วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลแขวงขอนแก่น นัดสืบพยานระหว่างโจทก์ คือ พนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น กับจำเลย 5 คน ประกอบด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, นายธนภณ เดิมทำรัมย์ หรืออาร์ตยุ่น, นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร และนายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ในข้อหาร่วมจัดให้มีกิจกรรมเรียกร้อง ต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วยการ หยุดคุกคามประชาชน-ยุบสภา-ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2563 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน เป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรค และการไม่ขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง จากการชุมนุมที่สวนรัชดานุสรณ์ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

ให้ประกัน – ‘เพนกวิน’นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, ‘ไผ่’นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา พร้อมเพื่อนอีก 2 คนเข้ารายงานตัวที่ศาลจังหวัดขอนแก่น สู้คดีชุมนุม “อีสานบ่ย่านเด้อ” เมื่อปี 2563 พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนอนุญาตให้ประกันตัวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.

ทันทีที่จำเลยทั้ง 5 คนเดินทางมาถึง ได้เข้ารายงานตัวต่อศาล ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของการตรวจสำนวนสั่งฟ้องที่ห้องพิจารณาคดีที่ 1 โดยศาลพิจารณานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้จำเลยทั้ง 5 คน เดินทางกลับ ตามการขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักทรัพย์ ตามที่ทีมทนายความได้ยื่นขอประกันตัวไว้ก่อนหน้านี้

นายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าศาลตรวจสำนวนสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ และมีคำสั่งนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ ในวันที่ 15-20 มิ.ย. และฝ่ายจำเลยในวันที่ 1-6 และ 7 ก.ค. ซึ่งการที่ฝ่ายจำเลย ขอใช้เวลาในการสืบพยานจำเลย 3 วัน เนื่องจากจำเลยมี 5 คน มีเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ใช้แถลงต่อศาล จึงทำให้การเตรียมการของทีมทนายความ ต้องรัดกุมและเข้มงวดมาก จำเลยทุกคนยังคงปฏิเสธทั้ง 3 ข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรค และการไม่ขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง เนื่องจากเป็นการชุมนุมตามสิทธิและหน้าที่ตามหลักรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักทรัพย์ และนัดสืบพยานในเดือน มิ.ย.และ ก.ค.ซึ่งจำเลยทุกคน ต้องมารายงานตัวต่อศาลตามนัดอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน