เส้นทางสู่ตจว. ทล.จัดที่พักฟรี อีสาน-เหนือคึก เที่ยวเกาะก็ฮิต
กทม.ตั้ง 7 จุดบริการเส้นทางเข้า-ออกเมืองกรุงช่วง 7 วันสงกรานต์ เปิดใช้แล้วมอเตอร์เวย์ ปากช่อง-โคราช รับมือรถทะลักเข้าอีสาน ศปถ.ร่วมหลายหน่วยงานเปิดวอร์รูมคุมเข้มอุบัติเหตุทางถนน นักเดินทางไทย-ต่างประเทศแห่ขึ้นเชียงใหม่ คาดผู้โดยสารสนามบินเพิ่มขึ้น 23% หน่วยตำรวจทางหลวง 201 แห่งทั่วประเทศจัดห้องพักฟรี แวะพักเหนื่อย แถมค้างคืนได้ มีอาหารการกินพร้อม เลขาฯป.ป.ส.สั่งเข้มงวดจุดสกัดฉวยโอกาสลอบขนยาเสพติด
เที่ยวเกาะ – นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลไปขึ้นเรือที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา เดินทางสู่เกาะล้าน เกาะยอดฮิตของ จ.ชลบุรี ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.
ตั้งศูนย์ป้องกันอุบัติเหตุ
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีปภ. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเส้นทางสายต่างๆ เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ.โดยความร่วมมือของ ปภ. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้บูรณาการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 ภายใต้การดำเนินการของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ดำเนินการเข้มข้นในช่วงวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ ที่ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 เพื่อ เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
พร้อมประสานสั่งการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ซึ่งศปถ.ได้กำหนดมาตรการลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ มุ่งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพิ่มความเข้มข้นมาตรการทางสังคม สนธิกำลังตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจบนถนนสายหลัก ด่านชุมชน และจุดสกัดบนสายรอง ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดเสี่ยง เน้นกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย
นายบุญธรรมกล่าวว่า มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ จะดำเนินการควบคู่กับมาตรการการป้องกัน และสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่ศบค.กำหนด โดยเน้นดูแลถนนสายหลักที่ออกสู่ภูมิภาคต่างๆ ควบคู่กับการคุมเข้มถนนสายรอง เส้นทางมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยว และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างตำบล และหมู่บ้าน รวมถึงประสานตรวจสอบสภาพความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ และกวดขันความพร้อมของพนักงานขับรถ
นอกจากนี้ ศปถ.ยังได้ประสานการเตรียม พร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้การแจ้งเหตุและการส่งต่อผู้บาดเจ็บเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งศปถ.จะได้แถลงข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันในช่วงวันที่ 12-17 เม.ย. และแถลงสรุปผลการดำเนินงานในวันที่ 18 เม.ย.โดยถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM” www.facebook.com/DDPMNews เวลาประมาณ 10.15 น. เป็นต้นไป ตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่วนการประชุมหารือกับจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะเน้นใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก
ป.ป.ส.ตั้งจุดสกัดขนยา
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติด อาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์ ที่มีผู้เดินทางและการท่องเที่ยวจำนวนมาก แฝงตัว ลักลอบ ขนส่งยาเสพติดผ่านช่องทางต่างๆ และการที่เป็นช่วงวันหยุดยาวแม้ว่าคน ส่วนใหญ่จะใช้เป็นช่วงเวลาที่ได้กลับไปหาครอบครัว แต่ส่วนหนึ่งใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในทางที่ผิดในการใช้ยาเสพติด ซึ่งส่งผลให้ช่วงนี้มีความต้องการยาเสพติดสูงขึ้น และในอีกทางหนึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่อันตรายสำหรับชีวิต และการริเริ่มเสพยาเสพติดของเยาวชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด โดยถือเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน และเพื่อเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดช่วงสงกรานต์ ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และป้องกันปราบปรามยาเสพติดในช่วงสงกรานต์
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ปปส.ภาค 1-9 และป.ป.ส.กทม. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดในการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดกั้นยาเสพติดในจุดที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดยาเสพติด รวมถึงปฏิบัติการเข้าตรวจค้นในพื้นที่ในพื้นที่เป็นพื้นที่เป้าหมาย การตรวจค้นพัสดุภัณฑ์ในสถานประกอบการ โลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการส่งยาเสพติด ที่ผู้ค้ายาเสพติดมักใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการด่านตรวจ/สกัดกั้น และการตั้งจุดอำนวยความสะดวกประชาชน รักษาความปลอดภัย ป้องกันระวังไม่ให้เกิดปัญหายาเสพติด ตลอดจนรณรงค์ไม่ใช้ยาเสพติดขณะเดินทาง ไม่รับฝากของจากผู้อื่นที่อาจทำให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการยาเสพติด
นายวิชัยกล่าวอีกว่า ได้มอบหมายอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติดที่ประจำอยู่ที่ประเทศเมียนมา จีน ลาว เวียดนาม กัมพูชา เพื่อประสานติดตามข้อมูลการลักลอบขนส่งยาเสพติดของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังการอาศัยช่วงหยุดยาวที่มีการเดินทางเข้าออกจำนวนมาก ลักลอบขนส่งยาเสพติดเข้าไทยผ่านเส้นทางชายแดน
เลขาธิการป.ป.ส. กล่าวเสริมว่า สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่เตือนต.ค.2564-8 เม.ย. 2565 140,039 คดี ผู้ต้องหา 144,110 คน ยึดยาบ้า 272 ล้านเม็ด ไอซ์ 8,691 ก.ก. เฮโรอีน 484 ก.ก. นอกจากจับกุมแล้ว ยังได้ดำเนินการตามแนวทางประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ในการขยายผลยึดทรัพย์สินจากคดียาเสพติด ซึ่งในแต่ละการจับกุมจะไม่เสร็จสิ้นเพียงแค่การจับกุม ผู้ต้องหา แต่ต้องวางเป้าหมายถึงการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งผลให้ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ยึดทรัพย์สินที่มาจาก ยาเสพติดได้ 3,133 ล้านบาท เงินจำนวน ดังกล่าวส่วนหนึ่งจะเป็นเงินรางวัลให้กับ ผู้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ด้วย
อยากฝากถึงผู้ที่ต้องการใช้ช่วงเวลาวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ของไทยไปกับการมั่วสุมใช้ยาเสพติด ขอให้คิดใหม่ เพราะนอกจากจะถูกลงโทษจากการกระทำผิดกฎหมาย ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตตนเองและความปลอดภัยของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ยาเสพติดหลายชนิดร่วมกันหรือการใช้ยาเสพติดร่วมกับเครื่องดื่มมึนเมาชนิดอื่นเป็นอันตรายอย่างมาก อาจก่อให้เกิดปราสาทหลอน กดการหายใจ และอันตรายถึงชีวิต ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้
เจดีย์ทราย – ประชาชนจากชุมชนต่างๆ ร่วมแข่งก่อเจดีย์ทรายกิจกรรมสงกรานต์ บรรยากาศสนุกสนานที่ชายหาดหน้าโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช แอนด์ รีสอร์ท อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.
ตร.ทล.บริการห้องพัก
พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รองผบช.ก. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับแขวงทางหลวงพระนครศรีอยุธยา, อบต.สนับทึบ, วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา, จิตอาสา 904, จิตอาสาตำรวจสอบสวนกลาง, จิตอาสาตำรวจทางหลวง, จิตอาสาภาคประชาชน, เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., อาสาจราจรตำรวจทางหลวง และภาคีเครือข่าย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ 45,000 ขวด เพื่อมอบให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ณ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง 6 แห่ง (ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.กำแพงเพชร จ.ขอนแก่น จ.พระนครศรีอยุธยา, มอเตอร์เวย์ สาย 7 ก.ม.49 บางปะกง และ จ.สุราษฎร์ธานี) บริษัท ฮอนด้า ออโต โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, มูลนิธิสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติในพระบรมราชูปถัมภ์, วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” พร้อมรับเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ที่ร้านข้าวแกงบ้านสวน 2 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ภายในงานจัดกิจกรรมจิตอาสาการให้ความรู้เกี่ยวกับการกู้ชีพ “CPR ช่วยชีวิต…เมื่อฉุกเฉิน” โดยทีมวิทยากรหลักสูตรการฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน มูลนิธิสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติฯ สาธิตการ CPR อย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยในยามวิกฤตอันเป็นวินาทีชีวิต, โครงการ “เปลี่ยนไฟท้าย ฟรี!! ช่วยชีวีปลอดภัย” ซึ่งเป็นโครงการที่ตำรวจทางหลวงได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ โดยได้ร่วมกับบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนไฟท้ายรถจักรยานยนต์ให้กับประชาชน, การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้ประชาชนก่อนเดินทาง โดย นักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา และการเสวนา “เดินทางอย่างไรให้ปลอดภัย (ง่วง-หลับใน-เมาแล้วขับ-ความเร็ว)” โดยมี นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ จากร.พ.วิชัยยุทธ์, นพ.แท้จริง ศิริพานิช มูลนิธิเมาไม่ขับ มาร่วมให้ความรู้ด้วย
นอกจากนี้กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้จัดห้องพักฟรีทั่วไทย จากใจตำรวจทางหลวง ไว้รองรับประชาชนที่เดินทาง เพื่อให้ประชาชนแวะพัก เนื่องจากการขับรถเป็นเวลานานๆ อาจทำให้รู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า และง่วงนอน อันเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอันดับต้นๆ จากการง่วงแล้วขับ ประชาชนสามารถแวะพัก ผ่อนคลายอิริยาบถให้พร้อมก่อนออกเดินทางต่อ หรือพักค้างคืนได้ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง 201 แห่งทั่วประเทศ โดยหน่วยบริการได้จัดห้องพัก เครื่องดื่มอาหาร ของว่าง ห้องน้ำสะอาด และเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ซึ่งทุกหน่วยบริการจะมีการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ภายในหน่วยบริการยังมีโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา ซึ่งประชาชนสามารถศึกษาหาความรู้ หรือขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ และสามารถนำผลิตผลทางการเกษตรกลับไปบริโภคได้ อันเป็นการช่วยลดภาระของประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจห้องพัก สามารถจองได้ที่ www.booking.hwpdth.com
เปิดมอเตอร์เวย์ปากช่อง
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ชุดปฏิบัติการหน่วยตำรวจทางหลวงคลองไผ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงปากช่องที่ 1 แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 อำนวยการจราจรบริเวณจุดขึ้น-ลง ทางหลวงพิเศษ มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน-นครราชสีมา ขาออก ช่วงก.ม.ที่ 65 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง เพื่อระบายการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่มีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในจังหวัดทางภาคอีสานเป็นจำนวนมาก
สภาพการจราจรในช่วงเช้าวันนี้ บน ถ.มิตรภาพ ช่วงอ.ปากช่อง มุ่งหน้าสู่จ.นครราชสีมา ระยะ 5 ก.ม. ก่อนขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ M6 สภาพการจราจรรถยังเบาบาง คล่องตัว สามารถทำความเร็วได้ตามกฎหมายกำหนด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงปากช่องที่ 1 อาสากู้ชีพ-กู้ภัย และรถพยาบาล คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงนี้ โดยตั้งจุดบริการประชาชนตามเส้นทางอยู่เป็นระยะๆ ในขณะที่ตามเส้นทางที่เป็นจุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์จะตั้งแบริเออร์ยาง กรวยยาง เป็นแนวบังคับเส้นทางให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ส่วนจุดที่เป็นทางแคบคอขวด และทางวงกลับใต้สะพานต่างระดับ จะติดตั้งไฟวับวาบ และมีเจ้าหน้าที่กับอาสากู้ภัยคอยเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเดินทางเกิดความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับจุดขึ้น-ลงใหม่ ทางหลวงพิเศษบางปะอิน-นครราชสีมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 เปิดจุดขึ้น-ลงหลักทั้งหมด 3 จุด โดยจุดแรก ขาเข้าจ.นครราชสีมา เปิดตั้งแต่ บริเวณศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด นครชัยบุรินทร์ ช่วงก.ม.65 ถ.มิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ส่วนจุดที่ 2 ช่วงต่างระดับ อ.สีคิ้ว ทางหลวง 201 ทางต่างระดับสีคิ้ว-เชียงคาน ช่วงก.ม.5+500 และจุดที่ 3 บริเวณ อ.ขามทะเลสอ ซึ่งเป็นจุดทางขึ้น-ลงใหม่ที่เปิดให้ใช้เป็นครั้งแรกในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยหากมาจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปนครราชสีมา ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปอ.ด่านขุนทด ส่วนเลี้ยวขวาไปอ.ขามทะเลสอ มาทะลุถ.มิตรภาพเข้านครราชสีมา
นอกจากนี้ยังเชื่อมทางหลวง 290 ถ.วงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ด้านทิศเหนือไปบรรจบทางหลวง 205 ถ.สุรนารายณ์ เพื่อไปอ.โนนไทย จ.นครราชสีมา และ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ได้ด้วย รวมระยะทางที่เปิดใช้ทั้ง 3 จุด ทั้งหมด 64 ก.ม. คาดว่าจะช่วยรองรับรถจากถ.มิตรภาพได้ประมาณ 25% หรือประมาณ 25,000 คันต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางได้มากขึ้น
สนามบินเชียงใหม่คึกคัก
นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ บริเวณลานจอดรถยนต์ VIP เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งการปล่อยแถว ดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันของ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่ปฏิบัติงาน ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อาทิ ตำรวจภูธร ภูพิงคราชนิเวศน์ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 และกองบิน 41 เป็นต้น และ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยการมอบพวงมาลัยดอกมะลิ และตั้งจุดสรงน้ำพระ ภายในอาคารผู้โดยสาร เพื่อร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของไทยอีกด้วย
นายวิจิตต์กล่าวว่า ช่วงวันที่ 11-17 เม.ย. คาดว่าจะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติ เฉลี่ยวันละ 105 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติวันละ 4 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณวันละ 13,500 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติที่มี ผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 11,000 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 และเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 150 เมื่อเทียบกับช่วงสงกรานต์ของปีที่แล้ว โดยเกือบทั้งหมดเป็นการเดินทางภายในประเทศ ในส่วนของเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ปัจจุบันมีให้บริการเส้นทางเดียวคือ สิงคโปร์-เชียงใหม่-สิงคโปร์ บินทุกวันโดยสายการบิน Scoot
ทั้งนี้จากข้อมูลของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ในช่วงวันที่ 11-17 เม.ย. มีผู้ลงทะเบียนขอเข้าประเทศไทย ช่องทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผ่านระบบ Thailand Pass แล้ว 772 คน ส่วนใหญ่มีต้นทางจากประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย และมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้ามาในจ.เชียงใหม่ นับตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศเมื่อเดือนพ.ย.2564 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันแล้วทั้งสิ้น กว่า 5,400 คน ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มีจุดประสงค์เพื่อการ ท่องเที่ยว รองลงมาเป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนาและทำธุรกิจ
สำหรับการให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ท่าอากาศยานเชียงใหม่เตรียมพร้อมทั้งด้านบุคลากรและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ภายใต้มาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด โดยในด้านความปลอดภัยได้กวดขันความพร้อมปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพิ่มความถี่ในการตระเวนตรวจบริเวณโดยรอบท่าอากาศยาน ทั้งในเขตการบินและพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ด้วยกล้องวงจรปิด และ สุ่มตรวจรถยนต์บริเวณทางเข้าก่อนเข้าถึงหน้าอาคารผู้โดยสาร
กทม.จัด 7 จุดบริการ
นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพ มหานคร และคณะ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อรณรงค์ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 (7 วันอันตราย) ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. ที่ บริเวณใต้สะพานกลับรถ แยกมหานคร เขตหนองจอก และบริเวณสถานีบริการน้ำมันบางจาก ก.ม.5+200 ถ.เทพรัตน์ เขตบางนา พร้อมมอบสิ่งของ อาหาร เครื่องดื่ม ให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
นายชาตรีกล่าวว่า คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้เห็นชอบบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เทศกาลสงกรานต์ ภายใต้ชื่อ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับรถอย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ ห่างไกลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และลดอุบัติเหตุตลอดเทศกาลสงกรานต์ ช่วง 7 วันอันตราย รวมถึงการจัดตั้งศูนย์บริการประชาชน และจุดตรวจความปลอดภัย หรือความมั่นคงเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกๆ ปี ประชาชนจำนวนมากจะกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทางถนนสูงกว่าเวลาปกติ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
กทม. จึงร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ทหาร ตำรวจ เอกชน ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ตั้งจุดบริการร่วมบูรณาการเพื่อดูแลเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เส้นทางเข้า-ออกเมือง 7 จุด ได้แก่ 1. ปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.เทพรัตน (บางนา-ตราด) เขตบางนา 2.ปั๊มน้ำมัน ปตท. ก.ม.12 ถ.พระราม 2 มุ่งหน้ามหาชัย ฝั่งขาออก เขตบางขุนเทียน 3.บริเวณใต้สะพานข้ามแยก ถ.พุทธมณฑล สาย 3 และบริเวณปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ แยกฉิมพลี ถ.บรมราชชนนี (ขาออก) เขตทวีวัฒนา 4.บริเวณใต้สะพานกลับรถแยกมหานคร เขตหนองจอก 5.สถานีรถไฟดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิต (ขาออก) เขตดอนเมือง 6.หน้าสำนักงานเขตหนองแขม ถ.เพชรเกษม 7.หน้าสำนักงานเขตลาดกระบัง ถ.ลาดกระบัง
นอกจากนี้ยังได้ตั้งจุดบริการประชาชนที่สถานีขนส่งที่มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมากอีก 4 จุด ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.นี้ ได้แก่ 1.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่-ตลิ่งชัน) 2.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ปิ่นเกล้า) ถนนบรมราชชนนี 3.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) 4.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร)
