ยธ.นัดแถลงสิ้นมีค.ผลสรุปผ่า‘โม’รอบ2แม่ฟ้องแน่-วิจารณ์มั่วทนายชี้ใกล้จบคดีแล้วเชื่อยังมีผู้ต้องหาอีก

ตร.เรียก ‘แซน-จ๊อบ’ สอบเครียด ยธ.นัดแถลงผลผ่า ‘แตงโม’ รอบ 2 แล้ว ผบช.ภ.1 ไม่ขัดข้อง ถ้าดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ทนายเดชาคาดใกล้ปิดคดี เชื่อไม่เกิน 24 เม.ย.นี้ อาจมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก ยันแม่พอใจผลคดีของตำรวจ มั่นใจ ‘โม’ ได้รับความยุติธรรม ฮึ่มฟ้องแน่คนวิจารณ์มั่ว

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะทนายความของนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือคุณแม่ดาราสาวแตงโม หรือน.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชระวีรพงษ์ กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปยื่นหนังสือ ขอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครอง ผู้บริโภค วุฒิสภา ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม โดยระบุว่า เหตุผลหลักที่ยื่นถอนเรื่อง เพราะมีสมาชิกของ กมธ. ได้นำเรื่องในสำนวนและการผ่าชันสูตรไปเผยแพร่ พร้อมยังวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจซึ่งไม่เหมาะสม ประกอบกับนางภนิดาพิจารณาเห็นว่าไม่มีความต้องการให้ กมธ. ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะไม่มีข้อสงสัยใดๆ แล้ว

“สำหรับกรณีที่นางภนิดาถูกวิจารณ์ว่าเปลี่ยนไปนั้น เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ตอนนี้มองว่าคุณหมอพรทิพย์หมดความจำเป็น เนื่องจากในตอนนั้นเป็นทนายเดิมที่ดูแล ด้วยสถานการณ์ฉุกละหุก ทนายเดิมเลยแนะนำให้ไปขอคำแนะนำจาก กมธ. แต่หลังจากนางภนิดาได้ไปพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พบหมอนิติเวช สถานการณ์เลยเปลี่ยน พบว่าการทำงานของตำรวจมีความเรียบร้อยดี และทำให้นางภนิดาหมดข้อสงสัย จึงมองว่าคุณหมอพรทิพย์ไม่มีความจำเป็นแล้ว” นายเดชากล่าว

นายเดชากล่าวต่อว่า นางภนิดาไม่ได้ถูกกดดัน หรือถูกข่มขู่ และไม่มีใครเข้ามาแทรกแซง เพราะนางภนิดาไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่จากการที่ได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เพียงระบายถึงความทุกข์ใจที่สมาชิก กมธ. ไปให้สัมภาษณ์เหมือนเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ว่าทำงานเอนเอียง นางภนิดาเลยตัดสินใจด้วยตนเองว่าให้ถอนเรื่องให้จบ จะได้ไม่มีใครมีสิทธิ์มาพูดอีก โดยนางภนิดาเองก็ต้องพึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ไม่สืบสวนคดีให้แล้ว ใครจะทำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รายงานให้ทราบทุกอย่างจนเป็นที่พอใจ เพียงแค่ไม่ได้บอกกล่าวต่อสังคม รวมถึงในขณะนี้ นางภนิดาเองก็ไม่ได้กังวลเรื่องคดีแล้วแถมยังชวนตนไปร้องเพลงอยู่เลย ทั้งนี้นางภนิดาก็มั่นใจ 100% ว่าแตงโมจะได้รับความยุติธรรม เพราะทุกข้อสงสัยของสังคม ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบหมดแล้ว รอเพียงการแถลงปิดคดีเท่านั้น ซึ่งคาดว่าไม่เกินวันที่ 24 เม.ย.นี้ ก็อาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และรอการสรุปต่อไป

นายเดชายังกล่าวถึงกรณี ‘เต๊ะ ศตวรรษ’ ที่นางภนิดาระบุเป็นคนนอก ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ตัวแทนญาติว่า นางภนิดาไม่ได้ติดใจอะไรกับคุณเต๊ะ ในตอนที่เข้าไปสังเกตการผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ซึ่งนางภนิดาก็ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรยินยอมให้เข้าไปสังเกตการณ์ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าให้เข้าไปในฐานะตัวแทนของคุณแม่หรือญาติ และคุณเต๊ะเองก็ไม่ได้เอาเรื่องต่างๆ ไปให้สัมภาษณ์มากนัก นางภนิดาจึงไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแต่จุดมุ่งหมายในตอนนี้นั้น ไม่ต้องการให้คนนอก ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกแล้ว เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี เปรียบเหมือนไส้ติ่งที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย

นายเดชากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ที่นำเรื่องต่างๆ ในสำนวน หรือเรื่องของการผ่าชันสูตรศพไปพูดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น หากหลังจากนี้ยังไม่หยุด แล้วนางภนิดาเกิดทนไม่ไหว ก็ขอให้เตรียมรับหมายศาล เช่นเดียวกับ โซเชี่ยลที่มาวิพากษ์วิจารณ์นางภนิดาเกินความจำเป็นด้วย แต่ตอนนี้นางภนิดายังเฉยๆ แต่ถ้าไม่หยุดก็เตรียมรับหมายศาลเช่นกัน

ที่กระทรวงยุติธรรม นายเดชาเข้ายื่นสอบถามความคืบหน้ากับว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีผลการผ่าพิสูจน์ร่าง ‘แตงโม’ รอบ 2 ทั้ง 11 จุด และมีภาคประชาชน เข้ายื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้พิจารณาการเสียชีวิตนักแสดงสาวเพื่อขอให้เสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติรับเป็นคดีพิเศษ

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า กระบวนการผ่าพิสูจน์ศพรอบ 2 ของน้องแตงโม ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปด้วยดีซึ่งไม่มีอะไรผิดปกติ ส่วนผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 คาดว่าจะมีการแถลงข่าวให้สื่อและสังคมรับทราบ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ หรือ วันที่ 1 เม.ย. ซึ่งอยู่ระหว่างสรุปผลตรวจจากแล็บทั้งหมด ย้ำว่าวันแถลงข่าวจะไม่พูดถึงเรื่องที่อาจกระทบต่อรูปคดีของตำรวจ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ไม่เคยไปล้วงลูกการทำงานของตำรวจ ส่วนกรณีมีภาคประชาชนต้องการให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษนั้น อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งก็เป็นหน้าที่หลักที่ดีเอสไอต้องรับเรื่องไว้หากมีคนมาร้องทุกข์ เพื่อค้นหาความจริงและทำความจริงให้ปรากฏเพื่อให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หากคดีของน้องแตงโมตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคดีฆาตกรรมจริง อายุความก็จะยังคงเดินหน้าต่อไปจนถึง 20 ปี

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม ที่จะให้เป็นคดีพิเศษ ในการดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ให้ฝ่ายประจำเป็นผู้ชี้แจงทางเดียวเพราะเป็นข่าวนานแล้ว ถ้าต่างคนต่างพูดเกรงว่าจะทำให้เกิดความสับสน ก็ขอให้ฝ่ายประจำเป็นคนพูดเพื่อไม่ให้สับสน ถ้าฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่งด้วยก็จะยุ่งไปกันใหญ่ อยากให้เห็นพ้องต้องกัน ตนก็ไม่อยากให้มีปัญหาอะไรทั้งนั้น

คดีแตงโม – นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน 1 ใน 5 คนที่อยู่บนสปีดโบ๊ตลำที่แตงโม ดาราสาว พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เดินทางออกจากบช.ภาค 1 หลังเข้าให้ปากคำ เพิ่มเติมกับตำรวจนานกว่า 3 ชั่วโมง เมื่อ 29 มี.ค.

เวลา 13.40 น. ที่บก.สส.ภ.1 นายวิศาพัช มโนมันรัตน์ หรือ แซน 1 ใน 5 บุคคลที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ต เดินทางมาพบตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน นานกว่า 3 ชั่วโมงจากนั้นได้เดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ พร้อมกับทนายความเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเช่นกัน โดยใช้เวลาให้ปากคำจนถึงเวลา 18.30 น.จึงได้เดินทางกลับพร้อมทนาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนายวิศาพัชและนายนิทัศน์เป็นกลุ่มที่เป็นพยานในที่เกิดเหตุที่เข้าให้ปากคำล่าสุด ยังคงเหลือ ‘กระติก’ หรือน.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ พยานในที่เกิดเหตุอีก 1 คนที่ไม่ได้มาให้ปากคำในวันนี้

ขณะที่ชุดสืบสวนดีเอสไอได้เข้าประชุมกับชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีแตงโมนิดา โดยมีพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เชิญคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการชันสูตรการเสียชีวิตของแตงโม มาประชุมร่วมกันเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและความเห็นในประเด็นต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความจริง เนื่องจากภาคประชาชนเข้ายื่นเรื่องกับดีเอสไอ ถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโม พร้อมกับให้คณะพนักงานสืบสวนเร่งเดินหน้าแสวงหาหลักฐานทางคดีกับผู้เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวถึงกรณีมีผู้ไปร้องให้ดีเอสไอรับกรณีการเสียชีวิตของแตงโมเป็นคดีพิเศษ ว่า ทางตำรวจไม่ขัดข้อง และพร้อมให้สำนวนคดีกับดีเอสไอ หากรับสืบสวนเป็นคดีพิเศษ แต่ยังไม่สามารถมอบให้ดีเอสไอไปพิจารณาก่อนได้ รวมทั้งขณะนี้ต้องรอสำนวนคดียังไม่สมบูรณ์เนื่องจากต้องรอผลชันสูตรศพรอบ 2 ส่วนกรณีที่แม่ของแตงโมไปขอถอนเรื่องตรวจสอบออกจากกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่สามารถดำเนินการได้ ส่วนทางตำรวจ ไม่ขอมีความเห็น เพราะประเด็นนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน