ไฟป่าแม่ฮ่องสอนยังเกิดต่อเนื่อง – เมื่อวันที่ 20 มี.ค. สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่รับผิดชอบ พบว่าค่า PM 2.5 มีค่าระหว่าง 34-130 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “ดี ถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)-เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน PM 2.5 = 102 มคก./ลบ.ม. – เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน PM2.5 = 130 มคก./ลบ.ม. – เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 51 มคก./ลบ.ม. จุดความร้อนเกิดขึ้นจำนวน 217 จุด
นายพงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนกล่าวว่า ในส่วนของอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนได้มีการปฏิบัติการเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาไฟป่า ด้วยการสั่งการให้ แต่ละหมู่บ้านจัดชุดดับไฟป่าเข้าเวรพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในทุกหมู่บ้าน รวมไปถึงการจัดกำลังอาสาประชาชนลาดตระเวน ซึ่งยังไม่พบมีไฟป่า
นายอำนวย ยอดคำ หัวหน้าหน่วย นปพ.สบเมย สจป.ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับหน่วย มส.5 (อำเภอแม่สะเรียง), ชุดเหยี่ยวไฟอุดรธานี เข้าดับไฟบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย บริเวณป่าบ้านขนุน หย่อมบ้านแม่ลิดป่าแก่ ม.1 ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และได้ทำแนวกันไฟไว้เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง รวมพื้นที่ความเสียหายโดยประมาณ 20 ไร่
ด้านพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 วันที่ผ่านมาพบมีการ ลอบเผาป่าอย่างหนักและพบจุดความร้อนสูงมากที่สุดกว่าพื้นที่อื่นๆ ส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สูงเกินค่ามาตรฐานถึง 130 มคก./ลบ.ม.
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รายงานจำนวนประชาชนที่ป่วยเนื่องจาก ผลกระทบจากหมอกควันตั้งแต่เดือนก.พ.จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบจาก หมอกควันไฟแล้วรวม 11,000 คน ในจำนวนนี้เป็นโรคระบบทางเดินทางหายใจ 6,000 คน รองลงมา ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด และหอบหืด
ขณะที่สายการบินนกแอร์ที่ทำการบินจากดอนเมืองสู่จ.แม่ฮ่องสอน วันละ 1 เที่ยวบินในเวลา 15.15 น. ยังสามารถทำการบินได้ทุกวันเนื่องจากช่วงบ่ายมีลมพัดทำให้อากาศเปิด ทัศนวิสัยเพียงพอต่อการบิน มีเพียงในวันที่ 18 มี.ค.ที่ต้องเลื่อนเวลาบินจากปกติออกไปอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากทัศนวิสัยต่ำไม่เอื้อต่อการบิน
