ปีนี้จัดยิ่งใหญ่ ‘มหกรรมยางพารา 64 นครฯ แห่งนวัตกรรมยางพารา’ 8-10 เม.ย.นี้ ที่นครศรีธรรมราช กระทรวงเกษตรฯ มั่นใจเพิ่มรายได้เกษตรกร เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ เชื่องานยางนครฯ บูมแน่นอน ขณะที่ผู้ว่าฯ การยางฯ ชี้ไทยปลูกยางอันดับ 1 ของโลก ผลักดันให้เป็นวาระของโลก ผู้ว่าฯ นครฯ ชูเป็นศูนย์กลางยางพารา ‘คาราบาวแดง’ ร่วมสนับสนุน เดินเคียงข้างเกษตรกร เปิดบูธแจกชิม เครื่องดื่ม สอยดาวแจกรางวัล เปิดฝาชิงโชค
ยางนครฯ – นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้ตรวจฯ กระทรวงเกษตรฯ, นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าฯ การยางแห่งประเทศไทย, นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช และนายกมลดิษฐ สมุทรโคจร ผู้บริหารคาราบาวกรุ๊ป ร่วมแถลงจัดงานมหกรรมยางพารา 2564 ‘นครฯ แห่งนวัตกรรมยางพารา’ ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. ที่สนามการยางแห่งประเทศไทยเขตภาคใต้ตอนกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ที่ห้องประชุมข่าวสด เมื่อ 30 มี.ค.
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ห้องประชุมอาคารข่าวสด ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กทม. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จังหวัดนครศรีธรรมราช และบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงจัดงานมหกรรมยางพารา 2564 “นครฯ แห่งนวัตกรรมยางพารา” วันที่ 8-10 เม.ย. ที่สนามการยางแห่งประเทศไทยเขตภาคใต้ตอนกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่ากระทรวงเกษตรฯ ทำงานบูรณาการร่วมกับการยางฯ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมหกรรมนี้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ อยากเห็นภาพรวมว่าประเทศไทยมีพื้นที่ทั้งหมด 323 ล้านไร่ และเป็นพื้นที่การเกษตร 149 ล้านไร่ แต่ที่สำคัญคือเรื่องยาง ซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ และเป็นอันดับ 1 ที่ผลิตได้อยู่ประมาณ 4.4 ล้านตัน ถือว่ามากที่สุดในโลก มูลค่าส่งออกในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมาก ประมาณแสนกว่าล้านบาท
ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่านโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ มี 5 ยุทธศาสตร์ เป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมในเรื่องการตลาดและการผลิต การนำเรื่องเทคโนโลยี 4.0 เข้ามาใช้ ซึ่งเทคโนโลยี 4.0 ตอนนี้ทุกหน่วยงานอยากจะได้เทคโนโลยีในสถานการณ์โควิดแบบนี้ ที่สำคัญคือ นำนโยบาย 3 เอสเข้ามาด้วย เรื่องเกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง เกษตรยั่งยืน ที่สำคัญคือขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินนโยบายตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือเรื่องการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม ที่จะไปช่วยในลักษณะแปรรูป และทำอย่างไรให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเข้มแข็ง มากขึ้น
นายวิชัยกล่าวอีกว่า จ.นครศรีธรรมราช มีอยู่กว่า 20 อำเภอ เกษตรกรส่วนใหญ่ทำสวนยาง และเหมือนเป็นวิถีชีวิต แต่สิ่งหนึ่งที่กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายใหม่เข้ามาคือ ศูนย์ อีอีซี เทคโนโลยีเพื่อการเกษตร ซึ่งมีทุกจังหวัด เช่น จ.นครศรีธรรมราช จุดเด่นคือเรื่องยาง และนำมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏ เข้ามาพัฒนาเทคโนโลยีเรื่องการแปรรูป เพื่อจะเพิ่มมูลค่าของยางไม่ให้ราคาต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม รัฐบาลมีนโยบายที่จะประกันรายได้ ซึ่งมีอยู่ระยะ 2 ระยะ 3 ถือว่าเป็นสิ่งดีให้กับชาวสวนยาง และแนวโน้มราคายางตอนนี้ดีขึ้นแน่นอน
“ผมเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช เรียนจบที่นั่น คนใต้ หรือคนนครฯ หนึ่งคือมีความมุ่งมั่นในการทํางาน มีความจริงใจมีความทุ่มเท และ จ.นครศรีธรรมราชเป็นเมืองพระอยู่แล้ว เรื่องยางไปเปิดตัวที่นั่นเป็นศูนย์กลางในปีนี้ เป็นจุดดี เป็นจุดขายที่จะทำให้ราคายางดีขึ้น แล้วทำให้เรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ตามนโยบายของนายกฯ และของรัฐบาล ผมว่าราคายาง เกษตรกรยังอยู่ได้แน่นอน มีแนวโน้มแต่จะเพิ่มขึ้น” ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ กล่าว
ส่วนนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางฯ กล่าวว่ามหกรรมยางพาราเป็นกิจกรรมที่มติชนสนับสนุนจัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ จ.บึงกาฬ จนกระทั่งปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดโอกาสให้จัดในพื้นที่อื่นบ้าง จัดที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นจุดศูนย์กลางการปลูกยาง เป็นศูนย์กลางน้ำยาง เหมาะที่สุดแล้วในการจัดงานมหกรรมยางพารา จ.นครศรีธรรมราช สำหรับแนวคิดงานครั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ที่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการจัดการเกี่ยวกับนวัตกรรมมากขึ้น จะเห็นจากในงานว่ามีการนำเสนอเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ของการดูแลจัดการในเรื่องของมาตรฐาน
“วันนี้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ กระทรวงเกษตรฯ ผลักดันให้ทำเรื่องสวนยางมาตรฐาน ซึ่งในงานจะจัดเป็นโชว์เคสแนะนำเรื่องการแสดง เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ไม่ใช่แค่ จ.นครศรี ธรรมราช แต่เป็นของทั้งประเทศไทย วันนี้ตำแหน่งคือประเทศปลูกยางอันดับ 1 ของโลก ต้องผลักดันเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นวาระของประเทศ แต่เป็นวาระของโลก” ผู้ว่าการการยางฯ กล่าว
ขณะที่นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าถ้าพูดถึงเรื่องศักยภาพ มองที่ปลายทาง 1.การแข่งขันกับต่างประเทศได้ 2. ใช้เศรษฐกิจพอเพียงได้ จะเห็นว่าศักยภาพตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 อย่าง เรื่องแรก คือ จ.นครศรีธรรมราช มีประชากร 1,500,000 คน 23 อำเภอ และ 1,600 กว่าหมู่บ้าน ในศักยภาพของตัวเองพึ่งพากันเองได้ภายในจังหวัดเป็นที่มั่น
ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า 2.ป็นศูนย์กลางคมนาคม วันนี้ทางรถไฟ ทางบก สายการบิน วันหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 7,000 คน ในช่วงนี้จะอยู่ที่ 1,800 หรือ 2,000 คน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมทั้งปี 180,000 ล้านบาท อันดับ 1 คือด้านการเกษตร 47,000 ล้านบาทต่อปี อันดับ 2 การค้าปลีก ปีละประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท 2 ตัวนี้ช่วยพยุงเศรษฐกิจพอเพียง และพร้อมที่จะแข่งขันกับนานาชาติ ไม่ใช่เมืองหลักท่องเที่ยว เป็นเมืองรอง แต่นักท่องเที่ยวในช่วงโควิดมา จ.นครศรีธรรมราช เป็นอันดับหนึ่งของภาคใต้ รายได้เป็นอันดับ 6
นายไกรศรกล่าวอีกว่าพื้นที่ จ.นครศรี ธรรมราช 6 ล้านกว่าไร่ ปลูกยางพารา 1,888,000 ไร่ เพิ่มแต่ละปีประมาณ 100,000 ไร่ ผลิตผลยางพารา 399,000 ตันต่อปี หรือ 400,000 ตัน เป็นเมืองที่ผลิตยางค่อนข้างมาก ทำทั้งน้ำยางสดที่ผลิตได้ 204,000 ตัน และยางก้อนถ้วยปีละ 120,000 ตัน ยางแผ่น 32,000 ตัน และยางแผ่นอบแห้ง หรือยางรมควัน 21,000 ตัน นี่คือศักยภาพ จ.นครศรีธรรมราช
ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าโรงงานทุกมิติรวมถึงด้านยางพารา มีโรงงานที่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพาราเฉพาะโรงที่จดทะเบียนด้วยทุนเกิน 100 ล้าน มีอยู่ 5 โรงงาน เป็นศูนย์กลางของยางพารา หลายๆ อย่างกำลัง ขับเคลื่อน ต่อยอดเรื่องยางพาราค่อนข้างมาก จะสังเกตว่าในด้านการพลังงานต่างๆ จ.นครศรีธรรมราชเป็นหมุดหมายในแผนเฉพาะที่ 13 ที่จะต้องพัฒนาเรื่องพลังงานต่างๆ และการปูพื้นเรื่องยางพาราเป็นศักยภาพที่ก้าวกระโดดสู่การแข่งขันกับนานาชาติด้วย
ส่วนนายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการผลิต บริษัท คาราบาวกรุ๊ปฯ กล่าวว่าในนามของผู้บริหารคาราบาวแดงขอขอบคุณงานวันยางที่ให้เกียรติเป็นผู้ร่วมสนับสนุน ไม่ใช่ปีแรก เป็นหน่วยงานที่จูงมือกับมติชนมาตลอด ในเรื่องของการจัดกิจกรรมงานวันยาง ขายเครื่องดื่มชูกำลัง และเกษตรกรกับเครื่องดื่มมาด้วยกัน
นายกมลดิษฐกล่าวว่าเราทำสิ่งที่ทำได้เพื่อมวลชนส่วนใหญ่ของประเทศ และเต็มที่ จะมีกิจกรรมที่จัดเป็นพิเศษ เช่น เปิดบูธแจกชิมเครื่องดื่ม สอยดาวแจกรางวัล และเปิดฝาชิงโชค คาราบาวแดงเป็นผู้สนับสนุน คล้ายกับว่าสร้างสีสัน งานหลักจะเป็นงานของผู้ทรงคุณวุฒิที่จะลงไปร่วมมือกับเกษตรกรทั้งหลายให้เป็นเรื่องก่อสร้างรายได้ และสร้างอาชีพ สนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ สร้างสีสัน ขอเชิญชวนไปเที่ยวงานเป็นหลัก ไปเยี่ยมชมไปหาความรู้ ฟังการบรรยายต่างๆ และมีเครื่องดื่มของเราให้บริการอยู่ตลอดงาน
