยู่แล้ว

ลั่นถ้าไม่มีศักดิ์ศรีก็ไม่หน้าด้านอยู่
“ตอนนี้ผมยังไม่พูดกับใครทั้งนั้นจนกว่าประชาธิปัตย์จะตัดสินใจ คงไม่มีใครโง่เท่าผมแล้ว พูดถึงขนาดจะไล่ผมออก ผมจำเป็นต้องออกมาพูด ต้องการทำให้ประชาธิปัตย์เข้มแข็ง ถ้าผมจะไปพรรคอื่นผมไปนานแล้ว แต่ถ้าให้อยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี ผมก็คงไม่หน้าด้านอยู่” นายอันวาร์กล่าวและว่า ส่วนที่มีเลือดเก่าไหลออกนั้นถือเป็นภาพที่ไม่ดี แม้จะมีคนใหม่เข้ามาแต่ไม่เป็นที่รู้จักของสังคม เทียบคนเก่าที่ออกไปไม่ได้ เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช และคนอื่นๆ ที่มีฐานเสียงมั่นคง ขอให้พรรคประเมินเอาเองว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ส.ส.เท่าใด จะต่ำกว่า 50 หรือไม่ ต้องไปคิดเอง

โฆษกมั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในการรับประทานอาหารเย็นของพรรคร่วมรัฐบาลที่สโมสรราชพฤกษ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.นั้น บรรยากาศเป็นไปด้วยดี พรรคเล็กได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับรัฐบาล ซึ่งนายกฯ รับฟังและขอบคุณทุกพรรคและขอให้ช่วยกันทำงาน โดยพรรคร่วมทุกพรรคยืนยันตรงกันว่าพร้อมสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่ต่อไป มั่นใจว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศจนครบเทอมอย่างแน่นอน

นายธนกรกล่าวว่า ส่วนที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุรัฐบาลยังไม่เป็นเอกภาพ นายกฯ ยังไม่รู้จักการเมืองดีพอนั้น ก็เป็นความฝันของฝ่ายค้านอยู่แล้วที่ต้องการให้เกิดความสั่นคลอนในรัฐบาล โดยไม่สนว่าประชาชนกำลังรอให้รัฐบาลเข้าไปช่วยแก้ปัญหา ยืนยันว่าวันนี้รัฐบาลมีเอกภาพ สัมพันธ์เหนียวแน่น และ นายกฯ มีความเข้าใจการเมืองเป็นอย่างดี จึงเด็ดขาดกับการทุจริต ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่เข้าใจเรื่องเดียวคือฝ่ายค้านจ้องแต่ดิสเครดิตรัฐบาล เล่นเกมการเมืองจนไม่สนใจภาพลักษณ์ของสภา ทางที่ดีถ้าพรรคเพื่อไทยเอาเวลาที่จ้องเสียดสีดิสเครดิตรัฐบาลรายวัน ไปช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนบ้างก็คงดี ล้างข้อครหารัฐมนตรีทุจริตจนต้องติดคุกให้ได้ก่อน เชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากกว่า

พรรคเล็กยังกั๊กโหวตศึกซักฟอก
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่พล.อ.ประยุทธ์หันมาให้ความสำคัญกับพรรคเล็ก สิ่งที่ขอไปได้รับการตอบสนอง โดยเฉพาะการขอให้มีรัฐมนตรีมาคอยดูแลประสานงานพรรคเล็กเพื่อให้การทำงานราบรื่น ซึ่งได้รับคำตอบว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จะมาเป็นผู้ประสานพรรคเล็ก แต่จะเข้ากันได้หรือไม่ต้องรอดูการทำงานก่อนเพราะถือเป็นงานหนักของนายสุชาติพอควร

“แนวทางของพรรคเล็กหลังจากนี้จะทำงานในทิศทางเดียวกับรัฐบาล แต่การโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นอีกเรื่อง ซึ่งต้องรอฟังข้อมูลฝ่ายค้านและการชี้แจงของรัฐมนตรีก่อน ใครชี้แจงไม่ชัดในสภา พรรคเล็กอาจต้องขอฟังคำชี้แจงนอกรอบเป็นรายๆ ไป เพราะเราไม่มีคิวเป็นผู้อภิปราย จึงขอฟังรัฐมนตรีว่าจะตอบคำถามได้ชัดเจนหรือไม่ โดยเรียกมาซักถามในสภา ทำอย่างเปิดเผย ไม่มีลับลมคมในเรียกมาคุยในห้องลับ เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจจะยกมือให้หรือไม่” นายพีระวิทย์กล่าว

ลั่นถ้าห้ามคุยธรรมนัสก็ไม่เอานายกฯ
นายพีระวิทย์กล่าวต่อว่า ส่วนที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศ.ท.) ยังมีแนวทางพูดคุยกับพรรคเล็กสม่ำเสมอนั้น พรรคเล็กคงปฏิเสธฝ่ายใดไม่ได้ ต้องพูดคุยกับทุกฝ่าย ไม่อยากให้มองว่าขาข้างหนึ่งอยู่ฝ่ายนายกฯ อีกข้างอยู่ฝั่งร.อ.ธรรมนัส ซึ่งนายกฯ เป็นผู้นำมีวุฒิภาวะ ถ้าคิดเล็กคิดน้อย ตนก็ไม่เอานายกฯ เหมือนกัน

“ที่ผ่านมาร.อ.ธรรมนัสดูแลช่วยเหลือพรรคเล็กมาตลอด ถ้านายกฯ หรือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กีดกันไม่ให้พบร.อ.ธรรมนัส ผมก็ไม่เอาด้วย ทั้งนี้ ได้พูดกับนายกฯ ในงานเลี้ยงเมื่อค่ำวันที่ 17 มี.ค.ว่าจะไปร่วมแสดงความยินดีกับพรรคเศรษฐกิจไทยในวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ว่าอะไร ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจยังให้คำตอบไม่ได้ และกลุ่มร.อ.ธรรมนัสจะมาคุยกับพรรคเล็ก ซึ่งต้องคุยกันอยู่แล้ว แต่พรรคเล็กต้องฟังคำชี้แจงของรัฐมนตรีด้วย” นายพีระวิทย์กล่าว

‘เสี่ยเฮ้ง’แจงเป็นแค่นกพิราบ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.พรรค พปชร. กล่าวกรณีนายพีระวิทย์ระบุนายกฯ มอบให้เป็นผู้ประสานงานพรรคเล็กว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคขณะนี้มีพล.อ.ประวิตรเป็นคนดูแลทั้งหมด ตนเป็นผอ.พรรค ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่เป็น ผู้ดูแลภาพรวมทั้งประเทศ เชื่อว่าการรับประทานอาหารร่วมกันในสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และมั่นใจว่าการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลจะราบรื่นมากขึ้น ส่วนที่พรรคเล็กระบุชื่อให้เป็นผู้ประสานงานนั้นอาจเป็นเพราะรับโทรศัพท์ทุกคน เข้าใจปัญหาในพื้นที่เพราะเป็นส.ส.เขตด้วยกัน เมื่อมีเรื่องใดที่พอเป็นนกพิราบสื่อสารมาถึงนายกฯ และพล.อ.ประวิตรก็จะช่วยแบ่งเบาภาระ แต่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้

มั่นใจไร้ปัญหาเสียงโหวต
เมื่อถามว่ากังวลกับการโหวตของพรรคเล็กกว่า 30 เสียง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่มองเรื่องนี้ ทุกพรรคพูดชัดเจนไปแล้วว่าพร้อมสนับสนุนและตั้งใจเดินหน้าทำงานให้กับประเทศต่อไป ตนจะทำหน้าที่เป็นคนกลางเชื่อมโยงข้อมูลที่ถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อถามว่าจากนี้จะนัดกินข้าวกับพรรคเล็กในทุกเดือนหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า การทานข้าวร่วมกันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ไม่เป็นข่าว และเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดของพรรคร่วมในช่วงสถานการณ์นั้นๆ ขออย่ามองเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป้าหมายของเราคือจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข รัฐบาลเดินไปในแนวทางเดียวกันเท่านั้น

ก้าวไกลเย้ย‘ธรรมนัส’แค่เกมต่อรอง
นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงร.อ.ธรรมนัส ใช้คำพูดสื่อตรงถึงพล.อ.ประยุทธ์ ระบุถ้าขาดอากาศจะไม่มีใครอยู่ได้ และขอให้ระวังจะไม่รอดว่า เป็นการแสดงออกเพื่อสื่อสารง่ายๆ และตรงๆ ให้เห็นว่า ร.อ.ธรรมนัสมีความสำคัญ ถ้าขาดร.อ.ธรรมนัส รัฐบาลจะลำบาก และหากแพ้เกมอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาก็ต้องลาออก ซึ่งการแสดงออกเช่นนี้ ตนมองว่าร.อ.ธรรมนัส ยังมีเงื่อนการต่อรองเพื่อได้ตำแหน่งรัฐมนตรี และอยากให้พรรคเศรษฐกิจไทยได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ชี้ทางรอด‘บิ๊กตู่’-ตุนกล้วยไว้เยอะๆ
นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า ส่วนท่าทีของพรรคเล็กนั้น ถือเป็นการเมืองแบบหยั่งเชิง ต่อรอง เปลี่ยนไปมาได้ บางวันลุกขึ้นมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ แต่วันดีคืนดีกลับมาพูดเชียร์ เป็นพฤติกรรมเดิมๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจ

เมื่อถามว่าเมื่อพรรคเล็กเปลี่ยนไปมาเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องรับศึกหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า “ถ้ามีกล้วยเยอะๆ นายกฯ คงสบาย ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เตรียมแค่กล้วยอย่างเดียว ต่อให้ฝ่ายค้านอภิปรายด้วยหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลผิดมากแค่ไหน พอถึงเวลา มือจริยธรรมและมือคุณธรรมจะหายไป ภายใต้เงื่อนไขผลประโยชน์และการต่อรอง ผมอยากเรียกร้องว่า เมื่อฝ่ายค้านมีข้อมูลอย่างชัดเจน ส.ส.ต้องใช้วิจารณญาณภายใต้พื้นฐานคุณธรรมและจริยธรรม อย่าพิจารณาภายใต้เงื่อนไขของอำนาจต่อรอง”

อุ๊งอิ๊งลุยการเมืองมากขึ้น
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เข้ามาทำกิจกรรรมในเรื่องครอบครัวเพื่อไทย ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และเราได้รับความคิดเห็นของประชาชนเข้ามามาก สิ่งเหล่านี้เราจะนำไปพัฒนาเป็นนโยบายต่อไป หลังจากนี้พรรคยังมีกิจกรรมพบประชาชนอีกมาก น.ส.แพทองธาร จะเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าประชาชนจะให้การตอบรับอย่างดีเหมือนที่ผ่านมา
นายประเสริฐกล่าวถึงความพร้อมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า สัปดาห์หน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือในรายละเอียด เมื่อสภาเปิดสมัยประชุม เราจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

เพื่อไทยขู่ยื่นซักฟอก 23 พ.ค.นี้
ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย(พท.) แถลงว่า การประชุมส.ส.ของพรรคเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และตัวแทนพรรค ไปประชุมร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในการเปิดประชุมสมัยหน้า โดยวันที่ 23 พ.ค. เวลา 08.30 น. พรรคเพื่อไทยพร้อมจะยื่นญัตติทันที พล.อ.ประยุทธ์จะได้ไม่ต้องยุบสภาหนี จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์เตรียมตัวไว้ จะถูกอภิปรายเรื่องการบริหารโควิด-19 ล้มเหลวแน่นอน

ปูด 3ป.-1ช.ส่อฮั้วประมูลท่อส่งน้ำ
นายยุทธพงศ์กล่าวถึงความไม่โปร่งใสในการประมูลท่อส่งน้ำในพื้นที่อีอีซี ของกรมธนารักษ์ 3 เส้นหลัก คือ โครงการท่อส่งน้ำดอกกาย โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง ระยะที่ 2 ว่าบริษัทที่ชนะการประมูลครั้งนี้คือ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เสนอผลประโยชน์ให้กับรัฐทั้งค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา และส่วนแบ่งรายได้รวม 25,693 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าบริษัทอีสต์วอเตอร์ ที่เสนอให้ 24,213 ล้านบาท ทั้งนี้ ความน่าเชื่อถือของบริษัทอีสต์วอเตอร์เป็นบริษัทกึ่งของรัฐ การประปา การนิคมอุตสาหกรรม ถือหุ้นรวมกันกว่า 46% ส่วนบริษัทวงษ์สยามกลับเป็นเพียงอาคารเล็กๆ

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ 3 ป. และ 1 ช. ที่มีความเกี่ยวโยงกัน โดย ช. ก็คือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ส่วนคนที่ดูแลเรื่องน้ำทั้งหมดคือ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานอีอีซี ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และในการประชุมคณะกรรมการที่ราชพัสดุ มีมติเห็นชอบในเรื่อง ดังกล่าว 6:3 เสียง ส่วนกรรมการอีก 3 คนลาประชุม ทำให้มติไม่เป็นเอกฉันท์

จ่อพบรมว.คลังชี้พิรุธ 3 โครงการ
นอกจากนั้นยังพบว่าในการยื่นประมูลโครงการขยายโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ของการประปานครหลวง ที่มูลค่าโครงการเพียง 6,400 ล้านบาทนั้น บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ยังไม่ผ่านคุณสมบัติเลย แต่กลับชนะโครงการท่อส่งน้ำในพื้นที่อีอีซี ที่มีมูลค่ากว่า 150,000 ล้านบาท

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า ดังนั้น วันที่ 23 มี.ค.นี้ ตนจะไปพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เพื่อยื่นหนังสือ ชี้ให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสของการประมูลโครงการ ดังกล่าว ตั้งแต่การประมูลครั้งแรกที่บริษัท อีสต์วอเตอร์ชนะ ก็มีการยกเลิกการประมูล มีการเปลี่ยนทีโออาร์ทำให้รัฐเสียประโยชน์ อาทิ ตัดข้อกำหนดที่ว่าบริษัทจะต้องไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงานออก ลดทุนจดทะเบียนบริษัทที่จะเข้าร่วมประมูลจาก 600 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท เปลี่ยนคุณสมบัติสำคัญที่เคยกำหนดให้ต้องเป็นนิติบุคคลที่มีอาชีพและประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจเรื่องท่อส่งน้ำออก ทั้งที่เป็นสาระสำคัญในการดำเนินโครงการ จนสุดท้ายทำให้บริษัทวงษ์สยามชนะการประมูล เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย หากมีความผิด นายอาคมต้องรับผิดชอบที่มอบหมายให้นายสันติดูแลเรื่องนี้

หวั่นซ้ำ‘ดำน้ำ’ – นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข้อสังเกตการจัดซื้อโดรนของกองทัพเรือ เกรงว่าจะซ้ำรอยเรือดำน้ำที่ซื้อมาแล้วไม่มีเครื่องยนต์ ระบุบริษัทที่ขายโดรนก็คือกลุ่มเดียวกับที่ขายเรือดำน้ำ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.

หวั่นทร.ซื้อโดรนซ้ำรอยเรือดำน้ำ
นายยุทธพงศ์กล่าวถึงงบประมาณปี 2565 ที่กองทัพเรือตั้งงบประมาณซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ แต่ถูกกรรมาธิการ (กมธ.) ตัดไปแล้ว 22,500 ล้านบาทว่า ในงบส่วนนั้น ยังมีงบจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ (UAV) Hermers 900 มูลค่า 4,100 ล้านบาท ซึ่งระหว่างที่พิจารณางบประมาณปี 65 ตนได้ออกมาคัดค้านเรื่องนี้ เพราะไม่มีเหตุผลที่กองทัพเรือจะต้องซื้อ โดรน

โดยกองทัพเรือได้ให้ใบเสนอราคามา พบว่าตอนแรกจะซื้อ UAV ของจีน จากบริษัท CATIC แต่วันนี้ถอยแล้ว เพราะไม่กล้า หลังจากซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำแล้วไม่มีเครื่อง เมื่อเป็นเช่นนี้ กองทัพเรือจึงเปลี่ยนไปซื้อ โดรน Hermers 900 จากบริษัทของอิสราเอลแทน แต่กลับเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกันกับที่ขายเรือดำน้ำให้ไทย แต่มีรายงานข่าวว่า UAV ดังกล่าวมีปัญหาเครื่องยนต์จนทำให้เครื่องตก

“วันนี้จึงอยากเรียน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. ไปตรวจสอบดูการจัดซื้อ ดังกล่าว อย่าเอา UAV ที่มีปัญหามาใช้ ซึ่งจะซ้ำรอยเรื่องเรือดำน้ำจีน ดังนั้น หากกองทัพเรือจะเดินหน้าต่อต้องตรวจสอบ เพราะเอางบประมาณไปตั้งเยอะ ทำไมไม่ซื้อของดี เพราะกลุ่มที่ขาย UAV เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่ขายเรือดำน้ำ หากยังไม่หยุด ผมจะออกมาแฉชื่อบริษัท” นายยุทธพงศ์กล่าว

โหรวันชัยเตือนนายกฯ
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ดวงดาวของปีเสือ พยากรณ์สถานการณ์การเมือง ระบุว่า ปีนี้ปีขาลเป็นปีเสือ ในช่วงต้นปีเป็นเสือผยองพองขน แต่พอปลายเดือนมี.ค. 2565 ราหูทับดวงเมือง ทั้งดาวพุธ ดาวอาทิตย์ย้ายเข้าสู่ราศีมีน เป็นอริกับดวงเมือง ทำให้เสือหงุดหงิด กระโชกโฮกฮาก เจรจากันทางการเมืองไม่ค่อยลงรอย แม้จะกินข้าวสานสัมพันธ์กับวงโน้นวงนี้ ตามวิถีของดาวพุธก็กระโดกกระเดก โยกเยกกันไปมาอย่างนี้ จนถึงปลายเดือนพ.ค. เสือจะถูกล่อเข้าถ้ำ แถมติดกับดักอีกต่างหาก กลายเป็นเสือติดจั่น จะขยับก็เจ็บ จะดิ้นก็ปวด

“เพราะอิทธิพลของราหูและดาวอริทั้งหลายที่กลายเป็นเสือซุ่ม โดดเข้าขยุ้มหวังขย้ำให้คะมำกันไปข้างหนึ่ง ดาวราหูนั้นเป็นดาวลับ ลวง พราง ไอ้ที่เห็นว่าใช่ ความจริงไม่ใช่ ที่บอกว่าปึ้ก ความจริงแป้ก ทั้งหลอก ทั้งลวง กระทั่งติดกับดัก ราหูตัวนี้มันแสบลึกแสบร้อนทำเอาเจ็บปวดรวดร้าว” นายวันชัยระบุ

จับตา 3 ทางเลือกปมซักฟอก
นายวันชัยระบุอีกว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เมื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะยุบสภาไม่ได้ ติดกับดักทันที ทางเลือกจึงมีอยู่ 3 ทาง คือ 1.พอรู้ว่าจะยื่นญัตติแล้วไม่แน่ใจในความปึ้กของพรรคร่วม ก็ชิงยุบสภา เรียกว่าตัดไฟแต่ต้นลม มาด้วยกันก็ไปด้วยกัน 2.เมื่อยื่นญัตติแล้ว ระหว่างนั้นไม่แน่ใจในเสียง ขืนเดินต่อไปก็ตายคาสนามรบ ศพไม่สวยแน่ ทางเลือกมีอยู่ทางเดียวคือลาออก และ 3.มั่นใจในเสียง และเมื่อยื่นญัตติแล้ว กว่าจะถึงวันอภิปรายก็ใช้เวลากันเป็นเดือนหรือหลายเดือน

“ทีนี้แหละดาวอริแต่ละดวง ทั้งพรรคใหญ่พรรคเล็กจะออกฤทธิ์ออกเดชกันเต็มที่ คุมเสียงได้ก็ไปรอด คุมไม่ได้ก็วายวอด ทั้ง 3 ทางมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น อย่างที่บอกดาวราหูเป็นเรื่องลับ ลวง พราง คาดไม่ถึง ลึกลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนซ่อนกล พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น มฤตยูกำลังจะไป ราหูกำลังจะมา อย่ากะพริบตา” นายวันชัยระบุ

แชร์ว่อน‘พรรคกล้า’ปล่อยกู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ แชร์และตำหนิใบปลิวของนายดำรงค์ สาหร่ายวัง ว่าที่ผู้สมัครส.ก.เขตวังทองหลาง นายบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี และนายวิรุจน์ เอกสิทธิผล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตวังทองหลาง พรรคกล้า จัดโครงการปลดหนี้-เพิ่มทุนสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เป็นโครงการปล่อยกู้ในวงเงิน 30,000-100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2.75 คำนวณจากวงเงิน ผ่อน 3 ปี ลดต้น ลดดอก พร้อมตารางผ่อนชำระต่อเดือน หรือต่อสัปดาห์ให้ด้วย

ในเอกสารโครงการกล้าปลดหนี้ระบุว่า ผู้ที่สนใจ ยื่นเอกสารได้ที่ชุมชนพลับพลา ติด สน.วังทองหลาง ในวันที่ 20 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00-13.00 น. โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ สเตตเมนต์ หรือผู้ค้ำประกัน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องประกอบอาชีพค้าขาย มีสถานที่ตั้งร้านชัดเจน พร้อมเอกสาร อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ภาพถ่ายร้าน เป็นต้น

กรณ์แจงจริง-แค่คนกลาง
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวยืนยันว่า โครงการปลดหนี้-เพิ่มทุนสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เป็นแคมเปญและโครงการของพรรคกล้าจริง โดยพรรคจะเป็นคนกลาง ประสานระหว่างสถาบันทางการเงินกับพ่อค้าแม่ค้าที่จะขอกู้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เข้าสู่ระบบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเดินหน้าช่วยชาวบ้านได้ในตอนนี้ อะไรที่ทำได้ก็ทำเลย และได้ทดลองทำแล้วหลายชุมชนในกทม. พร้อมทั้งจะขยายโครงการนี้ไปทั่วประเทศ

“พรรคได้อบรมชี้แจงรายละเอียดโครงการนี้ให้ตัวแทนของพรรคทุกพื้นที่แล้ว เป็นโครงการที่เราทำได้เลย สมัยที่ผมเป็นรมว.คลัง เคยทำเรื่องนี้ ช่วยเหลือประชาชนได้ 5 แสนคน ตอนนั้นทำในฐานะรัฐบาล จังหวะนี้แม้เราจะยังไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่เรื่องหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน เราไม่ต้องรอ สามารถเป็นคนกลางประสานให้ชาวบ้านได้เข้าถึงเงินกู้ในระบบของสถาบันทางการเงินได้ ยืนยันว่าพรรคไม่ได้ปล่อยเงินกู้เอง เพราะเราทำแบบนั้นไม่ได้ เนื่องจากผิดกฎหมายเลือกตั้ง” นายกรณ์กล่าว

ดีเบต – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีดีเบตครั้งแรก ที่ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.

‘ชัชชาติ-เอ้-วิโรจน์’ดีเบตครั้งแรก
ที่ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวที BKK move forward อนาคตของกทม.และชีวิตของคนรุ่นใหม่ ถือเป็นการดีเบตครั้งแรกระหว่างว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยมีนาย ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ทำหน้าที่ดำเนินรายการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน