จว.อันดามันรับเต็มๆกทม.ท่วม-รถติดหนัก

ฝนฤดูร้อนถล่มกรุง น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ทำเอารถติดหนักวันหยุด เตือนพายุ ‘ไซโคลน’ อ่าวเบงกอลขึ้นฝั่งเมียนมา21-22 มี.ค. ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขณะที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนัก แจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนัก ปภ.เฝ้าระวัง 4 จังหวัดภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ หวั่นน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รายงาน 31 จังหวัดประสบวาตภัย บ้านเรือนเสียหาย 5,003 หลัง บาดเจ็บ 3 ราย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เวลา 17.00 น. น.ส. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเตือน “พายุไซโคลนบริเวณอ่าวเบงกอล (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-22 มีนาคม 2565)” ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2565 ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนแล้ว หรือที่ละติจูด 10.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 92.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 30 ก.ม./ช.ม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 ก.ม./ช.ม. คาดว่าจะเคลื่อนเข้าขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเมียนมาในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 65 ส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักถึงหนักมากที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งถึงวันที่ 22 มี.ค.65

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง โดยแจ้งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ จ.ระนอง ในพื้นที่ทุกอำเภอ, จ.พังงา ใน 5 อำเภอ ได้แก่ ตะกั่วทุ่ง คุระบุรี กะปง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง, จ.ภูเก็ต ใน 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองภูเก็ต ถลาง และกะทู้ และ จ.กระบี่ ใน 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองกระบี่ เขาพนม และปลายพระยา โดยประสานให้จังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากเดือดร้อนแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้กําลังอ่อนพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 13-20 มี.ค. มีสถานการณ์ในพื้นที่ 31 จังหวัด ได้แก่ ตาก เชียงใหม่ พิษณุโลก เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ลำปาง เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี นครสวรรค์ และอ่างทอง รวม 85 อำเภอ 192 ตำบล 605 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 5,003 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย

(ศรีสะเกษ) ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็น ภาคเหนือ 12 จังหวัด 39 อำเภอ 116 ตำบล 440 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4,224 หลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด 30 อำเภอ 56 ตำบล 135 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 684 หลัง ภาคกลาง 6 จังหวัด 12 อำเภอ 13 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 80 หลัง ปภ.ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายและช่วงเย็นวันเดียวกัน หลายพื้นที่ในกทม.และปริมณฑล ฝนตกหนักส่งผลให้การจราจรในหลายจุดติดขัด โดยเฉพาะถนนพหลโยธินฝั่งขาออก รถติดหนักหลังฝนตก 1-2 ชั่วโมงซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ประชาชนเดินทางออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านต่างได้รับผลกระทบหนัก เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เร่งระบายการจราจร นอกจากนี้ยังพบถนนหลายสายมีน้ำท่วมขัง ทั้งถนนลาดพร้าว ถนนรามคำแหง ซอยรัชดาภิเษก โดยเฉพาะย่านห้วยขวางพบน้ำท่วมขังหลายพื้นที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน