ส่อ157ไม่จับเป่าไฮโซปลาวาฬ – กรณีนายวรสิทธิ อิสสระ หรือ ไฮโซปลาวาฬ อายุ 40 ปี ขับรถหรูชนราวเหล็กทางบริเวณถนนเพชรเกษม โค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ทำให้ไฟลุกไหม้ทั้งคัน และพบราวกั้นทางโค้งเสียหาย 30 เมตร จึงแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย แต่ยืนยันว่าไม่ต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เนื่องจากไม่มีคู่กรณีหรือผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์และสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า กรณีตร.ไม่สั่งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอาจเข้าข่ายจงใจช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ เป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดตามมาตรา 157 เนื่องจากตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 43 (2) ห้ามขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุรา ฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 160 ตรี จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท สั่งพักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 6 เดือน และหากผู้ขับขี่ขัดขืนไม่ตรวจวัดมีโทษปรับครั้งละ 1,000 บาท และให้สันนิษฐานไว้ว่าผู้นั้นขับขี่รถขณะเมาสุราแม้ไม่ยอมทดสอบ กรณีรถยนต์มีประกันภัยภาคสมัครใจ หากเมาแล้วขับบริษัทประกันจะขอผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์มาประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หากเมาแล้วขับบริษัทจะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน
ว่าที่ร้อยตรีสมชายกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ความผิดฐานเมาแล้วขับ นอกจากศาลมีอำนาจพิพากษาจำคุกและปรับแล้ว ศาลยังมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ก็ได้ ดังนั้นเมื่อมีการกระทำผิดเมาแล้วขับซ้ำซาก หรือก่อเหตุร้ายแรงจากการเมาและขับ อัยการที่ยื่นฟ้องต้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตหรือให้เพิกถอนใบอนุญาตเพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำซากได้
