‘กระติก’รับสารภาพ พูดเท็จ! ประเด็นดื่มไวน์3ขวด

โต้ลั่นไม่เคยบอก‘โม’ฉี่ท้ายเรือ มีแต่‘แซน’ที่ให้การระบุเช่นนั้น แจ้งข้อหาครบ5-แก๊งสปีดโบ๊ต ‘กุนซือ’โดนแน่-ฐานยุยงทำผิด
แจ้งข้อหาครบทั้ง 5 คน แก๊งสปีดโบ๊ต ‘แซน’ โดนประมาททำแตงโมตาย ‘กระติก’ถูกหิ้วส่งศาลรายแรกทันทีหลังสารภาพให้การเท็จ ‘จ๊อบ’ก็มาพบตร.ตามหมาย รอง ผบช.ภาค 1 ยันไม่เกิน 1-2 วัน หมายจับกุนซือวางแผนก๊วนสปีดโบ๊ตให้การเท็จ หากมามอบตัวก่อนจะสรุปปิดคดีได้ไม่เกิน 24 เม.ย.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 เม.ย. พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภาค 1 แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต ‘แตงโม’ นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่สภ.เมืองนนทบุรี หลังแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ 5 คน บนเรือสปีดโบ๊ต ว่า หลังจากนำผลชันสูตรรอบ 2 มาประกอบสรุปสำนวนคดี และได้การแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ 5 บุคคล คือ

1.นายตนุภัทร หรือ ปอ เลิศทวีวิทย์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญามาตรา 291, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่ได้รับใบประกาศนียบัตร, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ และเเจ้งความเท็จ ตาม ป.อาญามาตรา 172

2.นายไพบูลย์ หรือ โรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญามาตรา 291, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่ได้รับใบประกาศนียบัตร, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ และพ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ

3.นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ ถูกดำเนินคดี ตามหมายจับ ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญามาตรา 291

4.นายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ กีรติสุทธิสาทร เดินทางเข้ารับทราบข้อหา ตามหมายเรียก ในข้อหาช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา ตามป.อาญามาตรา 184 หรือ ทำลายหลักฐาน, พ.ร.บ.เดินเรือ ม.119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ

5.น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติกเพื่อนสนิทแตงโม และเป็นผู้จัดการส่วนตัว ข้อหาให้การเท็จตาม ป.อาญามาตรา 172

พล.ต.ต.อุดรกล่าวว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับคนที่เป็นกุนซือแน่นอน 1 คน ภายใน 1-2 วันนี้ ในข้อหาให้การเท็จตาม ป.อาญา ม.172, 84 ยุยงส่งเสริมให้กระทำความผิด, 184 ทำลายหลักฐาน, มีความเกี่ยวข้องคอยให้ความแนะนำกับ 5 บุคคลบนเรือ แต่ขอยืนยันว่า ไม่ใช่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

ส่วนเรื่องที่ว่า นายษิทราไปออกรายการโหนกระแส ว่า ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ขอให้นายษิทราให้การยืนยันว่า นายตนุภัทรและนายไพบูลย์ให้การไม่มีพิรุธนั้น จากการสอบถามผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ทราบว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นการคุยเรื่องธรรมดาเท่านั้น นายษิทราจะมโนหรือคิดยังไง คำให้การโดยมีการเซ็นชื่อรับรองไปแล้ว ทุกอย่างอยู่ในสำนวนหมด ส่วนจะมีการดำเนินแจ้งความกลับหรือไม่นั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ลักษณะของรูปคดีเกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทหรือไม่ พล.ต.ต.อุดรกล่าวว่า อุบัติเหตุหากเป็นการกระทำโดยบุคคล ถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาท แต่หากเป็นการกระทำโดยเจตนาเข้าข่ายเป็นการฆาตกรรม ดังนั้นในกรณีแตงโมที่มีการขับเรือและมีคนตกเรือไป การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยประมาท คดีดังกล่าวไม่ได้ทำการง่ายๆ และขอยืนยันว่า ตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่มีสินบนและไม่ได้ทำเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้ใคร

“ตอนนี้รูปคดีเหลือผู้ต้องหาคนสุดท้าย คือ กุนซือให้คำแนะนำ 5 คนบนเรือ คิดว่าจะออกหมายจับภายใน 1-2 วัน ถ้ามามอบตัวก่อนจะถึงวันกำหนด คดีคิดว่าจะสรุปสำนวนคดีได้ก่อน 24 เม.ย.นี้ นับจากวันที่แตงโมเสียชีวิต” รอง ผบช.ภาค 1 กล่าว

สารภาพ – ‘กระติก’ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ อดีตผจก.ส่วนตัวแตงโม เข้าพบตำรวจเมืองนนทบุรี ตามหมายเรียก โดยยอมรับสารภาพให้การเท็จเรื่องดื่มไวน์บนเรือ ก่อนถูกนำส่งฟ้องศาลแขวงนนทบุรีต่อไป เมื่อวันที่ 4 เม.ย.

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 13.00 น. นายนิทัศน์พร้อมทนายความส่วนตัวเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี รับทราบข้อกล่าวหามาตรา 184 ทำลายพยานหลักฐาน และข้อหาพ.ร.บ.เดินเรือ มาตรา 119 ส่วนน.ส.อิจศรินทร์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาให้การเท็จตาม ป.อาญามาตรา 172 ในเวลา 15.30 น. โดยรับสารภาพว่าให้การเท็จในเรื่องจำนวนไวน์ที่ดื่มบนเรือ ซึ่งมากกว่า 3 ขวดที่เคยให้การไว้

น.ส.อิจศรินทร์กล่าวยืนยันว่า ให้ปากคำตำรวจมาตลอด ไม่เคยให้การกลับไปกลับมา แต่บางอย่างอาจจำไม่ได้ พอจำได้ก็มาให้การเพิ่มเติม ไม่กลัวโดนข่มขู่ เพราะไม่มีใครมาข่มขู่ เพราะเพื่อนกันทั้งหมด และยังไม่ได้แจ้งความใคร ไม่อยากพาดพิงถึงใคร โดยเฉพาะคนอื่น ส่วนประเด็นฉี่ท้ายเรือต้องตัดไปเลย เพราะไม่เคยพูดแต่แรก เนื่องจากแซนเป็นคนบอก ตนไม่เคยให้การว่าเห็นแตงโมฉี่ท้ายเรือ

นายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่พาน.ส.อิจศรินทร์เข้าพบตำรวจกล่าวว่า กระติกรับสารภาพแบบหมดเปลือกมีประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมฝากถึงคนบนเรือที่ไม่พูดความจริง ควรให้การด้วยความจริง เพราะกระติกพูดหมดแล้ว ถ้าไปเชื่อทนายแนะนำสิ่งผิด คนที่รับกรรมอาจเป็นคุณ ถ้าคิดอะไรไม่ออกมา ให้ 4 คนบนเรือมาปรึกษาได้เช่นกัน พร้อมเตือนอีก 4 คนบนเรือว่า ถ้าเห็นแก่แตงโมและครอบครัวตัวเอง ยังไม่สายขอให้มาพบพนักงานสอบสวน

“คำให้การครั้งแรกของคนบนเรือ มีทีมอ้างเป็นทนาย บอกให้ทุกคนให้การไปในทิศทางเดียวกัน จึงคิดว่าผู้รู้กฎหมายแนะนำในสิ่งถูก สุดท้ายพาหลงทาง จึงมาปรึกษาตนและให้คำแนะนำไป โดยตำรวจชมกระติกให้ความร่วมมือและให้การเป็นประโยชน์ จนมีวันนี้ขึ้นมา ทำให้กระติกเชื่อมั่นตนและมาพบตำรวจ กระติกเชื่อทีมนักกฎหมายชื่อเอ็ม จึงต้องรับกรรมไป เรื่องนี้ให้การตรงกันครั้งแรกเหมือนกันหมดทั้ง 5 คน แต่จากนั้นกระติกนึกอะไรได้ก็มาให้การกับตำรวจเพิ่ม จากนี้ก็เตรียมปิดคดีแล้ว” นายสิระกล่าว

พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่นาย นิทัศน์และน.ส.อิจศรินทร์เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามหมายเรียกในวันนี้แล้วนั้น ในเบื้องต้น น.ส.อิจศรินทร์ให้การยอมรับสารภาพว่า ให้การอันเป็นเท็จกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทำให้หลังเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาแล้วเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวส่งฟ้องยังศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีต่อไป ส่วนนายนิทัศน์เป็นการเดินทางเข้ามารายงานตัวตามหมายเรียกเป็นข้อหาไม่ร้ายแรง ไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในวันนี้ เพียงแต่รับทราบข้อกล่าวหาและต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามเวลาที่นัดหมาย

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครอง ผู้บริโภค วุฒิสภา ประชุมพิจารณาการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของกมธ. ในการสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ โดยเชิญผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และผู้บังคับบัญชากลุ่มงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานวุฒิสภา เข้าให้ข้อมูล

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า หลังจากที่นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของน.ส.ภัทรธิดาขอถอนเรื่องออกจากกมธ. ซึ่งสามารถทำได้ แต่เมื่อรับเรื่องมาแล้ว กมธ.พิจารณาใน 2 เรื่องอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องบุคคลธรรมดา แต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อสาธารณะและกระทบความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ สังคมและสื่อมวลชนให้ความสนใจ และมีข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก ยืนยันว่าเราจะทำงานต่อ

ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อแน่นอน เพราะขณะนี้ได้พยานหลักฐานมาบางส่วนแล้ว เช่น กล้องวงจรปิดที่ได้มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และผลการผ่าศพทั้ง 2 ครั้งที่ได้มาตั้งแต่ต้น มีเจ้าหน้าที่ของเราไปบันทึกข้อมูลไว้หมด คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่จบและเราจะทำหน้าที่ของเราในการติดตามในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติเป็นดับเบิลเช็กให้สังคม และคงไม่ไปสั่งการหรือแทรกแซง ขอให้ตำรวจทำสำนวนอย่างสบายใจ เพราะต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำของตำรวจด้วย

วันเดียวกัน นายษิทราออกรายการโหน กระแส ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดยพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย ถึงกรณีถูกพาดพิงเป็นกุนซือให้คนบนเรือ คดีแตงโม นิดา ยืนยันไม่ใช่กุนซือให้คนบนเรือ แต่ยอมรับคนบนเรือ 2 คนมาเจอจริง แต่ไม่รับเป็นทนายความให้จึงไม่จำเป็นต้องแนะนำให้รอดคดี ส่วนตัวคิดว่าเป็นแผนตำรวจต้องการเบี่ยงประเด็น เพื่อลดข้อผิดพลาดของตัวเอง ทั้งการสอบช้าและอะไรอื่นๆ โดยตนมีไพ่ใบสุดท้ายอยู่ ถ้าพูดไปทัวร์จะไปลงตำรวจแน่นอน

นายษิทรากล่าวว่า วันนั้นไปพบคนบนเรือที่ร้านอาหารย่านราชพฤกษ์ แต่คุยกันไม่นานและไม่ได้แนะนำอะไร แต่ประเด็นนี้มีความพยายามบอกให้เข้าใจว่าเป็นตน ทั้งที่จริงไม่ใช่ โดยประเด็นนี้มีทนาย 3 กลุ่มไปพบคนบนเรือ โดยตนเป็นกลุ่มที่ 3 โดยกลุ่มแรกเป็นทนายความอีกกลุ่ม กลุ่มสองเป็นผู้พิพากษา และกลุ่มสามคือตนเอง โดยแตงโมเป็นน้องสาว ไม่มีทางไปรับทำคดีให้คนบนเรืออยู่แล้ว เรื่องนี้ได้คุยกับทนายเดชา (นายเดชา กิตติ วิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม) แต่เป็นคนละส่วนกับการทำงาน โดยทนายเดชาไม่ได้หมายถึงผม แต่ขอติงนิดนึงว่าทนายเดชาควรพูดให้ชัดเจนว่าไม่ใช่ผม

“ผมเคยไปให้การกับตำรวจ หลังเกิดเหตุไม่กี่วัน โดยเจอผบก.ภ.จว.นนทบุรี และผกก.เมืองนนทบุรี พร้อมตำรวจอีก 3-4 นาย ตำรวจพูดว่าให้ผมให้การบอกว่าคนบนเรือ ทั้งปอและโรเบิร์ตไม่มีพิรุธ ผมก็ตกใจว่าทำไมให้ทำเช่นนั้น ผมจึงบอกให้การแบบนั้นไม่ได้ เพราะคนบนเรือเจอตนแค่ 15 นาที จึงขอตั้งคำถามว่าใครบงการกันแน่ และขอให้ไปถามผบก.ภ.จว.นนทบุรี ผมไม่เกี่ยวข้องและกวักมือเรียกผมมา ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งการที่ตำรวจให้ทำแบบนี้ เพราะต้องการให้คำให้การของผมไปอยู่ในสำนวน และเป็นการรับรองคนบนเรือ 2 คน จึงอยากให้นักข่าวไปถามก่อนและถ้าตำรวจตอบมาจะมีอะไรบางอย่างให้ดูเช่นกัน” นายษิทรากล่าว