สรุปยอด31คน ลงชิงผู้ว่ากทม.
‘ตู่’ ไม่หวั่นศึกซักฟอก ยันพร้อมแจงทุกเรื่อง สั่งทัพเรือเร่งเจรจาซื้อเรือดำน้ำจีนให้สำเร็จ หลังเยอรมันไม่ยอมขายเครื่องยนต์เรือให้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาวิธี แบะท่าอาจต้องทำสัญญาใหม่ ‘อนุทิน’ ชี้นายกฯ ลงพื้นที่ไม่แปลก ยินดี พปชร.ตั้งเป้ากวาด 150 ส.ส.หลังเลือกตั้ง ครั้งหน้า ยันมีบทเรียน ไม่ประกาศจับมือพรรคไหนก่อนรู้ผลเลือกตั้ง ก้าวไกลเย้ย พปชร.ตั้งเป้ากวาดส.ส. ทั้งที่ไร้ผลงาน เพื่อไทยฉะ ‘ป้อม’ ลงพื้นที่แฝงจัดตั้งเครือข่าย หว่านงบสร้างคะแนนนิยม กกต.กทม.แถลงปิดยอดผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. 31 คน สมัคร ส.ก. 382 คน นายกพัทยา 4 คน ‘อ.ชาญวิทย์’ อดีตอธิการบดี มธ. ร้องผบ.ตร. ถูก 4 ชายฉกรรจ์คุกคามถึงคอนโดฯ ที่พัก

อนุทินชี้ตู่ลงพื้นที่ไม่แปลก
วันที่ 4 ม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ต่อเนื่อง จนถูกมองเป็นการหาคะแนนนิยม ว่า เวลา ไม่ลงก็ว่าไม่ลงพื้นที่ แต่เวลาลงจะไปว่าทำไม และนายกฯ พูดชัดเจนว่าสนใจทำการเมืองต่อไปใช่หรือไม่ เหมือนที่ให้สัมภาษณ์ว่าหากไม่ไหวก็เลิก ฉะนั้นไม่แปลกอะไร ตนก็ลงพื้นที่ ช่วงนี้วันเสาร์-อาทิตย์ต้องลงพื้นที่ให้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั่วประเทศ จึงมองว่าเป็นเรื่องปกติ และดีที่จะลงพื้นที่ไปสร้างความ คุ้นเคย หาเสียงหาคะแนนอะไรก็แล้วแต่ก็เป็นอย่างนั้น มีใครไม่ลงพื้นที่บ้าง

เมื่อถามว่าปลายรัฐบาลจะลงพื้นที่ถี่ขึ้นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ใช่ แต่ตนลงตลอด ไม่ว่าต้นหรือปลาย เพราะภท. คิดเสมอว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงไม่เคยห่างพื้นที่

ยินดีพปชร.ตั้งเป้า 150 ส.ส.
เมื่อถามกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งกก.บห.พรรคใหม่ และประกาศจะกวาดส.ส. 150 ที่นั่ง นายอนุทินกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า เมื่อถามว่า ในอนาคตจะยังร่วมงานกับ พปชร.ได้เหมือนเดิมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกวันนี้ก็ร่วมมืออยู่แล้ว ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร เรื่องไหนที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองทุกพรรคให้ความร่วมมือหมด ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลยึดแบบนี้ทำงานง่าย อยู่ตรงไหนก็ได้

เมื่อถามว่า ภท.ฝากเลี้ยงส.ส.ไว้ที่พปชร. หลายคนหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี เรามีเท่าที่มีอยู่ อนาคตเป็นเรื่องของอนาคต เกิดรัฐบาลอยู่ครอบเทอมไม่มียุบสภา จะได้ไม่ต้องมาถามเรื่องฝากเลี้ยง ที่ต้องใช้เวลาเข้าสังกัดเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง เพราะไม่มีส.ส.คนไหนคิดจะลาออกเพื่อย้ายพรรคหรอก

เมื่อถามว่า จะประกาศจับมือเป็นพรรคร่วมก่อนเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ภท.เป็นพรรคที่ไม่เชื่อเรื่องการจับมือก่อน เพราะเราเคยได้บทเรียนจากการทำเช่นนั้นมาแล้ว เลือกตั้งเสร็จมีความผิดพลาดก็ไม่มีความหมาย ฉะนั้นต้องอยู่บนความเป็นจริง จะคิดจะอ่านอะไรเมื่อคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งออกมาแล้ว ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่จะจับหรือไม่จับ แต่ใครไม่เคยโดนสภาพนี้ไม่รู้ เรามีบทเรียนมาก่อน อยู่ด้วยตัวเองทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องไปจับอะไรกับใคร ทำตัวให้ดีที่สุดเดี๋ยวก็มีคนมาชวนเราเอง

ชัยวุฒิมั่นใจเป้า150ที่นั่ง
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่ของ พปชร. ปรับเพิ่ม กก.บห.พรรค ว่า ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก หัวหน้าพรรคยังคงเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นเลขาธิการพรรค มีนักการเมืองที่มีประสบการณ์มาช่วยทำให้ พปชร.ทำงานได้ดีขึ้น ส่วน กก.บห.พรรคจะมาช่วยเสริมทีมทำให้การประสานงานต่างๆ ดีขึ้น

ส่วนที่เลขาฯ พรรคประกาศจะได้ส.ส. 150 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายชัยวุฒิกล่าวว่า พรรคประกาศตัวเลขนี้มานานแล้ว เป็นเป้าหมายของ พปชร. พล.อ.ประวิตรก็พูดมาก่อนแล้วว่าหากจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ต้องได้ 150 เสียง เมื่อถามว่าอะไรทำให้ พปชร.มั่นใจว่าจะได้ 150 เสียง นายชัยวุฒิกล่าวว่า ประเมินจากพื้นที่และส.ส.เขตที่มีอยู่เดิม รวมถึงผู้สมัครส.ส.หน้าใหม่ ที่จะเข้ามา

ดึง 2 บิ๊ก-อย่ามองเป็นพรรคทหาร
ส่วน 2 อดีตนายทหารคนสนิทของพล.อ.ประวิตร ที่มาเป็น กก.บห.พรรค จะเข้ามาช่วยทำงานเสริมด้านใดนั้น นายชัยวุฒิกล่าวว่า ทั้ง 2 คน เป็นทีมงานที่ช่วยงานพล.อ.ประวิตร อยู่แล้ว มีความคุ้นเคยกันดี เมื่อเข้ามาทำงานในพรรคก็จะช่วยประสานงานเรื่องต่างๆ ให้ราบรื่นและชัดเจนขึ้น ขณะที่พล.อ.ประวิตร จะทำงานได้เต็มที่มากขึ้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เมื่อถามว่าจะทำให้ พปชร.ถูกมองเป็นพรรคทหาร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พปชร.มีสมาชิกหลากหลายอาชีพ ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจและประชาชน ในต่างจังหวัดมีหลายคนเป็นเกษตรกร ไม่อยากให้มองว่าเป็นทหาร

ก้าวไกลหยันเป้า 150 ส.ส.
นายรังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณี พปชร. ประกาศจะกวาดส.ส. 150 ที่นั่งว่า ไม่ทราบว่า พปชร.จะชนะเลือกตั้งจากอะไร เพราะหากอยู่กับความเป็นจริงและมองสถานการณ์รอบตัว มีทั้งปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤตโรคระบาด รัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม จึงไม่เชื่อว่า พปชร.จะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งจากการมีผลงานของตัวเอง แต่จะชนะจากการใช้วิชามารหรือเทคนิคบางอย่าง

เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่หลายจังหวัด จะถูกมองว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียงให้ตัวเองหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า มองเป็น 3 ประเด็น คือ 1.เป็นการสิ้นเปลืองเงินที่ใช้ให้คนไป แบกหาม และเตรียมแพทย์พยาบาลให้ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นคนสูงอายุ 2.มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เงินจากภาษีประชาชน ซึ่ง ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นครั้งแรก ครั้งการจัดงาน ของมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ยังให้ เจ้าหน้าที่รัฐและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพใน การเดินทาง ถ้าอยากหาเสียงล่วงหน้าก็ ม่ควรใช้ทรัพยากรของรัฐ และ 3.ถ้าอยากให้ พปชร.ดีกว่านี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ควรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป เพราะไม่มีผลงานที่ประชาชนจดจำได้ ไม่มียิ่งกว่า พล.อ.ประยุทธ์เสียอีก

พท.อัดป้อมใช้อำนาจแฝง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พปชร.ประกาศจะกวาดส.ส. 150 ที่นั่งว่า เราคงไม่ประเมินว่าเขาจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะใครๆ ก็ประกาศเป้าหมายได้ เราไม่ได้สนใจการประกาศจำนวนเก้าอี้ ที่ตั้งเป้า แต่สนใจวิธีการทำงานในพื้นที่ มีการวางเครือข่าย ใช้อำนาจหรือไม่อย่างไร

เมื่อถามว่ามองการลงพื้นที่ของพล.อ. ประวิตร ทัวร์ภาคเหนืออยู่ขณะนี้อย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นการลงพื้นที่โดยใช้ตำแหน่งรองนายกฯ ไปตรวจราชการ แต่แฝงการจัดตั้งเครือข่าย แกนนำและประกาศ ตัวผู้สมัคร อาศัยการทำหน้าที่ในตำแหน่ง รองนายกฯ ลงไปทำภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพรรคในฐานะหัวหน้าพรรค แม้จะบอกว่าไปนอกเวลาราชการก็ตาม มีการเอางาน เอา งบฯ ไปลงพื้นที่ เช่น ที่ จ.น่าน มีการพูดกับประชาชนในพื้นที่เรื่องการสร้างถนน สร้างสะพานต่างๆ ใช้โครงการเหล่านี้สร้างความนิยม ทั้งที่โครงการเหล่านี้มีแผนงานตามปีงบประมาณว่าจะทำอยู่แล้ว ดังนั้นการทำการเมือง อยากให้ทุกคนเคารพประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง การโน้มน้าวชักจูงด้วยวิธีการที่มิชอบควรหลีกเลี่ยง ควรทำการเมืองให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกคน

ป้อมทัวร์เหนือ 3 จว.
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พร้อมคณะ อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และพิจิตร ตรวจราชการและติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ผาเวียง-ปากนาย จ.อุตรดิตถ์ ที่รัฐบาลเร่งให้ศึกษาวางแผนเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจชายแดนไทย-ลาว ด่านภูดู่ และด่านห้วยโก๋น ความยาว 3.4 ก.ม. ซึ่ง พล.อ.ประวิตรเร่งให้ศึกษาออกแบบและขออนุมัติก่อสร้างให้ได้ในปีงบประมาณ 2569 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าและเครือข่ายทางหลวง จ.น่าน อุตรดิตถ์ และ สปป.ลาว

จากนั้น มอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจริม จ.อุตรดิตถ์ และติดตามการบริหารจัดการน้ำ โครงการพัฒนาบึงสีไฟ ต.ท่าหลวง จ.พิจิตร

ตู่สั่งทร.เดินหน้าซื้อเรือดำน้ำจีน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีกองทัพเรือและจีนหารือเพื่อหาทางออก หลังเยอรมันไม่ขายเครื่องยนต์ใส่เรือดำน้ำที่ไทยสั่งซื้อจากจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อเรือ ว่า ให้นโยบายไปแล้วว่าให้ดำเนินการให้สำเร็จเพราะอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว แต่หากไม่ได้ก็คือไม่ได้ ต้องทำใหม่

เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาเกรงว่าจะถูกหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อะไรก็ตนโดนอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัว ฉะนั้นกรุณาสนใจในสารัตถะหรือสาระที่หน่วยงานชี้แจงกันบ้าง กองทัพเรือได้ชี้แจงหลายรอบแล้วตนก็ดูและฟังการชี้แจงอยู่ ถ้าไม่ได้จะเอามาทำไม มันไม่มีเครื่อง แล้วไปพูดว่ารัฐบาลจะซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องจะซื้อมาทำไม ในเมื่อสัญญาเซ็นไว้แล้วทำไม่ได้ ต้องหาวิธีการจะทำอย่างไรต่อไป ทุกอย่างต้องแก้อย่างนี้ไม่ใช่หรือ

ไม่หวั่นฝ่ายค้านซักฟอก
เมื่อถามว่าระดับรัฐบาลสามารถยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณาตามกฎหมาย ขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมีอยู่แล้ว ไม่ใช่นายกฯ ต้องสั่งทุกเรื่อง เมื่อถามว่าจะกระทบความสัมพันธ์หรือไม่ถ้ายกเลิกจัดซื้อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่กระทบเพราะได้หารือกันมาตลอด ถ้าเครื่องยนต์นี้ไม่ได้หาเครื่องยนต์ใหม่ยอมรับได้มั้ยก็ยังไม่รู้ ก็ไป หามา ไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญาแล้วจัดหาใหม่ ทำนองนี้”

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าศึกซักฟอกจะชี้แจงได้ทุกเรื่องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนก็ชี้แจงทุกเรื่องด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องลงไปรับผิดชอบ เพราะมีขั้นตอนการดำเนินการต่อเนื่องมาจากระดับนโยบาย ให้รู้ว่านายกฯ อยู่ระดับไหนก็แล้วกัน ถ้านายกฯ ต้องลงไปละเอียดจนถึงระดับล่างเลยถูกต้องหรือไม่ และวันนี้ตนรับผิดชอบมากมายแค่ไหน มากกว่าเดิมตั้งเยอะแยะ อย่าให้พันกันไปมาเลย ไม่เช่นนั้นประเทศมันเดินไม่ได้

กมธ.ฝ่ายค้านแก้4คุณสมบัติตั้งพรรค
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. รองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงการนัดประชุมกมธ. 7 เม.ย. เพื่อร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2 ประเด็น คือ การกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรค และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคที่เรียกเก็บจากสมาชิกพรรค ว่า การหารือของกมธ.ซีกฝ่ายค้านมีประเด็นที่จะสนับสนุนการลดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค จากเดิม รายปี 100 บาท เป็น 20 บาท และตลอดชีพ 2,000 บาท เป็น 200 บาท และจะเสนอที่ประชุมพิจารณาก่อนลงมติ คือ ข้อกำหนดว่าด้วยการเก็บค่าธรรมเนียมฯ ควรบัญญัติไว้ในข้อบังคับพรรค แทนการกำหนดไว้ในร่างพ.ร.บ.หรือไม่

ส่วนการกำหนดคุณสมบัติจัดตั้งพรรค ฝ่ายค้านเสนอเพิ่มเติม 4 ประเด็น 1.ลดจำนวนผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรค เดิม 500 คน เป็น 100 คน 2.ยกเลิกทุนประเดิมพรรค ที่พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนด 1 ล้านบาท 3.ลดอายุผู้ร่วมจัดตั้งพรรค จาก 20 ปี เป็น 18 ปี 4.ผ่อนปรนคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ให้ใช้ข้อห้ามตามมาตรา 96 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แทนมาตรา 98 ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ลงสมัคร ส.ส. (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (14) (16) (17) หรือ (18)

เปิดกว้างคนถูกตัดสิทธิ์สมัคร
ประเด็นลดจำนวนผู้ร่วมจัดตั้งพรรคและยกเลิกทุนประเดิม มีรายละเอียดที่กมธ.เห็นต่างและมองว่าอาจเกินหลักการ เนื่องจากร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองที่เสนอโดย ครม. ไม่ได้เสนอหลักการนี้ แต่ตนเห็นว่าร่างฉบับที่นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พปชร. เสนอมีหลักการที่กว้างและสามารถพิจารณาครอบคลุมได้

ประเด็นลดอายุผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และการผ่อนคุณสมบัติผู้ร่วมจัดตั้งพรรค ในหลักการ กมธ.ซีกฝ่ายค้านเห็นด้วย แต่มีประเด็นที่ต้องหารือในรายละเอียด โดยเฉพาะการ ลดคุณสมบัติที่เสนอให้ยกมาตรา 98 ออก มีกมธ.เห็นว่าควรคงสาระบางประเด็นไว้ เช่น ข้อห้าม ส.ว. หรือเคยเป็น ส.ว.ซึ่งสมาชิกภาพสิ้นสุดไม่ถึง 2 ปี, ผู้เคยต้องคำพิพากษา ถึงที่สุดว่าทำผิดต่อหน้าที่ราชการ หรือตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ทำผิดกฎหมายว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน, ยาเสพติด, การพนัน, ค้ามนุษย์, ฟอกเงิน เป็นต้น ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ประชุมต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

ส่วนการตัดลักษณะต้องห้ามให้ผู้ถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งชั่วคราว หรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้จัดตั้งพรรคได้นั้น นายธีรัจชัยกล่าวว่า ต้องให้ที่ประชุมพิจารณารายละเอียด ส่วนที่ กมธ.บางฝ่ายกังวลว่าจะเปิดช่องให้ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เช่น แกนนำเสื้อแดง, กปปส. รวมถึงแกนนำพรรคอนาคตใหม่นั้น หลักการเรื่องดังกล่าวควรเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมทางการเมือง

สมัครชิงผู้ว่าฯกทม. 31 คน
ที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. เขตดินแดง นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกทม. ผอ.การเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกทม. แจ้งผลรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก.

นายขจิตกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 5 วันสุดท้ายของการรับสมัคร มีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพิ่ม 2 คน ทำให้มียอดรวม ผู้สมัครทั้งสิ้น 31 คน เป็นชาย 25 คน หญิง 6 คน โดยผู้สมัครที่มีอายุมากที่สุดคือ นายวิทยา จังกอบพัฒนา อายุ 75 ปี ผู้สมัครอายุน้อยที่สุดคือ หมายเลข 16 น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ อายุ 43 ปี โดยจำนวนผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้มากกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2556 ที่มี 25 คน ส่วนการรับสมัครรับเลือกตั้งส.ก. มีผู้สมัครส.ก. 50 เขต รวม 382 คน

หลังจากเสร็จสิ้นการรับสมัครรับเลือกตั้งจะตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร และประกาศรายชื่อผู้สมัคร ณ สถานที่เลือกตั้ง ภายใน 7 วัน ภายในวันที่ 11 เม.ย.นี้ จากนั้นจะประกาศกำหนดหน่วยเลือกตั้ง/ที่เลือกตั้ง และประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลือกตั้งวันที่ 26 เม.ย. โดยส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้านภายใน 6 พ.ค. หากมีการเพิ่มชื่อ/ถอนชื่อ ต้องดำเนินการภายในวันที่ 11 พ.ค. สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งมี 4,374,131 คน (ข้อมูลถึงวันที่ 22 พ.ค.65) จำนวนหน่วยเลือกตั้ง 6,817 หน่วย

นายกพัทยาแข่งกัน 4 คน
ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา บรรยากาศรับสมัครนายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาเมืองพัทยา (สม.) วันสุดท้าย มีผู้สมัคร สม. 1 ราย ส่วนนายกเมืองพัทยาไม่มีสมัครเพิ่ม ทำให้มีผู้สมัครเพียง 4 คน คือ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ จากกลุ่มเรารักพัทยา หมายเลข 1 นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ อดีตนายอำเภอบางละมุงและรองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 2 นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย คณะก้าวหน้า หมายเลข 3 และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร กลุ่มพัทยาร่วมใจ หมายเลข 4

ชัชชาติแก้ไฟสองสว่าง-ซีซีทีวี
ส่วนความเคลื่อนไหวการหาเสียงของ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงเขตบางนา แวะสักการะพระที่วัดบางนาในและวัดบางนานอก ตรวจดูคลองระบายน้ำข้างวัดที่มีน้ำเสีย พร้อมขอความร่วมมือทั้งประชาชน ภาครัฐ เอกชน อย่าปล่อยน้ำเสียและทิ้งขยะลงคลอง

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของคนกทม. เรื่องไฟฟ้าส่องสว่าง เสียซ้ำซาก ต้องเก็บข้อมูลว่ามีที่ไหนบ้างที่ไฟดับ ไม่มีกล้อง ซีซีทีวี จุดไหนเกิดอาชญากรรมซ้ำซากหรือมีอุบัติเหตุบ่อย เรื่องพวกนี้ใช้งบไม่เยอะ กทม.ต้องเป็นเจ้าภาพที่เข้มแข็ง ผู้ว่าฯ ทำงานแต่กลางวันเลยไม่รู้ว่าจุดไหนคือจุดเสี่ยง ทั้งที่กลางคืนเป็นช่วงเศรษฐกิจสำคัญ ต้องเป็น ผู้ว่าฯ เที่ยงคืนด้วย การขอภาพกล้องวงจรที่ทำได้ยากนั้น ต่อไปอาจขอแบบออนไลน์ได้เลย เพื่อให้ประชาชนขอข้อมูลได้เร็วขึ้น

ดร.เอ้ยันงานแรกสู้โควิด
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หมายเลข 4 พร้อมนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ลงหาเสียงที่ซอยอารีย์ ช่วงหนึ่งนายสุชัชวีร์ เห็นป้ายหาเสียงของ ตัวเองตั้งกีดขวางทางเข้าออก จึงให้เจ้าหน้าที่เอาออกทันทีพร้อมระบุว่า ให้ระมัดระวังการติดป้ายอย่ากีดขวางทางเดิน และทางข้ามถนน กำชับผู้ที่รับผิดชอบติดป้ายให้ระมัดระวังแล้ว กลยุทธ์สำคัญคือต้องขยัน ทำให้ประชาชนมั่นใจว่าสิ่งที่เราพูดทำได้จริง ต้องมั่นใจว่า กทม.ต้องเปลี่ยนเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัยต้นแบบของอาเซียนให้ได้

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ พ่อค้าแม่ค้าพูดเหมือนกันหมดว่ากทม.มันเฉาเพราะเศรษฐกิจยุคโควิด จึงตั้งใจว่าหากได้เป็นผู้ว่าฯ งานแรกคือต้องลงไปสู้กับโควิดแบบถึงลูกถึงคน เพราะถ้าโควิดยังแย่อยู่อะไรก็แย่หมด หากแก้ปัญหาโควิดได้ 1 เรื่อง จะได้ตามมาอีก 4 เรื่อง คือ เศรษฐกิจดีขึ้น นักท่องเที่ยวกลับมา หมอ อาสาสมัคร ได้กลับไปช่วยประชาชน กทม.ได้เก็บงบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาช่วยงานอื่นๆ

อัศวินชี้เสียงตอบรับดีเกินคาด
ที่อาคารรักษ์กรุงเทพ เขตบางพลัด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 6 ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลของ ม.ธรรมศาสตร์ พบมีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 4 ว่า ไม่กังวลใจอะไร เพราะเท่าที่ทราบธรรมศาสตร์ทำโพลมาสามครั้ง ครั้งแรกได้ 5% กว่า ครั้งสองก็ 5% กว่า ตอนยังไม่ได้ประกาศตัว ส่วนครั้งที่สามได้ 11% กว่า ตนเปิดตัวช้ากว่าคนอื่น การหาเสียงเพิ่งจะเริ่มต้น ยังมั่นใจทุกเรื่องที่เคยได้แก้ปัญหา

เมื่อถามว่าลงพื้นที่หาเสียงครบ 7 วันแล้วเสียงตอบรับเป็นอย่างไร พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ตั้งแต่วันรับสมัครเป็นต้นมา ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยชาวชุมชนได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมสนับสนุนให้เป็นผู้ว่าฯ ต่อ ทำให้ฮึกเหิมขึ้น และอีก 48 วันที่เหลือยิ่งมั่นใจเพราะได้ทำการบ้านตลอด จะเดินหน้าพบปะประชาชนให้ทั่วทุกพื้นที่จนกว่าจะถึงวันเข้าคูหา

ถูกคุกคาม – นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นร้องพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้สอบสวนกรณีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน ขับรถสะกดรอยและตามคุกคามถึงห้องพัก เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ชาญวิทย์ยื่นผบ.ตร.ถูกคุกคาม
วันที่ 4 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ พร้อม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กรณี 22 มี.ค. หลังบ่ายโมง มีชาย 4 คนแต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ ใช้รถปิกอัพส่วนบุคคลปิดบังเลขทะเบียน ไปที่อาคารปิ่นเกล้าคอนโดฯ ซอยชัยพฤกษ์ 9 ถ.บรมราชชนนี แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. ที่พักของนายชาญวิทย์

อ้างเป็นตำรวจโดยไม่บอกสังกัด แจ้งเจ้าหน้าที่คอนโดฯ มาหานายชาญวิทย์กรณีสนับสนุนการชุมนุมของเยาวชน เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่อยู่ก็ให้พาขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพัก ตรวจสอบแล้วได้ถ่ายภาพหน้าห้องพักก่อนกลับ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดินหลายบทกฎหมาย ข่มขู่คุกคามและเป็นความผิดต่อเสรีภาพ หากเป็นตำรวจก็ผิดฐานเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ขอให้ ผบ.ตร.สั่งการให้ตรวจสอบทันที หากพบทําผิดอาญาให้สั่งการให้ดำเนินคดีโดยรวดเร็วทันที

นายชาญวิทย์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของตนคนเดียวแต่ต้องการปกป้องคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่ให้ถูกกระทำแบบเดียวกัน และเรียกร้องไปยังนายกฯ ในฐานะกำกับดูแล ตร.

ทนายกฤษฎางค์กล่าวว่า การข่มขู่คุกคามประชาชน บุกรุกเคหสถานเวลากลางวัน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐถือว่า ผิดตามมาตรา 157 หลังยื่นหนังสือแล้วจะโพสต์หนังสือลงในโซเชี่ยล หลักฐานอื่นๆ มีภาพวงจรปิดของคอนโดฯ และพยานบุคคลให้การยืนยันได้ชัดเจน

ทั้งนี้ มีลูกศิษย์และมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจด้วย อาทิ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ นำภาพวาดและข้อความให้กำลังใจ รวมทั้ง ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้ง นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล นายธีรัจชัย พันธุมาศ และน.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน