อ้างชายชื่อ‘กิ๊ก’แอบอัด เสียงจริงแต่แค่พูดเล่น ‘บิ๊กตู่’อุ้ม-ยังให้โอกาส ทำงานต่อแก้หวยแพง
เสกสกล ‘แรมโบ้’ ควง จุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาฯนายกฯ ขึ้นสน.ดุสิต แจ้งตำรวจเอาผิดชายชื่อ ‘กิ๊ก’ ระบุเป็นคนอัดเสียงคลิปฉาวนำมาเผยแพร่ในโซเชี่ยล ทำสังคมเข้าใจผิด สร้างความเสียหาย อ้างคลิปถูกตัดต่อ รับเป็นเสียงตัวเองจริง แต่ไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์โควตาสลาก เป็นเพียงหยอกล้อกันตามประสาคนรู้จักกัน 20 ปี ชอบหยอกล้อกันเล่นเรื่องยืมเงินตลอด ด้าน ‘บิ๊กตู่’ ยังให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ทำงานแก้หวยแพงต่อไป เตือนระวังคุยโทรศัพท์ ส่วนจุรีพรเผย ‘นายกิ๊ก’ ที่มากับผู้ติดตามเป็นคนอัดคลิป ‘สมชัย’ จี้กกต.สอบทั้งแรมโบ้-จุรีพร ส.ส.ก้าวไกลจี้ปลด ‘แรมโบ้’ พ้นเก้าอี้ผู้ช่วยรมต.-กก.แก้หวยแพง

จากกรณีทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม โพสต์คลิปเสียงผ่านเพจ เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าคล้ายเสียงของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา คุยกับนักการเมืองหญิงคนหนึ่งในพรรคเดียวกัน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดสรรผลประโยชน์ในโควตาสลากฯ ระบุว่า ช่วงการเลือกตั้งเคยได้รับเงินจากบุคคลปริศนา 15 ล้านบาท เพื่อใช้ในการหาเสียง แต่ตอนนี้บุคคลผู้นี้ถูกตำรวจตรวจสอบเกี่ยวกับโควตาสลากฯ จึงเกรงว่าบุคคลดังกล่าวจะอ้างชื่อ และทำให้การกวาดล้างกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับโควตาสลากฯ เสียหาย ต่อมานายเสกสกลออกมายอมรับว่าเป็นคลิปของตนเองจริง ที่คุยกับ นางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แบบเล่นกันเฉยๆ และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ดุสิต เพื่อเอาผิดผู้อัดคลิปและนำไปเผยแพร่ผ่านโซเชี่ยลมีเดียแล้วนั้น

แจ้งจับคลิป – ‘แรมโบ้’ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรมต.ประจำนายกฯ แจ้งความสน.ดุสิต เอาผิดชายชื่อ ‘กิ๊ก’ ระบุเป็นคนอัดคลิปเสียงสนทนา ปมโควตาลอตเตอรี่ กับนางจุรีพร สินธุไพร ทำให้เสียหาย แต่ยอมรับเป็นเสียงตัวเองจริง เมื่อวันที่ 4 เม.ย.

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่สน.ดุสิต นายเสกสกล พร้อมด้วย นางจุรีพร ได้เดินทางมาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมและแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอัดคลิปเสียงไปตัดต่อบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี จากนั้นทั้งคู่ได้ร่วมกันแถลงข่าว

นายเสกสกลกล่าวว่า มาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ตัดต่อคลิป และให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับคนที่อัดคลิปเสียงบิดเบือนข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ตนได้โทรศัพท์ติดต่อนางจุรีพรได้เล่าว่า มีเหล่าตัวแทนที่อยากได้โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อตนมา มารอพบบ้าง แต่ตนไม่อยากคุยกับใครเรื่องนี้ ไม่ให้ใครเข้าพบ ไม่อยากคุยเรื่องผลประโยชน์ใดๆ ไม่ต้องการเจรจาให้โควตาใคร ตนมีหน้าที่แก้ปัญหาเรื่องหวย 80 บาท ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แล้วตนก็เคยได้แจ้งกับ พล.ต.ท.ประจวบ วงษ์สุข และพล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร. ไว้แล้วว่า หากเจอตอที่ไหนให้จัดการให้หมด เพราะชาวบ้านได้รับผลกระทบ ตนจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องไปแสวงหาผลประโยชน์ และถ้าหากพบว่าใครนำชื่อไปแอบอ้างว่าตนให้โควตา ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“การพูดคุยกับนางจุรีพร ตามที่ปรากฏในโลกออนไลน์นั้น ผมรู้จักกับนางจุรีพร มานานร่วม 20 ปี ตั้งแต่สมัยเสื้อแดง มีการพูดคุยกันทุกเรื่อง หยอกล้อกันมาตลอดโดยเฉพาะเรื่องยืมเงิน และผมก็เป็นคนที่ชวน นางจุรีพรให้มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเหตุการณ์ในคลิปเสียง นางจุรีพรได้สอบถามผมเรื่องโควตาลอตเตอรี่ แต่ได้บอกไปว่าไม่มีอำนาจให้โควตาหวยใคร ต้องทำไปตามระบบ เพราะอำนาจดำเนินการเป็นของกองสลาก” นายเสกสกลกล่าว

นายเสกสกลได้กล่าวถึงกรณีที่คลิปเสียงว่า มีการตัดต่อหลายช่วง และตนก็อยากรู้ว่าบุคคลที่กระทำเช่นนี้มีวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งก็มองว่าอาจเป็นเกมการเมือง เพราะตนเป็นองครักษ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ไม่มีแม้เสื้อกันกระสุน สู้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน รวมถึงตนก็ได้แจ้งกับทางทนายษิทราแล้วว่า ให้นำข้อเท็จจริงเสนอออกมาทั้ง 2 ฝ่าย ล่าสุดก็ได้เห็นว่าทนายตั้มได้นำคลิปขอโทษของนางจุรีพรมาโพสต์ลงที่เพจเฟซบุ๊กแล้ว พร้อมยืนยันว่า ความจริงก็คือความจริง ประชาชนมั่นใจได้ เพราะนางจุรีพรได้ออกมาขอโทษแล้ว แสดงให้รู้ว่าตนไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใด หากใครสงสัยก็ไปสอบถามกับบิ๊กโจ๊กและบิ๊กจวบได้ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว

ส่วนกรณีการดำเนินคดีกับทนายษิทรานั้น นายเสกสกลระบุว่า จะขอไปตรวจสอบกับทุกคนที่เกี่ยวข้องก่อน ว่าตนได้รับความเสื่อมเสียอย่างไร จึงจะดำเนินคดีต่อไป ก็จะเน้นคนอัดคลิปเสียงมาลงโทษ ซึ่งตนได้มาแจ้งความดำเนินคดี “นายกิ๊ก” เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวมาสอบปากคำ และขอให้ตนได้ตัวคนอัดคลิปเสียงมาก่อน แล้วจะเปิดเผยคลิปเสียงตัวเต็มในภายหลัง ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ สภาผู้แทนราษฎร จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งตนและนางจุรีพรนั้น ตนพร้อมเข้ารับการสอบสวน ซึ่งตนต้องการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำบุคคลที่อัดคลิปเสียงในวันเกิดเหตุมาลงโทษให้ได้ รวมถึงคนที่ตัดต่อคลิปเสียงมาดำเนินการทางคดีด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีก็ได้กำชับกับตนในเรื่องของการโทรศัพท์ ให้ระมัดระวังการถูกบันทึกเสียง

ด้านนางจุรีพรกล่าวว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวัน และแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยในวันที่เกิดเหตุ ตนได้ไปรับประทานอาหารกับครอบครัว และคนติดตาม ซึ่งก็มีน้องอีกคนที่มากับผู้ติดตาม คือ นายกิ๊กที่มานั่งด้านข้างตน และนายเสกสกลก็ได้โทรศัพท์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์มาหาตน ซึ่งตนได้เปิดลำโพง เนื่องจากถือว่าเรื่องที่คุยไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด จึงไม่ได้สนใจ ก็พูดคุยเรื่องการขอโควตาลอตเตอรี่ ซึ่งนายเสกสกลได้ปฏิเสธ และบอกด้วยว่ามีคนมาติดต่อขอเข้าพบเยอะเรื่องการขอโควตา แต่ไม่ให้พบ และไม่มีอำนาจตรงนี้ รวมถึงนายเสกสกลได้พูดคุยหยอกเล่นเรื่องขอยืมเงิน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งเกิดเหตุถูกบันทึกเสียงและคลิปเสียงดังกล่าวก็ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ทำให้ตนได้รับผลกระทบและนายเสกสกลก็เสียหายไปด้วย

“วันนั้นที่คุยโทรศัพท์กัน ที่ดิฉันพูดว่าถ้ามีโควตาแบ่งให้ด้วยนั้น เป็นการพูดเล่น หยอกล้อเล่น ไม่ได้ขอจริงจัง เพราะถ้าจะขอโควตาจริงๆ ต้องขอตามระบบที่กองสลาก กำหนด และยืนยันว่าไม่ได้สนิทกับนายกิ๊ก และพอหลังเกิดเหตุ ได้ติดต่อนายกิ๊กกลับไป ซึ่งตอนแรกเก็รับสาย แต่พอโทร.ไปอีกครั้งไม่รับสายแล้ว และที่มาดำเนินคดีกับนายกิ๊กนั้น เพราะคุณแรมโบ้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากคุณแรมโบ้เป็นคนสนิทท่านนายกรัฐมนตรี” นางจุรีพรกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการอัดคลิปเสียงดังกล่าว เป็นการกระทำเพื่อมุ่งหวังทางการเมือง ต้องการดิสเครดิตหรือไม่ นางจุรีพรกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องการดิสเครดิตทางการเมือง แต่คิดว่าคนที่กระทำ น่าจะต้องการอัดเสียงเพื่อนำไปกล่าวอ้างเอาผลประโยชน์ เพื่อบอกกล่าวกับคนอื่นเรื่องโควตาลอตเตอรี่มากกว่า ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าตนพร้อมรับการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการ

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กมธ.จะตรวจสอบประเด็นในเรื่องนี้ว่า ต้องรอความชัดเจนจากที่ประชุมกมธ. ซึ่งนัดประชุมวันที่ 7 เม.ย. ว่าจะมีกมธ. คนใดที่เสนอเรื่องเข้ามาหรือไม่ หรือมีบุคคลใดยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบหรือไม่ หากมีต้องพิจารณาและลงมติว่าจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบหรือไม่

“ผมมองว่าประเด็นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องจัดการ ไม่ปลด ก็ต้องพักงาน และตรวจสอบโดยด่วน เพราะถือว่าเป็นคนทำงานให้กับรัฐบาล หากนายกฯ ไม่จัดการอาจถูกมองได้ว่ามีส่วนรู้เห็น หรือใช้คนของตัวเองทำงานให้ตัวเองได้ประโยชน์หรือไม่ และประเด็นที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อภาพลักษณ์การเมือง ที่นายกฯ เคยระบุไว้เสมอว่าต้องการปฏิรูปการเมือง” นายธีรัจชัยกล่าว

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “หากมีเสียงนักการเมืองท่านหนึ่ง บอกว่าไปเอาเงินจากแหล่งธุรกิจหวยออนไลน์ 15 ล้านบาท มาใช้ในการเลือกตั้ง และคู่สนทนาก็บอกว่าใช่ เพราะอยู่ด้วยในเหตุการณ์ ทั้งสองเป็นนักการเมืองที่มีตำแหน่งหน้าที่ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน และยอมรับว่าพูดคุยกันจริง แต่เป็นการพูดเล่นหยอกล้อกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม ควรต้องใส่ใจขอข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยเรียกนักการเมืองทั้งสองมาให้การชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น มีการใช้เงินจำนวนดังกล่าวจริงหรือไม่ กกต.คงได้ยินนะครับ”

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ได้เรียกนายเสกสกลมาสอบถามแล้ว โดยเจ้าตัวยอมรับว่าถ้าผิดกฎหมายก็ยอมรับทุกอย่าง และชี้แจงเรื่องการจัดสรรสลาก ที่พูดในคลิป โดยนายเสกสกลได้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการที่เขาทำและพฤติกรรมที่ผ่านมาในอดีต ขอให้ดูสิ่งที่เขาทำในวันนี้ และตนก็ให้โอกาสเขา ดังนั้นเรื่องเก่ากับเรื่องใหม่อย่าเพิ่งเอามาปนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวคนทำงานหรือไม่ เพราะขณะนี้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาสลากแพง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ใครที่ไม่เชื่อมั่น ก็ฟังทั้ง 2 ทางสิ ในเรื่องการบริหารและถ้าผิดกฎหมายไม่เอาใครไว้ทั้งนั้นแหละ” เมื่อถามว่าจะกลายเป็นเรื่องที่นำสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าจะไปขยายกันแค่ไหน ถ้าจะอภิปรายก็อภิปรายไป ตนชี้แจงได้ ขอให้ฟังก็แล้วกัน

เมื่อถามว่าประชาชนจะมั่นใจได้หรือไม่ว่านายเสกสกลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดสรรโควตาสลาก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ให้เขาพิสูจน์ตัวออกมาสิ ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพราะมันทำงานร่วมกันอยู่ ถ้าใครไม่ดี ตรงนั้นก็ต้องลงโทษ หาวิธีการปรับเปลี่ยนอะไรก็ว่ากันไป งานใหญ่อย่าทำให้เสียหายเท่านั้นเอง มันเป็นคนหนึ่งในคณะทำงานก็มีความตั้งใจ”

เมื่อถามว่าพอใจกับการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากแพงหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ยังไม่เสร็จ จะพอใจได้อย่างไร รอให้เสร็จก่อน ตนวาดหวังไว้เช่นนั้น เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นแก้มานานแล้ว ไปแก้ในหลายจุด ทั้งในส่วนของกองสลากด้วย แต่ยังแก้ไม่ได้สักที ก็ต้องไปดูว่าขั้นตอนที่ต่อจากกองสลากแล้วไปที่ไหนบ้าง ไปอย่างไร ไปถูกต้องหรือไม่ วันนี้ก็ปัญหากลับมาอีกว่า บางครั้งเป็นเรื่องของกลไกทางการตลาดก็ต้องถามว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แล้วจะแก้ปัญหาที่ทุกคนต้องการให้ราคาสลากที่ใบละ 80 บาท ทำได้กันหรือไม่ ก็ต้องดูอีกในหลายมิติ เมื่อถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมกล่าว “โอ๊ะไม่เอาๆ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน