ทำโดนสังคมด่า-จ่อแจ้งจับทดสอบขาหมูกับใบพัดเรือ‘ปอ-เบิร์ต’ห่มขาวรายงานตัวตร.ปรับเงื่อนไขให้มาทุก5วัน

‘ส.ส.เต้’ สงสัยอะไร ลุงหาปลาให้การตำรวจนนท์ยืนยัน ‘ขอนไม้’ ไม่ใช่ ‘แตงโม-นิดา’ จ่อแจ้งดำเนินคดีเหตุทำให้ถูกชาวบ้านก่นด่ายับ ‘ปอ-เบิร์ต’ นุ่งห่มขาวรุดรายงานตัวตามเงื่อนไขประกัน ตร.ปรับรายงานตัวทุก 5 วัน ห้ามออกจากประเทศ ผบช.ภาค 1 เผยจำลองเหตุล่าสุดนำสปีดโบ๊ต ลำเกิดเหตุวิ่งจริง หาแนวเอียงตัว-หัวเชิดอย่างไร พร้อมใช้เนื้อหมูทดสอบลักษณะแผลการถูกใบพัดเรือ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 ประชุมความคืบหน้าของคดีดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยถึงว่า ยืนยันว่านายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมนายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ ที่รับว่าเป็นผู้ขับเรือช่วงเกิดเหตุ มารายงานตัวแน่นอน เพราะล่าสุดเจ้าหน้าที่เพิ่มเงื่อนไขในการประกันตัวจากเดิมทุก 12 วันเป็นทุก 5 วัน แจ้งที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยหากทั้ง 2 คนไม่มาตามนัด ตำรวจจะถามเหตุผล หากอ้างว่าปฏิบัติธรรมอยู่ไม่ใช่เหตุผลในการขอเลื่อนรายงานตัว

รายงานตัว – นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต 2 ผู้ต้องหาคดีแตงโม ในชุดห่มขาว เดินทางมารายงานตัวกับตำรวจตามเงื่อนไขประกันตัว ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 23 มี.ค.

ส่วนความคืบหน้าคดีสอบปากคำพยานบุคคลไป 115 ปาก และมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม สำหรับการจำลองเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทดลอง 2 กรณีคือ การทดลองจากเรือลำจริงในวันเกิดเหตุคือ ทดสอบการวิ่งในน้ำเพื่อดูลักษณะท่าทางของเรือด้วยเร็ว 8 นอต ใช้บุคคลบนเรือตามลักษณะของบุคคลบนเรือในวันเกิดเหตุ ทั้งน้ำหนักและจำนวนของคน พร้อมกับตำแหน่งที่นั่งบนเรืออย่างถูกต้องตามคำให้การว่าเรือเอียง เชิดหน้า และเรือกินน้ำลึกเท่าไร ส่วนประเด็นที่ 2 จำลองดูบาดแผล โดยใช้เนื้อหมู เพื่อทดสอบลักษณะการถูกใบพัดเรือมีลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นแนวทางการสอบสวนต่อไป ส่วนจะคล้ายแผลคุณแตงโมหรือไม่ อยู่ในสำนวนแล้ว

ส่วนมีกลุ่มบุคคลที่ให้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับคดีจะสับสน หรือไม่เป็นความจริงหรือไม่นั้น ตำรวจยินดีรับข้อมูลมา และหลักฐานทุกอย่างไว้ โดยเฉพาะหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อคดี จะนำเข้าสู่สำนวน และไม่ทิ้งประเด็นใครมีข้อมูลก็พร้อมรับ สำหรับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ออกเคลื่อนไหวอ้างมีหลักฐานเชื่อมโยงคดี โดยเฉพาะกรณีมีภาพกล้องวงจรปิดเห็นแตงโมลอยน้ำนั้น ที่ผ่านมา นายมงคลกิตติ์ไม่เคยนำหลักฐานให้ตำรวจ แต่วันนี้นัดจะเดินทางมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก

ส่วนเรื่องการตามหาผ้าคลุมลายลูกไม้สีขาวที่แตงโมสวมคลุมก่อนเสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจยังไม่พบทั้งในที่เกิดเหตุ และการสอบถามเจ้าหน้าที่อาสา เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ยังไม่พบเลย แต่จากการสอบสวนบุคคลบนเรือเชื่อว่าหายไปขณะตกน้ำ ส่วนจะเป็น หลักฐานสำคัญหรือไม่ ตำรวจมีหลักฐานอื่นที่แน่นหนามากกว่า แต่หากมีนำผ้าขาวมาตรวจก็ไม่แน่ชัดว่าจะบอกเล่าเหตุการณ์บนเรือและระบุถึงการเสียชีวิตได้

“ตำรวจทำงานเต็มที่การที่มีกลุ่มบุคคลไปร้องขอโอนคดีให้ดีเอสไอ ต้องเป็นผู้เสียหายทางคดีแจ้งความประสงค์เท่านั้น ประเด็นนี้นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม ต้องเป็นคนร้องไปเท่านั้น หากมีการร้องต้องทำตามขั้นตอน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการร้องขอจากผู้เสียหาย ส่วนกรณีแม่ของคุณแตงโมขอให้นำ แซน (นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์) กระติก (น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม) จ็อบ (นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร) เข้าเครื่องจับเท็จ ตอนนี้ได้หารือกับ นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องแล้ว แต่ยังไม่จำเป็นต้องเข้าเครื่องจับเท็จในเวลานี้ แต่หากจำเป็นเข้าต้องสามารถทำได้ เพราะเตรียมการไว้แล้ว ส่วนจะเข้ารูปคดีได้ภายในสิ้นเดือนนี้หรือไม่ยังคงต้องรอหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์อีกสองสัปดาห์ หากมีรายงานอย่างชัดเจนแล้วก็จะสรุปคดีทันที” ผบช.ภาค 1 กล่าว

ต่อมาเวลา 13.20 น. นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุดาราสาวแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมนายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ ที่รับว่าเป็นผู้ขับเรือช่วงเกิดเหตุ สวมชุดขาวเข้ารายงานตัวต่อ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.เมืองนนทบุรี ตามเงื่อนไขที่ขอยื่นประกันตัว โดยทั้งคู่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์อะไรทั้งสิ้น

ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 10.30 น. นายวินิต หรือนิด ตรีปัญญา อายุ 53 ปี คนหาปลาที่ถูกนายมงคลกิตติ์ให้สัมภาษณ์พาดพิง กรณีคลิปที่อ้างว่าเป็นภาพแตงโมขณะลอยคออยู่ในน้ำ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.เมือง นนทบุรี ยืนยันว่าที่เห็นและพายเรือเข้าไปคือขอนไม้ที่เกรงว่าจะลอยมาติดตาข่ายดักปลา วันนี้ตำรวจเชิญตัวมาให้ปากคำ ไม่ได้เข้ามาแจ้งความใดๆ ยืนยันว่าคนพายเรือในภาพคือตน ในคืนดังกล่าวออกมาหาปลาและเห็นเรือสปีดโบ๊ตขับวนไปมา แต่ไม่เห็นว่ามีคนตกเรือ และถ้าเห็นคนตกน้ำมีหรือที่จะไม่เข้าไปช่วยเหลือ เรือก็มี ไม้พายก็มี หรือส่งตาข่ายให้จับก็ได้

“วันนั้นถ้าเป็นคนต้องตะกายเรือผมก็ต้องช่วย แทบไม่ต้องคิดอะไร ทั้งคนหรือหมาก็ช่วยชีวิตทั้งหมด เรือมีทั้งเชือกและตาข่าย ส่วนขอนไม้ลอยทวนน้ำ เพราะน้ำหมุน ขอนไม้ยาว 50 ซ.ม. ถึง 1 เมตร ลงน้ำแถวนั้นประจำทุกคืน สำหรับผลกระทบเยอะ ถูกตีตราว่าเป็นคนไม่ดีไม่ช่วยคน ถ้าเจอ ส.ส. จะพูดคำเดิม กำลังปรึกษาครอบครัวอยู่ว่าจะแจ้งความไหม เพราะสังคมก็ว่าตนเสียหายมาก หรือถ้าหากยังไม่หยุด ก็จะแจ้งความ ส่วนกรณีชาวเน็ตกล่าวหาว่าว่าจ้างมาให้ไปดูหน้าดาราไม่เป็นเรื่องจริง หากเป็นเรื่องจริงขอให้ผมตาย ใน 5-7 วัน ส่วนคนที่พูดแบบนี้ก็ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร แทนที่จะสงสัยผมขอให้ไปสงสัยคนบนเรือดีกว่า” นายนิดกล่าว

ส.ส.กับคนหาปลา – นายวินิต ตรีปัญญา หรือลุงนิด คนพายเรือหาปลา เดินทาง มาสภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้การยืนยันพบเพียงท่อนไม้ในแม่น้ำ เผชิญหน้ากับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปล่อยคลิปคนหาปลาไม่ช่วยแตงโม โดยส.ส.เต้ระบุว่าลุงนิดไม่ใช่คนในคลิป เมื่อวันที่ 23 มี.ค.

ขณะเดียวกัน นายมงคลกิตติ์เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ก่อน เผยว่า นำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ได้แถลงข่าวมาให้พนักงานสอบสวน เป็นคลิปในช่วงที่ทราบมาว่าตำรวจยังไม่มี ในฐานะพลเมืองดีจึงนำมามอบให้เพื่อดูว่าจะเป็นประโยชน์กับรูปคดีได้หรือไม่ ยืนยันเชื่อมั่นในหลักฐานกล้องวงจรปิดเพราะถึงแม้คลิปวิดีโอจะพูดไม่ได้ แต่สามารถบอกได้ทั้งภาพ เสียง เวลา และสภาพแวดล้อม แตกต่างจากพยานบุคคลที่สามารถเปลี่ยนคำให้การได้ตลอดเวลา เพราะมีปัจจัยต่างๆ เข้ามาแทรกแซงเช่น เรื่องความกลัวและเรื่องของการได้รับสินจ้าง สุดท้ายหากมีการพิสูจน์แล้วว่าวัตถุในคลิปเป็น ขอนไม้จริงก็ไม่เสียหน้าอะไร เพราะคลิปนี้ถือเป็นพยานหลักฐานที่ได้จากราชการ ใครก็มีสิทธิ์ตั้งข้อสันนิษฐานได้

รายงานข่าวแจ้งว่า มีช่วงหนึ่งที่นายวินิตและนายมงคลกิตต์เดินมาด้วยกัน ผู้สื่อข่าวถาม นายมงคลกิตติ์ว่า มีอะไรจะพูดกับลุงนิดคนหาปลาหรือไหม นายมงคลกิตต์หันไปมองก่อนจะปัดตอบว่า ชายคนนี้ไม่ใช่คนหาปลาในคลิปที่นำมาเผยแพร่เป็นแค่คนตกปลาริมฝั่งคนละคนกัน ทรงผมก็ไม่ใช่แล้ว ทำให้นายวินิตถึงกับรับคำพูดไม่ได้เดินหนีออกจากวงสัมภาษณ์ไปในทันที

ต่อมาเวลา 14.10 น. นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เข้าพูดคุยกับนายวินิตคนหาปลา และเข้าแจ้งความ นายมงคลกิตติ์ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมระบุว่า ดูข่าวนายวินิตโดนนายมงคลกิตติ์ให้ร้ายทำให้เสื่อมเสีย ได้โทรศัพท์คุยกับนายวินิตและได้รับการประสานให้มาช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพราะสังคมลงความเห็นว่านายวินิตเป็นคนไม่ดี จากการที่นำคลิปนายมงคลกิตติ์นำคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ หากสอบสวนแล้วพบว่าผิดให้ดำเนินคดี เพราะทำประชาชนสับสนทำให้ไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ดังนั้นการจะพูดอะไรต้อง หลักฐานควรได้รับการพิสูจน์ก่อน นอกจากนี้ยังจะมีการจะมีการรวบรวมหลักฐานร่างหนังสือ เพื่อยื่นฟ้องป.ป.ช. เพื่อให้สอบจริยธรรมต่อในสัปดาห์หน้า

วันเดียวกัน นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย พล.ต.มนิต ศิริรัตนากูล ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 (ผบ.พล.พัฒนา 1) นายเตชสิทธิ์ สมประดี ปลัดอาวุโสอำเภอสวนผึ้ง เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่ราชพัสดุบริเวณที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอให้ตรวจสอบกรณีมูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี เข้าใช้ประโยชน์ เพื่อก่อสร้างมูลนิธิชยันโต โพธิธรรมรังสี โดยมิชอบ

สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีรายงานผลว่า บริเวณดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 (บางส่วน) ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี อยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์ของกองทัพบก เนื้อที่ประมาณ 38 ไร่ และในบริเวณดังกล่าวมีอาคารประกอบต่างๆ หลายรายการ ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต เดิมสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งความประสงค์ขอใช้เพื่อก่อสร้างวัด แต่ต่อมาได้จัดตั้งเป็นมูลนิธิจึงไม่สามารถใช้ที่ราชพัสดุได้ เนื่องจากการขอใช้ที่ราชพัสดุจะต้องใช้เพื่อประโยชน์ในทางราชการเท่านั้น

สำหรับการเข้าใช้ประโยชน์ของธรรมสถานฯ ต้องดำเนินการให้ถูกต้องภายใต้ระเบียบ หลักเกณฑ์ และกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ โดยวิธีการจัดให้เช่า (กรณีที่ทางราชการเห็นควรให้คงสภาพพื้นที่ไว้เพื่อประโยชน์ ของประชาชน) ข้อเท็จจริงขณะนี้ปรากฏว่า ยังไม่ได้มีการยื่นขอเช่าที่ราชพัสดุต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรี แต่อย่างใด กรมธนารักษ์จึงแจ้งให้มูลนิธิฯ ดำเนินการยื่นเรื่องขอเช่าที่ราชพัสดุให้ถูกต้องตามกฎหมายที่ราชพัสดุ

รวมทั้งให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมร่วมกับกองทัพบก เพื่อประกอบการพิจารณาว่า มีการ ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุมาตั้งแต่เมื่อใด มีเอกสารสิทธิหรือเอกสารแสดงการครอบครองที่ดินของทางราชการ หรือไม่ อย่างไร แนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กองทัพบก โดยกองพลพัฒนาที่ 1 เห็นพ้องด้วย และกำชับให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ราชบุรีรายงานความคืบหน้าให้กรมธนารักษ์ทราบ ทั้งนี้ ในส่วนคดีอาญา หรือคดีอื่นใด ต้องหารือร่วมกับกองทัพบก เพื่อพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการดำเนินการต่อไป

ด้าน พล.ต.มานิตเผยถึงความคืบหน้าใน การดำเนินการกับศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยว่า ตอนนี้ในขั้นต้นทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยเปลี่ยนวัตถุประสงค์การยื่นเช่าที่ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ที่มอบหมายให้พล.พัฒนา 1 รับผิดชอบดูแล โดยขอเปลี่ยนจากวัตถุประสงค์การเช่าจากเดิมที่จดทะเบียนว่าจะทำเป็นพื้นที่วัด มาเป็นพื้นที่ตั้งมูลนิธิฯแทน โดยเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา แจ้งด้วยวาจากับทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยให้ดำเนินการตามขั้นตอน และหลังจากนี้จะมีหนังสือแจ้งตามไปเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เพื่อให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนปฏิบัติและกฎหมายในเรื่องของการขอยื่นเช่าพื้นที่ภายในระยะเวลา 30 วัน

ส่วนการดำเนินการก่อนหน้านี้ที่ตอนแรกขอยื่นจดทะเบียนเช่าพื้นที่เพื่อทำเป็นวัด แต่กลับมาทำเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมนั้น ทางกรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่จะต้องไปดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยเพิ่งจะขอเปลี่ยนวัตถุ ประสงค์การเช่า พื้นที่เป็นการจัดตั้งมูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ถือเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายต้องดำเนินการเรียกค่าเสียหาย ในส่วนของพล.พัฒนา 1 มีหน้าที่ดำเนินการให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมสถานวิโมกสิวาลัยปฏิบัติตามเงื่อนไขเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน